ความคิดเห็นที่ 1 1.บัญชีออมทรัพย์ ลักษณะทั่วไป เรามาเริ่มกันที่การออมที่ทุกคนคุ้นเคยกันนะครับ การฝากบัญชีออมทรัพย์นั้น เป็นการออมเงินของคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย มีสภาพคล่องสูงมาก คือสามารถถอนเงินได้ทันทีในเวลาทำการของธนาคาร หรือถ้ามีบัตรเดบิต(บัตรATMเป็นอดีตไปแล้วครับT-T)ก็สามารถเบิกถอนได้24ชมที่ตู้ที่มีสัญลักษณ์ ATM POOL อัตราผลตอบแทน ถ้าวงเงินไม่เกินสามล้านบาท ธนาคารใหญ่สามแห่งให้ 0.75%เท่ากันหมดครับ ความปลอดภัยของเงินต้น ในที่สุดสถาบันเงินฝากจะประกันเงินไม่เกิน1ล้านบาทต่อบัญชีครับ สำหรับรายย่อยอย่างเราๆท่านๆก็สบายใจไปได้ แต่ถ้าเป็นรายใหญ่คงต้องกระจายฝากหลายแห่งหน่อย แต่บัญชีออมทรัพย์ก็ไม่ใช่บัญชีที่ปลอดภัย100%อีกต่อไป ข้อดี มีสภาพคล่องสูงมากเบิกถอนได้ทันทีที่ต้องการ ถ้าเป็นบัตรเดบิต สามารถรูดซื้อสินค้าได้ไม่เกินเงินที่มีในบัญชี ข้อด้อย อัตราผลตอบแทนแพ้เงินเฟ้อแบบน็อกตั้งแต่ยกแรกเลยครับ 0.75%ต่อ6.5% มีความเสี่ยงในการล้มละลายของธนาคาร ไม่ประกันเงิน100%แบบสมัยก่อน จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 13:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 2.บัญชีเงินฝากประจำ ลักษณะทั่วไป บัญชีนี้เป็นบัญชีที่คนส่วนใหญ่จะคิดถึงต่อจากบัญชีเงิน ฝากออมทรัพย์ครับ เพราะว่าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า คนส่วนใหญ่นิยมฝาก เงินที่ไม่ได้คาดว่าจะใช้ในอนาคตอันใกล้ เพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น ระยะเวลาในการฝากเงินนั้น มีหลายระยะ เช่น 3 6 และ12เดือน ซึ่งยิ่งฝาก ในเวลาที่ยาวมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็จะมากขึ้นเท่านั้นครับ อัตราผลตอบแทน               3เดือน      6เดือน    12เดือน   24เดือน   กรุงเทพ                          2.35        2.5        2.75       3.5  กสิกรไทย                       2.375       2.5        2.75       3.5  ไทยพานิชย์                     2.375       2.5        2.75       3.5 ความปลอดภัยของเงินต้น เหมือนกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ครับ ข้อดี ได้ผลตอบแทนมากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หลายคนใช้บัญชีนี้ ออมเงินเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ดาวน์บ้าน ดาวน์รถ ค่าเล่าเรียน นอกจากนี้บัญชีเงินฝากประจำยังสามารถนำไปค้ำประกันในตอนขอทำบัตรเครดิตได้อีกด้วย ข้อด้อย สภาพคล่องต่ำมาก เพราะต้องเก็บเงินไว้ตามที่กำหนด ถ้าหากว่ามี การถอนออกมาก่อนกำหนด จะได้ดอกเบี้ยเท่ากับเงินฝากออมทรัพย์แทน จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 13:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3. บัญชีเงินฝากระยะยาว ลักษณะทั่วไป ผมไม่รู้ว่าจะเรียกเงินฝากพวกนี้ว่าอะไรดีครับ เพราะธนาคาร จะออกมาเป็นแพ็คเกจต่างๆกัน ช่วงไหนที่ธนาคารต้องการระดมเงินฝากมากๆ บัญชีพวกนี้ก็จะให้ผลตอบแทนดีเป็นพิเศษครับ บัญชีพวกนี้มีทั้ง6 9 12 24 และ36เดือน อัตราผลตอบแทน ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่แต่ละธนาคารออกมาครับ ถ้าธนาคารต้องการเงินด่วน ดอกเบี้ยก็สูงตาม ความปลอดภัยของเงินต้น เหมือนกับสองบัญชีข้างต้นครับ ข้อดี ให้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนใหญ่มักจะออกมาในช่วงที่ธนาคารต้องการระดมเงินฝากมากๆ ดังนั้นผลตอบแทนอาจจะดีกว่าการฝากประจำ มีแพ็คเกจให้เลือกเยอะ เหมาะกับความต้องการผลตอบแทนและสภาพคล่องของเราๆ ข้อด้อย สภาพคล่องต่ำมากเหมือนกับการฝากประจำครับ และที่สำคัญถ้าเราไปฝากไว้ที่นึง แล้วอีกธนาคารนึงออกใหม่ผลตอบแทนดีกว่าเก่า จะเกิดอาการ”เสียดาย” ได้ครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 13:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 4. กองทุนรวมตลาดเงิน ลักษณะทั่วไป เรียกอีกชื่อว่าMoney Market Fund(MMF) ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม ครับ เพราะว่ากองทุนประเภทนี้โดยส่วนใหญ่จะได้เงินหลังจากการขายหน่วยลงทุน เพียงหนึ่งวัน บางกองทุนขายแล้วได้เงินในตอนนั้นเลยครับ  คือมี “สภาพคล่องสูง เหมือนบัญชีออมทรัพย์ แต่ได้รับผลตอบแทนเท่าเงินฝากประจำ” เมื่อบัญชีออมทรัพย์เริ่มไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง100% คนจึงเริ่มมาสนใจกองทุนประเภทนี้กันเยอะครับ ความปลอดภัยของเงินต้น มีความมั่นคงสูง เพราะพอร์ทการลงทุนของกองทุนส่วนใหญ่ลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาล เช่นพันฐบัรระยะสั้น ตั๋วเงินคลัง ตราสารที่รัฐบาล ค้ำประกัน เช่นพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และที่ตราสารหนี้เอกชนที่มีความั่นคงในระดับสูงเท่านั้น โดยปกติกองทุนนี้จะมีDURATIONหรือระยะเวลาการชำระหนี้ของตราสารโดย เฉลี่ยไม่เกิน1ปี แต่หลายกองทุนในปัจจุบันมีDURATIONประมาณ3-6เดือนเท่านั้น ครับ ทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดไม่กระทบผลการดำเนินงานเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวเดียวตราสารเก่า(ที่ผลตอบแทนต่ำ)ก็หมดอายุ เอาเงินไปซื้อตราสารที่ออกใหม่ๆมีผลตอบแทนสูงได้เร็วกว่าครับ อัตราผลตอบแทน ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยในท้องตลาดในเวลานั้นๆ เรียกได้ว่าลอยตัว ตามอัตราดอกเบี้ยก็ว่าได้ ในปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ2.5-2.7% ความปลอดภัยของเงินต้น กองทุนประเภทนี้ลงทุนในตราสารของรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นความปลอดภัยมีสูงมากครับ ข้อดี อย่างที่บอกเลยครับ ว่าผลตอบแทนเท่าเงินฝากประจำ แต่สภาพคล่อง เหมือนบัญชีออมทรัพย์ ดังนั้นถ้าผลตอบแทนที่ได้เท่าๆกัน แล้วเราจะเอาเงินไปฝัง ไว้เป็นปีๆทำไม จริงไหมครับ ข้อด้อย ถึงแม้ว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็ไม่แน่ว่าจะชนะเงินเฟ้อครับ และข้อ สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ หากกองทุนนั้นๆมีขนาดใหญ่มากๆ อาจะทำให้หาซื้อตรา สารที่มีผลตอบแทนดีๆได้ไม่พอ ต้องซื้อตราสารที่ให้ผลตอบแทนต่ำลงมา ดังจะ เห็นได้ว่ากองทุนที่ใหญ่ที่สุดในระบบกองทุนรวมตอนนี้มีผลตอบแทนรั้งท้ายตลอดก็เพราะสาเหตุนี้เองครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 51 14:14:43 จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 13:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5. กองทุนรวมตราสารหนี้ ลักษณะทั่วไป เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้(หุ้นกู้) ทั้งที่ออกโดย ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งพันธบัตรรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบาย ของกองทุนแต่ละแห่ง ว่าจะเน้นไปที่สัดส่วนไหนมากกว่ากัน ถ้าเน้นไปที่พันธบัตรก็เน้นที่ความปลอดภัยของเงินต้น ถ้าภาคเอกชนมากก็เน้นไปที่ผลตอบแทนการลงทุน กองทุนนี้จะต่างกับMMF ตรงที่อายุของตราสารจะยาวกว่า ดังนั้นผลตอบ แทนการลงทุนจะมากกว่า และเช่นกัน หากขาดทุนก็จะขาดทุนมากกว่าเช่นกันครับ เพราะว่าดอกเบี้ยท้องตลาดขึ้นไปแล้ว แต่เราโดนล็อกผลตอบแทนไว้อีกหลายปี อัตราผลตอบแทน ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด ยิ่งอายุตราสารยาว มากขึ้น ก็จะมีความผันผวนต่ออัตราดอกเบี้ยมากขึ้นเช่นกัน (กำไรหรือขาดทุนได้มากกว่าพวกอายุสั้นๆ) ความปลอดภัยของเงินต้น ถ้ากองทุนเน้นไปที่พันธบัตรรัฐบาลก็จะมีความปลอดภัยมากกว่าครับ ส่วนตราสารเอกชนเองก็มีระดับความปลอดภัยหลายเกรด จากสำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือทั้งหลาย ดังนั้นกองทุนประเภทนี้ ต้องดูไส้ในกันเป็นกองทุนๆไปครับ ข้อดี ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมประเภทก่อนๆที่ว่ามาครับ จากการดู ข้อมูลย้อนหลัง20ปี กองทุนตราสารหนี้นั้น พอฟัดพอเหวี่ยงกับอัตราเงินเฟ้อ เลย คือแพ้ชนะกันไม่มาก ดังนั้นหากต้องการลงทุนเพื่อรักษามูลค่าเงิน การ ซื้อกองทุนตราสารหนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเลยครับ ข้อด้อย ถ้าช่วงเวลานั้นๆอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น(แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้) กอง ทุนประเภทนี้จะทำให้เราเสียผลประโยชน์ไปครับ เพราะหากเราถือต่อไป เรื่อยๆ เมื่อตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าออกมาเราก็เสียโอกาสได้ ดอกเบี้ยสูงๆไป หรือถ้าเราขายออกมา ก็จะขาดทุนจากราคาตลาดได้ครับ โดยเฉพาะถ้าเราลงทุนในกองทุนรวมซึ่งใช้ราคามาร์คทูมาร์เก็ตทุกวัน(แสดงเป็นราคาตลาด) จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 14:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากครับ อ่านง่าย เข้าใจดี จากคุณ : Aloft - [ 21 ก.ค. 51 15:02:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 6. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ลักษณะทั่วไป กองทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิในการเช่า อสังหาริมทรัพย์  ซึ่งทั้งสองต่างกันนะครับ ตรงนี้ต้องระวังให้ดีๆ กองทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(free hold)จะซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้นๆมา เลย ดังนั้นกองทุนแบบนี้จะไม่มีหมดอายุครับ ถ้าหากไม่ได้ขายอสังหานั้น ออกไป กองทุนแบบนี้ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ส่วนกองทุนที่ลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์(lease hold)นี่สิครับ เพราะชื่อบอกแล้วว่าเป็นแค่สิทธิ ไม่ได้ซื้อทรัพย์สินไปจริงๆ กองทุนประเภท นี้จะซื้อสิทธิไป20-30ปี โดยจ่าค่าเช่าเหมาให้เจ้าของไป แล้วเอาไปปล่อย เช่าต่ออีกที ซึ่งปัญหาคือ ถ้าหมดอายุการเช่า สิทธินั้นจะกลายเป็น0ทันที แหมือนเราไปเช่าที่เปิดท้ายขายของ คืนละ100บาท พอตอนเช้าเราคืนที่ เราก็ไม่ได้เงิน100คืนนะครับ เพราะเป็นค่าเช่าที่ไปแล้ว เพราะฉะนั้นผลตอบ แทนที่ได้ จะมาจากเงินปันผลปีต่อปีเท่านั้น ตอนกองทุนหมดอายุเอาอสังหาไปขายไม่ได้นะครับ ดังนั้นหากกองทุนประเภทนี้จ่ายปันผล3.3%ต่อปีไป30ปี เท่ากับว่าพอครบอายุเราได้เงินคืน100% โดยไม่มีผลตอบแทนใดๆตลอด เวลา30ปีเลยครับ นอกจากนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ยังมีความแตกต่างกันในประเภทของ ทรัพย์สินอีกครับ คือ บ้านเช่า คอนโด พื้นที่เพื่อการพานิชย์ โรงงาน ซึ่งแต่ ละประเภทก็จะมีอัตราเช่า ราคาเช่า และเวลาเช่าที่แตกต่างกันไป เช่น คนเช่าบ้าน อาจจะย้ายออกเมื่อซื้อบ้าน ย้ายที่ทำงาน เบื่อ พื้นที่ขาย อาจจะดูภาวะเศรษฐกิจ โรงงานนี่ย้ายยากหน่อย เพราะมีปัญหาเรื่องเครื่องจักรและคนงาน ถ้าจะให้ดี ดูกองทุนที่มีนโยบายขยายกองทุนไปเรื่อยๆก็ดีครับ คือซื้อ ทรัพย์สินเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ(สำหรับfree hold) ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้น เรื่อยๆครับ อัตราผลตอบแทน ขึ้นอยู่กับแต่ละกองทุนครับ ว่าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แบบไหน ทำเลและการบริหารเป็นอย่างไร แต่ในปัจจุบันกองทุนประเภทนี้ให้ผลตอบแทน5-8% เฉพาะค่าเช่า ถ้ารวมราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อด้วย(ในกรณีfree hold)ผลตอบแทนก็จะมากกว่านี้ครับ หมายเหตุ ในM&Wฉบับเดือนกรกฏาคมระบุว่า ผลตอบแทนจากการเช่าคอนโดในเขต เมืองของกรุงเทพเฉลี่ยอยู่ที่18%ก่าๆ รวมทั้งรายได้ค่าเช่า และราคาที่ที่เพิ่มขึ้น ในอเมริกาผลตอบแทนย้อนหลัง20ปีของอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่11-12%ต่อปีครับ ความปลอดภัยของเงินต้น กองทุนแบบนี้มีความเสี่ยงต่ำครับ เพราะยังไงไม่ มีวันกลายเป็นกระดาษแปะข้างฝาแบบหุ้นแน่นอน เพราะว่ามีอสังหาริม ทรัพย์จริงๆหนุนหลังอยู่ ยกเว้นกองทุนแบบสิทธิในการเช่า(lease hold)ที่มี เวลาในการใช้ประโยชน์ ข้อดี เป็นการลงทุนที่ชนะเงินเฟ้อได้ค่อนข้างแน่นอน เพราะว่าราคาที่ดินจะ เพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อไปด้วย แล้วเรายังได้ผลประโยชน์จากค่าเช่าอีก(free hold) แต่ถ้าเป็นกองทุนแบบสิทธิ(lease hold)เราจะไม่ได้ประโยชน์จากการ เพิ่มค่าของราคาที่ดินนะครับ เพราะว่าเราเหมามาให้เช่าต่อ ไม่ได้ซื้อมาเป็น เจ้าของ ยังก็ตามกองทุนประเภทนี้ซื้อแล้วเก็บยาวได้ครับ ไม่ต้องดูแลมาก ข้อด้อย กองทุนประเภทนี้ถึงแม้จะเป็นกองทุนประเภทเดียวกัน แต่อาจแตก ต่างกันได้แบบสุดโลก ดังนั้นก่อนการลงทุนต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ก่อนครับ ว่าเป็นกองทุนประเภทไหนซื้อขาด หรือเช่าสิทธิ และทำเลป็นอย่างไร ในพื้นที่นั้นๆมีความต้องการจริงหรือไม่ และหลายกองทุนเป็นกองทุนปิด ต้องซื้อในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ทำให้บางท่านอาจไม่สะดวกในการซื้อ ขายครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 15:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 7. พันธบัตรรัฐบาล ลักษณะทั่วไป คือตราสารที่ทางภาครัฐออกมาด้วยจุดประสงค์ต่างๆ เช่น เพื่อโปะการขาดุลงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในเรื่องของการออม เงิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการบริหารเงินแผ่นดิน อัตราผลตอบแทน ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด และวัตถุประสงค์ที่ ออกมาครับ จะประกาศเป็นคราวๆไป ความปลอดภัยของเงินต้น 100%ครับ เพราะรัฐบาลเป็นผู้ออก มั่นคงกว่าการ ฝากธนาคารอีก เพราะแบ็งค์ยังเจ๊งได้ แต่ว่ารัฐบาลล้มละลายไม่ได้ครับ ถ้า รัฐบาลเจ๊งนี่ก็คงต้องไปอยู่ที่อื่นกันละครับ ทั้งนี้รัฐบาลเค้าใช้เงินคืนให้แน่ๆ แต่ถ้าพิมพ์เงินออกมาเยอะจนเงินมันเฟ้อ แล้วมูลค่าแท้จริงลด มันก้อีกเรื่องนะครับ อิอิ ข้อดี มีความมั่นคงในเงินต้นมากที่สุด สำหรับตราสารที่ออกในประเทศไทย และถ้าเราซื้อตรงได้เองก็จะได้รับผลตอบแทนเต็มๆครับ เพราะถ้าเราไปซื้อผ่านกองทุนรวม เร้าองเสียค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าบริหารกองทุนด้วย ข้อด้อย ถึงจะเป็นตราสารที่มั่นคงสูง แต่ในระยะยาวอาจแพ้เงินเฟ้อนิด หน่อยครับ ที่สำคัญ ถ้าอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น พันธบัตรรุ่นใหม่ๆก็จะห้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า ทำให้เราอาจเสียประโยชน์ในผลตอบแทนที่ มากขึ้น ถ้าเรายังทนถือต่อไป หรือหากขายออกมาก้อาจขาดทุนจากราคาตลาดได้เหมือนตราสารหนี้ทั่วไปครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 15:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ตะวันรอนตอนเช้า - [ 21 ก.