ความคิดเห็นที่ 1 ขอถามเพิ่มครับ คือผมจะอ่านไปเรื่อย ๆ แล้วก็สงสัยไปเรื่อย ๆ นะครับ ผมกลัวลืม (ยิ้ม) คุณเด่นศรีวางเป้าหมายรายได้ต่อเดือนไว้ แล้วก็พยายามทำให้ถึงเป้า ทีนี้มันก็ค้านกับที่ผมสงสัยข้างบนว่า ถ้าเปรียบ DSM เหมือนการให้เช่าหุ้น กสงฝ คือ รายได้ รายได้จะเกิดขึ้นได้มันก็ต้องเกิดขึ้นเมื่อเราซื้อกลับเข้าไปในราคาที่ต่ำกว่าที่ขาย ยิ่งตลาดลงเยอะ ๆ รายได้ก็จะยิ่งเยอะสิครับ DSM ก็เหมาะกับการเล่นตลาดขาลงสิครับ ถ้าเป้าหมายของเราคือ รายได้ แต่พอถึงจุด ๆ นึงเมื่อหุ้นกลับตัวเป็นขาขึ้น พอร์ตของเราก็จะโต หน้าที่ของเราในตลาดขาขึ้นก็คือ รอ รอ รอ (รึเปล่าครับ ??? ยังคงสงสัยว่ามีหน้าที่อื่นมั๊ยนอกจาก นั่งดูพอร์ตตัวเองแล้ว ทำหน้าแป้นแล้น) แล้วพอตลาดกลับตัวเป็นขาลงอีก (สมมุติว่าไม่มีการสับขาหลอกนะครับ อิอิ อยากให้ตลาดเป็นแบบนี้เน๊อะ) งานเข้า ตอนนี้รึเปล่าครับ คือ ขาขึ้น ว่างงาน ขาลง งานเข้า + รายได้เข้า ???? (หน้าบูด ทำปากจู๋) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 02:33:16 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สงสัยอีกแล้วครับ (ขี้สงสัยจังแฮะ คนเรา) (ทำหน้าแป้นแล้น) DSM จะขายตอนตลาดตก ยิ่งตก ยิ่งขาย พอยิ่งขาย ตลาดมันก็ยิ่งตก ผมสงสัยว่า สมมุติว่า นักลงทุนทุกคนในตลาดมาใช้ ระบบนี้กันหมด (เอาเฉพาะคนไทยละกัน อิอิ) พอวันไหนฝรั่งเริ่มขายปุ๊ป (ยิ้มเลย หวานหมูเราซะแว้ววววว์) เราก็ขายตามปั๊ป แต่เราจะขายถูกกว่าฝรั่ง 2 ช่อง จากราคาท๊อป ตลาดร่วงเลย ฝรั่งบิดมาเท่าไหร่ ได้คืนหมด เพราะคนไทยเราช่วยกันขาย สรุปว่า วันนั้นฝรั่งก็ตกใจสิครับ ฝรั่งก็เลย panic .... ขายใหญ่เลย อ้าว มันขาย เราขายด้วย ช่วย ๆ กันขาย .... วันนั้นตัวเลขรายกลุ่ม รายย่อย ขายสุทธิ ฝรั่ง ขายสุทธิ กองทุน ???? .....(งง อยู่ ยังตั้งตัวไม่ติด) อิอิ จะมีวันนั้นมั๊ยเนี่ย แค่คิดก็หนุกแล้ว (ยิ้มแป้นแล้น) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 02:44:19 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ตอบหรอก หมดเวลาทำการแล้น อิอิ ฝันดีนะ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 03:11:07 A:124.120.74.90 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สงสัยอีกแล้วอะคับ (ชักจะยิ้มไม่ออก ง่วงนอนจัง สัญญาคับว่า จะสงสัยเป็นข้อสุดท้ายแล้ว ของคืนนี้) สมมุติ ผมไปซื้อหุ้นตัวนึง ABC 10000 @ 1.50 ตามสเต็ปเลย ขายขาขึ้น ช่องละ 1% ช่องละ 100 หุ้น (ไม่ต้องคิดคอมนะ ไม่งั้นติดลบ อิอิ ขายหุ้นไปแล้วยังต้องจ่ายโบรกอีก) ก็ขายไปเรื่อย ๆ ลัล ล้า หุ้นมันก็ขึ้น หูดับตับไหม้ ลัล ล้า แล้ววันนึงมันไปอยู่ที่ 2 บาท เราเหลือหุ้น 5000 หุ้น ผมจะขายยังไงละ ช่องละ 50 หุ้น หรือ รวบเป็น 2 ช่องร้อย ดีครับ หรือยังคงขายที่ ช่องละ ร้อย เหมือนเดิม เพราะยังเป็น รอบขาขึ้นเดียวกัน (จบข้อสงสัยที่ 1) ข้อสงสัยที่ 2 ถ้ามันขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึง 3 บาท ผมขายหุ้นจนหมดตัวเลย จะทำยังไงครับ 1. เอาเงินที่ได้เข้าซื้อที่ 3 บาท (งี้เรียกว่า หุ้นดี