ความคิดเห็นที่ 1 1000 หุ้น ที่ขายไป ถือว่าเป็น กองหลัง คับ ถ้าหากราคายังไม่ลงต่ำกว่าที่ขาย ก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นคับ ส่วนจะทำยังไงให้มีหุ้นกลับมาครบเหมือนเดิม คงต้องให้ "เวลา" เป็นตัวแปรสำคัญคับ จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 19 ส.ค. 51 22:41:09 A:58.64.81.93 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 2 *** ถ้าหุ้นขึ้นมาที่ 19-20 เรื่อยๆๆอย่างที่คุณว่าไว้หลังจาก ที่ขายไม้แรกแล้ว ผมว่าจำนวนหุ้นที่มีไม่ใช่แค่ ครบหมื่น แต่ต้องมีมากกว่าหมื่นแล้วครับ *** ยิ้ม * จากคุณ : ดะเชา - [ 19 ส.ค. 51 22:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงคุณเสี่ยวหลง, ช่วยขยายความ หรือยกตัวอย่าง หน่อยครับที่ว่า "ถ้าหากราคายังไม่ลงต่ำกว่าที่ขาย ก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นคับ ส่วนจะทำยังไงให้มีหุ้นกลับมาครบเหมือนเดิม คงต้องให้ "เวลา" เป็นตัวแปรสำคัญคับ" "เวลา" เป็นตัวแปรสำคัญ --- > รอจนถึงเมื่อไรครับ หรือดูอะไรเป็นพิเศษ ว่าถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรบางอยางแล้ว ??? ถึงคุณดะเชา, หมายถึงปิดตลาดมาราคามันกระโดด ครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ^_^ จากคุณ : miracles_maker - [ 19 ส.ค. 51 23:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปัญหาหลักของคนเริ่มต้นใหม่ๆ คือ กรอบของ "เวลา" ครับ ยังมองไม่เห็นคำว่า เวลาไม่จำกัด เพราะเราถูกฝึกให้วัดผลงานโดยการจำกัดเวลา เวลาจะสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเราต้องการถือหุ้นไว้ตลอดชีวิต ขอเพียงเราซื้อขายตามแผนไปเรื่อยๆ เวลาจะทำให้โอกาสซื้อคืนมาถึงเราเอง ถ้าคุณ miracles_maker ยังงง ขอแนะนำว่าลองเอาข้อมูลตั้งแต่ปี 2006 มาทดลองซื้อขาย หุ้นตัวไหนก็ได้ (ยกเว้น itv นะครับ) จะพบความมหัศจรรย์ของเวลา ^^ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 51 05:26:23 จากคุณ : wasansem - [ 20 ส.ค. 51 05:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้ว พี่วสันต์ มาแต่เช้าเลย อรุณสวัสดิ์ครับ ----------------------------------------------- ไหนๆ มาแล้วก็แอบแจมหน่อย ซื้อไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องซื้อครับ dsm ไม่ได้รับประกันว่าจะต้องมีหุ้นเท่ากับตอนแรกตลอดเวลา เราขายเพื่อสร้างโอกาสซื้อคืน และที่ขายเพียง 10% ก็เพื่อรับความเสี่ยงในกรณีที่มันยังไม่ลงมาให้ซื้อนี่แหละครับ ขายแล้วไม่ลง ก็ยังสบายใจที่ยังมีหุ้นอีก 90% พากันขึ้นไปกับราคาที่สูงขึ้นด้วย ขายแล้วลงก็ยิ่งสบายใจ เพราะขายไว้แล้ว จะรอซื้อคืนราคาไหนก็ได้ที่ต่ำกว่า ทำไปนานๆ เดี๋ยวก็จะเข้าใจเองแหละครับ ว่าแทบไม่มีหุ้นตัวไหน ที่ราคาใดๆ เลยที่ขายไปแล้วจะไม่กลับลงมาให้เราซื้อคืน บางตัวผมขายรอไว้ตั้ง 3 ปีแน่ะ กว่ามันจะลงมาให้ซื้อกลับ ว่าแต่คุณ miracles_maker ว่างมั้ยล่ะครับ มารอด้วยกันมั้ย จากคุณ : ฉินจัง - [ 20 ส.