ค. 51 15:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 8. ทองคำ ลักษณะทั่วไป ถ้าต้องการลงทุนควรเลือกเป็นทองคำแท่งครับเวลาซื้อขาย จะมีส่วนต่างกัน100บาทสำหรับทองคำ5บาทขึ้นไป ถ้าเป็นทองคำขนาด1-2บาท จมีค่าบล็อกเพิ่มขึ้นอีกบาทละ50-100บาทครับ ดังนั้นการซื้อทองคำขุ้นต่ำคือ 1บาท+ค่าบล็อกอีก150-200บาท รวมเงินก็ หมื่นกลางๆ แต่ถ้าเงินต้นไม่มากพอแต่อยากสะสมทองคำ ก็สามารถลงทุนในกองทุน ทองคำได้ครับ โดยการลงทุนทั้งสองแบบมีสิ่งที่ต้องสนใจ คือ ราคาทองคำในตลาดโลก และราคาค่าเงินบาทครับ เพราะการที่ราคาทองโลกขึ้นไป เราอาจจะไม่ได้กำไรก็ได้ ถ้าค่าเงินของเรา แข็งค่าขึ้นตามครับ อัตราผลตอบแทน ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับวัฏจักร บางช่วงอาจขึ้นแบบบ้าเลือด บางช่วงอาจกระดึ๊บๆ แต่ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อครับ (ยกเว้นคนที่ซื้อที่ดอยของรอบวัฏจักรพอดี) ความปลอดภัยของเงินต้น ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เราเข้าไปลงทุนครับ แต่ถ้า เราซื้อสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะลดความเสี่ยงในจุดนี้ลงไปได้ ข้อดี ให้ผลตอบแทนในระยะยาวสูงกว่าเงินเฟ้อ และเป็นความสุขทางใจสำหรับหลายๆคน ถ้าเป็นกองทุนรวม สามารถทะยอยซื้อทีละไม่กี่พันได้ ข้อเสีย ถ้าเป็นทองคำแท่งอาจต้องมีค่ารักษา เพื่อป้องกันกาสูญหาย การกะจังหวะเพื่อลงทุนทำได้ยากเมื่อเทียบกับข้ออื่นๆ หมดแล้วนะครับ ทั้งหมดนี่ผมเลือกการลงทุนที่ไม่ค่อยหวือหวา และเข้าใจได้ไม่ยาก เผื่อคนที่อยากต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ยังไม่รู้ว่ามีเครื่องมืออะไรบ้าง ทั้งหมดนี้เป็นแค่รายละเอียดคร่าวๆในการลงทุนนะครับ ไม่ได้หมายความว่า ถ้าไปออมเงินหรือลงทุนแล้วจะได้ผลอย่างนี้เป๊ะๆ โดยเราต้องศึกษาสภาพแวดล้อมในขณะนั้นๆด้วยว่าเหมาะสมกับสิ่งที่เราจะลงทุนไหม เช่น ถ้าอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น เราก็ควรจะลงทุนกับตราสารที่มีอายุสั้นๆ เพื่อที่ผลตอบแทนจะได้ขึ้นตามดอกเบี้ยในท้องตลาดได้ แต่ถ้าดอกเบี้ยเป็นขาลง เราก็ลงทุนในตราสารระยะยาว เพื่อล็อคผลตอบ แทนสูงๆไว้ให้นานที่สุดครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 15:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : lemonsmile - [ 21 ก.ค. 51 15:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กองอสังหาฯ มีตัวอย่างไหมครับ ไม่ค่อยได้สนใจ จากคุณ : Godgate - [ 21 ก.ค. 51 16:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ticon property fund กองนี้โดดเด่นมากครับ เป็นกองทุนแรกๆในตลาดเลย มีการขยายกองทุนตลอดเวลา และที่สำคัญเป็นfree holdครับ อิอิ ที่อื่นๆก็มี GOLDPF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์                   กสิกรไทย LUXF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ลักซ์ชัวรี่                   ทหารไทย MNIT กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี   เอ็มเอฟซี MNRF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มัลติเนชั่นแนลเรสซิเดนซ์ฟันด์  เอ็มเอฟซี QHCP กองทุนรวมคิวเอชคอมเมอเชียลพร็อพเพอร์ตี้    วรรณ SIRIPF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ    ไอเอ็นจี SPF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย       นครหลวงไทย SRCPF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หอพักนักศึกษา    ไอเอ็นจี TIF1 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยอินดัสเตรียล 1    ไอเอ็นจี TU-PF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ ไอเอ็นจี แค่นี้รู้สึกจะยังไม่หมดนะครับ แต่ถ้าดูชื่อให้ดีๆนะครับ แค่นี้ทรัพย์สินก็ต่างกันมากแล้ว ทั้งโรงงาน บ้าน สนามบิน หอพัก ลองดูตามความชอบเลยครับ หุหุหุ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 51 17:16:23 จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ก.ค. 51 16:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความรู้แน่นมากๆ จากคุณ : มิตรบางมด - [ 21 ก.ค. 51 17:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 free  hold  ในตลาดมีตัวไหนมั่งครับ  ticon  นี้ใช่มั้ย จากคุณ : จอนฟอน - [ 21 ก.ค. 51 19:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะที่มาสรุปให้ความรู้ทบทวนกับพวกมือใหม่อย่างหนู จากคุณ : หนูอิ่ม - [ 21 ก.ค. 51 20:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ จากคุณ : coolboyz - [ 22 ก.ค. 51 00:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมาก บทความนี้เหมาะสำหรับสอนมือใหม่ที่อยากจะลงทุน ในสินทรัพย์ที่ไม่ซับซ้อนเกินไป เข้าใจง่าย กระชับและชัดเจน คุณขอบฟ้าบูรพาลองนำเสนอบทที่ ADVANCE ที่ละขั้นจะยิ่งสมบูรณ์นะครับ ถ้ามีเวลา ขอบพระคุณล่วงหน้าเลย ขอเข้ามาแก้ชื่อนะครับประทานโทษด้วยตามืดมัวเอง แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 51 09:46:09 จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 22 ก.ค. 51 07:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ticonเป็นบริษัทครับ ถ้าเป็นกองทุนจะชื่อTFUNDครับ กองทุนนี้เป็นfree hold และซื้อโรงงานเข้ากองทุนตลอด ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าไม่ต้องการความหวือหวามากก็น่าสนครับ #18 จะลองพยายามดูครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 22 ก.ค. 51 08:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ถ้าเงินต้นไม่มากพอแต่อยากสะสมทองคำ ก็สามารถลงทุนในกองทุน ทองคำ >>  ขอความรู้เพิ่มเติมในกองทุนทองคำหน่อยค่ะ กองทุนไหนของ bank ไหนบ้างค่ะ  และต้องพิจารณาอะไรบ้างค่ะ  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แดง (kunkrub2007) - [ 22 ก.ค. 51 10:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เฉพาะที่ลงทุนในทองคำอย่างเดียวนะครับ ไม่รวมกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ กองทุนเปิด ทหารไทย โกลด์ ฟันด์ http://www.tmbam.co.th/v1/th/mutualFundsDetail.php?id=31&catid=4 กองทุนเปิดเค โกลด์ ของบลจ.กสิกรไทย http://www.kasikornbank.com/portal/site/KAsset/menuitem.f0d46c8c1cd8abc78b0de701658f3fa0/?vgnextoid=f3b667caeebfa110VgnVCM1000007102a8c0RCRD สำหรับกองทุนทองคำนั้น สิ่งที่ต้องดูมากที่สุด คือ แนวโน้มราคาทองโลกครับ ซึ่งเราอาจคาดการณ์ได้จาก อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ค่าเงินดอลลาที่อ่อนตัวลง ความไม่สงบในภูมิภาคต่างๆ การเก็งกำไรของกองทุนต่างๆ หากมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ราคาทองคำ"มักจะ"เพิ่มขึ้นครับ สอง คือ ค่าเงินบาท เมื่อเทียบกับสกุลดอลลา เพราะว่าถึงแม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเงินบาทแข็งค่าราคาทองเมืองไทยอาจจะพไม่เพิ่มขึ้นเลยครับ หรือเป็นการ กำไรทอง แต่ขาดทุนค่าเงินนั่นเอง สมมติว่าเรากำไรทองคำมา1USD แทนที่จะขายได้เงิน35บาท แต่เงินบาทแข็งค่าขึ้น เหลือ33บาทต่อ1USD ทำให้กำเราที่เราควรจะได้ลดลงไป2บาทครับ (35->33) ต้องขออธิบายเพิ่มว่ากองทุนไม่ใช่ของทางbankนะครับ แต่อยู่ภายใต้การจัดการของบลจ. ซึ่งอาจจะเป็นบริษัทลูกของbank หรือบริษัทหลักทรัพย์อีกทีหนึ่ง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันในด้านการจัดการสักเท่าไหร่ครับ เช่น เวลาผมแนะนำกองทุนของบลจ.ทหารไทยให้เพื่อนๆ บางคนไม่อยากซื้อ เพียงเพราะคำว่า "ทหารไทย" ทั้งๆที่จริงๆแล้ว กองทุนภายใต้การจัดการของบลจ.ทหารไทยมีดีๆหลายกองเลยครับ และกองทุนเองก็มีการจัดตั้งขึ้นนั้นก็เป็นนิติบุคคลขึ้นมาอีกทีหนึ่ง นั่นหมายความว่าหากกองทุนล้มละลายต้องปิดกองลง ทางบลจก็ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในหนี้สินที่เกิดขึ้น หรือหากบลจเองเกิดล้ม กองทุนก็ไม่ได้ล้มละลายตามไปด้วยครับ และหากbankล้ม บลจก็ไม่ได้ล้มตามไปด้วย หากบลจล้ม ก็ไม่ได้หมายความว่าbankจะล้มด้วยครับ ดังนั้นหากจะลงทุนอย่าดูเพียงภาพลักษณ์ของbankแม่ครับ นั่นมีผลเพียงความสะดวกในการซื้อ ขายกองทุนรวมเท่านั้น แต่ผลตอบแทนและความเสี่ยง ดูรายละเดเป็นกองทุนๆไปดีกว่าครับ(พวกนี้แถมครับ อิอิ) จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 22 ก.ค. 51 11:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาอ่าน  มาโหวต ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ตะวันรอนตอนเช้า - [ 23 ก.ค. 51 21:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รบกวนคุณขอบฟ้าบูรพาช่วยเปรียบเทียบ ทหารไทยโกลด์ กับ เคโกลด์หน่อยได้ไหมครับ อยากทราบว่ามันแตกต่างกันอย่างไร แล้วอันไหนน่าสนใจมากกว่ากัน ผมลองไปอ่านๆ ดูรู้สึกมันเหมือนกันแทบจะทุกอย่างเลย ยกเว้นแค่ธรรมธรรมเนียม ขอบคุณครับ จากคุณ : ตัวหนอนไม้ไผ่ - [ 24 ก.ค. 51 00:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถามคุณขอบฟ้าบูรพาหน่อย ตรงที่ ความปลอดภัยของเงินต้น ในที่สุดสถาบันเงินฝากจะประกันเงินไม่เกิน1ล้านบาทต่อบัญชีครับ สำหรับรายย่อยอย่างเราๆท่านๆก็สบายใจไปได้ แต่ถ้าเป็นรายใหญ่คงต้องกระจายฝากหลายแห่งหน่อย แต่บัญชีออมทรัพย์ก็ไม่ใช่บัญชีที่ปลอดภัย100%อีกต่อไป ผมงงครับ ผมพึ่งถาม UOB เมื่อเดือนที่แล้ว พรบ นี้ยังไม่ออกใช้ครับตอนนี้ และ พรบ ที่ออกมาคือ ประกันเงินฝาก ปีที่1 ประกัน 100 ล้านต่อบัญชี ปีที่2 ประกัน 50ล้าน ปีที่3 ประกัน 25ล้าน   ปีที่4 ประกัน 10ล้าน ปีที่5 ประกัน 1ล้าน ไม่ใช้หรือครับ ถ้าผิดถูกยังไง รบกวนแก้ให้ด้วยครับ จากคุณ : พ่อหมูกะทิ - [ 24 ก.ค. 51 09:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณตะวันรอนตอนเช้า  ขอบคุณครับ คุณพ่อหมูกะทิ ผมหมายถึงตัวพรบฉบับนี้แหละครับ คือในที่สุดหลังจาก5ปีก็จะประกันเงินฝากไม่เกิน1ล้านบาทต่อบัญชี ก็คือ ไม่เกิน1ล้านบาท หรือ ประกัน1ล้านบาทความหมายเดียวกันกันครับ ขอโทษด้วยครับผมอาจจะใช้ภาษาแปลกๆไปหน่อย คุณตัวหนอนไม้ไผ่ สำหรับกองทุนรวมทองคำนี่ผมไม่ถนัดเท่าไหร่นะครับ เพราะว่าโดยปกติผมชอบกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์มากกว่า อิอิ แต่ได้สอบถามรายละเอียดให้แล้วครับ สำหรับสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญต่อผลตอบแทน คือกองทุนของทหารไทยนั้น ไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงของค่าเงินเลยครับ คือจะเป็นแบบในคหที่21 คือค่าเงินอาจจะกระทบกับผลตอบแทนการลงทุนได้ แต่ของk-gold มีการเฮดจ์ค่าเงินไว้ ทำให้ค่าเงินบาท/USDไม่มีผลต่อการลงทุน ผลตอบแทนจะวิ่งตามราคาทองคำของต่างประเทศจริงๆครับ แบบนี้ลงทุนในk-goldก็ดีกว่าสิ เพราะว่าไม่มีความเสี่ยงด้านค่าเงิน? แบบนี้ต้องตอบว่า แล้วแต่คนชอบครับ ถ้าเป็นคนที่ติดตามราคาทองคำโลก อยากให้ราคากองทุนไปตามราคาโลกจริงๆ กองทุนของกสิกรไทยอาจจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า แต่สำหรับคนที่อยากซื้อทองคำเก็บไว้ แต่ไม่สามารถซื้อทองคราวละ5บาท10บาทได้ การลงทุนในทหารไทย โกลด์ ฟันด์ อาจจะเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนเหมือนราคาทองในเมืองไทยมากกว่า ทั้งนี้แม้ว่าก่อนหน้านี้ กองทุนทหารไทย โกลด์ ฟันด์จะให้ผลตอบแทนน้อยกว่าราคาทองในตลาดโลก เพราะว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเรื่อยๆ (และนี่คืออีกเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นผมไม่ลงทุนในกองทุนทองคำ) แต่ในปัจจุบันที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ก็อาจจะทำให้ทหารไทยโกลด์ฟันด์ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าก็ได้นะครับ อิอิ สรุปง่ายๆว่า ถ้าสนใจราคาทองคำตลาดโลก กสิกร ถ้าคิดว่าให้ผลตอบแทนไปตามราคาทองตามร้านทอง ทหารไทย แต่ถ้าคิดว่าอ่านเทรนด์ค่าเงินออก สลับไปสลับมาเลยครับ หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 24 ก.ค. 51 10:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านเข้าใจง่ายดี เป็นประโยชน์อย่างมากเลย ขอบคุณจ้า จากคุณ : mengnoi - [ 24 ก.ค. 51 15:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 24 ก.ค. 51 18:50:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เนื้อหาดีครับ จากคุณ : I am wow - [ 24 ก.ค. 51 20:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อธิบายชัดเจนมากเลยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ จากคุณ : ตัวหนอนไม้ไผ่ - [ 24 ก.ค. 51 23:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านเพลินดีค่ะว่าจะลงทุนแบบไหนดี เพราะเคยตัดสินใจพลาดมาแล้วที่ไปฝากประจำแบบยาวนาน36เดือน เห็นแก่ดอกเบี้ยที่จ่ายให้ทุกเดือน พออยากลงทุนด้านอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ก็ต้องรอให้ครบกำหนดอีก จากคุณ : jomo (jomoland) - [ 25 ก.ค. 51 11:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตค่ะ จากคุณ : หมวยน้อยร้อยชั่ง - [ 25 ก.ค. 51 15:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ มีประโยชน์ครับ จากคุณ : ClasS_X - [ 26 ก.ค. 51 13:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 1 เสียงช่วยโหวต จากคุณ : Virus_Ry - [ 26 ก.ค. 51 16:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบมากค้าบ อ่านง่ายให้ความรู้ โดยเฉพาะมือใหม่อย่างผมได้ประโยชน์เยอะเลยครับ จากคุณ : Master Obi-Wan - [ 26 ก.ค. 51 17:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากเลยค่ะ เหมือนเพื่อนๆ ที่บอกไว้ค่ะ อ่านง่าย เข้าใจง่าย โหวตค่ะ จากคุณ : ยุ้ย (yuisan) - [ 26 ก.ค. 51 18:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้าใจง่าย ได้ความรู้ เป็นอีกคนที่ขอกล่าวคำว่า ขอบคุณคะ จากคุณ : ควีนคอง - [ 26 ก.ค. 51 19:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาหาความรู้ที่นี่อยู่หลายวัน เพิ่มพูนขึ้นเพียบเลยค่ะ ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ จากคุณ : @คนแปลกหน้า@ - [ 26 ก.ค. 51 19:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามานั่งเรียนด้วยคนครับ... จากคุณ : akae - [ 26 ก.