ดิฉันได้ทำเรื่องขอติดตั้งตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ร้านเภสัชกร 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2551 โดยได้ลงลายมือชื่อในเอกสารเรียกค่าเช่าเดือนละ 5000 บาท
รวมค่าไฟฟ้าแล้ว หักภาษี ณ ที่จ่าย 5% เหลือค่าเช่าเดือนละ 4750 บาท เป็นระยะเวลาสัญญา 2 ปี โดยทางธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไป
หลังจากนั้นทางธนาคารได้ติดต่อกลับมา แนะนำตัวเองว่าชื่อ คุณ Diya เบอร์โทรศัพท์ 081-xxx-xxxx เพื่อขอนำตู้ ATM เข้ามาติดที่ร้าน ในวันพุธที่ 2 เมษายน 2551 โดยได้รื้อถอนกระจกหน้าร้านและนำตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์มาเสียบแทน
ในวันที่ 3 เมษายน ทาง True จะเข้ามาต่อสัญญา Internet ที่ร้าน แต่ติดปัญหาว่าคุณ Diya แจ้งที่อยู่ผิด เป็น 2/28 จากเลขที่อยู่ร้านจริงๆคือ 2128 ทาง True ให้ดิฉันติดต่อไปทางธนาคารให้แก้ที่อยู่ก่อน แล้วทาง True จะเข้ามาติดตั้งสัญญาณให้ใหม่ ดิฉันจึงติดต่อคุณ Diya ไปเพื่อขอแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณ Diya จึงได้แจ้งเรื่องขอสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของอาคารที่นำตู้ ATM มาติดตั้ง สำเนาโฉนดที่ดินที่มีอาคารนั้นตั้งอยู่ และสำเนาหน้า Book Bank ที่จะให้โอนค่าเช่าให้ในแต่ละเดือนไปให้เธอด้วย แต่เนื่องจากเจ้าของบ้านคือคุณแม่ของดิฉัน ทำให้ดิฉันต้องขอเปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อคุณแม่ โดยเอกสารทั้งหมดให้คุณแม่เป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรอง เอกสารทั้งหมด ดิฉันได้ Fax ให้คุณ Diya ในวันจันทร์ที่ 7 เมษายน 2551 เหลือเพียงแต่สัญญาที่คุณแม่ยังไม่ได้เซ็นต์ เนื่องจากต้องรอให้ทางธนาคารส่งสัญญามาทางไปรษณีย์ให้เซ็นต์ยอมรับข้อตกลงในสัญญา และส่งกลับไปให้ทางธนาคารดำเนินเรื่องอีกที
ดิฉันได้รอจนกระทั่งถึงวันที่ 5 พฤษภาคม สัญญายังส่งมาไม่ถึงดิฉัน ดิฉันจึงโทรศัพท์ไปหาคุณ Diya แจ้งปัญหาดังกล่าว และยังแจ้งความจำนงไปว่า ค่าไฟฟ้าสำหรับตู้ ATM สูงถึง 1500 บาทต่อเดือน ในสัญญาใหม่ที่จะให้คุณแม่เซ็นต์ จะขอเปลี่ยนเป็น 1 ปีแทนได้หรือไม่ คุณ Diya บอกว่าจะคุยกับนายให้ รบกวนให้ดิฉันรอสัก 10 วัน ทางธนาคารจะทำการส่งไปรษณีย์มาให้ เนื่องจากแผนกสัญญางานยุ่งมาก มีหลายร้านที่นำตู้ ATM ไปติดตั้งแล้ว และยังไม่ได้เซ็นต์สัญญาเหมือนร้านดิฉันนี่แหละ