ค. 51 05:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดี๋ยวสักวันมันก็ลงมารับครับ ไม่ต้องกลัว จากคุณ : Dearibo - [ 20 ส.ค. 51 09:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ๊วววว์ .......... พี่ตะเชาคับ ข้าน้อย ขอคำชี้แนะจากท่านด้วย ทำยังไงให้หุ้นมากกว่าเดิมคับ มีวิธีให้หุ้นตัวเดิมมากกว่าเดิมมั๊ยคับ ผมคิดไม่ออกเลย (งง งง งง) จากคุณ : เสี่ยวหลง - [ 20 ส.ค. 51 10:07:59 A:58.64.83.73 X: TicketID:123609 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านคำถามแล้ว ยังงง ๆ นิดนึงครับ 1. ช่วงเวลาที่ถาม หมายถึง ภายในวันเดียว หรือหลาย ๆ วันครับ 2. "แต่หลังจากนั้นมันไม่ลงต่ออีกเลย กลับขึ้นมาที่ 19.00 - 20.00 ตลอด" ช่วงที่ราคาขึ้นมาที่ 19 - 20 ได้ทำอะไรบ้างครับ 3. "แบบนี้เราทำยังไงให้มีหุ้น ครบ 10 000 เท่ากับที่เราซื้อไว้ครังแรกครับ" อันนี้คิดไว้ว่า อยากให้มีหุ้นกลับมาจำนวนเท่าเดิม ในกรอบระยะเวลาแค่ไหนครับ 4. สงสัยว่าทำไมถึงมุ่งประเด็นไปที่การมีหุ้นกลับมาให้ครบครับ ............................................................................................... จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 20 ส.ค. 51 10:10:24 A:125.27.160.22 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถึงคุณ wasansem ขอบคุณมากครับที่ช่วยชี้ความกระจ่าง ^_^ ถึงคุณฉินจัง, 3 ปีเลยหรือครับ กว่าจะได้ซื่อคืน --- > คงต้องรอแล้วล่ะครับ อื่ม...แล้วอย่างนี้เราจะเอาเงินส่วนนี้ไปทำอะไรครับ (ไปซื่อตัวอื่นได่ ป่ะ?) แล้วตอนไหนเราถึงจะมีหุ้นมากกว่าเดิมที่เคยซื่อล่ะครับ -_-' ถึงคุณ ดอกไม้ DSM, 1. ช่วงเวลาที่ถาม หมายถึง ภายในวันเดียว หรือหลาย ๆ วันครับ ---> หมายถึงว่าเราต้องรอไปนานเท่าไรน่ะครับ 2. "แต่หลังจากนั้นมันไม่ลงต่ออีกเลย กลับขึ้นมาที่ 19.00 - 20.00 ตลอด" ช่วงที่ราคาขึ้นมาที่ 19 - 20 ได้ทำอะไรบ้างครับ ---> ไม่สามารถทำอะไรได้ครับ คือสมมติว่าเปิดตลาดมาราคามันกระโดด น่ะครับ 3. "แบบนี้เราทำยังไงให้มีหุ้น ครบ 10 000 เท่ากับที่เราซื้อไว้ครั้งแรกครับ" อันนี้คิดไว้ว่า อยากให้มีหุ้นกลับมาจำนวนเท่าเดิม ในกรอบระยะเวลาแค่ไหนครับ 4. สงสัยว่าทำไมถึงมุ่งประเด็นไปที่การมีหุ้นกลับมาให้ครบครับ --- > ก็คือหลังจากที่ขายแล้วเราจะได้เงินสดเพิ่มขึ้น แต่มันไม่งอกเงยน่ะครับ แบบนี้เราสามารถนำไปซื้อตัวอื่นได้รึเปล่าวครับ? ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำจากใจจริง ^_^ จากคุณ : miracles_maker - [ 20 ส.