ความคิดเห็นที่ 1 ปิดหนี้หมดแล้วไม่ใช่หรือครับ..... งง ผมแปลไม่ออกจริงๆ จากคุณ : pjuk - [ 16 ส.ค. 51 21:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 งง จากคุณ : yai-cho - [ 16 ส.ค. 51 21:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พี่จุกคะ   อ่านแล้วเข้าใจว่าเค้าส่งเงินเดือนละ 6000 มาตลอด 7 ปีค่ะ แล้วไปยืมเงินจะมาขอปิดหนี้ตามที่จดหมายแจ้ง เพราะไม่งั้นจะปรับดอกจาก 6 %  เป็น 15 % อันนี้ไม่ทราบว่าเค้าหยุดส่งไปก่อนหน้าหรือเปล่า  ถึงโดน หรือเกิดจากระเบียบของธนาคารเวลาที่หนี้นานๆ ถึง 7 ปี แล้วเค้าก็ไปยืมเงินมา  แล้วขอปิดหนี้  แต่ธนาคารไม่อนุมัติซักที ระหว่างนั้น  ไม่รู้ไปหยุดส่งเดือนละ 6000 หรือเปล่า เค้าก็เลยแทงบัญชีหนี้เสีย  ขายไปเรียบร้อย ตอนนี้หนี้เลยไปอยู่กับบริษัทใหม่  เค้าจะขอปิดหนี้อีกก็ไม่สำเร็จ รู้สึกบริษัทใหม่จะเรียกเงินมากขึ้นอีก อันนี้ก็เข้าใจค่ะ  ก็ต้นบวกดอกเบี้ยช่วงที่ค้างส่งนี่เนาะ ค้างส่งช่วงมีเรื่องก็คง 2-3 ปีแล้วล่ะ ลองคำนวณดูแล้ว  ยอดเงินที่เค้าส่งเดือนละ 6000 บาท   มันผ่อนต้นได้เดือนละ พันกว่าบาทเท่านั้นเอง   ซัดเป็นดอกเบี้ยไปเดือนละ 4 พันกว่าบาท   คิดๆ แล้วก็เหมือนจ่ายค่าเช่าบ้านนั่นแหล่ะค่ะ ความเห็นก็คงต้องให้เค้าประนอมหนี้อีกครั้งแหล่ะค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ก็คงต้องอธิบายให้เค้าฟัง   ว่ารวมดอกช่วงที่เค้าหยุดส่งไปอีกก็เป็นเงินเท่าไหร่แล้ว ถ้าเข้าใจผิดตรงไหน  พี่จุกช่วยชี้แจงให้ฟังหน่อยค่ะ   เพราะอ่านเองแล้วเข้าใจอย่างนี้ค่ะ ว่าแต่  พี่จุกบริการดีจังค่ะ  ฉับไวมั่กๆ เห็นขยัน  คอยช่วยเหลือหลายกระทู้แล้วค่ะ ขอมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : มือใหม่เล่นหุ้น - [ 16 ส.ค. 51 23:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากครับ.... แต่ปัญหา อาจยากเกินแก้ไข ได้จากทางธนาคารไปแล้ว เพราะหนี้ส่วนนี้ ได้ถูกจ่ายโอนออกจากธนาคารไปแล้วนะครับ.... คงเหลือช่วยได้เพียง เกียรติบัตร ที่อาจมีประโยชน์บ้างครับ.... คงต้องลองดู จากคุณ : pjuk - [ 17 ส.ค. 51 00:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่างที่ คห 3 บอกนั่นละคะ เราเคยอ่านเจอที่ห้องนั่นแล้วทีนึง แต่เข้าใจนะว่า  บางทีเป็นกฏของธนาคร   อย่างเราผ่อนไม่ครบเค้าต้องยึดบ้านคืน แล้วทีนี้เจ้าของกระทู้คิดว่า   เงินที่ส่งไปนะ มันเท่ากับค่าบ้านแล้วนิ แล้วส่วนที่เหลือ  ที่จะให้ประนอมหนี้ ราคาก้อเท่ากับบ้านตอนนี้ ซึ่งเหมอืนกับว่าเค้าผ่อนบ้าน เป้นราคาสองเท่า เหมอืนกับว่า จ่ายไปแล้วเท่ากับราคาบ้าน แล้วต้องมาประนอมหนี้เท่ากับราคาบ้านอีก บ้าน เจ็ดแสน แต่ต้องจ่ายทั้งหมด   ล้านสี่ ประมาณนี้ค่ะ จริงๆ  คิดตรงนั้นมันลำบากนะ เพราะเราก้อรู้ๆ  ว่า  ราคาต้น บอกดอกเบี้ย  มัน จะขึ้นเป็นเท่าตัว    ส่วนนี้มั่งที่ทำให้เค้าท้อ   แล้วเท่าที่อื่น เหมือนว่าเค้าต้องทำผิดสัญญาไปนะ   ธนาคารถึงได้จำหน่ายเป็นหนี้สูญ แล้วเงื่อนไขอื่นๆ  เราก้อไม่รู้ตื้นลึกกับเค้า   อย่างพี่จุ๊กบอก  มันช่วยลำบาก   คงต้องให้เค้าปรึกษาทนายดู แต่เท่าที่เราดู  เราว่ามันยากนะ   อารมณ์เค้าคงเสียใจมากแหละ  อันนี้เข้าใจ จากคุณ : สี่สิบดีกรี - [ 17 ส.ค. 51 09:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะ ตอนแรกว่าจะเข้าไปตอบที่กระทู้นั้นเหมือนกันค่ะ แต่อ่านแล้ว  ท่าทางเค้าจะกำลังเสียใจมาก ก็เลยไม่แน่ใจ  ว่าตอบที่นั่นจะดีไหม ถ้าเราเข้าใจถูกแล้วก็ดีใจค่ะ   สมัยก่อน 10 กว่าปีก่อน  ราคาบ้านก็คงแพงเกินจริงเหมือนกันค่ะ   เพราะเป็นช่วงก่อนฟองสบู่แตก  ยังดีที่พักนี้ราคาที่ดินค่อยขึ้นมาคืนบ้าง เห็นใจคนที่ลงทุนช่วงนั้นมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : มือใหม่เล่นหุ้น - [ 17 ส.ค. 51 14:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมแค่ได้อ่านกระทู้ครับ ก็เลยนึกถึง pjuk เผื่อว่า จะช่วยอะไรเค้าได้บ้างครับ ก็เลยมาตั้งกระทู้ที่นี่ ยังงัยก็ขอบคุณมากครับ และขอบคุณเพื่อนคนอื่นๆ ที่มาช่วยออกความคิดเห็นครับ จากคุณ : dangerous - [ 18 ส.ค. 51 10:36:59 ]