ค. 51 21:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 "แต่ถ้าคิดว่าอ่านเทรนด์ค่าเงินออก สลับไปสลับมาเลยครับ" แล้วถ้าคิดว่าค่าเงินจะแข็ง ควรสับซื้อกองไหนหรอครับ ระหว่าง tmbgold กับ k-gold ขอบคุณครับ จากคุณ : `๏ โจรูโน่ - [ 26 ก.ค. 51 23:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณที่ให้ความรู้ค่ะ จากคุณ : แม่อริน (แม่อริน) - [ 27 ก.ค. 51 10:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากเลยค่ะ ทำให้มือใหม่(สุด ๆ) เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ^__________^ จากคุณ : bonyna - [ 27 ก.ค. 51 11:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาโหวต ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อมูล จากคุณ : I am JUNe. - [ 27 ก.ค. 51 11:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มีประโยชน์มากเลยครับ อ่านเข้าใจง่ายดี  ขอบคุณครับ จากคุณ : jk (016) - [ 27 ก.ค. 51 20:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อมูล จากคุณ : jasmin rice - [ 27 ก.ค. 51 21:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โหวตให้ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จากคุณ : DL4 1EX - [ 28 ก.ค. 51 11:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดีใจครับ ที่มีคนชอบ เป็นปลื้มเหมือนกัน ตอนแรกยังแอบงงๆว่ากระทู้น่าจะตกหน้าไปแล้ว ทำไมยังมีคนเข้า มารู้ตัวอีกทีขึ้นกระทู้แนะนำนี่เอง คุณjomoland ใช่ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวังมากทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแบบนี้ การเอนเงินไปล็อคไว้ในที่ๆผลตอบแทยคงที่แบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงครับ สังเกตุดูสิครับว่าตอนนี้ ธนาคารแต่ละแห่งเริ่มออกมาระดมทุนกันอีกแล้ว ให้ดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ในเวลาที่กำหนด บางที่ก็ให้แบบขั้นบันไดตามช่วงเวลา ต้องศึกษาและเปรียบเทียบให้ดีครับ ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเสียเปรียบได้ คุณ`๏ โจรูโน่ แล้วถ้าคิดว่าค่าเงินจะแข็ง ควรสับซื้อกองไหนหรอครับ ระหว่าง tmbgold กับ k-gold - ถ้าคาดว่าค่าเงินแข็งเราควรจะซื้อกองk-goldสิครับ เพราะว่าเป็นการล็อคกำไร-ขาดทุนจากค่าเงิน ไม่ให้เคลื่อนไหว ดังนั้นช่วงที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า เราไม่ควรให้ตัวแปรนี้เข้ามายุ่มย่ามกับผลตอบแทนเราครับ (เพราะว่าการแข็งค่าของเงินบาททำให้เราขาดทุนได้จากกระทู้ที่21ครับ) แต่ถ้าคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่า เราก็ควรไปลงทุนในทหารไทยครับ เพราะไม่ว่ากองทุนทองคำต้นทางจะเป็นอย่างไร เราก็จะได้กำไรจากค่าเงินที่อ่อนลงมาอยู่ดี เช่น ถ้าราคากองทุนต้นทางไม่เปลี่ยนไปเลย แต่ราคาค่าเงินอ่อนลง จาก 30->33บาท นั่นคือเราได้กำไรจากค่าเงินแล้ว3บาทหรือเกือบๆ10%เลยครับ อีกนิดครับ ช่วงนี้ผมเห็นหลายธนาคารออกบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงๆออกมาล่อใจอีกแล้ว และเห็นหลายคน อาจจะเข้าใจผิดในเรื่องของผลตอบแทนได้ครับ การที่เค้าโฆษณาว่า สมมติว่าฝากไว้ 9 เดือนให้อัตราผลตอบแทน4% ไม่ได้หมายความว่าเราเอาเงินไปฝาก9เดือนแล้วได้ดอกเบี้ย4%นะครับ อัตราดอกเบี้ยทั้งหมดหมายความว่าต่อปีครับ ในที่นี้คือถ้าฝากไว้ทั้งปีจะได้4% แต่ที่เค้าออกมาแค่9เดือน นั่นหมายความว่าเราจะได้ผลตอบแทน9/12ปี คือได้ผลตอบแทนจริงๆแค่3%เท่านั้นครับ สำหรับเงินฝากประจำ3เดือน 6เดือนก้เหมือนกันครับ หมายความว่าฝากประจำสามเดือน ทบต้นไป4ครั้งจะได้เท่าอัตราที่บอกครับ ไม่ได้หมายความว่าฝาก3เดือนได้2.35ครั้งนึงนะครับ เพราะไม่งั้นทบต้นไป4ครั้ง(1ปี) ก้ได้ผลตอบแทน10%++ไปแล้วสิครับ และถ้าคนที่สนใจจริงๆ ก็ลองดูแพ็คเกจแบบที่ไม่ยาวมากครับ เพราะถ้า9เดือนหรือ1ปีขึ้นไป ผมมองว่าดอกเบี้ยยังมีโอกาสขึ้นได้อีก ซึ่งคนที่ฝากยาวมากเกินไปจะเสียเปรียบเมื่อมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาครับ หุหุหุ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 22:28:32 จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 28 ก.ค. 51 15:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 รวบรวมไว้ได้น่าสนใจดีครับ จากคุณ : กระปุกป่วน - [ 28 ก.ค. 51 15:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 กระทู้นี้โดนใจมั่กๆครับ กำลังเริ่มตั้งไข่อยู่เลย จากคุณ : Future is on my hand - [ 28 ก.ค. 51 17:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ  ได้ความรู้เพียบเลย คุณขอบฟ้าบูรพา  น้ำใจงาม  =^_^= จากคุณ : Patella - [ 28 ก.ค. 51 18:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ จากคุณ : Funnyy - [ 29 ก.ค. 51 08:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้มากเลย... เราไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ที่เข้ามาห้องนี้เพราะเวลาได้อ่านกระทู้พวกเงินๆ ทองๆ จะเกิดแรงฮึดอยากเก็บตังค์ (เกี่ยวไหมเนี่ย 555+) โหวตให้ค่ะ จากคุณ : zyleth - [ 29 ก.ค. 51 12:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หุ้นดีๆที่มี dividend yield เกิน 6 % และอาจได้ captital gain (loss) ด้วย น่าสนไหมคะ บทความของคุณให้ความรู้ดีมาก เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จากคุณ : ป้า 64 (jagjang) - [ 29 ก.ค. 51 14:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าเป็นหุ้นที่มีปันผลระดับ6-7%ในตลาดก็มีพอสมควรครับ และถ้าเป็นหุ้นที่มีการเติบโตด้วยนี่ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ลักษณะก้เหมือนกับกองทุนอสังหาที่ซื้อทัพย์สินเข้ามาเรื่อยๆเลยครับ แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ capital lossนี่แหละครับ หุ้นบางตัวyieldดีขึ้นทุกปี เพราะราคาหุ้นลงทุกปีครับ แต่ถ้าไม่รีบร้อน เงินเย็นเจี๊ยบ รอสัก3-5ปีได้ก็มีหลายตัวน่าสนใจนะครับ เช่น se-ed ที่มีร้านใหม่ๆเปิดทุกเดือน โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองเลย ขายหนังสือได้เท่าไหร่ กว่าจะไปจ่ายให้สนพก็6เดือน 1ปี เงินตรงนี้มหาศาลครับ ปันผลก็90%++ของผลกำไร bigc makro cpall ก็เหมือนกันครับ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น สาขาที่เพิ่มขึ้น และการได้เครดิตยาวๆ กว่าจะจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ และตัวไหนที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ยังได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาที่ ถ้ามีตึก ก็ยังได้กำไรจากค่าเสื่อมราคาอีกต่างหาก ยังไงก็ตาม การลงทุนในหุ้น ต้องศึกษาให้ดีๆก่อนการลงทุนครับ เพราะไม่ว่าหุ้นจะดียังไงก็ตาม ก็ยังมีความเสี่ยงการจากขาดทุน มากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้มากกว่าอยู่ดีครับ แถมอีกนิด เมื่อกี้ไปแบงค์กรุงเทพมา เริ่มมีฝากประจำ5เดือน ให้ดอก3.8%แล้วนะครับ ตอนนี้ธนาคารหลายแห่งเริ่มออกมาระดมเงินกันแล้ว นั่นอาจหมายถึง เงินในระบบขาดแคลน หรือธนาคารอาจมองว่าดอกเบี้ยกำลังจะเป็นขาขึ้น ยังไงก็ตัดสินใจดีๆก่อนที่จะออมหรือลงทุนด้วยนะครับ หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 29 ก.ค. 51 15:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 thanksssss จากคุณ : Dr.โอ - [ 29 ก.ค. 51 20:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอเสริมเรื่องดอกเบี้ยนิดนึงครับ คือว่า ที่เค้าบอกดอกเบี้ยเช่น 3.8% อันนี้นอกจากจะต้องคิดกลับให้เป็น 5 เดือนจาก 12 เดือนด้วยแล้ว อย่าลืมดูด้วยนะครับว่ามีการงดเว้นภาษีด้วยหรือไม่ เพราะถ้าไม่จะต้องโดนหักภาษีดอกเบี้ยอีก 15% ด้วยครับ จากคุณ : yoo (yu_ct2000) - [ 30 ก.ค. 51 11:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมากครับ อ่านง่ายดี  ^_^ จากคุณ : Kato_nd - [ 30 ก.ค. 51 15:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มีประโยชน์มาก  ขอบคุณครับ จากคุณ : ธไนศวรรย์ - [ 30 ก.ค. 51 20:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณจขกท.มากๆ เพิ่งไปธนาคารมาก่อนมาเจอกระทู้นี้ เราบอกเค้าว่าอยากซื้อกองทุน เค้าแนะนำให้ซื้อกองทุนตราสารหนี้ หน่วยนึงประมาณ 17บาทกว่าๆ แต่อัตรามันขึ้นทุกปี แต่ดูแล้วก็ยังงงๆ เพราะบางกองทุนแค่หน่วยละ 4-5 บาทเอง พอมาอ่านก็อยากถามว่า แล้วเราจะซื้อดีมั้ยอ่า หรือว่าจะไปซื้ออย่างอื่นดี อย่างที่อ่านมา กองทุนพวกอสังหาก็น่าสนใจนะคะ (เงินเราไม่เยอะนะคะ แบบแค่ 20,000) คุณจขกทหรือ พี่ๆคนอื่นว่า.เอาไปทำไรดีอ่า จากคุณ : บีบี้จัง - [ 31 ก.ค. 51 15:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เข้ามาโหวตให้คะ ขอบคุณมากๆๆๆๆเลยที่มีกระทู้ดีดีแบบนี้มาให้อ่าน อย่าลืมเขียนบ่อยๆนะคะ รออ่านอยู่ จากคุณ : ขมิ้น ส้มป่อย - [ 31 ก.ค. 51 22:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณมากๆคะ แล้วพี่คะ...กองทุนอสังหาที่มีชื่ออยู่ด้านบน#13 เป็น free hold ทั้งหมดรึป่าวคะ แล้วถ้าสนใจจะซื้อขายได้ยังไงคะ รบกวนด้วยนะคะ จากคุณ : น้องใหม่อยากรู้ค่ะ (Dear_daisy) - [ 1 ส.ค. 51 08:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณบีบี้จัง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาทางจิตวิทยามากครับ หลายคนไม่กล้าซื้อกองทุนที่มีราคาต่อหน่วยสูงๆ เพราะกลัวว่าผลตอบแทนจะน้อย บางคนคิดว่ากองทุน5บาทกับ15บาท ถ้าได้ผลตอบแทน1บาทเท่ากัน กองทุนที่มีราคา5บาทจะดีกว่า ลองมาดูความเป็นจริงกันครับ กองทุนส่วนใหญ่จะมีราคาขายครั้งแรกที่ 10 บาทเท่ากัน หมายความว่ากองทุนที่มีราคามากกว่า 10 บาทมากเท่าไหร่ นั่นคือกำไรที่กองทุนนั้นๆทำได้ครับ ส่วนกองทุนที่มีราคาต่ำๆเช่น 4-5บาท หมายความว่ากองทุนนั้นบริหารแล้วขาดทุน...แป่ว เวลาอ่านหนังสือชี้ชวนการลงทุนมักจะคำเตือนว่า "ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ใช่การยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต"(ประมาณนี้แหละมั้ง อิอิ) แต่การที่กองทุนเปิดมาหลายปี ทุกปีเงินเราหายไปจนในที่สุดเหลือครึ่งเดียว(5บาทต่อหน่วย) กับกองทุนที่เปิดมาแล้ว เงินเราเพิ่มขึ้นตลอด กองทุนไหนน่าลงทุนมากกว่ากันครับ ส่วนเรื่องผลตอบแทนกองทุน5บาทกับ15บาท เราเอามาเทียบกันไม่ได้ครับ ว่าเพิ่มมา1บาท เราต้องมองว่าผลตอบแทน "เป็นกี่%" ถ้าหากผลตอบแทน10%เท่ากัน กองทุน5บาทจะได้ผลตอบแทน 50สตางค์ กองทุน15บาท จะได้ผลตอบแทน 1.50บาทครับ เพราะฉะนั้นเวลาดูผลตอบแทนหรือคำนวณเรื่องผลตอบแทน แนะนำให้คำนวณออกมาในรูปของ%มากกว่าจะคิดเป็นบาทสองบาทครับ สำหรับกองทุนที่คุณบีบี้จังสนใจ ผมแนะนำให้ลองอ่านในหนังสือชี้ชวน ว่าผลตอบแทนย้อนหลังผลตอบแทน"ปีละ"กี่%ครับ แล้วกองทุนไปลงทุนอะไรบ้าง พันธบัตรรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ เงินฝาก หุ้นกู้อย่างละเท่าไหร่ หรือจะเอามาโพสถามคนในห้องนี้ดูก็ดีครับ หลายหัวดีกว่าหัวเดียว อิอิ คุณ  Dear_daisy ไม่ใช่กองทุนfree holdทั้งหมดครับ มีหลายตัวที่เป็นlease hold ถ้าสนใจกองทุนไหน ต้องลองโทรไปที่บลจครับ หรืออ่านในหนังสือชี้ชวนก็ได้ แล้วถามหรือดูรายละเอียดเบื้องต้นว่า 1ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน ที่พัก โรงงาน โรงแรม พื้นที่การค้า เพราะจะมีผลต่อการย้ายเข้าออก การปรับราคาค่าเช่า ผลจากภาวะเศรษฐกิจ 2 เป็นกองทุนประเภทไหน free hold หรือ lease hold ถ้าเป็นlease hold เหลืออายุการใช้ทรัพย์สินอีกกี่ปี เพราะกองทุนที่อายุสิทธิการเช่าเหลือน้อย มูลค่าก็จะน้อยตามไปด้วยครับ 3 อัตราการจ่ายปันผล จ่ายกี่%ของกำไร จ่ายปีละกี่ครั้ง(สำคัญสำหรับคนที่ต้องการรายได้ประจำ) 4 เงินลงทุนขั้นต่ำ และเงื่อนไขอื่นๆครับ หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 1 ส.ค. 51 11:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านไปจนจบ เพิ่งจะรู้ว่า เขียนโดย ขอบฟ้าบูรพา ชื่อคุ้นๆนะคะ อิอิ จริงๆเคยคิดเหมือนกันว่าถ้ามีใครสักคนเขียนสรุปให้อ่านแบบนี้ก็คงจะดี เพราะยังมีคนอีกหลายคนที่ลงทุนโดยการฝากเงินเพียงอย่างเดียว หวังว่าจะมีงานเขียนทำนองนี้ออกมาเรื่อยๆนะ ตอนนี้สนใจลงทุนในเงินฝากดอกเบี้ยปลอดภาษีอยู่ค่ะ :) จากคุณ : ใบชาสีส้ม - [ 1 ส.ค. 51 13:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ยอดเยี่ยม ขอบคุณครับ จากคุณ : nuchit_w (nuchit_w) - [ 1 ส.ค. 51 15:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณครับ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ว่าแต่ยังไม่ได้กล่าวถึงการลงทุนในตลาดหุ้นเลยนะครับ จากคุณ : kennyG - [ 1 ส.ค. 51 18:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุณขอบฟ้าบูรพาใจดีจังค่ะ กระจ่างขึ้นเยอะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : jolie_pp - [ 1 ส.ค. 51 21:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เยี่ยมไปเลยค่ะ  มีประโยชน์มากมาก เข้าใจง่ายด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : noo_pizza - [ 3 ส.ค. 51 21:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณนะคะ พี่ขอบฟ้า... จากคุณ : Dear_daisy - [ 3 ส.ค. 51 22:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากครับ ดีใจๆ ใบชาสีส้ม ชื่อนี้ก็คุ้เนๆนะครับ อิอิ ปีนี้แข่งอีกหรือเปล่าเอ่ย ในช่วงที่ดอกเบี้ยมีโอกาสเป็นขาขึ้นมากกว่าขาลง ยังไงอย่าลงทุนที่มีอายุยาวนานเกินไปนะครับ คุณkennyG เรื่องหุ้นคงต้องขอยกไว้ก่อนนะครับ เพราะผมคิดว่ายังเสี่ยงมากเกินไปสำหรับคนใหม่ที่เพิ่มเริ่มลงทุน ยังไงถ้าอาทิตย์นี้พอมีเวลา ผมจะลองเขียนการดูกองทุนหุ้นแล้วกันนะครับ หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 4 ส.ค. 51 10:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ  ขอโหวตให้ด้วยคนครับ จากคุณ : ช่างทำแว่น - [ 4 ส.ค. 51 11:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบสอบถามคุณขอบฟ้าหน่อยนคับว่า กองทุนอสังหา free hold กับ lead hold แตกต่างกันยังไงนอกเหนือจากเรื่องกรรมสิทธิ์ในตัวทรัพยฺ์สินนะคับ แล้วกองทุนอสังหาจ่ายผลตอบแทนยังไง ชื้อขายเหมือนกองทุนตราสารหนี้ไหมคับ จากคุณ : juapung - [ 5 ส.ค. 51 10:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอโหวตด้วยคน ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จากคุณ : หนูจะเป็นเด็กดี - [ 5 ส.