ความคิดเห็นที่ 10
เอาบางส่วนของบทความคุณพี่สาวคนสวยมาให้ดูบางตอนที่เกี่ยวกับหุ้น...
สวัสดีค่ะ วันนี้หุ้นไทยตอนช่วงเช้าขึ้นแรง ขณะที่หุ้นจีนลงหนักมากกว่า 9% อุตส่าห์เข้ามาดูก่อนเปิดตลาดบ่าย เห็นแต่ละตัวอาการดีมาก ก็ลงไปจ่ายค่าส่วนกลางที่ office ชั้นล่าง และตามช่างคอนโดเรื่องโทรสายพ่วงใช้ไม่ได้ แต่ช่างยังไม่ว่าง ขึ้นมาดูหุ้นบ่าย 3 กว่าๆ กำไรหายเกือบหมดแล้ว อุตส่าห์รอดูทีท่า พอวิ่งกลับมาดูหุ้น กำไรกลายเป็นเท่าทุนและขาดทุน pttep ซื้อมากที่สุดแถว 150-152 (เช้าเห็นขึ้นไป 156) ต้องมาตัดขาดทุนไม้เดียวที่ 149 หุ้นหลายตัว ขึ้นสูงแล้วปิดต่ำสุด อาการไม่ค่อยดี กองทุนทั้งไทยและเทศ ตุนหุ้นกลุ่มพลังงานไว้กว่า 44% และกลุ่มธนาคารกว่า 20% คงได้ยื้อกันอีกนาน กว่าเราจะหาราคาเหมาะสมกับการลงทุนถือเจอ ตอนนี้ก็เก็งกำไรตามๆเขาไป กลุ่มที่ outperformed ยังคงเป็นกลุ่มธนาคารและอหังสา ตามที่บอกไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน การเล่นแต่ละรอบนั้น กลุ่มใดที่โดดเด่น ก็จะยังคงเป็นกลุ่มนั้น จนกว่ารายใหญ่จะขายได้หมดก่อน ราคา BBL วันนี้ เท่ากับ ตอน SET 850 จุด ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันปัจจุบัน ก็เท่าๆกับตอนที่ PTTEP ราคาเกือบ 200 PTT ราคาเกือบ 400 เพราะฉะนั้น อย่ามาบอกเลย น้ำมันลง หุ้นน้ำมันจึงลง น่าจะบอกว่า ตอนนั้นไล่ซื้อหุ้นพลังงานเพลินไปหน่อย ตุนไว้เยอะเกิน ผิดหลักกระจายความเสี่ยง โดยหลักความจริง ในการเกิด recession กลุ่มที่จะถูกกระทบหนักที่สุดคือสถาบันการเงินและอหังสา ฉะนั้น 2 กลุ่มนี้ จึงไม่อาจจะไว้วางใจได้เช่นกัน กำไร = ขาย ประวัติศาตร์มักจะซ้ำรอยเดิมเสมอ หุ้นไทยเปิดมา 32 ปี กลุ่มสุดท้ายที่ขึ้นปิดท้าย คือ ธนาคาร เป็นเช่นนี้มาตลอด เมื่อก่อนจะแถมกลุ่ม finance ให้ด้วย แต่หลังจากเจ๊งๆกันไปเกือบหมด ตอนนี้แยกเป็นธนาคารเล็กๆ และหลักทรัพย์ ทั้งนี้...จะทำบัญชีพรางตัว หมกเม็ดหนี้สินและ NPL รอบนี้ดิฉันไม่ได้ติดหุ้น bbl-f ไว้ ซื้อแต่ TMB 1.12 เหตุผลคือ มันลงมาต่ำจนไม่รู้ว่าจะลงไปตรงไหนแล้ว เพื่อนพ่อซื้อตอน IPO เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ราคาแตกพาร์แล้วก็ 10 บาท รู้สึกว่าท่านจะชอบแต่ธนาคารเล็กๆ ทั้งที่ธนาคารใหญ่ๆก็ IPO ที่ราคาเท่าๆกัน ขึ้นมาก็ยุเพื่อนให้ขาย เธอก็ไม่ยอมขาย หลังจากตลาด peak เมื่อวันที่ 4 มกรา 1994 ตลาดก็ลงมาร่วม 200 จุด พอ rebound โดย SET ไมีมี new high แต่กลุ่มที่อยู่ในแฟชั่นขณะนั้นคือกลุ่มการเงิน กลับยังวิ่งทำ new high กัน BBL ไปต่อถึง 250+ SCB 320 KBANK 204 และที่สุดยอด TCAP 500 บาท ต่อเมื่อรายใหญ่ระบายสินค้าในมือไปหมด สินค้าแฟชั่นก็จะถูกป่าวประกาศว่าล้าสมัย ถูกเทขายเลหลัง สุดท้าย อย่างแพงสุดคือ 1 แถม 10 ยันถูกสุด 1 แถม 200 แถมยังมีสินค้าค้างโกดัง ที่แทบจะยัดเยียดให้เปล่าๆ จ่ายแค่ค่ารถ (ก็คือค่าคอม) มาเอาของเท่านั้น การที่หุ้นจีนลงหนักมาก ดิฉันดูแล้วก็ไม่สบายใจ ใช่ว่าหุ้นทุกกลุ่มของเขาจะแพง เพราะดิฉันเคยเอา charts ราคามาให้ดูกันแล้ว กลุ่มสาธารณูปโภคเขาตอนตลาดกระทิงสุดๆ เล่นกันที่ PE แค่ 8 เท่า กลุ่มพลังงาน และธนาคารก็พอๆกับไทย ที่สูงเว่อร์ๆคือกลุ่มอุปโภคและบริโภค หุ้นเก็งกำไรตัวเล็กๆหุ้นเกี่ยวกับ Internet, กลุ่มอาหาร ร้านขายปลีก และโทรคมนาคม ธนาคารจีนกันสำรองไว้มหาศาล ทุนสำรองในประเทศก็มหาศาล ตอนนี้ค่าเงิน US$ แข็งขึ้น ประเทศเจ้าหนี้ค่อยยิ้มออกหน่อย ถ้าจีนไปไม่ไหว ของซื้อของขายที่แย่งๆกันอยู่ ก็จะลดน้อยลง ดิฉันจะดู shipping indicator เป็นหลัก เพราะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการค้าขายระหว่างประเทศ จะมาโกหก หรือเล่นปั่นกระดาษกันไม่ได้ ซึ่งหากว่าซื้อหุ้นเรือไม่ได้ ก็จะไม่ซื้อหุ้นตัวไหนเลย
จากคุณ :
คนล่าห่าน
- [
วันแม่แห่งชาติ 09:56:50
]
|
|
|