ดิฉันรอจนถึงวันพุธที่ 21 พฤษภาคม ยังไม่ได้รับไปรษณีย์ใดๆ จึงได้โทรกลับไปหาคุณ Diya อีกครั้งหนึ่ง และยังคงได้รับคำตอบเหมือนเดิมคือ แผนกทำสัญญางานยุ่งมากมาก ทำงานไม่ทัน เนื่องจากมีคนทำงานอยู่ 2 คน ส่วนเรื่องขอเปลี่ยนเป็นให้คุณแม่ทำสัญญาแค่ 1 ปี คุณ Diya ยังไม่ได้ปรึกษานาย เพราะนายติดประชุมอยู่ ขอเวลาอีก 10 วัน จะส่งสัญญาไปให้เซ็นต์ทางไปรษณีย์
ดิฉันรอจนถึงวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม ยังคงไม่มีสัญญาใดๆส่งมา จึงโทรหาคุณ Diya อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เร่งให้หน่อย เพราะธนาคารไทยพาณิชย์ค้างค่าเช่าดิฉันมานับจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม ก็ 2 เดือนแล้ว คุณแม่ของดิฉันยังไม่ได้แม้แต่เซ็นต์สัญญาเลย คุณ Diya แจ้งว่ายังไม่ได้ปรึกษานายเรื่องขอทำสัญญาเหลือแค่ 1 ปีเลย เพราะนายติดประชุมบ่ายนี้ เดี๋ยววันจันทร์หน้า คือวันที่ 2 มิถุนายนจะติดต่อกลับดิฉันอีกครั้งหนึ่ง
คุณ Diya โทรกลับหาดิฉันในวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน แต่เนื่องจากแบทมือถือดิฉันหมดและดิฉันอยู่ต่างจังหวัด คุณ Diya จึงโทรหาคุณแม่ของดิฉันแทน และแจ้งท่านว่า ได้ส่งไปรษณีย์มาแล้ว แต่มันตีกลับเนื่องจากที่อยู่ผิด คือเป็นเลขที่ 2/18 แทนที่จะเป็น 2128 และเรื่องขอให้ทำสัญญาแค่ 1 ปีนั้น ไม่อนุมัติ เพราะในสัญญาแรกที่ดิฉันเป็นคนลงลายมือชื่อไว้ ดิฉันเขียนว่า 2 ปี ให้ยึดตามที่ตกลงกันไว้ก่อน คุณแม่ดิฉันก็บอกว่าไม่เป็นไร ให้ส่งสัญญามาใหม่อีกทีแล้วกัน แต่อย่าให้ที่อยู่ผิดซ้ำซากอีกหล่ะ ให้ ATM ตั้งฟรีมา 2 เดือนแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน ดิฉันโทรไปตามเรื่องกับคุณ Diya อีกครั้ง ครั้งนี้คุณ Diya บอกให้ดิฉันรอ และได้ต่อสายไปคุยกับแผนกสัญญา ดิฉันได้ยินคุณ Diya ตำหนิแผนกสัญญา ทำนองว่า "ไม่มี record หรอว่า รายไหนส่งไปแล้ว รายไหนยังไม่ได้ส่ง ทำไมไม่ร่างสัญญาขึ้นมาใหม่ มัวแต่ไปหาของเก่า เค้าโทรมาตามหลายรอบแล้ว" พอคุณ Diya วางหูจากแผนกสัญญาก็มาพูดสายกับดิฉันว่า ยังไงจะส่งให้เร็วที่สุดนะคะ เข้าใจดิฉันว่ารอมานานแล้ว ดิฉันซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคุณ Diya มากค่ะ
จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน สัญญาก็ยังส่งมาไม่ถึงดิฉัน ดิฉันโทรหาคุณ Diya อีกรอบ เสียงคุณ Diya ค่อนข้างหงุดหงิดและตำหนิแผนกสัญญาว่า ทำไมร้านพี่ยังไม่ได้อีก เค้าทำช้าเกินไปแล้วนะ เดี๋ยวหนูเร่งให้ ดิฉันจึงย้ำกับคุณ Diya ว่า ให้ส่ง EMS มาเลยนะคะ เพราะกว่าดิฉันจะได้รับ กว่าจะเซ็นต์แล้วส่งกลับไป เกรงว่ามันจะเกินวันที่ 5 กรกฎาคม แล้วดิฉันต้องรอรับเงินต่อไปถึงวันที่ 5 เดือนสิงหาคม กลายเป็น ธนาคารจะค้างค่าเช่าดิฉันถึง 4 เดือน ทั้งที่ดิฉันต้องเสียค่าไฟ ให้ ATM ทุกเดือนด้วยเงินตัวเอง