ค. 51 14:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สนใจเรื่องกองทุนทองคำมาพอสมควรแล้วคะ ขอบคุณคุณ ขอบฟ้าบูรพา มากหนะคะ ตอนนี้มีเงินในกองทุนของ K-money ประมาณ แสนกว่าๆๆคะ ถ้าจะถอนออกมาซื้อ K-gold   จะดีหรือเปล่า เพราะตอนที่เอาเงินมาที่ K Bank เขาก็แนะนำว่าตัว K-money น่าสนใจ       ตอนนี้พอมาอ่านกะทู้นี้ก็เลยสนใจอยากจะลงทุนกองทุนทองคำ ช่วยแนะนำหน่อยหนะคะว่า ควรจะถอนเงินมาซื้อดีหรือเปล่าคะ จากคุณ : mape - [ 5 ส.ค. 51 22:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอถามเหมือน ความคิดเห็นที่ 72 ค่ะว่าตอนนี้น่าถอนเงินซื้อทองคำแท่งไหมค่ะ กระทู้เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ จากคุณ : @งั้นแหละ@ - [ 6 ส.ค. 51 09:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คุณjuapung แตกต่างที่กรรมสิทธิ๋นี่ล่ะครับ เพราะในด้านอื่นๆ กองทุนทั้งสองแบบสามารถทำได้เหมือนกัน ทั้งประเภทของทรัพย์สินที่ถือ นโยบายการจ่ายปันผล ในเรื่องของผลตอบแทนของกองทุน เหมือนซื้อขายหุ้นและกองทุนรวมทั่วไปครับ ที่มีได้ทั้งปันผล และราคาตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนวิธีการซื้อขาย เนื่องจากส่วนหญ่จะเป็นกองทุนปิด ดังนั้นวิธีการซื้อ คือเราต้องไปจองซื้อตอนประกาศขายครั้งแรกหรือประกาศเพิ่มทุนครับ แล้วถ้าใครมีบัญชีหุ้น ก็สามารถเข้าไปซื้อในตลาดภายหลังได้ สิ่งที่ต้องระวังก็คือ กองทุนแบบlease hold กองทุนนี้มีลักษณะเหมือนการเช่ามาหากำไรอีกทีนึง เช่นถ้าเช่า30ปี สมมติค่าเช่ามาปีละบาท ก็มีต้นทุน30บาท พอผ่านไป30ปี เราก็หมดสิทธิ์ใช้ที่ พร้อมกับเงิน30บาทที่เป็นต้นทุน เพราะฉะนั้น เราอาจคิดเฉลี่ยว่า ต้นทุนเราเท่ากับ1บาทต่อปี ดังนั้นทุกๆปีที่ผ่านพ้นไป มูลค่าที่ควรจะเป็นของกองทุนแบบนี้จะลดลงเรื่อยๆครับ เพราะสิทธิ๋ที่เรามีมันจะเหลือน้อยลงไปทุกปีๆ กองทุนแบบนี้ถ้าปันผลปีละ2บาท คิดดูก็เหมือนกำไร100%(2บาทจากต้นทุน1บาท) แต่ลองคิดดูดีๆนะครับ พอครบสามสิบปี เราได้เงินมา60บาท หักต้นทุน30บาท ได้กำไรมา30บาท คิดออกมาเป็น%ต่อปีจะได้ผลตอบแทนเท่ากับ3.33%เท่านั้นเอง ดังนั้นกองทุนประเภทนี้ต้องดูที่จ่ายปันผลเยอะๆครับ เพราะราคาตลาดจะลดลงเรื่อยๆ และราคาสุดท้ายจะเป็น0 ในขณะที่กองแบบfree holdนั้น มีทรัพย์สินเป็นของกองทุนเอง ทุกๆปีที่ผ่านไป เงินเฟ้อจะทำให้ราคาของอสังหาริมทรัพยืชิ้นนั้นๆเพิ่มขึ้น ทำให้นอกจากมูลค่าจะไม่เหลือ0แบบlease holdแล้ว เรายังจะได้กำไรจากการเพิ่มค่าของที่ดินด้วยครับ คุณmape ถ้าถามผมซึ่งเป็นคนที่เชื่อในวงจรเศรษฐกิจ ผมก็ต้องตอบว่า ทองคำยังลงทุนได้ครับ วงรอบของราคาน้ำมันและทองคำผมเชื่อว่าเกมส์ยังไม่จบลงแค่นี้ แต่ถ้าไม่สามารถดูเทรนด์ราคาได้เอง ก็คงต้องซื้อแบบถัวเฉลี่ยไปครับ เพราะจะได้กระจายต้นทุนไว้ที่หลายๆระดับ สิ่งที่ต้องรู้สำหรับการลงทุนทองคำ คือ สำหรับผลตอบแทนเฉลี่ย100ปีของอเมริกา การลงทุนในทองคำให้ผลตอบแทน"ปริ่ม"เงินเฟ้อมากครับ ทั้งๆที่ตอนนี้ผลตอบแทน10-20%ต่อปีเนี่ยนะ เป้นไปได้หรอ? ครับ ถ้าสังเกตุดีๆร้านค้าทองหรือคนที่ขายทอง จะเอาผลตอบแทนไม่เกิน5ปีมาให้ดูครับ เพราะวงจรของทองกำลังเป็นขาขึ้น คำถาม คือ ทำไมเค้าไม่เอาความเสี่ยงในขาลงมาแสดงบ้างล่ะ วันที่ทองคำสูงสุดเมื่อคราวที่แล้ว คือ 870เหรียญต่อออน แต่ตอนลงวันเดียวทองคำลงไปร้อยกว่าเหรียญไปที่700กว่าๆ แล้วก็สาละวันเตี้ยลงมาเรื่อยๆเป็นเวลานับสิบปี เพิ่งจะมามีปีหลังๆนี่แหละครับ ที่ทองคำขึ้นมาตามวงจรของมัน ดังนั้น ผมถึงเป็นกังวลเวลาที่หลายคนพูดว่า ซื้อแล้วถือไว้ ถ้าใจแข็งยังไงก็ไม่ขาดทุน เพราะทองคำมีแต่จะขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วถ้าวันนึงทองคำเป็นขาลงจริงๆ ใครจะออกมารับผิดชอบสิ่งที่พูดบ้าง แม้ว่าตามหลักการแล้ว ทองคำจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆตามเงินเฟ้อ แต่ถ้าใครที่ซื้อทองคำ870เหรียญในวันนั้น ผ่านมาประมาณ28ปี คุณได้ผลตอบแทน910-870=40เหรียญ หารด้วยเวลาประมาณ28ปี 60/20= 1.43เหรียญต่อปี คิดเป็นผลตอบแทน(1.43/870)*100= 0.16% ต่อปีครับ ถ้าใครบอกว่าถือทองไปเรื่อยๆยังไงก็กำไร ลองเอากราฟนี้ให้เค้าดูนะครับ แล้วให้เค้าอธิบายให้ฟังหน่อยว่า ในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณคนขาย"รับประกัน"ได้มั้ย ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก ยาวหน่อยนะครับ เพราะเรื่องทองนี่แอบกังวลมานานแล้ว หุหุหุ ภาพผมเสิชมาจากที่นี่ครับ หาจากกูเกิล http://www.dani2989.com/gold/gold19752003gb/gold19752003gb.htm แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 51 10:43:48 จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 6 ส.ค. 51 10:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณอย่างมากมายคะ เข้าใจง่าย อ่านง่าย จะเก็บไว้เป็นข้อมูลต่อๆๆไปคะ จากคุณ : mape - [ 6 ส.ค. 51 10:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากนะคับ ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดนะคับว่าถ้าเกิดจะชื้อกองทุนอสังหานะคับที่เปิดขายไปแล้วต้องไปชื้อในตลาดหู้นจะเริ่มไงนะคับเพราะไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อนนะคับ จากคุณ : juapung - [ 6 ส.ค. 51 11:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ได้เลยครับ ถ้าเป็นบัญชีแบบprepaidเปิดไม่ยากครับ โหลดเอกสารมากรอกแล้วส่งไปที่โบรคได้เลย ใช้เวลาอนุมัติไม่นานครับ พออนุมัติแล้วเราก็โอนเงินไปที่บล บัญชีแบบนี้จะซื้อขายได้ในวงเงินที่เราโอนไปครับ ไม่มีการตัดบัญชี ไม่มีการกู้เล่น(มาร์จิน) ผมว่าสะดวก และปลอดภัยดี ที่สำคัญบางโบรคให้อัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินคงค้าง2.5%แน่ะครับ เทียบกับ0.75ของธนาคารแล้วยังคุ้มกว่าเลยครับ หุหุหุ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 6 ส.ค. 51 14:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แล้วการซื้อสลากออมสินล่ะครับ เป็นทางเลือกที่ดีไหมครับ ถ้ามีเงินเย็นอยู่ในมือ จากคุณ : เต่าหลังอ่อน - [ 6 ส.ค. 51 21:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 79 พลาดทู้นี้ไปได้ไง   สุดยอดอะค่ะ  ขอบคุณ จากคุณ : klangdad - [ 6 ส.ค. 51 22:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุณเต่าหลังอ่อน ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่าเอาเงินของเราไปล็อกไว้ในที่ผลตอบแทนคงที่เลยครับ เน้นไปที่การฝากเงินระยะสั้นๆ หรือตราสารที่ให้ผลตอบแทนไปตามดอกเบี้ยดีกว่า การซื้อสลากออมสินแล้วล็อกผลตอบแทนเราไว้3ปี ผมว่าช่วงนี้ไม่น่าสนใจครับ อีกอย่างถ้าซื้อไม่ถึง1000หน่วย เพื่อที่จะถูกรางวัลเลขท้ายทุกงวดแล้วล่ะก็ โอกาสได้ผลตอบแทนต่ำกว่าฝากประจำ1ปีมีสูงมากนะครับ ในความคิดผมสลากออมสินในช่วงนี้ไม่น่าสนใจครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 7 ส.ค. 51 09:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณขอบฟ้าบูรพาคะ แล้วช่วงนี้เหมาะกับการซื้อทองแท่งเก็บไว้มั้ยค่ะ หรือว่าต้องรอให้ลงมากกว่านี้คะ แล้วคุณขอบฟ้าบูรพาว่า ตอนนี้กองทุนที่ฟิกผลตอบแทน 3 เดือน 6 เดือน นี้ดีไหมคะ แล้วตัวไหนน่าสนใจบ้างคะ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ เพราะเงินเย็นมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : อ้อม (OCL) - [ 7 ส.ค. 51 11:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สำหรับทองคำแท่ง ผมไม่ค่อยอยากแนะนำว่าตรงไหนน่าซื้อตรงไหนน่าขายเท่าไหร่ครับ เพราะว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าอ่านเทรนด์ของราคาทองคำว่าเป็นยังไง การคาดการอัตราผลตอบแทนของทองคำทำได้ลำบาก เพราะราคาขึ้น-ลงได้เหมือนหุ้น ไม่เหมือนกับ พวกตราสารหนี้ การฝากเงิน หรือกองทุนบางประเภทที่พอคาดการผลคตอบแทนได้ ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวน เช่นหุ้น กองทุนหุ้น หรือทองคำ สำหรับคนที่ไม่ถนัดในการคาดการณ์ไม่ว่าจะด้วยเทคนิค หรือพื้นฐาน ผมแนะนำให้ทำDCAครับ คือค่อยๆทะยอยซื้อ เช่นอาทิตย์ละครั้ง เดือนละครั้ง ทั้งนี้เพื่อกระจายต้นทุนให้ได้มากที่สุด และตามหลักการแล้ว การทำแบบนี้เป็นระยะเวลานานๆ (ใช้เวลาเป็นปีครับ) จะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของเราน้อยกว่าราคาตลาด(เราได้กำไรจาก ราคาตลาด>ทุนนั่นเอง) ทั้งนี้ถ้าคุณอ้อมไม่แน่ใจว่าจะรับที่เท่าไหร่ดี ผมแนะนำว่าทะยอยสะสมจะปลอดภัยที่สุดครับ แถม ลองไปเปิดกราฟทองคำดู ก็พบว่าเป็นแบบที่เห็น แนวนี้ภาษาบ้านๆเค้าเรียกว่า "ลุ้น...ห้ามลง"ครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 7 ส.ค. 51 12:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณนะคับ เราก็เลือกโปรกแล้วก็เปิดบัญชีแบบ prepaid ไปเลยใช่ไหมนะคับ แล้วพวกกองทุนอสังที่เราจะชื้อเราสามารถชื้อขายออนไลน์ได้ใช่ไหมนะคับถ้า โบรกนั่นมีบริการถูกไหมนะคับ คุณขอบฟ้าคับมีคำแนะนำไหมนะคับในการที่เราจะเลือกกองทุุนอสังหาสักตัวในการลงทุนนะคับ มีหลักคราวๆๆไหมนะคีบ สอบถามเพิ่มหน่อยนะคับ อ่านเจอมา งงกับ ข้อความที่บอกว่า  ราคาหุ้นเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน NAV ของแต่กองทุนนะคับ   มันหมายความว่าไงนะคับ แล้วมีผลต่อการเลือกกองตรงไหนนะคับ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 13:39:02 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 13:35:07 จากคุณ : juapung - [ 7 ส.ค. 51 13:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ กำลังเริ่มๆสนใจเรื่องการลงทุนเลยค่ะ จากคุณ : ^^ (Tots) - [ 7 ส.ค. 51 14:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โหวตด้วยคนคะ จากคุณ : arkanae - [ 7 ส.ค. 51 17:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยคะ ขอบคุณนะคะที่จัดทำข้อมูลดี ๆ ให้กับที่เพิ่งเริ่มก้าวในการบริหารเงินคะ   ถ้ามีเวลา ช่วยสอนวิธรการซื้อหุ้น แบบคนเริ่มเดินบ้างนะคะ  ตอนนี้ ทำไรไม่เป็นคะ ได้แต่หาฝากประจำเอา แบงค์ละนิด ๆ หน่อย ๆ คะ โหวต คะ จากคุณ : สาวเปรี้ยวหัวใจหวาน (channy211) - [ 8 ส.ค. 51 12:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คถณjuapung ความจริงถ้าคุณjuapungสนใจเปิดบัญชีแบบอื่นก็ได้ครับ แต่ตอนที่ผมเปิดบัญชีผมยังไม่ได้ทำงาน การเปิดแบบนี้จึงสะดวกที่สุด เพราะว่าเราเทรดได้เฉพาะเงินที่โอนไปฝากไว้ ทางบลจึงไม่มีความเสี่ยงอะไร บัญชีประเภทนี้จึงได้รับการอนุมัติง่ายกว่าครับ เรื่องของการเลือกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ผมสนใจอยู่ไม่กี่เรื่องครับ เรื่องแรก คือ เป็นกองทุนประเภทไหนตามคหที่74 เรืองที่สอง ประเภทของทรัพย์สิน จะมีผลต่อระยะเวลาเช่า และราคาค่าเช่าด้วย อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลครับ ส่วนตัว ผมชอบที่เค้าเช่าเป็นเวลานาน เพราะความเสี่ยงในการย้ายออกจะต่ำกว่าครับ สุดท้าย สำคัญมากสำหรับกองทุนทุกประเภท คือ ค่าธรรมเนียม ถ้าเป็นกองทุนที่มีการดำเนินงานใกล้เคียงกัน ค่าบริหารไม่ควรต่างกันมากครับ ส่วน"ราคาหุ้นเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน NAV ของแต่กองทุนนะคับ" ผมไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนไหนครับ หรือในกระทู้ที่เท่าไหร่ เกรงว่าตอบไปเดี๋ยวจะพากันงงไปกันใหญ่ ยังไงรบกวนระบุกระทู้นิดนึงครับ แล้วเดี๋ยวผมมาตอบให้ คุณสาวเปรี้ยวหัวใจหวาน ถ้านิสัยเค็มๆ วาจาเผ็ดร้อนนี่ครบเครื่องเลยนะครับ แซวเล่นนะครับ เรื่องของการซื้อหุ้นนั้น ผมว่ายากที่จะอธิบายครับ ผมลองแบ่งวิธีการลงทุนออกเป็นสามประเภท คือ พื้นฐาน เทคนิค และลูกผสม คนที่อยู่ในประเภทไหนก็มักจะมองว่าวิธีการของตัวเอง"ดีกว่า" ซึ่งในมุมมองของผม มันขึ้นอยู่กับ เราเข้ากับแบบไหนได้มากกว่าครับ นักลงทุนพื้นฐานบางคนขาดทุน เพราะใจร้อน ถือหุ้นได้ไม่เกินสองอาทิตย์ แต่นักลงทุนเทคนิคก็มักจะขาดทุนจากการไม่ยอมstop loss ทั้งนี้เพราะว่าวิธีการลงทุนของเรา ไม่เข้ากับสภาวะของเรานั่นเองครับ ดังนั้น การจะสอนการลงทุนในหุ้น อันดับแรกเราต้องรู้จักตัวเองก่อน ว่าชอบแบบไหน หรือหากเลือกลงทุนในทางใดทางหนึ่งแล้ว เช่นทางเทคนิค(แบบผม) ก็ต้องไปดูอีกว่า จะเลือกวิธีไหนในการลงทุน จะดูprice pattern ดูindicator นับเวฟ หรือจะเป็นnaked trader จะเล่นday tradeสั้น กลาง หรือยาว(คนส่วนใหญ่คิดว่าเทคนิคต้องเล่นสั้นอย่างเดียว) ดังนั้นสำหรับคนที่สนใจการลงทุนในหุ้นผมแนะนำให้ไปลองอ่าหนังสือให้กว้างๆก่อนครับ อย่าพึ่งยึดติด หรือปฏิเสธแนวทางใดแนวทางหนึ่ง อ่านจนกระทั่งมั่นใจว่า นี่คือสิ่งที่เข้ากับเราได้เป็นอย่างดี แล้วค่อยศึกษาลงลึกอีกทีหนึ่งครับ สำหรับพื้นฐาน ผมแนะนำ ตีแตก one up on wall street beating the street สองเล่มหลังมีฉบับแปลครับ และถ้าอ่านทั้งสามเล่มก้จะได้แนวทางคร่าวๆไปพอสมควร สำหรับเทคนิค ต้องบอกตรงๆว่าหนังสือภาษาไทยที่ครบเครื่องเลยยังไม่มีครับ ผมขอแนะนำเป็นภาษาปะกิดดีกว่า trading for a living come into my trading room ทั้งสองเล่มคนเขียนคนเดียวกันครับ อ่านสองเล่มนี้ พออกท่องยุทธจักรได้บ้างแล้ว อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 8 ส.ค. 51 13:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ เลยนะคะ จากคุณ : อ้อม (OCL) - [ 8 ส.ค. 51 14:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เอ๊ะ คุณขอบฟ้า บูรพา รู้ไส้รู้พุงมาขนาดนี้ เจอกันที่ไหนมาก่อนป่าวคะ แนะนำตัวหลังไมค์หน่อยดีกว่าคะ เพราะห้องนี้ไม่ค่อยได้เข้า เข้ามาก็โดนสอยเลย อิอิ แต่เรื่องหนังสือ เดี๋ยวจะตามไปหาอ่านตามที่แนะนำมาคะ ขอบคุณอีกทีให้หนำใจไปเลย ไม่ได้ประชดนะ อยากขอบคุณจริง ๆ จากคุณ : สาวเปรี้ยวหัวใจหวาน (channy211) - [ 8 ส.ค. 51 15:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ถึงคุณ ขอบฟ้าบูรพา อตอนนี้ผมสนใจที่จะนำเงินมาลงทุน เเต่เงินก็นิดหน่อยเองครับ แค่ 50,000-80,000ตอนนี้สนใจ กองทุน K-Treasury น่ะครับ ไม่ทราบว่ามันโอเคไหมครับ หรือว่า มีอย่างอื่นที่จะเเนะนำไหมครับ พอดียังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการลงทุนน่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : jocole_noname - [ 8 ส.