ต้องมีในพอร์ต) 2. เอาเงินที่ได้ไปซื้อตัวอื่น (ลืมน้ำพริกที่บ้าน แอบไปทานน้ำพริกถ้วยอื่น ยังงี้ มันน่านัก) 3. กลับไปศึกษา DSM อีกรอบ (เง่าตุ่นที่สุด ก็เค้าบอกอยู่ว่า หุ้นขึ้น ต้องมีหุ้น นี่มัน ลัล ล้า จนหุ้นหมดพอร์ต) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 03:11:41 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โห ยังไม่นอนอีก เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรนอนดึกนะพี่ ปัญญาจะเกิดก็ต่อเมื่อสมองได้พักผ่อนเพียงพอ ให้ผมถามพี่ดีกว่าว่า สมมติว่าผมให้ตังค์พี่ซื้อหุ้น A ที่ 50 ตังค์ พี่อยากให้มันขึ้นไปบาทนึงก่อนค่อยทำ DSM หรือ เริ่มทำ DSM เลย จนมันลงไปเหลือ 25 ตังค์ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 03:23:48 A:124.120.74.90 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จริงๆ มันก็ไม่ต่างกันหรอกสำหรับคนที่ไม่ยึดติดกับมูลค่าพอร์ท แต่บางทีผมก็ชอบที่จะได้ กสงฝ จากเงินชาวบ้านมากกว่าทุนตัวเอง บางทีการขายในขาขึ้นก้อไม่ได้ดูเลวร้ายนัก เพราะ ตราบที่เรายังซื้อคืนไม่ได้ ก็แปลว่ามันยังไม่ใช่ขาลงงัย อิอิ ง่วงแล้ว รอพี่ๆท่านอื่นก่อนแล้วกันเนอะ พอดีข้างบ้านไฟไหม้ ไปช่วยเค้าดับไฟอ่ะ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 03:32:26 A:124.120.74.90 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ว่าแต่ว่า พี่ไม่ได้ปลอมตัวมาเหมือนน้องก้านกล้วยนะ อิอิ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 03:37:36 A:124.120.74.90 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้อ อีกอย่างนึง รายได้จาก กสงฝ จะเยอะเพราะตลาดลงมากๆรึเปล่า ไม่ใช่หรอก รายได้จะเยอะเพราะเราพยายามขายมันต่างหาก คิดเหมือนเซลแมนเลย อิอิ ผมเดาเอาว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไดอารีของพี่เด่นศรีส่วนใหญ่ถึงเป็นเนตเซล จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 03:45:05 A:124.120.74.90 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ คุณ Way Back ฯ ที่เข้ามาให้คำแนะนำ จากที่ถามมาว่า สมมติว่าผมให้ตังค์พี่ซื้อหุ้น A ที่ 50 ตังค์ พี่อยากให้มันขึ้นไปบาทนึงก่อนค่อยทำ DSM หรือ เริ่มทำ DSM เลย จนมันลงไปเหลือ 25 ตังค์ จากคำถามผมขอตอบว่า ผมอยากให้มันขึ้นไปบาทนึงก่อนค่อยทำครับ เพราะซื้อหุ้นมาผมก็อยากให้มันขึ้นไปก่อน แต่ถ้ามันไม่ยอมขึ้น ก็คงต้องเริ่มทำ ณ บัดนาว เลย คือหักหัวลงปุ๊ป งานเข้าทันทีเลย น่าจะดีกว่า ผมคิดเองนะ อาจไม่ถูกต้อง แต่ก็ดีกว่า นั่งดูมันไหลลงเฉย ๆ อิอิ ปล. ผมยังไม่แก่ซักหน่อย มาเรียกผมว่า พี่ทำไม เขิลล์ ออก อิอิ ผมเพิ่ง ยี่สิบต้น ๆ เอง (ทำหน้าแอ๊บแบ๊ว) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 09:01:07 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนเรื่องกองหน้า กลาง หลัง ผมยังไม่ค่อยเก็ทไอเดียอะคับ ถ้าจะมีใครอธิบายความหมาย พร้อมหน้าที่ ของแต่ละตำแหน่ง จะหลั่งน้ำตาปลาบปลื้ม เลยทีเดียว (ขอเป็นความหมายของ DSM นะ ถ้าฟุตบอลผมแจ่มแจ๋วแย้วววว์) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 09:04:17 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อิอิ นั่นงัย DSM เอาไว้เล่นขาขึ้นจริงๆๆ ปล. เรียกพี่ก็ถูกแล้วนิ เพราะผมเพิ่ง สิบสองปลายๆเอง อิอิ ปล.2 เมื่อกี้ดูผู้หญิงถึงผู้หญิง พี่ไก่บอกว่า ทำปากจู๋บ่อยๆ จะทำให้หน้าเหี่ยวนะ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 09:10:48 A:124.120.81.202 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนกลองหน้า กองกลาง กองหลัง "ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร" เพราะผมเล่นฟุตบอลไม่เป็น อิอิ แต่ถ้าทีมผมแพ้อยู่ 0-1 โค๊ชผมอาจจะสั่งให้ลูกทีมทั้งหมดรวมประตูด้วย ไปถล่มคู่แข่งหมดเลย พี่ก็ต้องรู้ว่าเรามีจุดแข็งที่กองหน้า เพราะมีกองเดียว ฮี่ๆๆๆ แต่จุดอ่อน มีอยู่ทั่วสนามเลย อิอิ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 09:23:01 A:124.120.81.202 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อธิบาย หน้า กลาง หลัง ให้ฟังหน่อยซิฮะ สมมุติว่า ไม้แรกที่ขายออกไป จะเป็น หน้า กลาง หรือ หลัง คับ แล้วเกมส์นี้ มี ผู้รักษาประตูมั๊ยคับ (อมยิ้ม ก็ได้ เด๋วหน้าเหี่ยว) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 09:25:13 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คำถามเยอะจริงๆ ครับ อ่านไปมาผมจะงงซะแล้ว ค่อยๆ ตอบแล้วกัน ตกหล่นอะไรไป คุณเสี่ยวหลงช่วยถามเพิ่มด้วยนะครับ 1. ขาขึ้นทำกำไร ขาลงค่อยใช้ DSM วิธีนี้บอกได้เลยว่า อันตรายมากๆ ในไดอารี่บอกไว้หลายครั้งว่า ต้องใช้วิธีเดียวกันทั้งสองขา ขึ้นเล่นอย่างหนึ่ง ลงเล่นอย่างหนึ่ง จะคุมเกมไม่อยู่ ถ้ารักจะทำกำไรต้องคัสเร็ว ไม่เป็นตามที่คิดก็ทิ้งให้หมดทันที แต่ DSM ทะยอยขาย ทำให้ขาดทุนมากกว่าขายครั้งเดียวหมด 2. จำนวนหุ้น 1000 นั้นน้อยไปสำหรับการขา 1% อย่างที่คุณเสี่ยวหลงบอก ขายทีละ 10 หุ้นไม่ได้ แนะนำว่าไม่ควรทำ ขายเฉพาะขาลงก็เพียงพอแล้ว เพราะการรวบมาขาย 1% 10 ไม้ ก็คือ ขาย 10% คอยจนแดงค่อยขายตามแผนเลยจะให้ผลดีกว่า กอดหุ้นไว้แน่นๆ ครับ ห้ามทำกำไรเด็ดขาด 3. ที่คุณเด่นศรีสามารถกำหนดรายได้ต่อเดือน คงเพราะว่ามีข้อมูลให้ซื้อคืนไว้เยอะ บ้างข้อมูลยังไม่ถึงจุดซื้อ แต่ซื้อก่อนเพื่อให้ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ ขึ้นกับความอดทนของแต่ละคนครับ สำหรับผมถ้ามีให้ซื้อคืน 10 ไม้ คงนั่งเก้าอี้ไม่ติด กลัวจะไม่ได้ซื้อ จนไม่เป็นอันทำอะไร ไม่มีความสุขครับ 4. นักลงทุนทุกคนในตลาดมาใช้ ระบบนี้กันหมด ข้อนี้ไม่ต้องกังวลครับ ไม่มีใครอยากมาใช้วิธีนี้มากหรอกครับ เท่าที่คุยกับเพื่อนสนิทหลายคน มันบอกว่า วิธีนี้ดีนะ แต่..... บรรยายได้ไม่หมด โต้แย้งจนแทบจะฆ่ากันตาย หากมองเรื่องกำไร ขาดทุน มูลค่าพอร์ต วิธีนี้จะดูเลวร้ายมากๆๆๆๆๆ ครับ จากคุณ : wasansem - [ 25 ก.