ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่า ต้องขึ้นเงินเดือนให้ทุกๆคน โดยเพิ่มให้ทันที่ คนละ 10% ดังนั้น ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม โดยที่ ราคาน้ำมันขึ้น เงินเดือนก็ขึ้นทุกๆคน และให้ราคาสินค้าขึ้นไป 10% ตามนั้น ดังนั้น ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กดดอกเบี้ยไม่ถูกต้องแน่นอน ไม่งั้น สหรัฐอเมริกา คงลดดอกเบี้ยลงเรื่อยๆ เพื่อรักษาไม่ให้เกิดภาวะถดถอยเศรษฐกิจ จากคุณ : phon77 - [ 2 ก.ค. 51 14:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าต้องกดดอกเบี้ยลง ปล่อยให้เงินเฟ้อขึ้นสู้กับราคาน้ำมัน ดีกว่าปล่อยให้เกิด Recession จากคุณ : Nexus - [ 2 ก.ค. 51 15:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่ครับ ประมาณนั้น แต่จะทำให้ต้นทุนของผู้ผลิตสูงขึ้นไปด้วย อีกทั่งการใช้จ่ายของรัฐบาลกูสุงขึ้น ทำให้ราคาขยับขึ้น (supply law) ดังนั้นผมจึงให้มีการลดภาษี(แต่รายรับของรัฐก็ลดลง จึงควรใช้จ่ายงบประมาณให้ดี) รวมถึง mega project เพื่อดึงดูดนักลงทุน ขยาย supply ให้ราคาลด จากความคิดของคุณ phon77 การที่จะเพิ่ม income ควรเพิ่มใน ส่วนของ real income อย่าไปมอง norminal income เพราะ real income จะแสดงกำลังใช้จ่ายที่จริง ซึ่งไม่มองจุดนี้ จะทำให้คนไปสนใจที่เม็ดเงินที่ได้มาโดยที่ไม่มองกำลังซื้อ จากราคาสินค้าที่เพิ่มสูง ซึ่งทำให้เกิด money illusion ปล.เพราะฉะนนั้น นโยบายต่างๆควร พิจารณาและทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จากคุณ : someonesmind - [ 2 ก.ค. 51 15:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้นง่ายนิดเดียว ลดภาษีมูลค่าเพิ่มสิ แล้วไปขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย เช่นบุหรี่ ขึ้นแบบให้คนเลิกสูบไปเลย ยังงี้ได้ประโยชน์ทั้ง2ฝ่าย ดีกว่าใช้นโยบายการเงินอีก แต่ถ้ากลัวเงินทุนต่างด้าวจะไหลออกนะ เอาแบบนี้ดิ การเงิน ลดอัตราดอกเบี้ย การคลัง ออกพันธบัตรให้ดอกเบี้ยสูงรยะยาว คนก็มีเงินมากขึ้น แถมยังมีเงินในระบบมากขึ้นอีก แต่ถ้าแก้ให้ถูกจุดนะก็เราๆ นี่แหละ ลดการบริโภคซะ ของยังไงๆ ก็ต้องขึ้น เราก็ใช้ในมันน้อยลง แล้วจะดีเอง ผมเห็นมีหลายกระทู้ถล่ม ปตท เหลือเกิน ว่ามีรายได้เยอะ ถ้าคิดว่าเค้ากำไรเยอะจริง ก็ไปซื้อหุ้น ปตท สิ มาบ่นทำไม เซทจะได้พุ่งๆ ซะที เหอๆๆ จากคุณ : naibig - [ 2 ก.ค. 51 15:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลดดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ก็อาจจะเจอสภาวะที่ลดลงสุดๆแล้ว (ลดจน0) แต่เศรษฐกิจมันก็ไม่ดีขึ้น คนไม่ยอมออกมาใช้ตังกัน แบบที่ประเทศญี่ปุ่นเคยโดนเหมือนกัน เห็นด้วยว่าต้องพยายามเพิ่ม Supply ของระบบให้ได้เพื่อทำให้เงินเฟ้อลดลง จากคุณ : Ra (Ra-18th Angel) - [ 2 ก.