ค. 51 15:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ผมแซวเล่นๆค้าบ พอดีเห็นขาดไปสองรสพอดีเลย อิอิ ถ้าอ่านหมดแล้วคงพอได้ไอเดียครับ ว่าจะไปทางไหนดี หรือจะเป็นลูกผสม ผมเองชอบทางเทคนิค แต่ไปคุยกับรุ่นพี่ ทำไปทำมาเค้าอยากรู้พื้นฐาน แบบนี้ก็โอเคครับ จะได้รู้ว่าแนะนำอะไรต่อไปดี คุณjocole_noname ถ้าเพิ่งเริ่มลงทุน การลงทุนในกองทุน K-Treasury เป็นทางเลือกที่ดีครับ เพราะว่าได้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากออมทรัพย์แน่ๆ ความเสี่ยงก็น้อย แต่อย่าหยุดแค่นี้ครับ พอเอาเงินไปพักแล้ว ก็หมั่นเข้าเว็บไซต์ของบลจบ่อยๆ ลองอ่านหนังสือชี้ชวนการลงทุนประเภทอื่นๆดูบ้าง อ่านเว็บที่เกี่ยวข้องบ้าง โดยส่วนใหญ่ พอเราเริ่มลงทุน เราจะเริ่มตื่นเต้น และอยากติดตามสิ่งที่เราลงทุนมากขึ้นครับ ถ้าคุณกองทุน K-Treasury ลงทุนในกองทุนนี้50,000บาท และได้ผลตอบแทน2.75%ต่อปี จะได้ผลตอบแทน 1,350บาท เทียบกับออมทรัพย์ที่375บาทครับ มากกว่ากันเกือบๆ4เท่า อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 8 ส.ค. 51 16:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ข้อความที่ถามนะคับ ราคาหุ้นเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน NAV ของแต่กองทุนนะคับ  ผมไปอ่านเจอมาเค้าแนะนำมาจากหนังสือพิมพ์นะคับ แต่อ่านแล้วงง นะคับ ขอบคุณนะคับสำหรับคำตอบที่ให้นะคับ จากคุณ : juapung - [ 9 ส.ค. 51 12:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณคุณ ขอบฟ้าบูรพา  มากๆเลยครับ วันจันทร์ตัดสินใจไป ลง K-Treasury  ล่ะครับ 50,000 ก็พอ งบน้อย ^^ จากคุณ : jocole_noname - [ 9 ส.ค. 51 19:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 94 รบกวนถามคุณขอบฟ้าบูรพาอีกที ที่คุณบอกว่า ถ้าคุณกองทุน K-Treasury ลงทุนในกองทุนนี้50,000บาท และได้ผลตอบแทน2.75%ต่อปี จะได้ผลตอบแทน 1,350บาท เทียบกับออมทรัพย์ที่375บาทครับ มากกว่ากันเกือบๆ4เท่า เเล้วถ้าอย่างนี้ ผมไปฝากประจำ 5เดือน ดอก 3.8% ของ ธ.กรุงเทพ ล่ะครับ มันจะได้มากกว่าไหม พอครบ 5เดือน ก็ไปฝากตัวอื่น ขอบคุณครับ จากคุณ : jocole_noname - [ 9 ส.ค. 51 20:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 95 กระทู้ดีมากครับ ขอบคุณท่านขอบฟ้าฯจริง ๆ แต่ขอแก้นิดนึง สลากออมสินต้องซื้อ 1 หมื่นหน่วยครับ ถึงจะประกันว่าถูกรางวัลเลขท้าย 4 หลักทุกงวด 1 หมื่นหน่วย ก็ 5 แสนบาทเท่านั้น อิอิ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 51 21:10:17 จากคุณ : kunimi_winterfall - [ 9 ส.ค. 51 21:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณมากๆค่ะ มาโหวตให้ค่ะ จากคุณ : ตะวันรอนตอนเช้า - [ 10 ส.ค. 51 17:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 97 คุณ juapung ผมขอเดาว่ากองทุนที่คุณ juapung ไปเจอ คือกองทุนที่ขายในตลาดนะครับ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนปิด เช่นกองทุนหุ้นบางกอง กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถ้าเป็นกองทุนประเภทนี้ ราคาของหน่วยลงทุนกับมูลค่าของหน่วยอาจจะต่างกันครับ เช่น ถ้ากองทุนมีทรัพย์สินสุทธิ(มูลค่า)ที่10บาท แต่กองนั้นลงทุนในหุ้นที่กำลังได้รับความนิยมสูง ทำให้นักลงทุนคาดหวังราคาหน่วยที่เพิ่มขึ้นมาก คนก็จะพากันไปซื้อ จนทำให้ราคาตลาดของกองทุนมากกว่ามูลค่าได้ครับ ในทางตรงกันข้าม หากว่ากองทุนนั้นๆคนเกิดความกังวล ราคาหน่วยก็อาจจะต่ำกว่ามูลค่าได้ เช่นกองทุนอสังหาริมทรัพย์บางกอง ที่ตอนนี้ราคาต่ำกว่ามูลค่าพอสมควร เพราะหลายคนเริ่มเข้าใจความเสี่ยงในเรื่องของกรรมสิทธิ์(ของกองlease hold) ทำให้ถ้าราคาไม่ต่ำจนเกิดการจูงใจในเงินปันผลที่ได้รับ ก็จะไม่เข้ามาซื้อหน่วยครับ เช่นถ้าปันผลปีละบาท เราซื้อหน่วยลงทุนตอน10บาท เท่ากับว่าเราได้105ต่อปี แต่ถ้าเราไปซื้อในตลาดได้ราคามา8บาท เท่ากับว่าเราได้ผลตอบแทน12.5%ต่อปี (1/8)*100=12.5% น่าจะเป็นประมาณนี้นะครับ ไม่รู้จะตรงกับที่คุณ juapung สงสัยหรือเปล่า คุณjocole_noname  ผมเห็นด้วยครับ เพราะผลตอบแทนมากกว่าMMFแน่นอน (คำนวณหลังจากหักดอกเบี้ยแล้ว จะได้ประมาณ3.23%) ถ้าเงินฝากครบกำหนด5เดือนแล้ว ไม่มีโปรโมชั่นใหม่ๆออกมาดึงเงินเราอีก เราค่อยเอาไปสะสมไว้ที่K-Treasury รอวันอาละวาดอีกทีครับ ขอบคุณ คุณ kunimi_winterfall มากครับ สลากออมสินนี่เลขท้าย4ตัวใช่ไหมครับ ผมจำไม่ได้แล้ว นึกว่าเป็นแค่เลขท้าย3ตัวซะอีก เพราะเคยคำนวณแค่ครั้งเดียวเมื่อตอนที่เค้าจะแจกรถ(แอบโลภนะเนี่ย) แต่พอคำนวณแล้ว ไม่คุ้มค่าที่จะเอาเงินเราไปพักไว้ แล้วก็ไม่ได้สนใจอีก พลาดไปแล้วมั้ยนี่ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 11 ส.ค. 51 09:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณคุณขอบฟ้าบูรพามากๆเลยครับ ตัดสินใจได้เเล้วล่ะครับว่าจะทำยังไงดี จากคุณ : jocole_noname - [ 11 ส.ค. 51 10:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบตุณมากนะคับ แล้วเราจะรู้ได้ไงนะคับว่ามูลค่าของหน่วย ณ ปัจจุบันของกองนั้นต่ำกว่าความเป็นจริงได้ไงนะคับ เท่าที่ผมเข้าใจคือต่ำกว่าราคาตอนแรกที่เปิดให้จองถูกต้องไหมนะคับ จากคุณ : juapung - [ 11 ส.ค. 51 11:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้มากเลย จากคุณ : แมวหูป้าน - [ 11 ส.ค. 51 22:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เลขท้าย 4 ตัวของออมสิน รางวัลแค่ 150 บาทเอง มี 2 รางวัล ถ้าซื้อ 1 หมื่นหน่วย ก็จะได้เดือนละ 300 ใช่ไหมครับ อย่างแย่ที่สุด แต่ถ้าถูก 10 ล้านล่ะ บรื้อ......ไม่อยากฝัน  :-) จากคุณ : เต่าหลังอ่อน - [ วันแม่แห่งชาติ 12:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คุณjocole_noname ยินดีด้วยครับ กำแพงที่ยิ่งใหญ่ เริ่มมาจากอิฐก้อนแรกเสมอ คุณ juapung ต้องเช็คราคาที่ซื้อขายกันในตลาดเทียบกับNAVที่บลจครับ ผมลองเช็คNAVของCPNRF คือ 10.2536 ต่อหน่วย แต่ราคาที่เทรดกันในตลาดอยู่ที่ 9.70 ครับ ดังนั้น ถ้าใครซื้อCPNRFวันนี้ เท่ากับได้ส่วนลดจากมูลค่าจริงของกองทุน ถ้าซื้อได้แบบนี้%เงินปันผลของเราจะมากกว่าคนที่ซื้อกองทุนในตอนแรกครับ เพราะต้นทุนเราต่ำกว่านั่นเอง และเช่นกัน ถ้าเป็นกองทุนแบบlease hold NAVก็จะลดลงเรื่อยๆได้เหมือนกันครับ ส่วนที่ว่าราคาต่ำกว่าตอนจองซื้อ ถ้าเป็นNAVที่ต่ำกว่า10บาท นั่นอาจจะหมายถึงว่ากองทุนนั้นขาดทุนแล้วก็เป็นได้ครับ คุฉเต่าหลังอ่อน ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีครับ ผมก็อยากได้นะ10ล้าน อิอิ เรื่องผลตอบแทน ผมจำไม่ได้แน่นอนแล้วครับ ลองเอา300บาทมาคูณจำนวนเดือนที่เราต้องฝากเงินไว้สิครับ ได้เท่าไหร่มารวมกับผลตอบแทนตามปกติที่ฝากครบ แล้วหารออกมาเป็นต่อปีครับ ก็จะรู้ได้ว่าเราได้ผลตอบแทนขั้นต่ำกี่% จากนั้นลองเอามาเทียบกับการลงทุนทางอื่นๆดู อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 13 ส.ค. 51 11:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เพิ่งเข้าห้องนี้เป็นครั้งแรกค่ะ ได้อ่านข้อมูลของคุณ ขอบฟ้าบูรพา  แล้วยกนิ้วให้เลยค่ะ  โหวต  ถ้าพลาดทู้นี้ จับหลักไม่ถูกแน่ค่ะ แบบว่าเห็นญาติเค้าเล่นทอง  ได้เป็น แสน เลยค่ะ วัน ๆ นั่งหน้าเน็ต ดูกราฟ ยึก ๆ ยัก ๆ รัยเนี้ยแหละค่ะ ไม่เข้าใจหรอก แต่เค้าบอกว่า เค้าเล่นทองไม่ขาดทุนอยู่แล้ว เค้าเล่น ประมาณ 200-300 บาทได้ค่ะ (เพิ่งเล่นได้ ไม่ถึงปี)    พอดีตัวเองเงินน้อย คงจะเล่นแบบเค้าไม่ได้แน่ และไม่มีความรู้เรื่องนี้ด้วยค่ะ พอมาเจอทู้นี้เลยคิดว่า เงินน้อยอย่างเรา อย่าคิดการใหญ่  เตาะแตะไปตามประสาน่าจะดีกว่า   เลยนั่งคิดว่าเราจะหาข้อมูล และลู่ทองจากไหนดี ที่จะทำเงินได้มากกว่า เอาเงินไปฝากธนาคารไว้เฉย ๆ   ผลตอบแทนก็น้อย  ตอนนี้อาจทู้นี้จบเลยคิดว่า กองทุนน่าจะเหมาะกับเรา  แต่คงต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก  แบบว่า ไม่ใช่มือใหม่ค่ะ  ไม่รู้เรื่องเลยจะถูกกว่า  ไม่เคยคิดจะลงทุนรัยเลย  รู้สึกเหมือนเป็นกบอยู่ในกะลางัยมะรู้   เพิ่งเริ่มออกจากกะลาวันนี้ค่ะ   คือถ้าต่อไปจะมาขอคำปรึกษาคุณ ขอบฟ้าบูรพา คงจะไม่ว่ากันนะคะ  ช่วยสอนและแนะนำด้วยเถอะค่ะ บางคำถามอาจจะดูโง่ๆ  ตามประสาไม่รู้ก็อย่าถือสานะคะ  ต่อไปนี้จะเข้าห้องนี้ให้มากขึ้นแล้ว  อยู่แต่ก้นครัว BP กับชานเรือนซะนาน   อ้อ...ถามนิดนุงค่ะ  ตอนนี้ถ้ามีเงินเย็นอยู่ 2 แสน (นอนอยู่ในธนาคารให้ดอกเบี้ยน้อยนานแระ) ควรจะถอนมาลงทุนซะทีดีมั้ยคะ  ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : โมเดิร์นมัม - [ 13 ส.ค. 51 13:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 104 มาโหวตให้ด้วยค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีคำถามเพราะมืดแปดด้านขออ่านเงียบ ๆ ไปก่อนนะคะ คุณขอบฟ้า ถ่ายทอดได้ดีมากค่ะ ถ้าพอมีเวลา อย่าลืมมาเล่า step ต่อไปด้วยนะคะ รออ่านค่า จากคุณ : โคแนนจัง - [ 13 ส.ค. 51 14:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอคุณมากนะคับ กองของ ไทคอนเป็นของที่ไหนนะคับ ตอนนี้สนใจตัวนี้กับตัว CPNRF นะคับ จากคุณ : juapung - [ 13 ส.ค. 51 15:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คุณโมเดิร์นมัม แบบนี้น่ากังวลครับ ตอนวิกฤติที่ญี่ปุ่น ฟองสบู่ไฮเทคที่สหรัฐ คราวต้มยำกุ้ง หลายๆคนที่อยู่ในตลาดก็คิดแบบนี้แหละครับ เมื่อก่อนคนพูดกันว่า ซื้อไปเถอะ ยังไงก็ขึ้นทุกตัวแหละ แล้วลองมาดูปัจจุบันครับ ใครติดดอยตอนนั้น ณ เวลานี้ยังอยู่ตีนเขาอยู่เลย ลงทุนด้วยความไม่ประมาทดีที่สุดครับ คิดว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ คำถามในโลกนี้ ไม่มีคำถามโง่ๆครับ เพราะทุกๆคำถามจะทำให้ใครบางคนรู้มากขึ้น"เสมอ" เงินสองแสน ถ้ายังไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนเลย จะลองทำตามพิมพ์นิยมก่อนก็ได้ครับ คือเอาไปฝากประจำแบบ5เดือน ได้ผลตอบแทนประมาณ3.8(ก่อนหักภาษี) พอครบ5เดือนแล้วค่อยเอาออกมาไว้ที่MMF เพื่อรอดูท่าทีตลาดในตอนนั้นอีกทีครับ ยังไงก็ตาม ผมเน้นเสมอว่าMMFคือที่ที่เราจะเริ่มต้นศึกษาการลงทุนครับ แต่อย่าไปยึดติดว่ามันคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผลตอบแทนจากตราสารหนี้โดยเฉลี่ย ไม่ค่อยคุ้มในระยะยาวครับ (เว้นว่าแค่ต้องการรักษามูลค่าเงินจากเงินเฟ้อเท่านั้น ถ้าต้องการเพิ่มค่าด้วยควรมีหุ้นประกอบด้วยครับ) ขอบคุณคุณโคแนนจัง มากครับ คุณjuapung ตอนนี้TFUNDเป็นกองทุนภายใต้บลจบัวหลวงไปเรียบร้อยโรงเรียนTFUNDไปแล้วครับ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?type=H&time=1214534100000&filename=dat%2Fnews%2F200806%2F08023169.t08&source=TFUND&headline=%BB%C3%D0%A1%D2%C8%A1%D2%C3%E0%BB%C5%D5%E8%C2%B9+%BA%C5%A8.+%E1%C5%D0%E1%A1%E9%E4%A2%E2%A4%C3%A7%A1%D2%C3+TFUND&symbol=TFUND&language=&country= อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 13 ส.ค. 51 16:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มาโหวตให้ดันกระทู้ไว้ตอบมิตรรักแฟนเพลงต่อครับ:)   ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ   ให้ความรู้เรื่องกองทุนมาอีกเยอะเลยครับ จากคุณ : อ้ายบ่าวเจียงใหม่ - [ 13 ส.ค. 51 18:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณนะคับ จากคุณ : juapung - [ 14 ส.ค. 51 11:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ได้ความรู้มากเลยค่ะ  ขอบคุณมากเลยนะคะ จากคุณ : Motif - [ 14 ส.ค. 51 14:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ดีจังครับ โชคดีที่คลิกมาสินธรนี่ ปกติอยู่แต่ในถนนนักเขียน หุๆๆๆ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : X RoBiN - [ 14 ส.ค. 51 22:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอบคุณครับ จากคุณ : ธไนศวรรย์ - [ 15 ส.ค. 51 14:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 112 รบกวนถามต่อหน่อยนะคับว่า ถ้าจะขายกองทุนอสังหสนะคับเวลา ขายราคาขายดูจากไหนนะคับ ยุ่งยากมากไหม สามารถสั่งขายได้ทันทีเลยไหมนะคับ จากคุณ : juapung - [ 15 ส.ค. 51 15:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 113 แล้วถ้าเป็นการลงทุนโดยซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่นที่ดิน ตึกแถว คอนโด ให้คนเช่า คุณขอบฟ้าบูรพาคิดว่าเป็นยังไงค่ะ จากคุณ : rinkokun - [ 16 ส.ค. 51 09:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เข้าใจง่ายดี ขอบคุณครับ จากคุณ : egogolf - [ 16 ส.ค. 51 17:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณครับ พึ่งได้มาอ่าน จากคุณ : thrill - [ 16 ส.ค. 51 18:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ขอโทษนะครับตอบช้าไปหน่อย คุณjuapung ก็ดูราคาที่เสนอซื้อในตอนนั้นได้เลยครับ ลองเข้าไปดูใน www.set.or.th แล้วพิมพ์ชื่อกองทุนอสังหาเข้าไป ในเว็บจะแสดงราคาเสนอซื้อ-ขายไว้เลย ทีนี้ถ้าเรามีบัญชีกับโบรคเกอร์แล้ว เราก็ขายได้ตอนนั้นเลย วิธีการซื้อ-ขาย เหมือนกับซื้อหุ้นตามปกติครับ คุณ rinkokun จริงๆแล้วถ้ามีความรู้ในด้านการเงิน บัญชี และภาษีที่เกี่ยวข้อง ผมก็อยากแนะนำให้ลงทุนในอสังหาจริงๆเลยครับ เพราะว่าได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง และยังมีวิธีเพิ่มผลตอบแทนมากมาย ถ้าคุณ rinkokun มีความพร้อมในการลงทุนโดยตรงอยู่แล้ว ก็ทำได้เลยครับ ที่ต้องมีก็คือ แผนในการเข้าลงทุน ว่าจะซื้อเพื่อเช่า หรือเพื่อขาย ใช้เวลาในการลงทุนยาวนานเท่าไหร่ ประเภทของทรัพย์สินที่ต้องเลือก แต่ถ้าปัจจัยทุกอย่างลงตัว ผมก็แนะนำว่าวิธีนี้ได้ผลตอบแทนที่ดีมากๆครับ ผมแนะนำให้ลองอ่าน ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพ ของอาจารย์อนุชาครับ http://www.se-ed.com/eshop/Book/BookDetail.aspx?No=9789749200667&TypeMCode=BK&ProdMCode=บธ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 18 ส.ค. 51 08:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คุณขอบฟ้าคะ  ไม่ทราบว่าจะไปกู้ยืมจากสลากออมสินของตัวเอง โดยยอมเสียดอกเบี้ย  แล้วมาฝากประจำ 5 เดือนกับธนาคารกรุงเทพ จะคุ้มไหมคะ คือพอฟังว่าสลากออมสินไม่คุ้มก็เลยรู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ลงทุนไป  แต่มีเพื่อนที่ไปกู้ยืมมาจากสลากออมสินของตัวเอง เพื่อเอาไปลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าโดยยอมจ่ายดอกเบี้ยให้ออมสินไม่แพง แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่  โอกาสในการถูกสลากก็ยังคงอยู่  ก็ขอถามว่า จะคุ้มไหมคะ ? จากคุณ : ตลับไหม - [ 18 ส.