ค. 51 09:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาร์ผม : พี่ พี่ได้หุ้นเพิ่มทุน บมจ. "ใกล้เจ้ง" 100,000 หุ้น ที่ 10 บาท ผม : โอ้ ตอนนี้ในตลาดราคาตั้ง 15 บาท มาร์ผม : ค่ะพี่ ผม : งั้นผมเอาหมดเลย มาร์ผม : หุ้นซื้อขายได้ อาทิตย์หน้านะคะ ผม : งั้นผมขายหุ้น บมจ. "ใกล้เจ้ง" ตอนนี้หมดเลย 100,000 หุ้นที่ 15 บาท มาร์ผม : หมดเลยเหรอพี่ เดี๋ยวขึ้นนะ ผม : ครับผม อิอิ เห็นมะ ว่าผมเอาใจโค๊ชแค่ไหน ฝรั่งเรียก Arbitrage นายเสียงหัวใจเต้นแห่งซิมบับเว เรียก ระบบแมวอ้วน : Reloeaded ผมเรียก DSM วิธีการอาจเปลี่ยนไปดังใจ แต่แนวคิดและหลักการยังคงเดิม จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 09:37:29 A:124.120.81.202 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถามพี่ wasansem หน่อยครับว่า การใช้วิธีเดียวกันทั้งสองขา คือ อะไรคับ ขาขึ้นมีวิธีการยังไงครับ ขาลงผมพอจะเข้าใจอยู่บ้าง แต่ขาขึ้นนี่ คือ วิธี ทยอยขาย รึป่าวครับ ไม่แน่ใจ ตอดเล็ก ตอดน้อย ค่อย ๆ ตอด แต่ วอลุ่มเพียบ อะไรประมาณนั้น แล้วสมมุติว่า ทำไปซักระยะนึง เกิดไม้ที่ต้องขาย มันดันมาชน กับที่เคยขายไปก่อนหน้า แต่ว่ายังไม่ได้ซื้อคืน รอบใหม่นี่ ต้องขายตามแผนมั๊ยครับ หรือว่า ข้ามไม้นี้ไปเลย จากคุณ : เสี่ยวหลง (เจ้าหนูจำมัย) - [ 25 ก.ค. 51 09:45:48 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าขาลงเข้าใจแล้ว ก็ทำอย่างเดียวกันตอนเป็นขาขึ้นสิครับ มีหุ้น 1000 หุ้น ขาย 1% จะทำให้หุ้นหมดเร็วเกินไปครับ คงต้องอดทนไม่ขายให้ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ พอราคาหักหัวลงก็เริ่มขายใหม่ อย่าคิดว่าขาลงหรือขาขึ้นสิครับ เขียวกอดหุ้น แดงขาย ระยะห่างในแต่ละรอบ 15-20 ช่อง (ขึ้นอยู่กับแต่ละคน) ทำไปเรื่อยๆ เป็นรอบๆ จะเห็นถึงประสิทธิภาพของวิธีนี้ครับ จากคุณ : wasansem - [ 25 ก.ค. 51 10:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ค่อยๆ ตอบทีละคำถามนะครับ เริ่มใหม่ เราจะรู้สึกว่า ทำไมเทคนิคมันเยอะจัง ดูยุ่งยาก ไหนจะขาขึ้น ขาลง 10% 1% แปลงร่าง .... อย่าลืมหลักครับ ลงขาย ขึ้นซื้อ ซื้อถูกกว่าขาย ทั้งหมดคุมด้วยบัญชี ที่เหลือนอกจากนี้เป็นเทคนิคทั้งหมด ห่างกี่ช่องดี ขึ้นขายทีละเท่าไหร่ดี รวบไม้ได้มั้ย ... ทั้งหมดนั้น ปรับเปลี่ยนเอาได้ตามสไตล์ของแต่ละคนได้ แต่แนะนำว่า ใช้ยังไงอยู่ก็ให้ใช้แบบนั้น แบบเดียว เช่น ถ้า ขาย 2 ช่อง ทีละ 10% ก็ให้ใช้แบบนั้นตลอด อย่าเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนไป เช่น รอบนี้ ดูเหมือนจะลงแรง ขายมัน 20% ทุกช่องดีกว่า อย่างนี้มันจะเดาตลาดกลายๆ ทำให้เหมือนๆกันทุกครั้ง เพื่ออะไร เพื่อที่เราจะไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของอารมณ์ ตามความวูบไหวของตลาดครับ ทำจนมันชิน ทำจนเป็นเรื่องธรรมดา จนมันเป็น systematic คุณเด่นถึงได้บอกไงครับว่า ทำๆไปนานวันเข้า มันน่าเบื่อมาก ส่วนเรื่อง dsm สำหรับขาขึ้น หรือขาลง ลองคิดให้ง่ายๆ อย่างงี้ครับ หุ้นลง ลดหุ้น เพิ่มเงิน หุ้นขึ้น เพิ่มหุ้น ลดเงิน อันนี้สัจธรรมของการเล่นหุ้นให้รวย แล้ว dsm ทำยังไง dsm ขาลงขาย เพื่อ ลดหุ้น เพิ่มเงิน ขาขึ้นซื้อ เพื่อ เพิ่มหุ้น ลดเงิน ขาลงขาย ส่วนใหญ่ทำได้อยู่แล้ว ถึงได้คิดว่า dsm เหมาะกับขาลง ขาขึ้นซื้อ ซื้ออะไรได้บ้าง 1.