ค. 51 16:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคนไทยทำงานได้สองเท่าของปัจจุบัน ในเวลาเท่าเดิมค่าจ้างเท่าเดิม เงินต่างประเทศก็ไหลเข้า เพราะต้นทุนมันถูกกว่าเห็นๆ การจ้างงานเพิ่มขึ้น มีจ่าย แต่นี่ เห็นมีแต่ให้ทานกับขอทาน ไม่ได้ก็ทำตัวจะตายเอา หรือตัดช่องน้อยแต่พอตัว จวนตัวจะหนีท่าเดียว วิธีแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ช่วงนี้ คือเพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น จากคุณ : You'll never walk alone - [ 2 ก.ค. 51 16:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ควรกระตุ้นเศรษฐกิจเยอะๆสิครับ รัฐบาลเรายังมีความสามารถ เพราะ 5 - 6 ปีที่แล้วทำมาค่อนข้างดี ต้นทุนสูง แต่ยังขายของได้ สุดท้ายเราก็มีรายได้พอกับรายจ่าย จะไปบิดเบือนราคากันไปถึงไหน เมืองนอกข้าวจานละ 200 300 เรามัวแต่กดให้มันอยู่ 20 30 บาท สุดท้ายเศรษฐกิจเราก็โตไม่ทันเค้า จากคุณ : Bomb308 - [ 2 ก.ค. 51 17:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอร่วมวงด้วยคนครับ 1.นโยบายการเงิน ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อไปกระตุ้น supply ทำให้ราคาสินค้าต่ำ รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน   มีมาตรการการให้เครดิต และควบคุมการให้เครดิต เพื่อป้องกันการใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์เพราะ ได้ลดอัตราดอกบี้ยเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายแล้ว - การลดดอกเบี้ยจะทำให้เงินเฟ้อตามมาอย่างหนักแน่นอนครับ ตอนนี้เงินเฟ้อเราใกล้2ดิจิตเข้าไปทุกขณะแล้ว และคาดว่าภายใน2-3เดือนนี้ จะ2ดิจิตแน่นอน การลดดอกเบี้ยแน่นอนว่าทำให้ต้นทุนของผู้ผลิตลดลงครับ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ คือ กำลังการผลิตของผู้ผลิตนั้นยังใช้ได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นการที่ต้นทุนกู้ยืมก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะว่าไม่มีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินมาลงทุน ด้านการควบคุมเครดิต ผมกลัวว่าจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อและเงินึงตัวเกิดขึ้นพร้อมๆกันครับ ซึ่งนั่นจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจช็อคหนักกว่าเดิม   2. นโยบายการคลัง มีการขึ้นรายได้ต่อหัว โดยเฉพาะรายได้ที่แท้จริง (WAGE/PRICE) จะทำให้อำนาจการใช้จ่ายมีมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายก่อน จากการทำตรงนี้จะทำให้ ต้นทุนของภาคธุรกิจสูง เนื่องจากมีการจ่ายเงินค่าจ้างสูง แต่ก็ทำให้ มีการใช้จ่าย และการผลิตดุลยภาพกัน การที่จะให้ราคาต่ำลงมา ก็ได้จากการลดภาษี เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคเอกชน(ต้นทุนต่ำ) ราคาก็จะต่ำ รวมถึงmega project ไปกระต้นเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต - การขึ้นค่าจ้างแท้จริงให้มากขึ้น ถ้ามองตามสำนักคลาสิคไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ถ้ามองแบบเคนเชียนอาจะแก้ปัญหาได้ในระยะสั้น และคาดหวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นในระยะยาว แต่ผลข้างเคียง แน่นอนว่าเงินเฟ้อจะตามมา ผมมองว่าถ้าประกอบั้งสองนโยบายเข้าด้วยกัน จะเกิดเงินเฟ้อขึ้นมาอย่างมหาศาลครับ ถึงเวลานั้นนอกจากจะเกิดเงินเฟ้อทางด้านซัพลายแล้ว เรายังจะไปสร้างเงินเฟ้อทางด้านดีมานด้วย ในมุมมองส่วนตัวของผม การใช้อัตราดอกเบี้ยไปลดเงินเฟ้อด้านซัพพลายนั้นไม่ได้อยู่แล้ว การจะแก้ด้านนี้คือเราต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อการลดต้นทุน เช่น ในปัจจุบันเราต้องวิจัยพลังงานทดแทนที่มีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งต้องไม่ไปเป็นตัวผลักดันสินค้าอื่นๆแทน เพราะใปจจุบัน เราพัฒนาพลังงานไบโอ แต่ผลคือสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นแทน ผลที่ออกมาช่วยอย่างหนึ่ง แต่ไปซ้ำเติมอีกอย่างหนึ่ง เรื่องแบบนี้ต้องใวลานิดนึงครับ แต่เมื่อผ่านไปเราจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาแน่นอน ในตอนนี้ก็เริ่มมีการผลิตน้ำมันจากทรายน้ำมัน การผลิตน้ำมันจากทะเลลึกบ้างแล้ว แต่ต้นทุนก็ยังสูงอยู่ ก็คาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้จะมีพลังงานจากน้ำ ลมมากขึ้น ลองหารายละเอียดเรื่องการพัฒนาเทโนโลยีเพื่อการลดเงินเฟ้อด้านซัพพลายได้จาก hot commodities รูดซิปสมองมองการบริหารแบบYKK เอเชีย ขุมทองแห่งศตวรรษหน้า หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 2 ก.ค. 51 17:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Stagflation  เป็นสถานการณ์ที่ผะอืดผะอมที่สุด   การแสดงความเห็นเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างว่า ไม่สามารถที่จะทำได้ เช่น การกระตุ้น Supply  คุณก็ลองเป็นผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตแล้วลองทำดู จะเข้าใจอย่างแท้จริง ว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะไม่สามารถที่จะสร้าง Economy of scale ได้เลย  แล้วสินค้ามันจะขายได้อย่างไร เว้นซะแต่ว่าคุณมีตลาดส่งออกใหม่ ๆ และสินค้าของคุณมีต้นทุนต่ำ อย่างนี้ก็อาจเป็นไปได้ หรือให้รัฐ Subsidise ให้คุณจำนวนหนึ่ง เรื่องดอกเบี้ย  ในภาวะอย่างนี้ยิ่งมีการขึ้นดอกเบี้ยก็เท่ากับเร่งการตายหรือการเน่าให้เร็วขึ้น  มันจะเกิดภาวะชงักงันทางเศรษฐกิจ จะสร้างปัญหาใหญ่โตให้กับประเทศ  อย่าเข้าใจว่าเมื่อเกิดภาวะชงักงันแล้วอัตราเงินเฟ้อจะลดลงแล้วปัญหาจะจบ  ใช่..ปัญหาจะจบก็ต่อเมื่อคุณแก้ไขเรื่องเงินในกระเป๋าของประชาชนด้วย  ถ้าไม่ได้ทำหรือทำไม่ได้  ก้อ...อย่าลองของโดยเด็ดขาด สำหรับในความเห็นของผมนั้น เห็นว่าปัญหามันอยู่ตรงไหนก็แก้ตรงนั้น โดยเฉพาะเรื่องวิกฤติพลังงานต้องวางยุทธศาสตร์เป็นแผนระยะสั้นระยะยาวให้ชัดเจน  รัฐต้องลงทุนเรื่อง Logistic เพื่อลดต้นทุนการใช้พลังงานให้มากที่สุด  สนับสนุนการวิจัยหรือการพัฒนาพลังงานทุกรูปแบบ (บ้าๆบอๆ ก็สนับสนุน)  รวมทั้งให้รางวัลจูงใจให้กับคนหรือองค์กรที่ลดการใช้พลังงาน เช่นลดค่าไฟ 10,000.