ค. 51 14:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ต้องดูว่าเราจะไปลงทุนในอะไรครับ การกู้ยืมเงินมาลงทุนนั้นเสี่ยงค่อนข้างมาก เพราะว่านอกจากจะมีภาระดอกเบี้ยที่ค้ำคอหอยแล้ว หากเกิดอะไรกับเงินต้น ก็กลายมาเป็นภาระที่เราต้องรับผิดชอบในภายหลังได้ครับ เท่าที่คุณตลับไหมบอก ก็คือจะเอาเงินกู้ มาฝากประจำ5เดือนกับแบ็งค์กรุงเทพ ก็ต้องดูว่า ดอกเบี้ยจ่ายกับดอกเบี้ยรับที่เราได้มันคุ้มกันไหม แบ็งค์กรุงเทพจ่าย3.8หักภาษีแล้วเหลือ3.23%ต่อปี นั่นหมายความว่าออมสินต้องคิดดอกเบี้ยเราน้อยกว่า3.23%ต่อปีครับถึงจะคุ้ม แต่พอลงทุนจริงๆเราต้องคิดอย่างอื่นด้วย เช่นค่าดำเนินการกับค่าธรรมเนียม อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ว่าใคร หรือการลงทุนใดๆก็จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่เท่ากันครับ อีกอย่างคือค่าความเสี่ยง ถ้าเราเอาไปฝากแบ็งค์ก็อาจจะไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ในกรณีที่เอาไปลงทุนอย่างอื่นๆ เช่นกองทุน หุ้น ทองคำ เราต้องการค่าตอบแทนที่มากกว่าพอสมควร เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นครับ ดังนั้นในกรณีของคุณตลับไหม ต้องตรวจสอบอีกทีว่าออมสินคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ และมีค่าดำเนินการในการทำเรื่องกับออมสิน และกรุงเทพหรือไม่ ถ้าคิดแล้วยังได้ผลตอบแทนมากกว่าสลาก ผมก็แนะนำว่าควรเปลี่ยนครับ ส่วนเรื่องการถูกรางวัล ผมอยากให้คิดว่ามันเป็นโบนัสครับ ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่านำมาเป็นส่วนนึงในการคำนวณผลตอบแทน ยกเว้นว่าจะซื้อไว้ครบทั้งหมื่นหน่วย (ถูกแน่ๆทุกงวด) แบบนั้นถึงจะนำมาคำนวณได้ครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 18 ส.ค. 51 14:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 119 อืม ดีใจที่คลิดเข้ามาอ่าน กท. นี้ ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะสามารถอ่านได้จนจบเลยอะ เจ๋งจริงๆ คับ โหวตให้ด้วยคน และจะลองแอบๆศึกษาอยู่ต่อไป :) จากคุณ : spymeaw - [ 18 ส.ค. 51 16:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขอบคุณ คุณขอบฟ้าบูรพา เป็นอย่างมากสำหรับคำแนะนำ เดี๋ยวจะไปหาอ่านหนังสือที่คุณแนะนำค่ะ จากคุณ : rinkokun - [ 19 ส.ค. 51 10:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ขอบคุณ จขกท. มากๆครับ เข้าใจง่ายดีครับ บางอย่างก็เกือบไปแล้วเหมือนกันนะนี่ ดีนะอั้นไว้ก่อน มาเจอกระทู้นี้พอดี สรุป ใส่ไหฝังดินไว้ครับ จากคุณ : OxfordGuy - [ 19 ส.ค. 51 15:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 122 โหวตโลด.. ขอบคุณหลายๆ คร้าบ จากคุณ : teeranet - [ 19 ส.ค. 51 20:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 123 จากกระทู้ 42 ค่ะ คืองงง เรื่องการคิดดอกเบี้ยนิดนึงคะ .....""อีกนิดครับ ช่วงนี้ผมเห็นหลายธนาคารออกบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงๆออกมาล่อใจอีกแล้ว และเห็นหลายคน อาจจะเข้าใจผิดในเรื่องของผลตอบแทนได้ครับ การที่เค้าโฆษณาว่า สมมติว่าฝากไว้ 9 เดือนให้อัตราผลตอบแทน4% ไม่ได้หมายความว่าเราเอาเงินไปฝาก9เดือนแล้วได้ดอกเบี้ย3%นะครับ อัตราดอกเบี้ยทั้งหมดหมายความว่าต่อปีครับ ในที่นี้คือถ้าฝากไว้ทั้งปีจะได้4% แต่ที่เค้าออกมาแค่9เดือน นั่นหมายความว่าเราจะได้ผลตอบแทน9/12ปี คือได้ผลตอบแทนจริงๆแค่3%เท่านั้นครับ สำหรับเงินฝากประจำ3เดือน 6เดือนก้เหมือนกันครับ หมายความว่าฝากประจำสามเดือน ทบต้นไป4ครั้งจะได้เท่าอัตราที่บอกครับ ไม่ได้หมายความว่าฝาก3เดือนได้2.35ครั้งนึงนะครับ เพราะไม่งั้นทบต้นไป4ครั้ง(1ปี) ก้ได้ผลตอบแทน10%++ไปแล้วสิครับ ... ... ... """ฝากประจำ 5เดือน ดอก 3.8% ของ ธ.กรุงเทพ หักภาษีแล้วเหลือ3.23%ต่อปี.....แสดงว่า(ถ้าไม่คิดหักภาษี)หลังจากเราฝากเงินไป5 เดือนเราจะได้ผลตอบแทน 1.58% รึเปล่าคะ แสดงว่าถ้าฝากไป 50,000 จะได้ผลตอบแทน 791 บาท (672 ถ้าหักภาษี)  ไมได้คิดแบบนี้เหรอคะ...หรือจริงๆเป็นเงื่อนไขของกองทุนอยู่แล้วที่ให้ 3.8% ใน 5 เดือน """พอดีไม่มีความรู้ด้านนี้เลยคะ...เริ่มต้นกับกระทู้นี้เลย:}"" จากคุณ : อาหม๋วยเก๊กซิม - [ 19 ส.ค. 51 21:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 124 อ่ะ พิมพ์ผิดไปครับ จริงๆต้องเป็น3%ใน9เดือนถูกแล้วนี่นา ถ้าปีนึงได้4% 9เดือนก็ต้องได้ผลตอบแทนประมาณ3%(ยังไม่หักภาษี) ส่วนเงินฝากของธนาคารกรุงเทพแบบที่คุณอาหม๋วยเก๊กซิมคิดถูกแล้วครับ ที่ผมพยายามจะอธิบายก็คือแบบที่คุณอาหม๋วยเข้าใจครับ เพราะว่าหลายคนที่เข้าใจไปว่า หากเอาเงินไปฝาก5เดือนแล้วจะได้3.8%เลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ ซึ่งในที่นี้รวมถึงการฝากประจำ3เดือน6เดือนด้วย บางคนยังมีความเข้าใจว่าเอาเงินไปฝาก พอครบ3เดือนแล้วได้ดอกเบี้ยเท่านั้น พอฝากไปครบปี ดอกเบี้ยทบไปสี่ครั้ง(ถาฝากสามเดือน)ก็จะได้ผลตอบแทนมากกว่าฝากประจำ1ปี เรื่องนี้ ถ้าเป็นหนังสือการเงินที่ออกมานานมากๆบางเล่มก็ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่เลยครับ ขอบคุณมากนะครับ ทีช่วยแก้ไข ช่วยเตือน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเข้าใจกันผิดๆไปครับ ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวแวบไปแก้ก่อน อิอิ อีกนิด คุณ OxfordGuy ครับ ยิ่งใส่ไหฝังดินไว้ เงินเฟ้อจะยิ่งกินเงินต้นให้หดหายนะครับ ยิ่งเดือนที่แล้วเกือบแตะสองหลักแล้วด้วย(9.2) เงินเฟ้อเจ็ดเดือน6.6 นั่นแสดงว่าในระยะสั้นๆ(ขอให้สั้นที่สุดทีเถอะครับ) การออมและการลงทุน ทั้งการฝากเงิน กองทุนรวมตลาดเงิน ตราสารหนี้ หุ้น(จากต้นปี) แพ้เงินเฟ้อหมดเลย แต่ถ้าลงทุนทองคำตั้งแต่ตอนปีใหม่ กับกองทุนอสังหาบางกอง เข้าใจว่าผลตอบแทนยังชนะเงินเฟ้ออยู่ครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 19 ส.ค. 51 22:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ขอบคุณครับ... จากคุณ : helga - [ 20 ส.ค. 51 10:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ขอบคุณคุณขอบฟ้ามากค่ะที่กรุณาตอบ จากคุณ : ตลับไหม - [ 20 ส.ค. 51 13:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ผมเพิ่งมาสนใจการลงทุนได้ประมาณ อาทิตย์นึง พอมาอ่านกระทู้คุณแล้ว  อะไรที่มึนๆอยู่ ก็เริ่มเก็ทเลยหล่ะครับ โดยเฉพาะการฝากประจำ งั้นขอปรึกษาหน่อยนะครับ ตอนนี้ผมมีเงินสดอยู่ 70000 บาท จะนำเงินก้อน(เล็กๆ)นี้ ไปฝากประจำ ไว้ก่อนดีไหมครับ  เพราะมือใหม่ด้วย  ขอเวลาศึกษาไปก่อน  แล้วจะยังไงต่อดี  คุณ ขอบฟ้าบูรพา ช่วยแนะนำหน่อยสิครับ  เพราะผมมีเวลาบริหารเงินก้อนนี้ 2 ปี  แล้วจะนำไปทำทุนเรียนต่อครับผม   ขอบคุณมากครับ จากคุณ : nOngOngZ - [ 20 ส.ค. 51 23:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 128 โอ้โหอ่านแล้วจุดประกาย แม่บ้านอย่างดิฉันจริงๆเลยค่ะ คิดมานานแล้วคะเรื่องการให้เงินทำงานให้เราเนี่ย วันนี้มาเจอห้องกระทู้ของคุณขอบฟ้า ให้ความรู้มากมายเลยคะ และก็จุดประกายให้มีความพยายามที่จะบริหารเงินก้อนเล็กๆของเรา ไม่ให้มันเสื่อมคุณค่าตามกรแสเงินเฟ้อไป เมื่อก่อนก็คิดว่าการลงทุนทุกอย่างต้องมีความเสี่ยง(สูง)เสมอ แต่วันนี้กระจ่างแล้วคะ สนใจในตัวกองทุนอสังหานะคะ เดี่ยวคงต้องหาข้อมูลให้เยอะๆแล้วละสิ แล้วจะได้บริหารเงิน(ของสามี)อย่างมีประสิทธิภาพ จากคุณ : แม่บ้านใจเสาะ (KangSomTai) - [ 21 ส.ค. 51 12:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ขอบคุณ จขกท. สำหรับข้อมูลดีๆนะครับ : ) ... บุญรักษาครับ : ) จากคุณ : Bother Boy ! - [ 21 ส.ค. 51 14:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 130 คุณnOngOngZ ถ้ามี70000บาทตอนนี้และไม่ต้องการเสี่ยงมาก ผมเห็นด้วยกับที่คุณnOngOngZ บอกนะครับ แล้วใช้ช่วงเวลา5เดือนนี้ลองศึกษาทางเลือกอื่นๆ ในการลงทุน ยังไงเงินที่จะนำมาเพื่อการศึกษาต่อนั้น ต้องลงทุนในที่ๆเงินต้นมีความมั่นคงมากๆครับ เพราะเป้าหมายมีความสำคัฐในระดับที่สูง และเวลา2ปี ผมมองว่าน้อยเกินไปที่จะลงทุนในหุ้น แล้วทำให้ผลตอบแทนวิ่งเข้าหาค่าเฉลี่ยครับ(ประมาณ11%ต่อปี) ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและช่วยโหวตด้วยนะครับ :) คุณแม่บ้านครับ กลุ่มผมมีความเชื่อที่ว่า High understanding, High return. ครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 21 ส.ค. 51 20:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : nOngOngZ - [ 21 ส.ค. 51 20:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ไทยพานิช ก็ได้ดอกเบี้ย 3.8%  4 เดือนนะคะ ถ้าสนใจ ฝากประจำคะ แหม่ ๆ  พ่อขอบฟ้าบูรพา เป็นขวัญใจ พอยกแม่ยกไปซะ แล้วววววว จากคุณ : สาวเปรี้ยวหัวใจหวาน (channy211) - [ 22 ส.ค. 51 11:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : เมืองขุนนวย - [ 23 ส.ค. 51 22:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 134 กระทู้นี้เจ๋งมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ เปลี่ยนจากออมทรัพย์มาเป็น SFF มา 1 ปีแล้ว ดีค่ะ แต่ดันพลาดไปลงกองทุนผสม K-Lifestyle2530 ตอนหุ้นมันราคาสูง เลยขาดทุนอยู่ตอนนี้ อยากถาม คุณขอบฟ้าบูรพา ว่าควรทำยังไงกับมันดีคะ รอมันต่อไปจนกว่าจะได้กำไรแล้วค่อยขาย (ไม่รู้เมื่อไหร่) หรือ ซื้อเพิ่มเพื่อเฉลี่ยราคาให้มันต่ำลงดีคะ แล้วทีนี้ Step ต่อไป จาก SFF นี่ ควรเป็นอย่างไรดีคะ ตอนนี้คิดไม่ออก เลยโยนเข้า SFF ไปก่อน จากคุณ : CHERRY_BERRY - [ 24 ส.ค. 51 00:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 135 คุณ channy211 : "ไทยพานิช ก็ได้ดอกเบี้ย 3.8%  4 เดือนนะคะ ถ้าสนใจ ฝากประจำคะ"   3.8% <-- แบบนี้ก็สูงกว่า SCBSFF อยู่โขอ่ะสิคับ (ฮา) จากคุณ : นายเอิร์ธ - [ 24 ส.ค. 51 01:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ขอบคุณคุณขอบฟ้า และเพื่อนร่วมกระทู้ทุกท่านด้วยค่ะที่ช่วยแชร์เรื่องนี้ แต่เท่าที่อ่านมา ถึงการฝากเงินจะได้ดอกเบี้ยสูงยังไง เราว่าก็ยังไม่เท่าหรือใกล้เคียงกับอัตราเงินเฟ้อเลยค่ะ เราว่าอันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบสุดท้ายของเราอยู่ดีแหละค่ะ คิดว่าคงจะต้องหาคำตอบอื่นๆต่อไปค่ะ จากคุณ : แอล (aal990) - [ 24 ส.ค. 51 21:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ขอบคุณคุณขอบฟ้า และเพื่อนร่วมกระทู้ทุกท่านด้วยค่ะที่ช่วยแชร์เรื่องนี้ แต่เท่าที่อ่านมา ถึงการฝากเงินจะได้ดอกเบี้ยสูงยังไง เราว่าก็ยังไม่เท่าหรือใกล้เคียงกับอัตราเงินเฟ้อเลยค่ะ เราว่าอันนี้ก็ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของเราอยู่ดีแหละค่ะ คิดว่าคงจะต้องหาคำตอบอื่นๆต่อไปค่ะ จากคุณ : แอล (aal990) - [ 24 ส.ค. 51 21:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ครับคุณสาวเปรี้ยว ใครสะดวกที่ไหน และมีต้นทุนในการติดต่อต่ำกว่า เลือกที่นั่นก็ได้ครับ อิอิ คุณCHERRY_BERRY สำหรับคนที่ไม่สามมารถจับจังหวะหรือเลือกหุ้นในการลงทุนได้ ผมมักจะแนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นครับ และใช้วิธีเฉลี่ยต้นทุนเอา คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าลงทุนครั้งเดียวให้หมดเลย ยังไงผู้จัดการกองทุนก็จัดการให้ ซึ่งในความเป็นจริง ราคาหน่วยลงทุนหุ้นนั้น ขึ้นๆลงๆตลอดเวลา ดังนั้นผมจะแนะนำให้ทะยอยซื้อขายมากกว่าที่จะซื้อครั้งเดียวครับ อย่างน้อยเราก็บริหารต้นทุนด้วยตัวเราเอง ทำให้เราลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ส่วนนึงด้วย ส่วนที่ขาดทุนอยู่ในตอนนี้ ถ้าไม่ได้ใช้ใน3-5ปี ผมแนะนำทะยอยซื้อเพิ่มครับ โดยอาจซื้อเพิ่มเดือนละครั้ง ตามสัดส่วนเงินที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งเงินอาจจะไม่ได้เยอะเท่าที่ลงทุนไปครั้งแรก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้บริหารอะไรเลยครับ แต่ถ้าเงินนั้นต้องรีบใช้ ก็อาจจะต้องขายออกไปเพื่อไม่ให้เสี่ยงไปมากกว่านี้ และมาวางแผนกันใหม่ครับ ว่าจะเอาไปลงทุนที่ไหนดี ผมเองกับเพื่อนๆก็ลงทุนช่วงยอดดอยด้วยนะครับ แต่ผมก็ทะยอยซื้อสะสม เพราะเงินนี้ผมลงทุนย้าวยาวครับ การลงทุนนั้นต้องมีการวางแผนเสมอทั้งในด้านความเสี่ยง ผลตอบแทน ระยะเวลาในการลงทุนครับ ถ้าลงทุนในกองทุนsffมาแล้ว ขั้นต่อไปลองศึกษาเรื่องกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวดูสิครับ เพราะกองทุนทั้งสามประเภทนี้อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยพอสมควร ถ้าเรารู้ว่าดอกเบี้ยไปในทิศทางไหน ควรจะเพิ่มพอร์ทกองทุนแบบไหน ก็ถือว่าเราได้บริหารกองทุน และความเสี่ยงของกองทุนได้ในระดับหนึ่งแล้วครับ คุณเอิร์ธ หักภาษีแล้วจะเหลือผลตอบแทนสุทธิ3.23%ครับ(ถ้าฐานภาษีไม่ถึงขอคืนได้ภายหลัง) แต่ก็ยังมากกว่าsffและกองทุนรวมตลาดเงินอีกหลายกองครับ คุณแอล จากการศึกษาราคาย้อนหลัง พบว่าการลงทุนที่ชนะเงินฟ้อในระยะยาวมีหุ้นกับอสังหาครับ แต่ที่ผมไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเขียนการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำสำหรับผู้เริ่มต้นก่อนดีกว่า สำหรับคนที่คุ้นเคยแล้ว อาจจัดพอร์ทให้มีส่วนผสมกันทั้งหุ้น ตราสารหนี้ อสังหา และสินค้าโภคภัณฑ์ก็ได้ครับ แต่ต้องมีการวางแผนก่อนในเรื่องความเสี่ยง เวลาการลงทุน จะได้จัดสัดส่วนพอร์ทได้ถูกต้องครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 25 ส.ค. 51 11:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากๆ จากคุณ : Take a Look Around - [ 25 ส.ค. 51 13:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 140 พี่ขอบฟ้าบูรพาครับ  คือผมจะเอาเงินไปลงตราสารหนี้ระยะสั้น วันนี้เข้าไปกสิกรกับscbมาครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทำกับที่ไหนดี  ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ จากคุณ : nOngOngZ - [ 25 ส.ค. 51 16:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ขอถามมั่งได้ไหมครับ คือตอนนี้ ผมเรียก ได้ว่าแทบไม่มีความรู้ด้านการลงทุนเลยก็ว่าได้ แต่ก็ศึกษาอยู่เรื่อยๆน่ะครับ ทีนี้ผมสนใจ จะลงทุนในกองทุนรวมต่างๆน่ะครับ พอจะแนะนำได้ซักที่ได้ไหมครับ มีเงินอยู่ประมาน1แสนบาท อยากจะลองลงทุนที่ไหนซักที่ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ซักเล็กน้อยน่ะครับ คือแต่จะบอกอีกครั้งว่าผมไม่มีความรู้ ด้านการลงทุนในกองทุนรวมเลย พอจะแนะนำหนังสือหรือเวปไซน์ ที่สอนวิธีที่จะลงทุนได้ไหมครับ หรือจะแนะนำ ให้ลงทุนเป็นอย่างอื่นก็ยินดีครับ อยากได้ผู้มีความรู้มาแนะนำซักหน่อย ก่อนที่จะเอาไปทำอะไรที่มันไร้ค่าน่ะครับ ขอบคุณมากๆนะครับที่มีกระทู้มีสาระ สำหรับมือใหม่อย่างนี้ ช่วยให้ความรู้ผมหลายอย่างเลยล่ะครับ จากคุณ : Midoh Ban - [ 25 ส.