วันที่ 4 คิมกับคุณสามีไปทำธุระที่กาดสวนแก้วจังหวัดเชียงใหม่
บังเอิญ คุณสามีต้องโอนเงินให้กับ supplier เจ้าหนึ่ง
เราก็เลยไปโอนเงินกันที่ธนาคารกรุงเทพสาขากาดสวนแก้ว
ซึ่งเป็นสาขาที่คิมไม่อยากไปที่สุด ระหว่างนั่งรอโอนเงิน
คิมก็มองเห็นป้ายเงินฝากประจำดอกเบี้ย 3.8 เปอร์เซ็นต์
ต้องฝากตั้งแต่ 5 แสน ถึง 5 ล้าน
บังเอิญคุณผู้จัดการธนาคารกรุงเทพสาขานี้เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น
คิมก็เลยถามว่า "ขอโทษนะคะ แล้วคนที่มีเงินฝากประจำกับ
ธนาคารกรุงเทพอยู่แล้วจะได้รับดอกเบี้ยนี้ไหมคะ?"
คุณผู้จัดการก็จัดแจงสอบถามคิมว่ามีเงินฝากอยู่ที่สาขาไหน
จำนวนเท่าไหร่ คิมก็ตอบไปว่า "คาร์ฟูร์เชียงใหม่ค่ะ
จำนวนเงินเป็นเลขเจ็ดหลัก" คุณผู้จัดการทำตาพึงพอใจ
คงนึกว่าลาภลอยมาถึงมือเธอแล้ว เธอรีบบอกว่า
"ที่ฝากแล้วไม่ได้ค่ะ เพราะต้องฝากแบบห้าเดือน
วันไหนว่าง คุณน้องเอาสมุดฝากประจำ สีส้มมาที่นี่สิคะ"
คิมก็ยิ้มๆ ไม่ตอบอะไร ในใจรู้ว่าผู้จัดการคนนี้และธ. กรุงเทพ
สาขานี้จะไม่ได้เงินฝากจากคิมแน่ๆ
สาเหตุไม่ใช่เพราะครั้งนี้หรอกค่ะ คุณผู้จัดการเธอคงจำไม่ได้ว่า
"คุณน้อง" ที่เธอเรียกในวันนี้นั้นเป็นคนเดียวกับ "คนอย่างน้องนี่แหละ"
ที่เธอเคยเรียกคิมเมื่อหลายเดือนก่อน
หลายเดือนก่อน ระหว่างที่เรากำลังย้ายบ้าน
คิมกับคุณสามีในสภาพมอมแมมเพราะกำลังขนของ
เราทั้งคู่สวมเสื้อยืด กางเกงวอร์มและรองเท้าแตะ
เพื่อความสะดวกในการทำงาน คุณสามียืนดูสินค้าอยู่ภายนอก
ส่วนคิมได้เดินเข้าไปที่ธ. กรุงเทพ
สาขากาดสวนแก้วนี่ละค่ะ เพื่อขอความช่วยเหลือ
เนื่องจากคิมมีความจำเป็นต้องจ่ายค่าบริการ
ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งและเนื่องจากเรากำลังอยู่ในระหว่างย้ายบ้าน
เราจึงหาใบชำระเงินไม่พบ แฟกซ์หรืออินเตอร์เน็ตก็ยังไม่ได้ต่อ
เนื่องจากจนท. ธ. กรุงเทพบางสาขาเคยให้ความกรุณา
ช่วยเหลือเวลาไปชำระเงินโดยไม่มีใบเปย์อินไป
โดยยอมให้แฟกซ์มาที่สาขาได้ คิมจึงคิดว่าจะไปขอความช่วยเหลือ
กับพนักงานสาขากาดสวนแก้วดู
คิมเดินเข้าไปหาคุณผู้จัดการคนเดียวกันนี้เลยด้วยท่าทีสุภาพ
และถามเธออย่างเกรงใจว่า
"ขอโทษนะคะ ดิฉันจำเป็นต้องชำระค่าบริการให้บริษัทกขค.
ภายในวันนี้ แต่กำลังย้ายบ้านอยู่จึงหาใบชำระไม่เจอ
อยากจะขอความกรุณาให้ทางบริษัทกขค. ส่งแฟกซ์มาที่ธ.