-บาท ก็ให้เงินเพิ่มอีก 10,000.-บาท หรือลดภาษีให้เป็นต้น เรื่อง อาหารการกินเนื่องจากรายได้ของประชาชนต่ำ ดังนั้นรัฐต้องชดเชยการเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ  ไม่มีการกดราคาแต่ชดเชยจนกว่ารายได้ของประชาชนจะอยู่ได้   เรื่องคอรัปชั่น  พวกนี้เป็นต้นทุนทั้งนั้นต้องคุมให้ได้ เรื่อง ฯลฯ  เอาไว้แค่นี้ก่อน....บรา..บรา..บรา จากคุณ : jonathan w. - [ 2 ก.ค. 51 18:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีครับ ต้องรื้อระบบ Logistic ทั้งระบบ สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม วิจัย(หรือนำเข้า) รถไฟฟ้า วางผังเมืองใหม่ สร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจเพิ่ม(คนจะได้ไม่ต้องเข้า กทม ทั้งหมด) แต่ในระยะสั้นผมว่าการลดดอกเบี้ย(เงินเฟ้อน่าจะถึงสองหลัก) น่าจะเจ็บตัวน้อยกว่าควบคุมเงินเฟ้อ เพราะถ้าเงินเฟ้อเพิ่มภาระหนี้สิน (สัมพัทธ) ก็ควรจะลดลง (คาดว่ารายได้น่าจะเพิ่มตามเงินเฟ้อ) แต่ตอนนี้คงต้องขอเอาตัวรอดด้วยการไปหาทอง กับน้ำมันมาเก็บไว้ก่อนล่ะครับ ที่ฮ่องกงมีกองทุนทองคำกับกองทุนน้ำมันเปิดใหม่ IPO วันที่ 7 นี้ กำลังหยอดกระปุกรอซื้ออยู่ครับ จากคุณ : Nexus - [ 2 ก.ค. 51 19:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้า Mega project ไม่ล้ม กู้เงินได้ตั้งแต่สองปีก่อน เราก็ไม่ต้องมาบ่นเรื่องนี้กันแล้ว รถไฟฟ้า วันละ 30 บาท กรุงเทพ-ปริมณฑล อย่างโดน ท คว่ำอีกละกัน รถไฟรางคู่ ฝันน้ำแม่น้ำโขง สร้างเขื่อน รถไฟฟ้าวงแหวน... อีก 10 ปี โน่นน่ะ รอไปเถอะ เพราะตอนนี้น้ำมันเป็นต้นทุน 50% ของเราไปแล้ว จากคุณ : Ken - [ 3 ก.ค. 51 06:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 บ้านเรา ถ้าสินค้าราคา100บาท จะเป็นค่าพลังงานไป28บาท ในด้านlogistics ทั้งหมด เป็นค่าขนส่งร้อยละ70-80 ในจำนวนนั้นร้อยละ70เป็นค่าขนส่งทางรถ ซึ่งในทางที่ควรจะเป็น จะต้องมีการกระจายตัวมากกว่านี้ และมีการใช้การขนส่งช่องทางอื่นๆมาประกอบ เช่น ขนไปทางรถไฟเพื่อำแลงที่ชุมสาย จากนั้นค่อยใช้รถมาขนส่งในระยะสั้นๆ จะช่วยลดค่าขนส่ง ใช้เรือในการขส่งสินค้าระหว่างท่าต่อท่า ให้มากขึ้น ถ้าเราสามารถพัฒนาด้านlogisticsให้ดีขึ้นกว่านี้ เราก็สามารถลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้มาก ทั้งๆที่ยังไม่ต้องไปพัฒนาพลังงานทดแทนอะไร บ้านเรายังล้าหลังอีกมากในด้านlogisticsครับ หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 3 ก.ค. 51 08:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณความคิดทุกท่านนะครับ ที่ผมเสนอไปเป็นหลักสั้นๆ ยังไม่ได้เจาะลึกลงไปดูประเด็นย่อยๆ แต่ประเด็นที่จะให้ช่วยกันนั้นอยู่ที่ปัญหาเงินเฟ้อจากต้นทุน (ช่วยๆกันออกความคิดเห็นนะครับ)^_^ จากคุณ : someonesmind (someonesmind) - [ 3 ก.ค. 51 13:21:32 ]