ค. 51 16:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ขอบคุณคุณขอบฟ้าอีกครั้งค่ะ ที่มาช่วยตอบ ต้องขออภัยด้วยค่ะ เมื่อวานกดส่งสองครั้ง แจ้งลบแล้วค่ะ แต่ยังอยู่เลยค่ะ จะบอกว่าวันนี้เราไปสอยทองมาแล้วค่ะ แท่งละ 5 บาท เอามาหนึ่งอันก่อน เอามาดูว่าหน้าตามันเป็นยังไง ให้คนไปทำให้ค่ะ ไม่ได้ทำเอง เพราะไม่ได้อยู่ในปท อ้าว กะว่าจะไปเอาอีกแท่งนึงพรุ่งนี้ พูดเหมือนซื้อไอติมเลยเนอะ แต่ที่สงสัยก็คือซื้อที่ตจว เค้าคิดค่าบล๊อกด้วยค่ะ บาทละร้อย โดนเข้าไปห้าร้อย เรื่องหุ้นยังไม่ได้ตั้งไข่เลยค่ะ กะว่าจะเล่นเกมส์ในนี้ไปก่อน คงยังต้องศึกษาเรื่องนี้อีกนานล่ะคะ  ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 22:05:27 จากคุณ : แอล (aal990) - [ 25 ส.ค. 51 22:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ธนชาติ ฝากประจำ 1 ปี ดอกเบี้ย 3.75% หักภาษี เหลือ 3.18% ทหารไทย ฝากประจำ 9 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% หักภาษี เหลือ 3.52% ( 9 เดือน = 2.64%) K-Treasury ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1ปี = 2.78, 3เดือน = 2.85% ถ้าหากว่ามีเงินก้อน และไม่ต้องการนำมาใช้เลย (ส่วนนี้ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้) ระหว่างฝากประจำ กับ ตราสารหนี้ระยะสั้น อย่างไหนจะดีกว่ากันคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : WCT - [ 26 ส.ค. 51 01:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆคะ โหวตๆ จากคุณ : babeoil_ja - [ 26 ส.ค. 51 05:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ตอบ#143 ผมขออนุญาตเปรียบเทียบกองทุนกับออมทรัพย์และฝากประจำครับ ออมทรัพย์ ผมใช้กองทุนตลาดเงินทดแทนเช่นK-Treasury, SCBSFF, TMBTM สภาพคล่องอาจจะน้อยกว่า 1 วันแต่กองทุนอย่างทหารไทยธนบดีก็มีบัตรExtra Cashเสมือนหนึ่งเป็นบัตรATM ฝากประจำ โยกไปกองทุนตราสารหนี้ 6M 12Mเป็นต้น ถ้าอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกันก็พิจารณาว่าเราสามารถไปขอคืนภาษีเงินฝากประจำได้หรือไม่ จากคุณ : Godgate - [ 26 ส.ค. 51 10:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ซื้อสลากออมสิน 500,000 บาท สามปีจะได้เงินคืน 535,800 เป็นอย่างต่ำ ที่เหลือก็แล้วแต่ดวงนะครับ ถ้าถูกรางวัลอื่นนอกจากเลขท้ายสี่ตัว อีกสักครั้งสองครั้ง ก็ถือว่าคุ้มนะครับ จากคุณ : kim (kim0340) - [ 26 ส.ค. 51 11:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 147 คุณnOngOngZ ถ้าเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น หรือพวกตลาดเงิน การลงทุนจะไม่แตกต่างกันมากครับ ไม่เหมือนกองทุนหุ้นที่ต้องไปดูไส้ในกันอีกหลายตลบ ว่าจะเลือกกองไหนดี โดยส่วนตัวผมมองที่ผลตอบแทนก่อน ว่ามากน้อยกว่ากันแค่ไหน แล้วก็ดูค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่นถ้าต้องเดินทางไปเปิดบัญชีใหม่ ค่าเอกสาร สุดท้ายดูที่ความสะดวกครับ ว่าบลจนั้นๆทำรายการผ่านอินเตอร์เน็ทได้หรือไม่ ถ้าผลตอบแทนมากน้อยกว่ากันไม่มาก เช่นฝากแทนออมทรัพย์เดือนละ20000บาท ถ้าผลตอบแทนต่างกัน0.1%ก็จะได้ผลตอบแทนต่อปีต่างกันไม่ถึง20บาท (เพราะในแต่ละอาทิตย์ เราต้องทะยอยขายออกมาอยู่แล้วไม่ได้ฝาก20000ทั้งเดือน) แต่ถ้าการไปเปิดบัญชีอีกที่ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอื่นๆๆอาจจะมากกว่า20บาดก็ได้ครับ ดังนั้นถ้าหากว่าผลตอบแทนต่างกันไม่มาก ถ้าไปหนักค่าอื่นๆซะเยอะ จะกลายเป็นว่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายไปครับ โดยปกติ ถ้าใครรับเงินเดือนที่ไหนผมจะแนะนำให้เปิดMMFที่นั่นด้วยซ้ำไป(ในกรณีใช้แทนบัญชีออมทรัพย์) ยกเว้นว่าจะเป็นทหารไทยธนบดี ที่ใช้บัตรเบิกถอนได้ตามสะดวกอาจอยู่ในข่ายยกเว้นครับ คุณMidoh Ban ถ้าเป็นผู้เริ่มต้นใหม่ ยังไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร ลองเอามาชิมลางในMMFก็ได้ครับ ใช้บริการธนาคารไหนอยู่ก็ลองไปสอบถามที่ธนาคารนั้นๆดูครับ พนักงานจะรีบบริการแน่นอน เพราะเดี๋ยวนี้เค้าต้องทำยอดกันด้วย อิอิ ระหว่างนั้นก็ลองหาหนังสือพวกนี้มาอ่านครับ http://www.tsi-thailand.org/PublicationMedia/Book_2.html http://www.tsi-thailand.org/PublicationMedia/Book_2-2.html หาซื้อได้ทั่วไป หรือถ้าใครสะดวกก็มีบริการที่ห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ครับ ถ้าใครอยู่ใกล้มหาลัยที่อยู่ในโครงการ ก็จะมีมุมset cornerให้บริการเช่นกัน เพิ่งดูรายชื่อมาทั้งหมด ผมอ่านไปเกือบทุกเล่มเหมือนกันนะเนี่ย ภูมิใจเล็กๆ:) ส่วนการลงทุนอื่นๆ ผมเชื่อว่าหลังจากอ่านหนังสือมาระยะหนึ่งแล้ว คุณMidoh Ban น่าจะพอรู้แล้วว่าสนใจด้านไหนเป็นพิเศษ แล้วเราค่อยมาปรึกษากันอีกที ดีไหมครับ คุณแอล ดีใจด้วยครับกับการเริ่มต้น เราไม่มีทางรู้ว่ามันจะออกหัวหรือก้อยครับ จนกว่าเราจะได้โยนเหรียญ ถ้าออกหัวเราก็ภูมิใจในการตัดสินใจของเรา แต่ถ้าออกก้อย เราก็ต้องจดจำไว้เป็นบทเรียนนะครับ ความผิดพลาด จะไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย ถ้าเราไม่ได้เรียนรู้จากมัน เรื่องค่าบล๊อค เคยได้ยินเพื่อนๆในสินธรบอกเหมือนกัน ว่าต่างจังหวัดมีการชาร์จเพิ่ม ถ้าจำไม่ผิดเค้าซื้อทองที่เชียงใหม่น่ะครับ น่าจะโดนไปบาทละ150เลยด้วย เรื่องเกมส์หุ้น ผมไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ ผมชอบแนะนำให้เอาเงินที่เสียไปก็ไม่เดือดร้อน เช่นสัก2000 5000บาท เอามาลงทุนจริงๆเลยดีกว่า เพราะว่าเกมส์ไม่สามารถทดแทนอะไรหลายๆอย่างได้ เช่น อารมณ์เสียดายเวลาหุ้นขึ้นแต่เราไม่มีหุ้น อารมณ์เซ็งถ้าหุ้นที่เรามีตก การเล่นเกมส์ ไม่ได้ในส่วนนี้ครับ อธิบายง่ายๆ คนที่ชนะเกมส์หุ้นแต่ละโครงการ มีกี่คนครับ ที่รวยหุ้นจริงๆ คนเล่นเกมส์ส่วนใหญ่ซื้อเอามัน แล้วเหมือนถูกหวย อันนี้พูดจากมุมมองคนที่อยู่เบื้องหลังเกมส์หุ้นของหลายๆที่มาแล้วครับ ถ้าอยากชนะเกมส์พวกนี้จริงๆ ผมมีวิธีโกงตั้งหลายวิธีแน่ะ อิอิ วอเรน บัฟเฟตบอกว่า "ถ้าคุณอยากว่ายน้ำเป็น สิ่งที่คุณต้องทำ คือกระโดดลงไปในสระ" แต่ก่อนกระโดดลงสระ อ่านวิธีการก่อนนะครับ(หาความรู้ก่อน) แล้วก็อย่าใช้สระที่ลึกมากในการฝึก(ใช้เงินในตอนเริ่มต้นแต่น้อย) คุณWCT คุณGodgate ตอบแล้วนะครับ คุณคิม ครับ ถ้าในมุมมองว่า การถูกรางวัลนั้นเป็นโบนัสอย่างหนึ่งก็ถือว่าคุ้มครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าไม่ถูกรางวัลเลย สามปีที่เสียไป เรามีวิธีได้ผลตอบแทนที่มากกว่าได้ตั้งหลายทาง ถ้าคนชอบเสี่ยงดวงผมว่าก็เป็นทางเลือกที่ดีเลยครับ แต่ถ้าดูความน่าจะเป็น ผมว่าโอกาสที่ถูกรางวัล เมื่อเทียบกับจำนวนสลากแล้ว ยากพอสมควรครับ คิดง่ายๆว่า ที่อื่นถ้าฝากประจำสองปีได้ประมาณ3.5% นี่คือต้นทุนของธนาคารอื่นๆ สมมติว่าทางออมสิน คิดเบ็ดสะระตี่แล้วให้ต้นทุนได้มากที่สุดที่4% เค้าก็จะเอาเงินประมาณ1.6%มาเป็นผลตอบแทนที่กำหนดไว้แล้ว ส่วนที่เหลืออีก2.4%นั้น ก็เอามาเป็นในส่วนของรางวัลไปครับ ผู้เล่นในเกมส์นี้จึงมีหลายล้านหน่วย เพราะต้องเอา2.4%ที่ควรจะเป็นดอกเบี้ยของแต่ละคน มารวมกันให้ได้เท่ากับรางวัลทั้งหมดที่จะจับ พูดง่ายๆว่าออมสินนั้นจ่ายเท่ากันหรือมากกว่าธนาคารอื่นๆนิดหน่อย ส่วนนักลงทุนก็เข้ามาแย่งส่วนแบ่งกันเอง ใครถูกก็ได้ไป ใครไม่ได้ก็เหลือ1.6%เป็นค่าปลอบใจ รวมทั้งหมด35งวด ผมไม่แน่ใจว่าออกงวดหนึ่งกี่รางวัลแต่รวมแล้วไม่น่าจะถึงหมื่นนะครับ จากสลากที่มีขายเป็นล้านๆใบ 10000/1000000 เท่ากับมีผู้ที่มีโอกาสถูกประมาณ1%เท่านั้น ถ้าสลากออกมามากกว่าล้านใบ โอกาสถูกรางวัลอื่นๆก็มีน้อยลงไปอีก และถ้าเกิดว่าลงทุนไปได้ปีกว่า ดอกเบี้ยสูงขั้นๆ เราจะเอาเงินออกมาก็ไม่ได้ เพราะถ้าถอนก่อนสองปี จากเงิน50บาทจะถูกหักเหลือ49บาท ดังนั้นสำหรับสลากออมสิน ถ้าไม่รักการเสี่ยงโชคจริงๆ เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ ถ้ากองทุนรวมตลาดเงินได้2.7%ต่อปี ฝากสองปีไม่ทบต้นก็ได้ผลตอบแทน5.4%แล้ว แถมไม่ต้องล็อกเงินไว้สามปี ถ้าดอกเบี้ยขึ้นก็ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วยครับ อิอิ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 51 01:01:26 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 51 00:59:25 จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 27 ส.ค. 51 00:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 148 รบกวนหน่อยนะครับ ถ้าตอนนี้ไม่มีเงินเก็บเลย แต่จากนี้ไปมีเงินเหลือเก็บเดือนละประมาณ 10000-20000 บาท ควรจะเริ่มออมหรือลงทุนอย่างไรดีครับ จะฝากธนาคารก็ดอกเบี้ยต่ำน่าใจหาย ฝากประจำดีใหมครับ หรือลงทุนในกองทุนรวมดี ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : Lord of Skeletal - [ 27 ส.ค. 51 14:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 149 แอบตามไปตอบคุณลอร์ดในกระทู้แล้วครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6926273/I6926273.html อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 27 ส.ค. 51 19:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ที่นำมาแจกจายให้กับเพื่อนๆสมาชิก ต้องขอชมว่าเป็นกระทู้ที่ดีมากอีกกระทู้นึง (อาจมาชมช้าไปหน่อยนะครับ ช่วงนี้งานเยอะครับ) ถ้าผมได้อ่านกระทู้นี้ก่อน คงไม่ต้องติดดอยอยู่ในกระดานหุ้นหรอก (ความรู้น้อยแต่ความอยากเสี่ยงมันสูง ฮิฮิ) ต่อไปนี้คงจะเก็บกระทู้นี้ไว้อ่านเพื่อนพิจารณาในการลงทุนต่อๆไป ขอบคุณจากใจครับ จากคุณ : โดนใจจริงๆ (byyok) - [ 27 ส.ค. 51 19:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ขอบคุณ คุณ Godgate  และ คุณขอบฟ้าบูรพา ค่ะ จากคุณ : WCT - [ 28 ส.ค. 51 18:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ถามผู้รู้ครับ :) สนใจกองทุนอสังหาริมทรัพย์ แบบ free hold ครับ แต่ ถ้ามีเงินอยู่ 2-30,000 ควรลงทุนตัวนี้มั้ยครับ หรือลงทุนในด้านอื่นดีกว่า ลองถามทาง บ.ภัทร เค้าเสนอ PF_Summary ,CPNRF, TFUND ให้ครับ จากคุณ : thai_boy (thai_boy) - [ 29 ส.ค. 51 20:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 153 สนใจกองทุนอสังหาริมทรัพย์ free hold เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้พันธมิตรVS สมัคร จะทำให้ราคาต่ำลงตามราคาตลาดรึป่าวคะ แล้วเราจะเข้าไปดูที่เวบไหนดี ว่าตอนนี้มีอะไรให้ซื้อได้บ้าง จากคุณ : เด็กหญิงกล้วยบด - [ 31 ส.ค. 51 22:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 154 กระทู้ยอดเยี่ยม ผมเล่น TMBGold อยู่ สงสัยต้องไปดูของ K-Gold บ้างละ แต่ทุนผมน้อยมาก สงสัยต้องเล่น TMBGold ต่อไป   ร่วมด้วย่วยกันโหวดครับ จากคุณ : nonggold - [ 1 ก.ย. 51 13:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 155 คุณเด็กไทย ในการลงทุน ให้มองที่วัตถุประสงค์ในการลงทุนของเราเป็นหลักครับ อย่าไปมองที่จำนวนเงินลงทุนเป็นหลัก ถ้าการลงทุนนั้นตอบโจทย์ของเราได้ เราลงทุนในสิ่งนั้นครับ แต่ถ้าไม่ได้ตรงตามเป้าหมายของเรา ถึงจะมีเงินเหลือใช้ ก็อย่าไปลงทุนเลยครับ คำถามคือ  ???กองทุนอสังหานั้น ตอบสนองความต้องการทางการลงทุนของคุณเด็กไทยหรือเปล่า??? cpnrf เป็น lease holdครับ คุณเด็กหญิง ราคากองทุนที่จดทะเบียนในตลาดอาจลงมาตามภาวะตลาดช่วงนี้ก็ได้ครับ ซึ่งก็เป็นผลดีสำหรับคนที่รอเก็บ ที่จะได้หน่วยราคาต่ำ พอคำนวณปันผลก้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วย รายละเอียดผลตอบแทนกองทุน http://www.aimc.or.th/2006/database/nav_performance/New_data/20080826.xls ถ้าเป็นกองทุนอสังหา ใช้รหัสดังนี้ครับ Property Fund - Freehold               PR1FH Property Fund - Leasehold             PR1LH Property Fund - Mixedhold             PR1MH คุณ น้องทอง แอบเดาว่า ซื้อสะสมเดือนละเล็ก เดือนละน้อยใช่ไหมครับ ถ้าชอบK-GOLDจริงๆ ก็แอบตัดจากTMBมาซื้ออาจจะไตรมาสละครั้งก็ได้ครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 3 ก.ย. 51 02:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ขอบคุณครับ พี่ขอบฟ้าฯ แต่ลิ้งค์ไฟล์ xls ของพี่มันไม่ผ่านอ่ะครับ ไม่รู้เป็นที่เครื่องผมคนเดียวหรือเปล่า ขอถามอีกนิดครับ ถ้าผมจะซื้อ TFUND ผ่าน บ.ภัทรฯ หรือซื้อจากที่ไหนดีครับ? จากคุณ : thai_boy - [ 3 ก.ย. 51 20:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 157 เข้าลิงค์จากที่นี่ได้ไหมครับ http://www.aimc.or.th/2006/html/modules.php?name=Performance ซื้อผ่านบล.ไหนก็ได้ครับ มีค่าเท่ากัน ถ้าคุณเด็กไทยมีพอร์ทที่ภัทรอยู่แล้ว ก็เข้าไปซื้อได้เหมือนซื้อหุ้นตามปกติครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 4 ก.ย. 51 00:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 158 สวัสดีค่ะ คุณขอบฟ้าบูรพา แบบว่ามือใหม่ ความรู้น้อยค่ะ รบกวนขอความรู้ด้วยนะคะ คือ ช่วงนี้มีคนแนะนำ ให้รอดูสถานการณ์ แล้วซื้อหุ้นเก็บไว้ หุ้นตัวไหน ที่น่าสนใจ อย่างกลุ่มพลังงาน ถ้าตกลงมาอีกสักนิด ซื้อเก็บไว้รอขาย ในอนาคต ที่คาดว่าหลังจากเหตุการณ์สงบแล้ว ราคาจะกลับมาดีเหมือนเดิม รบกวนขอคำแนะนำ ขอความเห็นของคุณขอบฟ้าบูรพาหน่อยค่ะ ว่าควรลงทุนหรือไม่ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Take a Look Around - [ 9 ก.ย. 51 15:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ขอบคุณคุณขอบฟ้าบูรพามากๆๆเลยค่ะ ดิฉันไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย แต่อยากลองศึกษาดูบ้าง ขออนุญาตปรึกษาได้มั้ยคะ ถ้าบางคำถามมันตลกๆก็อย่าถีอสาเลยนะคะ ไม่รู้จริงๆค่ะ แบบว่า อยากรู้ว่าคนที่ยังเรียนไม่จบ ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง แต่มีเงินอยู่จำนวนนึง จะสามารถเปิดบัญชีเพื่อเล่นหุ้นได้มั้ยคะ ถ้าได้แล้วต้องทำยังงัยคะ ช่วยเเนะนำหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หมูอ้อยหวาน - [ 22 ก.