ซื้อคืนที่เคยขายไปแล้ว 2.ซื้อเพิ่มหุ้นที่ขาด หรือหุ้นที่ต้องการจะขยายเพิ่มพอร์ท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบัญชี และ เงินสด จะเป็นตัวบอกว่าควรซื้อตัวไหน แค่ไหน ตอนแรกๆจะยังซื้อไม่ได้เพราะ ยังไม่มีเงินแฝงมากพอที่จะขยาย ก็ทำแบบธรรมดาไปเรื่อยๆก่อน ลองทบทวนดีๆนะครับ dsm ไม่ใช่บอกว่าเป้าหมายคือ กสงฝ หรือ รายได้ เพียงอย่างเดียว แต่ว่าคือการ สะสมหุ้นเพิ่มด้วย ถ้าทำแต่ขาลง ขายแล้วซื้อคืน ก็จะได้รายได้ และได้หุ้นกลับมาเท่าเดิม อ้าว แล้วหุ้นจะเพิ่มได้ยังไง นึกออกแล้วใช่มั้ยครับ หุ้นมันจะเพิ่มจากเดิมได้ ก็ต้องซื้อเพิ่ม ไม่ใช่ซื้อเฉพาะเพื่อจับคู่กับที่ขาย แล้วจะซื้อเพิ่มได้ยังไง ก็ต้องเมื่อมีเงินสะสมไว้พอจะซื้อเพิ่มได้แล้ว ซื้อตัวไหน ก็ตัวที่เหลือน้อยไงครับ (หรือขยายไปหุ้นใหม่เลยก็เป็นอีกแบบ) ทำไมล่ะ เพราะว่ามันดี มันขึ้น มันเก็บไม่ได้ สินค้าขายดี ต้อง stock เข้ามาไว้ขายอีก ส่วนหุ้นที่มีเยอะๆ แปลว่ามันลง เดี๋ยวก็เก็บได้ ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เพราะเวลาเราซื้อหุ้น เราก็หวังว่ามันจะขึ้นนะครับ สบายใจกว่าซื้อแล้วลง ซื้อราคาไหนดี ราคาไหนก็ได้ครับ เพราะเงินที่มาซื้อเป็นเงินรายได้ เหมือนเป็นเงินใหม่ นึกถึงเหมือนตอนเริ่มต้นทำ กำเงินมาจะซื้อ ราคาสูงหน่อยก็ได้หุ้นน้องลงนิด ราคาต่ำก็ได้หุ้นมากขึ้นหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ เพราะ ถ้าซื้อต่ำได้หุ้นเยอะแล้วมันลงต่ำกว่า จะดีหรือ ที่เราซื้อขาขึ้น ราคาอาจสูงหน่อย เพราะเราหวังว่า ซื้อสูง และวมันขึ้นสูงกว่าต่างหากครับ โอ้ย เหนื่อย เดี๋ยวพักก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาดูคำถามที่เหลือใหม่ จากคุณ : ฉินจัง - [ 25 ก.ค. 51 10:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คคห 2 ตอบง่ายหน่อย เพราะไม่ใช่ dsm 555 แต่คิดอีกที เพราะมันง่ายผมไม่ตอบดีกว่า แต่ถามคุณเสี่ยวหลงกลับว่า เป็นไปได้มั้ย ถ้าทุกคนเห็นว่าหุ้นจะลง เลยขายกันหมด สรุปตอนเย็นเป็น net sell กันทุกคน ลองค่อยๆคิดแล้วมาตอบดูนะครับ ดูซิว่าเราจะสามารถอธิบายให้คนอื่นๆ ฟังเข้าใจได้ง่ายๆรึเปล่า วันก่อนอ่านในหว้ากอ เรื่อง cone of learning http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6811170/X6811170.html เค้าว่าการอธิบายให้คนอื่นฟังจะยิ่งช่วยให้เข้าใจมากขึ้นและจำแม่นขึ้นครับ จากคุณ : ฉินจัง - [ 25 ก.ค. 51 10:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองอ่านๆดูที่เหลือ ส่วนใหญ่จะเป็นข้อสงสัยด้านเทคนิค เช่น ขายขาขึ้นไปเรื่อยๆ เหลือครึ่งเดียว ขายขาขึ้นไปเรื่อยๆ หมดมือ ทำยังไงดี อะไรประมาณนั้น ผมเข้าใจครับว่าคุณเสี่ยวหลง คิดว่าถ้าจะเริ่มใช้ dsm จริงๆ ควรศึกษาให้แจ่มแจ้งก่อนดีกว่า มั่นใจแล้วค่อยเริ่มใช้ แต่จะบอกว่าบางอย่างมันอ่านเอาแล้วคิดเอา บางทีมันไม่เข้าใจนะครับ ถ้าไม่เจอสถานการณ์จริงๆ แต่ผมไม่ได้บอกให้คุณเสี่ยวหลงกำเงินโดดเข้ามาลองเลยนะครับ แต่จะแนะนำว่าให้ลองเทรดในกระดาษดูก่อน หรือเล่นในเกมส์หุ้นก็ได้ ทำไปซักพักเดี๋ยวจะค่อยๆเข้าใจมากขึ้นไปเองครับ พอเจอกับปัญหาจริงๆ มั่นใจเมื่อไหร่ค่อยลงทุนจริงๆก็ได้ บางทีฟังพี่ไในนี้พูด มันเหมือนจะรู้เรื่องนะครับ แต่ไม่เจอกับตัวจริงๆ บางทีมันไม่เข้าใจ เช่น เรื่อง 1% ขายทำไม สำหรับผม มีประโยชน์เยอะเชียวครับ (แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ทำ 555) 1. แก้เบื่อ (ถ้าไม่เคยทำจริงๆ ก็จะไม่เข้าใจนะครับว่า มันเบื่อยังไงเวลาหุ้นขึ้น) 2. สร้างรายได้เล็กๆน้อยๆ เวลา sideway 3. ป้องกันการสูญเสียหุ้นมากเกินไปเวลามันย่อขาขึ้น เวลาหุ้นขึ้นมันไม่ได้ขึ้นทีเดียว 100 ช่อง นะครับ อย่างที่คุณยกตัวอย่างว่า เผื่อขายทีละ 1% แล้วหมดมือ แต่มันจะขึ้นไปรอบนึง แล้วย่อลงมาหน่อย แล้วค่อยขึ้นรอบใหม่ ถ้ามันยังเป็นขาขึ้นอยู่ เวลาหุ้นย่อขาขึ้นนี่ บางทีหงุดหงิดนะครับ เอ๊ะ แดงแล้ว ขายดีมั้ย แต่รอบมันกำลังขึ้นดีๆเลย มันจะลงจริงหรือเปล่า หรือมันจะหลอกเอาของเราแล้ววิ่งต่อ ถ้าเคยขาย 1% ไว้ก่อน จะสบายใจขึ้นเยอะครับ ว่าแน่ะ เราขายไว้แล้ว ไม่ต้องขายเพิ่มอีก ขึ้นต่อ ก็หายแค่ 1% ลงมาก็ได้เก็บเล็กๆน้อยๆ ส่วนจะขายทับราคาเดิมมั้ย จะบอกว่า ไม่เคยลอง ไม่มีทางรู้ครับ จะขายก็ได้ ไม่ขายก็ได้ แต่ละคนมีเทคนิคของตัวเอง ตามประสบการณ์ที่เคยเจอ ซึ่งย้ำอีกทีครับ มันคือเทคนิค ไม่ใช่หลัก จับหลักให้แม่น แล้วปรับเทคนิคตามความถนัดของเรา รอพี่ๆ ท่านอื่นมาช่วยต่อนะครับ จากคุณ : ฉินจัง - [ 25 ก.ค. 51 11:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 1% ใช้สำหรับหารายได้เสริม (ได้น้อย แต่บ่อย) 1% ใช้สำหรับวางตำแหน่งราคา (ช่วยจำ) 1% ใช้สำหรับลดความเครียด (อยากได้กำไร) 1% ใช้สำหรับ... คิดไม่ออกแล้วครับ สำหรับคนที่มีวินัยไม่จำเป็นต้องขาย 1% ครับ รอให้ขึ้นถึงจุดสูงสุดค่อยขาย 10% เลยจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า จากคุณ : wasansem - [ 25 ก.ค. 51 11:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แค่สองนี้เข้ามาตอบ ก็น่าจะคลอบคุมได้เกือบทุกกรณีแล้วครับ .................... 1%ของผมเหมือนการขายปลีกของร้านชำครับ 10%ของผมก็เหมือนกับการขายส่งครับ ................... และที่ว่าเราควรจะขายซ้ำกับของเก่าไหม ผมก็เห็นด้วยครับคุณฉินจังที่ว่า จับหลักให้แม่น แล้วปรับเทคนิคตามความถนัดของเรา ส่วนตัวผมก็ขายทับเป็นประจำครับ เพราะผมมองว่ามันเป็นคนละชุดกันครับ ทุกครั้งที่ราคาขึ้นไปถึง 15-20 ช่อง ผมก็จะดึงข้อมูลชุดนี้ที่ขายไว้ออกไปต่างหากครับถือเป็นฐานข้อมูล ( แล้วก็ล็อคจุดซื้อคืนไว้เลยกันลืม ) และมันก็จะเกิดฐานข้อมูลขึ้นอีกเป็นชุดๆไป ตามทางที่มันขึ้นไปได้ 15-20 ช่อง ส่วนหุ้นที่เหลือผมก็จะถือว่าเป็นข้อมูลปัจจุบัน ที่เอาไว้ขายและซื้อคืนทุกวันโดยไม่สนใจสภาวะตลาดว่าจะเป็นยังไง พยายามปิดเกมส์ให้ได้ทุกวัน กับข้อมูลชุดนี้ครับ .......................... จากคุณ : loaw - [ 25 ก.