วันรุ่งขึ้นวันอังคารที่ 24 มิถุนายน ดิฉันโทรไปถามอีกรอบว่าส่ง EMS มาหรือยัง คุณ Diya บอกว่าส่งมาแล้วค่ะ ดิฉันก็วางใจ วันที่ 25 มิถุนายน EMS ก็ยังมาไม่ถึง วันที่ 26 มิถุนายน EMS ก็ยังคงมาไม่ถึง ดิฉันตัดสินใจโทรไปอีกรอบวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน คุณ Diya บอกว่า ส่ง EMS ไปแล้วนี่คะ พี่ยังไม่ได้หรอ ดิฉันยืนยันว่ายังไม่ได้ ให้ไปถามแผนกสัญญาว่าส่งมาให้ดิฉันหรือยัง
หยุดเสาร์อาทิตย์ผ่านไป วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน ยังคงไม่มีสัญญาลอยมาหาดิฉัน ดิฉันโทรกลับไปหาคุณ Diya ใหม่ เธอยืนยันว่า ส่งมาแล้วให้ดิฉันรอหน่อย พรุ่งนี้น่าจะถึง
วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม เริ่มเดือนใหม่แล้ว ตู้ ATM มาตืดตั้งที่ร้านได้ครบ 3 เดือนพอดี โดยดิฉันเป็นคนจ่ายค่าไฟเองทั้งหมด ไม่เคยได้รับเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์เลยสักบาทเดียว อารมณ์เซ็งทำให้ดิฉันขี้เกียจโทรคุยกับคุณ Diya แล้ว อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม เมื่อวานนี้ ดิฉันก็ได้โทรไปตามอีกรอบหนึ่ง คราวนี้โทรไปอย่างไร คุณ Diya ก็ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ยอมโทรกลับด้วย
ดิฉันจึงขอยืมโทรศัพท์มือถือแฟนโทรไป คุณ Diya ก็ไม่รับ ดิฉันจึงคิดในแง่ดีว่าเธอคงยุ่งอยู่ แต่สัก 5 นาที เธอได้โทรกลับเข้ามาที่เบอร์แฟนของดิฉัน ดิฉันรับสาย และถามว่าสัญญาส่งมาหรือยัง คุณ Diya ตอบว่า เอาอย่างงี้นะคะ เดี๋ยหนูจะเข้ามาให้คุณแม่พี่เซ็นต์เองที่ร้านเลยในวันจันทร์หน้า (7 กรกฎาคม) ดิฉันถามว่าแล้วเรื่องเงินล่ะคะ จะเข้าบัญชีวันที่ 5 ได้หรือเปล่า เธอบอกว่า เดี๋ยวจะลองไปคุยกับบัญชีดูนะคะว่าให้ได้รึป่าว แล้ววางหูไป
ดิฉันสงสัยถึงพฤติกรรมของคุณ Diya ที่บอกว่า EMS ส่งไปแล้วๆ หลายๆครั้ง ทั้งที่ยังไม่เคยส่งมา ทำให้เกิดความไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อใจขึ้นมา จึงโทรกลับไปหาอีกที คราวนี้ คุณ Diya ไม่รับทั้งโทรศัพท์ดิฉันและแฟน โทรประมาณ 30 นาที จนทนไม่ไหว เลยโทรเข้า Call Center ของไทยพาณิชย์ แล้วแจ้งเรื่องกับทาง Call Center ให้ Drop mail หาหัวหน้าของคุณ Diya ด้วย พร้อมให้เบอร์โทรกลับไปทั้ง 3 เบอร์ เบอร์ร้าน เบอร์มือถือดิฉัน เบอร์แฟน โดยให้แจ้งว่า ดิฉันเปลี่ยนใจ ไม่เชื่อถือให้คำสัญญาของคุณ Diya อีกแล้ว อย่างไรก็ตามให้เปลี่ยนเป็นฝาก Messenger นำสัญญามาให้คุณแม่ดิฉันเซ็นต์ที่ร้านในวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม แล้ววันที่ 5 กรกฎาคม ดิฉันต้องเห็นเงินค่าเช่าโอนเข้าบัญชีด้วย ไม่เช่นนั้น ให้มาเก็บตู้กลับไปเลย ดิฉันจะถอดปลั๊กรอไว้ให้