ย. 51 18:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 160 และแล้วกระทู้นี้ก็กลับมาจนได้ ต้องขอโทษคุณมองไปรอบๆด้วยครับ ผมนึกว่าพอกระทู้ตกแล้ว คงไม่มีคนเข้ามาถามเพิ่ม เพราะทางเข้าหายไป อิอิ ถ้าถามเรื่องหุ้น ผมเน้นเสมอว่า ควรจะทะยอยซื้อสะสมครับ เลือกหุ้นให้ถูก แล้วทะยอยซื้อทุกเดือนตามกำลังเงิน น่าจะเหมาะสมกว่า สำหรับคนที่ลงทุนยาวระยะ3-5ปี ผมว่าโอกาสชนะตลาดมีสูงครับ ส่วนหุ้นกลุ่มไหนนั้น น่าจะเลือกกลุ่มที่เราเองมีความเข้าใจครับ เพราะถ้าเราเข้าใจหรือรู้จักมันดีพอ เราจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เช่น คนส่วนใหญ่แนะนำหุ้นพลังงาน ว่ายังไงก็ไม่มีวันลง เอาเข้าจริงหุ้นกลุ่มนี้เป็นหุ้นวัฏจักรครับ ช่วงวัฏจกัรขาลงนี่ ใครเห็นก็ต้องสยอง ไม่เชื่อลองหางบย้อนหลังของโรงกลั่นหลายๆโรงดูสิครับ กำไรกันป่นปี้เลย ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกตัวจะแย่ตามๆกันนะครับ เพราะในกลุ่มพลังงานเองก็ทำธุรกิจต่างกัน กลุ่มเดินเรือ ปิโตรเคมี เหล็ก สังเกตว่าหุ้นที่ใช้สินค้าโภคภัณฑ์มักเป็นธุรกิจที่มีวัฏจักรครับ บ่นมาตั้งนาน แล้วหุ้นแบบไหนล่ะ ที่เราจะรู้จัก ผมว่าไม่ยากเลยครับ เวลาผมพูดเรื่องหุ้นที่ไหน ผมมักจะถามว่า เคยกินไหม มาม่า โออิชิ ซิซสะเหร่อ(ผมเรียกแบบนี้) พิซซ่า KFC ไก่ย่างห้าดาว สเวนเซ่น ฟาร์มเฮ้า เคยไปเดินไหม บิ๊กซี เมเจอร์ มาบุญครอง 7-11 เคยไปนอนไหม แชงกรีล่า โอเรียลเต็ล บลาๆๆ(ของไฮโซ ไม่ค่อยได้ใช้ครับ) เคยใช้ไหม กีราโรช วาโก ซาบีน่า ไลปอนเอฟ บลาๆๆ ส่วนใหญ่เรารู้จักสินค้าที่ถูกผลิตโดยบริษัทในตลาด แต่เราไม่เคยรู้จักกับบริษัทเลย เพื่อนผมชอบดูหนังมาก เลยซื้อหุ้นเมเจอร์ เพราะเค้าไปดูหนังทุกสัปดาห์ คนเยอะขึ้น หรือน้อยลงเค้าสังเกตุได้ตลอด เราก็พอจะรู้ว่า รายได้จะเป็นอย่างไร ผมเคยถือหุ้นโออิชิช่วงหนึ่ง ผมก็ดูตาม7-11ว่าวางชาเขียวโออิชิอยู่กี่แถว ถ้าเค้าขายดี เค้าจะวางไว้เยอะ แต่ถ้าร้านไหนขายไม่ดี จำนวนแถวจะน้อย หรือดร.นิเวศน์ก็บอกว่า ชอบดูโฆษณาชุดชั้นใน(อย่าคิดลึกน้า) เพราะถ้าโฆษณาเยอะ แปลว่าบริษัทมีเงิน(เลยมาโฆษณาไง) และถ้าโฆษณาบ่อยๆ สินค้าก็จะได้เปรียบ ประมาณนั้น ผมเลยคิดว่า ถ้าจะลงทุนยาวๆ ลงทุนในหุ้นที่เรามีความรู้จักดี ดีกว่าลงทุนในหุ้นที่คนอื่นบอกว่าดีครับ คุณ หมูอ้อยหวาน ถามได้ครับ ไม่ถือแน่นอน มีคนสอนผมว่า "โลกนี้ไม่มีคำถามโง่ๆหรอก" เพราะทุกคำถาม จะทำให้คนฉลาดขึ้นครับ เปิดได้ครับ โดยปกติบัญชีที่ใช้ในการเทรดหุ้นจะมีอยู่สามประเภทครับ ถ้าไม่ได้ทำงานการเปิดบัญชีอินเตอร์เน็ทจะสะดวกที่สุด (แต่ละบลเรียกชื่อต่างกัน) บัญชีประเภทนี้จะเทรดได้ตามวงเงินที่เราโอนไปครับ ไม่สามารถกู้มาร์จินได้ เนื่องจากเราต้องโอนเงินไปฝากไว้ที่เค้าก่อน ทางบลจึงไม่เสี่ยง บัญชีแบบนี้เลยเปิดง่ายครับ แถมดอกเบี้ยก็สูงกว่าธนาคารซะอีกแน่ะ ถ้าจะเปิด ก็เลือกดูบลที่เราสนใจครับ แนะนำให้ไปทดลองใช้ระบบก่อน เพราะบลส่วนใหญ่ให้ทดสอบระบบได้ฟรี 14วัน 30วันก็ว่ากันไป แล้วจะเปิดจริงๆก็อาจจะโหลดเอกสารจากหน้าเว็บเลย หรือขอให้เค้าส่งมาให้ที่บ้าน ถ้าอยากได้แบบทันใจก็ไปที่สาขาใกล้บ้านก็ได้ครับ โทรไปถามเค้าว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง โชคดีในการเทรดครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 25 ก.ย. 51 00:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 161 คุณขอบฟ้าบูรพาค่ะ พอดีไปถอนกรมธรรม์จากเอไอเอมา ได้เงินมาประมาณหนึ่ง  เลยอยากนำมาบริหารให้ออกดอกออกผล แต่ไม่อยากเป็นแมงเม่าบินเข้ากองเพลิง อยากได้คำแนะนำมาเป็นไอเดียค่ะ -ถ้าจะลงทุนในกองทุนรวมระยะสั้น ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้จะเสี่ยงไหมค่ะ -ช่วยแนะนำกองทุนรวมระยะสั้นที่น่าซื้อให้หน่อยสิค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 08:34:47 จากคุณ : rinkokun - [ 25 ก.ย. 51 08:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 162 กองทุนรวมระยะสั้น จะมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำนะครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไส้ในกองทุนด้วย ว่าลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ แต่โดยทั่วไปแล้ว กองทุนประเภทนี้ก็ถือว่าปลอดภัยในด้านของเงินต้น แต่อาจจะเสียโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาวครับ ทั้งนี้เราสามารถมองคร่าวๆว่า หากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ให้ลงตราสารหนี้ระยะสั้น ถ้าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว ถ้าลงทุนตอนนี้ อาจมีความเสี่ยงว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะลดลงได้ครับ เพราะว่ารัฐบาลหลายๆประเทศ ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของตัวเอง ถ้าไม่อยากให้อัตราดอกเบี้ยลดลงก็ภาวนาให้น้ำมันราคาสูงขึ้นละกันครับ แล้วรัฐบาลสมชายก็จะเหมือนกับรัฐบาลสมัครทันที คือไม่ว่าเพิ่ม หรือลดอัตราดอกเบี้ยก็จะมีผลกระทบอีกด้านตามมาทันที เหอๆๆ กองทุนรวมระยะสั้นที่น่าซื้อ ตอบว่าผมมองว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ เพราะเอาเข้าจริงผลตอบแทนก็ไม่ต่างกันมาก จากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7016437/I7016437.html ผลตอบแทนกองที่มากสุดและน้อยสุดต่างกันประมาณ 0.5% หมายความว่าหากลงทุนในกองทุน10,000บาท ผลตอบแทนจะต่างกัน50บาท/ปี ซึ่งการจะไปลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด อาจจะเสียค่ารถค่าลา ค่าเสียเวลามากกว่า50บาทก็ได้ครับ อีกอย่างผลตอบแทนในวันนี้ อาจไม่ได้หมายถึงผลตอบแทนในวันข้างหน้า โดยเฉพาะตราสารระยะสั้นที่ผลตอบแทนอาจจะพลิกไปพลิกมาได้เดือนต่อเดือน กองทุนที่เราคิดว่าดีที่สุด และเสียค่าน้ำมันไปหลายสิบ เดือนต่อมาผลตอบแทนอาจจะแย่ที่สุดก็ได้ครับ ดังนั้นผมจะเน้นว่า ให้มองกองทุนแบบนี้เป็นที่พักเงินเฉยๆ และเลือกเปิดกับบลจที่เราสะดวก เช่นอาจเปิดของธนาคารที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน เปิดกับบลจที่บริการซื้อขายได้ในอินเตอร์เน็ท เป็นต้น เว้นว่ากองทุนนั้นจะมีอะไรพิเศษๆ เช่น ทหารไทยธนบดีที่บัตรextra cashเบิกถอนได้เหมือนATMแต่ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่หากมีเงินจำนวนมากขึ้น หรือว่าเป็นกองทุนที่ผลตอบแทนต่างกันเสมอๆในระยะยาว ค่อยขยับขยายเปิดบัญชีกับที่ๆเราคิดว่าดีที่สุดก็ได้ครับ อิอิ ยินดีย้อนหลังครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 25 ก.ย. 51 14:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ขอบคุณคุณขอบฟ้าบูรพามากๆ ความรู้พื้นฐานแบบนี้ เป็นแบบที่อยากได้ และค้นหามานานแล้วค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ จากคุณ : zygoticle - [ 25 ก.ย. 51 15:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ยินดีครับ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 25 ก.ย. 51 16:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 165 ขอบคุณคุณขอบฟ้าบูรพามากๆ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 21:06:47 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 10:43:52 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 10:31:08 จากคุณ : rinkokun - [ 26 ก.ย. 51 10:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 166 ขอบคุณ คุณขอบฟ้าบูรพา มากๆ ค่ะ การให้ความรู้ เป็นการให้ที่ไม่มีวันหมด ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ และได้มากขึ้น มากขึ้น เรื่อยๆ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : มองตะวัน - [ 27 ก.ย. 51 15:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 167 เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะ อายุก็เริ่มมากแล้ว ทำงานเอกชน แต่อยากมีรายได้แบบเงินบำนาญที่ข้าราชการจะได้รับทุกเดือนหลังเกษียณนะคะ   (อันนี้หมายถึงนอกเหนือจากดอกเบี้ยเงินฝาก หรือ ประกันสังคม อันน้อยนิด นะคะ) ไม่ทราบมีข้อแนะนำการออมแบบไหน ที่ให้เงินไว้ใช้หลังเกษียณ หรือ เงินประกันหลังเกษียณบ้างไหมค่ะ ไม่อยากเป็นภาระลูกหลานตอนแก่ และ ไม่ค่อยรู้เรื่องการเงินเท่าไร รบกวนด้วยนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : friend friend - [ 27 ก.ย. 51 17:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 168 ฃ้อมูลเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : เจ้าตัวกลมกะปุ๊กลุ๊ก - [ 28 ก.ย. 51 08:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 169 ดีใจจังที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ี (พึ่งเข้าห้องนี้ไม่นาน แอบอ่านอย่างเดียว) กำลังสนใจเรื่องการลงทุนพอดีเลย ได้ประโยชน์มากๆ แต่จะศึกษาก่อนซัก 2-3 เดือน ค่อยคิดว่าจะให้เงินทำงานอย่างไรดี แต่ใจเอนเอียงไปทาง K-Gold... แล้วก็สนใจ ธนบดี ของ ทหารไทยด้วย (ไม่มีขาดทุนใช่ป่าวคะ) แล้วก็รอฟังคำตอบแบบที่คุณ friend friend ถามเช่นกัน เพราะต้องการมีหลักประกันว่าไม่อดตาย อิอิ มีเงินใช้ตอนแก่ มีเงินพอตอนมีปัญหา แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 51 16:21:53 จากคุณ : สาว (sao_in_bkk) - [ 28 ก.ย. 51 16:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 170 ภาษาอ่านและเข้าใจง่ายและเห็นภาพครับดีขึ้นเยอะเลยครับผม ส่วนตัวผมอยู่แต่ TMBMF อย่างเดียว เพราะเว็บ TMBAM สามารถตั้งโปรแกรมสั่งซื้อ ขาย อัตโนมัติ  และตัดบัญชีธนาคารได้หลายแบงค์ เช่น กรุงเทพฯ ,ไทยพาณิชย์ สะดวกมากครับ ทุกวันสั่งซื้อ TMBMF (ธนบดี) ไว้เดือนล่ะหมื่นบาท วันที่เงินเดือนออก ^^ มาจะครบปีที่สามล่ะ อยากจะเอาเงินก้อนย้ายไปที่อื่นเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะไปไหนดี เสียภาษีอยู่ 10% ประมาณ 3 พันกว่าบาท ว่าจะซื้อ LTF ก็เห็นมันร่วงเอาๆ และไปอิงกับกลุ่ม top ซะส่วนมาก มีท่านใดแนะนำวิธีเอาเงิน 3 พันคืนมาบ้างมั๊ยครับ ? จากคุณ : อาร์ม (arm31) - [ 28 ก.ย. 51 20:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 171 ตอนนี้ผมฝากเงินไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยให้ผลตอบแทน 6-7% ต่อปี ซึ่งมีเงินอยู่ประมาณ 100000 กว่า ๆ แล้วถ้าผมต้องการนำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนอย่างอื่น คิดว่าน่าสนใจไม๊ครับ และถ้าเราสนใจกองทุน เราจะเข้าไปซื้อยังงัยครับ พอดีผมไม่มีความรู้ทางด้านการลงทุนเลย แล้วเห็นมีข่าวว่ารัฐบาลจะออกพัธบัตรออกมา ไม่ทราบว่าควรจะซื้อดีรึป่าวครับ จากคุณ : มึนตึ้บ (dewnus) - [ 29 ก.ย. 51 14:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 172 ขอบคุณ คุณขอบฟ้าบูรพาค่ะ แล้วขอรบกวนถามอีกสักหน่อยนะคะ  จากปัญหาอสังหาริมรัพย์ในอเมริกาส่งผลกับปัญหามากมาย และอย่างที่่คุณขอบฟ้าบูรพาแนะนำในกองทุนอสังหาฯ บ้านเรา จะมีปัญหาอะไรบ้างไหมค่ะ จากคุณ : Take a Look Around - [ 29 ก.ย. 51 15:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 173 ขอโทษนะครับที่ตอบช้า พอดีเอาคอมไปซ่อมเพิ่งไปเอามาครับ คุณfriend friend ถ้าจะให้แนะนำว่ามีอะไรบ้าง คงเป็นกองทุนLTF RMFกับประกันนะครับ แต่ถ้าจะถามสัดส่วนและรายละเอียด ต้องมีข้อมูล อายุ รายได้ เงินคงเหลือ ความเสี่ยงที่รับได้ ด้วยครับ เพราะว่าแต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน คุณ สาว แต่ใจเอนเอียงไปทาง K-Gold... แล้วก็สนใจ ธนบดี ของ ทหารไทยด้วย (ไม่มีขาดทุนใช่ป่าวคะ) ใจเอนเอียงมาทางK-Goldนี่เพราะราคาทองช่วงนี้หรือเปล่าครับ อิอิ กองทุนทุกกองทุน ว่ากันตามจริงแล้วมีโอกาสขาดทุนทุกกองทุนครับ เพียงแต่จะมาก หรือน้อยเท่านั้นเอง ซึ่งในส่วนของธนบดีนี่มความเสี่ยงต่ำมากๆครับ จะลงทุนในอะไร สิ่งที่สำคัญคือ เป้าหมายในการลงทุนในสินทรัพย์นั้นๆครับ ถ้าเราลงทุน ธนบดี ธนรัฐ SFF รวงข้าวบริหารเงิน บัวหลวงธนทวี คือลงทุนในสิ่งที่คนอื่นเค้านิยมกัน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ตอบโจทย์ทางการเงินของเรา แบบนี้ก็บ้อท่าครับ เช่นที่เอ่ยมาห้ากอง คือกองทุนรวมตลาดเงินหมดเลย แต่ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเรา"ตาม"คนอื่นโดยไม่ดูว่าโจทย์ของเรา คืออะไร เราอาจจะหลงได้ครับ เช่น เพื่อสภาพคล่อง เพื่อเพิ่มค่าเงินลงทุน เพื่อรับกระแสเงินสด ถ้าการลงทุนนั้นตอบโจทย์ที่เราต้องการได้ การลงทุนนั้นOKครับ คุณarm31 ดีครับ ยังไงก็อย่าให้เงินขี้เกียจ จัดการสั่งให้ไปหาผลตอบแทนเพิ่มในความเสี่ยงที่แทบไม่ต่างกัน เรื่องของภาษี ทำครับหรือยังครับ ถ้าไม่นิยมRMFก็มีประกันชีวิต ถ้าคิดว่าประกันนานไป ก็เอาไปบริจาค ที่ศิริราชก้ได้ครับ ลดหย่อนได้10%ของเงินได้ ถ้าบริจาคเพื่อการศึกษา ลดได้สองเท่าของที่บริจาคจริงด้วยนะครับ เรียกว่า ลดภาษี เอาไปเพิ่มความสุขทางใจครับ คุณdewnus 6-7%ต่อปี ถ้าผลตอบแทนยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงมา ผมยังแนะนำให้ฝากครับ เพราะว่ากองทุนตราสารหนี้ตอนนี้ยังให้ผลตอบแทนประมาณ5%อยู่เลย เรื่องของดอกเบี้ยในมุมมองส่วนตัวผมว่ายังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะแม้รัฐจะอยากลด แต่ผมเชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะขึ้นอีก ซึ่งจะกลายมาเป็นภาระค้ำคอในการลดดอกเบี้ยของรัฐบาล ในขณะที่หลายคนบอกว่ารัฐบาลจะต้องลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเข้าจริงถ้าดูจากมุมมองรมตคลังแล้ว ผมว่าก็มีโอกาสเยอะเลยครับ เพราะท่านคิดว่า เงินเฟ้อสูงๆเนี่ยมาจากเงินเฟ้อพื้นฐานน้อยมาก ดังนั้นการลดดอกเบี้ย จึงมีโอกาสป็นไปได้     เฮ้อ คุณมองไปรอบๆ เรื่องนี้ก็คล้ายๆกับเรื่องของAIG AIAครับ หลายคนหลังไมค์มาถามเรื่องนี้ ผมเองก็ยังยืนยันว่า ถ้าผลกระทบทางตรงไม่น่าจะมี แต่ถ้าทางอ้อมน่ะมีแน่ คำถามก็คือ ผลทางอ้อมมันมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ก็เช่นกัน อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ไทยสร้าง ไทยขาย ไทยถือหน่วยลงทุน ผลที่อาจมี คือ การขายอสังหาของบริษัทการเงินที่ล้มละลาย อาจกดราคาอสังหาให้ลดลง แต่โอกาสก็มีน้อยมาก เพราะว่าบริษัทการเงินไม่ได้เป็นผู้เล่นหลักในตลาดเหมือนตลาดหุ้น สิ่งที่น่าสนใจ คือ อสังหารายประเภทครับ เช่น สนามบินเกาะสมุย ตอนนี้จากภาวะทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มีคนท่องเที่ยวลดน้อยลง ซึ่งส่งผลต่อผลการดำเนินงานอย่างแน่นอน ถึงแม้จะการันตีเงินปันผล แต่ผลการดำเนินการแท้จริง คือ สิ่งที่การันตีความยั่งยืนของสินทรัพย์ครับ โครงการบ้านหรูต่างๆ ที่มีเป้าหมายเป็นคนต่างชาติ เพิ่งอ่านข่าวว่า บริษัทข้ามชาติหลายแห่ง เริ่มมีการเรียกตัวพนักงานจากต่างประเทศ หรือหันมาจ้างคนท้องถิ่นแทน ทำให้เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และบ้านเช่าได้รับผลกระทบ ถ้าใครถือหน่วยอยู่ อาจจะต้องให้ความสนใจ ว่าโครงการนั้นๆได้รับผลอะไรหรือไม่ และที่น่ากลัว คือ สัญญาเช่า ที่มีอายุสั้น ทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ง่าย โครงการที่เป็นห้างสรรพสินค้า ดูว่าสัดส่วนต่างชาติมีไหม ถ้าลดลงจะส่งผลมากน้อยแค่ไหน (เอาเข้าจริง กลุ่มนี้จะได้รับผลจากกำลังซื้อในประเทศมากกว่า) กลุ่มโรงงานและออฟฟิศ ถ้าบริษัทไม่แย่มากจริงๆ คงไม่โดนเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาวครับ อิอิ จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 1 ต.ค. 51 03:29:52 ]