ค. 51 11:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ว่าจะเข้ามาตอบ เลยกลายเป็นเข้ามาอ่านแทนซะนี่... หลังๆ เริ่มรู้สึกว่า ความคิดมันฝืดๆ ตอบไม่ค่อยจะออกแฮะ... สงสัยความรู้ชักจะถอยหลังเข้าคลอง... ............... แต่ผมเห็นด้วยกะคุณพี่ loaw นะ... แค่คุณพี่วสันฯ กะคุณพี่ฉินจัง ตอบเนี่ย ก็ครอบคลุมหมดแล้ว ที่เหลือมันเป็นประสบการณ์ที่ต้องไปทดลองทำเองอ่ะครับ... การถามแม้ได้คำตอบเร็วแต่ไม่ได้ทำ บางทีมันสู้ทำแล้วได้คำตอบด้วยตัวเองไม่ได้... ตรงนั้น จำแม่นกว่ากันเยอะเลย... ....................... คห.15 ของคุณพี่เวย์แบ็ค...(หรือคุณพี่น้องก้านกล้วย ดีล่ะ).. อ่านแล้วสะกิดใจดีจัง ฮี่ฮี่...   ขอบคุณทุกๆ ท่านมากๆ ครับ ...  ทั้งคนถามแล้วก็คนตอบเลย...   จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 25 ก.ค. 51 14:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ได้อ่าน ได้ความรู้ ขอบคุณทุกท่านครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ก.ค. 51 14:22:09 A:125.27.163.192 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากครับพี่ ๆ ทุกๆท่าน สำหรับคำตอบ กระจ่างขึ้นมากระจึ๋งนึงคับ รอวันที่จะเจอกับตัวเอง จะใช้ตัวเองเป็นหมูทดลอง (แป่ววววว์) คือตอนนี้เหมือนเป็นนักรบที่ฝึกทุกวัน แต่พอเข้าสนามรบจริง คนละเรื่อง อะไรแบบนี้ (แป้นแล้น) ปัญหาตามมาแล้วครับ สด ๆ ร้อน ๆ สมมุติว่า เมื่อวาน ราคาปิดที่ 100 บาท Lock ขายของวันนี้ที่ 98 96 94 ตามลำดับ วันนี้เปิดกระโดดลงไปที่ 96 ก็ขายสิคับ ถ้ามันลงต่อก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันขึ้นมาโลเลอยู่ที่ 98 ล่ะคับ พวกพี่ ๆ ทำยังไง จะขายต่อมั๊ยคับ หรือจะถือรอดูอาการ แล้วสมมุติว่าถ้าวันนี้ปิดที่ 98 วันรุ่งขึ้นตรงที่ ราคา 96 ยังต้อง Lock ขายมั๊ยครับ สำหรับผม กลายเป็นว่า ผมไม่ขายอะคับ เพราะถือว่ามันขึ้นมาจาก ราคาต่ำสุด ถ้าวันนี้ปิดที่ 98 แล้วมีฐานข้อมูลอยู่ ก็ต้องหาซื้อเข้ามา (หรือเปล่าคับ) ผมคิดแบบนี้ ผิดพลาด มั๊ยอะคับ ปล.ผมเรียกพวกพี่ ๆ เพราะแต่ละคนมีลูกแล้วทั้งนั้นเลย อิอิ ว่าจะเรียก คุณอา แระแต่กลัวไม่มีใครยอมตอบ (ทำหน้าแป้นแล้น) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 16:04:37 A:58.64.81.223 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่นี่มีแต่พี่กับพี่ครับ ทุกคนเป็นพี่กันหมดเลย อิอิ มีป๋าห่าน กับแม่ช่า ที่มีสรรพนามไม่เหมือนใคร คำถามใหม่ รอท่านอื่นนะ ผมหมดแรงแล้ววันนี้ เนื่องจากขี้โม้จัด ตอบทีไร ยาวๆทุกที จากคุณ : ฉินจัง - [ 25 ก.ค. 51 16:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ควรขายที่ 98 ดีไหม ตอบยากครับ ถ้าขาย ราคาขึ้นไป จะเสียดายหุ้นไหมครับ ถ้าไม่ขาย ราคาลงไป จะเสียดายโอกาสหรือเปล่า เพราะเราไม่รู้ว่าหุ้นจะไปทางไหน จึงต้องค่อยๆ วางหุ้นไว้แต่ละราคา ต้องตอบตัวเองว่าควรขายหรือเปล่า การที่ราคาขยับขึ้นนั้นโอกาสขึ้นต่อคงจะมีมากกว่า ลองตัดสินใจเองนะครับ วางหมากผิดเม็ดเดียว ไม่แพ้ทั้งกระดานหรอกครับ มีทางแก้ไขได้ (แต่อย่าวางผิดบ่อยๆ ละ) พรุ่งนี้ไม่ต้องขาย 96 แล้วนะครับ เพราะเราขายไปแล้ว มองราคาต่อไปได้เลย แต่ราคาดูแปลกๆ นะครับ คุณเสี่ยวหลงขายทุกกี่ช่องหรือครับ ราคา 100 บาท spread 0.50 ทุกสองช่อง ก็น่าจะขาย 96, 95, 94, .... นะครับ จากคุณ : wasansem - [ 25 ก.