เพื่อจะชำระเงินที่ธ. ได้ไหมคะ"
คุณผู้จัดการคนนี้เธอต่อว่าคิมด้วยวาจาหนักประมาณสองตันกลับมาว่า
"ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ ธ. ไม่ได้มีหน้าที่ให้บริการนะคะ
เพราะคนอย่างน้องนี่แหละทำให้ธ. ต้องมีค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น"
เธอพูดดังๆ ด้วยเสียงแหลมสูง คิมจึงกล่าวคำขอโทษแล้วออกจากธ.
อย่างเร็วที่สุด จากนั้นคิมได้รับความช่วยเหลือในการรับแฟกซ์
จากจนท. ธ. กรุงไทย สาขากาดสวนแก้วทำให้สามารถชำระเงินได้
ทันเวลา
สิ่งที่อยากจะบอกคุณผจก. และผู้ให้บริการทุกคนก็คือ
ในวันนั้น ถ้าคุณผจก. ช่วยคิมในวันนั้นโดยเสียค่าไฟและค่ากระดาษ
1 แผ่นในการรับแฟกซ์ มีค่าใช้จ่ายประมาณไม่เกิน 1 บาท
เมื่อวานนี้ คิมคงจะยินดีย้ายบัญชีไปไว้สาขาคุณ
หรืออาจจะเปิดบัญชีกับสาขาคุณไปตั้งแต่แรกแล้ว
หรือถ้าคุณไม่ช่วย เพียงแค่ปฏเสธอย่างสุภาพสักนิด
และไม่ทำสายตารังเกียจคนที่แต่งตัวปอนๆ อย่างที่คุณทำ
คิมก็คงจะไม่รังเกียจการเข้าไปรับบริการที่สาขาคุณมาก
จนตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่มีวันเปิดบัญชีกับสาขาของคุณ
เป็นอันขาดและถ้าไม่จำเป็นจะไม่เหยียบย่างเข้าไปด้วย
เสียใจด้วยนะคะ ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมสองสามีภรรยา
ที่คุณเชิญชวนให้มาเปิดบัญชีกับคุณในวันนั้น
เขาจึงไม่มา สาเหตุก็เป็นเพราะกิริยามารยาทของคุณนั่นแหละค่ะ
ไม่ใช่เพราะใคร เงินจำนวนนี้อาจจะไม่มากนักถ้าเทียบกับ
ยอดเงินฝากที่คุณต้องหาในแต่ละไตรมาส
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าลูกค้าคนอื่นๆ ที่คุณเคยทำพฤติกรรม
คล้ายๆ กันไว้สักกี่คนที่เขาคิดเหมือนคิม
---------------------------------------------------------------------------
ขอนำข้อความที่คิมโพสต์ตอบคคห. ของคุณสริตาไว้ในคคห. ที่ 54
มาแปะเพิ่มไว้นะคะ เผื่อบางท่านที่ไม่มีเวลาอ่านทุกคคห.
จะได้เข้าใจมากขึ้นว่าคิมไม่พอใจเพราะอะไร
คิมไม่ได้คิดว่าทางธนาคารผิดเลยค่ะ
ธนาคารและคุณผจก. มีสิทธิ์ทุกประการที่จะปฏิเสธไม่ให้คิม
ใช้แฟกซ์ของทางธนาคารรับแฟกซ์ในวันนั้น
สิ่งที่ทำให้คิมเสียใจคือวิธีการพูดของคุณผจก. ที่พูดกับคิม
ราวกับคิมเป็นตัวทำให้ธนาคารของเขาล่มจม
โดยจิกเรียกคิมว่า คนอย่างน้อง
ทั้งๆ ที่คิมไม่เคยไปสร้างความเสียหายอะไรให้ธนาคารกรุงเทพเลย
แม้แต่ครั้งเดียว
ถ้าคุณผจก. ปฏิเสธเฉยๆ คิมจะไม่ว่าอะไรเลย
และถึงคุณผจก. จะปฏิเสธมาแบบนี้ คิมก็ไม่ได้ตอบโต้
เพราะรู้ว่าเธอไม่ผิดที่ปฏิเสธ แต่จริงๆ วิธีการปฏิเสธให้ลูกค้ารู้สึกดี
ก็มีนี่คะ คิมเองไม่ได้ปรารถนาถึงว่าเขาจะมาบริการเราหรือทรีตเรา
ราวกับลูกค้าคนพิเศษ แค่เพียงความสุภาพตามปรกติที่
ผู้ให้บริการพึงมีต่อผู้รับบริการก็เพียงพอแล้วค่ะ
แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 51 22:33:31