เช้าวันนี้คือวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พนักงานมาเติมเงินในตู้ ATM ดิฉันจึงบอกว่า ไม่ต้องเติม เพราะดิฉันจะถอดปลั๊กออกแล้ว พนักงานขอร้องว่าให้ผมเติมเถอะมันหน้าที่ผม แต่เดี๋ยวผมจะช่วยติดต่อสำนักงานใหญ่ให้ ให้พี่ได้คุยโดยตรงเลย เรื่องยังไม่ได้เงินค่าเช่า แล้วเค้าก็ต่อสายให้ดิฉันคุย สำนักงานใหญ่โอนสายไปมา จนดิฉันได้คุยกับคุณ Diya ซึ่งถามดิฉันว่า ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอว่าจะเข้าไปให้เซ็นต์อาทิตย์หน้า
ดิฉันตอบว่า ไม่ค่ะ ดิฉันไม่เชื่อคำพูดคุณอีกแล้ว โทรไปก็ไม่รับ แถมไม่โทรกลับด้วย และดิฉันยืนยันว่า ให้ส่ง Messenger เอาสัญญามาให้เซ็นต์ในวันนี้ และพรุ่งนี้โอนเงินที่ค้างค่าเช่ามาด้วย 3 เดือน ถ้าไม่อย่างนั้น ก็มายกตู้กลับไปเลย ดิฉันบริจาคค่าไฟให้ฟรี 3 เดือน ถือว่าทำบุญ คุณ Diya บอกว่า ขอปรึกษา Account ก่อน เดี๋ยวโทรกลับ
แล้วคุณ Diya ก็โทรมาอีกครั้งก่อนเที่ยง ขอแบบเดิมๆคือจะเอาสัญญามาให้เซ็นต์ในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม รวมทั้งแก้ตัวว่า ที่บอกว่าส่ง EMS ไปแล้วนั้นเป็นความเข้าใจผิดของคุณ Diya เอง ไม่ได้ตั้งใจจะโกหก แต่คราวนี้ดิฉันไม่ใจอ่อนแล้วค่ะ ดิฉันยืนยันว่า อย่างไรก็ตาม ต้องวันนี้เท่านั้น พรุ่งนี้วันที่ 5 ต้องโอนเงินให้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็ถือ cheque มาเลย ถ้าทำไม่ได้ตามนี้ มายกตู้กลับไป จะถอดปลั๊กรอไว้ให้ คุณ Diya บอกว่าเดี๋ยวขอไปคุยกันก่อน เดี๋ยวโทรกลับมา
ณ ตอนนี้ ดิฉันไม่ขอรับค่าเช่า 3 เดือนที่ผ่านมาแล้ว รบกวนมาเอาตู้กลับไปเลยค่ะ ค่าไฟที่ออกให้ ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับทำธุรกรรมกับธนาคารไทยพานิชย์ และเป็นค่าวิทยาทานให้คนทั่วไประวังตัวในการทำธุรกรรมต่างๆกับธนาคารไทยพานิชย์ และกับคุณ Diya
(ลืมลบเบอร์มือถือค่ะ)
(เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ขอสงวนชื่อนามสกุลค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 17:37:46
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 15:46:25
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 15:42:45
ธนาคารไทยพาณิชย์เบี้ยวค่าเช่าตู้เอทีเอ็ม โทษใครได้ เพราะเรามันซื่อเอง
... เข้ามาดู