ค. 51 17:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ที่พยายามจะบอกคือ การแบ่งกองหน้า กองกลาง กองหลัง มันก็เหมือนกลยุทธในการต่อสู้ว่าเราจะวางแผนรุกรับอย่างไร 3-0-2-8 อาจจะเป็นกลยุทธ์นึง ถ้าพี่ไปเจอหุ้นที่แกว่งตัว ระหว่าง 96-99 เป็นปี ก็ต้องรู้ว่าจะรับมืออย่างไร อาจใช้วิธีโค๊ชผมก็ได้ ขาย 99 ซื้อคืน 96 อิอิ สิ่งที่เราได้อ่านเกี่ยวกับ DSM มันเป็นเพียงแต่แนวทางให้ทุกคนไปปรับใช้ให้เหมาะแก่ตัว บางคนขายตามสเตร็ป บางคนใช้เทคนิค บางคนใช้นั่งเทียน อิอิ จะเห็นว่า แม้ว่าทุกคนจะใช้ DSM แต่บางคนก็ยังซื้อขายต่างรูปแบบกัน ตามสไตล์ของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน จะเห็นว่าผมเลี่ยงที่จะพูดถึงรายละเอียดเพราะไม่ว่า advance แค่ไหน ก็แค่ ขายบ่อยๆ เพื่อสร้างโอกาสซื้อคืน ถ้าไม่ขาย ต่อให้ตลาดลงไปแค่ไหน ก็ไม่มีรายได้ ซื้อคืนให้ถูกกว่า เพื่อใช้ทรัพย์สินสร้างส่วนต่าง ดังนั้นการขายก็จะคุมการซื้อไปในตัว ถึงจะซื้อคืนไม่ได้ในวันนี้ อย่าลืมว่าจุดๆนึงในปัจจุบัน สามารถเอาไปเชื่อมได้ในอดีตแม้แต่อนาคต ดังนั้นอย่ากังวลกะปัจจุบันให้มากนัก แค่ลองทำดู แล้วถ้าเจอปัญหา ก็หาวิธีแก้ไข ถ้าไม่ได้ก็กลับมาถามพี่ๆในนี้ ผมคิดว่านี่เป็นวัฒนธรรมอีกอย่างนึงของที่นี่ เราเริ่มต้นจากปัญหา และเรียนรู้จากคำถาม คำถามที่ดี ก็จะได้คำตอบที่ดี ผมว่าพี่เริ่มต้นได้ดีแระ ดีกว่าผมตอนเริ่มอีก จากคุณ : Way Back ฯ - [ 25 ก.ค. 51 18:21:20 A:124.120.91.136 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ค่อนข้างเห็นด้วยกับพี่ ๆ ทุกคนนะครับ ว่าในเรื่องรายละเอียด แต่ละคนอาจต่างกันออกไป ตอนผมเทรดใหม่ ๆ ผมก็สงสัยเรื่องจังหวะการซื้อขายเหมือนกัน แม้ทุกวันนี้ จังหวะซื้อขาย ก็ยังต้องปรับปรุงอยู่อีก ที่ผ่านมาผมค่อนข้างเทรดเบสิค คิดว่า ถ้าทำอยู่ภายใต้หลักใหญ่ ๆ ยกตัวอย่างแบบที่คุณ wasansem พูด ถึงแม้รายละเอียด เทคนิคย่อย อาจต่างกันออกไป อันนี้ก็น่าจะได้ผลพอประมาณครับ คุณเสี่ยวหลง ลองเทรดดูสักเดือน แล้วบางข้อสงสัยที่เคยถามวันนี้ มันแทบจะไม่ย้อนกลับมาให้คิดอีกครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ก.ค. 51 21:55:14 A:125.27.167.100 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านมากครับ (พนมมือสวย ๆ + ยิ้มแป้นแล้น) แหะแหะ ผมนับ spread ผิดไปคับ สับสน นั่นสิเน๊อะ ต่ำกว่า 100 ช่องละ ห้าสิบตังค์นี่นา ผมชอบเล่นหุ้นที่ คาบเกี่ยวแบบนี้อะคับ เพราะเวลาขึ้นจะได้ ช่องละ 1% แต่เวลาลง จะเสียน้อยกว่า 1% ความคิดเด็กน้อยมากเลย คริคริ แล้ว พี่ ๆ มีท่านใด ทำ DSM เป็นโปรแกรมจำพวก Excel มั๊ยคับ เพื่อสะดวกในการลงบัญชี วันนี้ผมทำในสมุด แต่ถ้ามีโปรแกรมจะได้สะดวกขึ้น รบกวนขอตัวโปรแกรมหน่อยได้มั๊ยคับ (ถ้ามีแถมตัวอย่างมาให้ด้วย จะรักมากเลย) ขอบคุณครับ chartroyes69@hotmail.com จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 25 ก.ค. 51 23:12:51 A:58.64.86.90 X: TicketID:123609 ]