ค. 51 18:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความเห็นส่วนตัวผมเองนะครับ ใน DSM แม้จะพยายามยึดกฎค่อนข้างเคร่งครัด ก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่างมาก กับหุ้นหรือเงินสดในมือ ถ้าจะถามว่า เงินสดที่ได้จากการขายหุ้น เอาไปซื้อหุ้นได้ไหม ผมคงตอบว่า "ได้" แน่นอนครับ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า ซื้อเพราะอะไร ซื้อแล้วจะทำอะไร คำว่างอกเงย คือหุ้นเพิ่มขึ้น ต้องมาจากการทำอะไรบางอย่าง คราวนี้มันเลยต้องลองย้อนกลับมาที่แนวคิดพื้นฐานของการเทรดแบบ DSM ในทัศนะของคุณ miracles_maker ก่อน ว่าศึกษาแล้ว คิดว่า DSM สร้างหุ้น หรือสร้างผลตอบแทนให้เราอย่างไร สร้างจากขั้นตอนไหน ต้องทำอะไรก่อนหลัง เราลองสมมติสถานการณ์ปกติว่าหุ้นเคลื่อนไหวธรรมดา ไม่กระโดด เราซื้อขายอย่างไร สร้างผลตอบแทนอย่างไร พอเราจับหลักการในภาวะที่หุ้นเคลื่อนไหวปกติได้แล้ว ก็ค่อยมาปรับเข้ากับเวลาที่เจอหุ้นกระโดด อีกอย่างนึงคือ ปกติหุ้นจะกระโดดในช่วงไม่นานนัก บางทีเปิดกระโดด หล่นวูบลงมา แล้วราคาก็เริ่มปกติ bid offer ใกล้เคียงกัน หรือบางวัน เปิดกระโดด ทั้งวันไม่มี Vol. หรือมีน้อย แต่อาการแบบนี้ก็เป็นอยู่ได้ไม่กี่วัน แต่ถ้าเป็นหลายอาทิตย์ หรือเป็นเดือน ก็น่าจะต้องพิจารณาหาหุ้นตัวใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราจับหลักใหญ่ได้ เรื่องการกระโดดของหุ้น ก็เป็นเรื่องที่เราสามารถรับมือได้ครับ ลองเล่าให้ฟังก่อนได้ไหม ว่าตอนนี้ปกติทำอย่างไร จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 20 ส.ค. 51 20:11:04 A:125.27.165.177 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บางทีอาจดูเหมือนผมพยายามถามคำถาม เพื่อให้เจอคำตอบเอง แต่อีกแง่นึง ก็อยากพยายามเข้าใจคนถามให้มากที่สุด เพราะวิธีเล่นมีหลากหลาย แม้จะอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์สั้น ๆ อย่างเช่น "ซื้อให้ถูกกว่าขาย" ถ้าทราบว่าปกติ ใครเล่นอย่างไร ปัญหาคืออะไร ถ้าผมเคยเจอปัญหานั้น ก็อาจแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้ตรง ลำพังกับคำถามที่ว่า ขายหุ้นไปไม้นึง แล้วจะทำอย่างไรให้หุ้นเพิ่มมาเท่าเดิม หรือเพิ่มมากขึ้น สามารถตอบได้เลยว่า ก็ใช้หุ้นที่เหลือ และเงินที่มีอยู่ในมือ ทำกระบวนการ DSM ซ้ำ ๆ ต่อไป หุ้นก็จะเพิ่มขึ้นเอง แต่คราวนี้ตอบแบบนั้น มันจะตรงกับใจ หรือมีประโยชน์ต่อคนถามหรือเปล่า จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 20 ส.ค. 51 20:16:00 A:125.27.165.177 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างปกติ ใน DSM เราขายหุ้น แล้วซื้อคืน ส่วนต่างคือเงินสดแฝง เราทำการขายแล้วซื้อคืน ซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง สะสมเงินแฝงได้จำนวนนึง ก็เอาไปซื้อหุ้น หุ้นที่ได้มาก็จะเป็นหุ้นที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าลักษณะของหุ้นตัวนั้น ในขณะนั้น จะเป็นขาขึ้นหรือขาลง หากเราขายและซื้อคืนได้ เราก็ได้เงินแฝง และซื้อหุ้นเพิ่มได้ตลอด ถ้ามองแบบเบสิคล้วน ๆ หากเรามีกองหลัง 3 ไม้ ก็เหลือ 7 ไม้ ให้ขายข้างบนเรื่อย ๆ พอหุ้นลงหรือมีโอกาสซื้อคืนได้ก็ซื้อคืน ผลต่างก็สะสมมาซื้อหุ้นเพิ่ม ทำไปสักระยะ จำนวนหุ้นที่ซื้อเพิ่มได้ก็จะ cover กองหลัง อาจจะมีกองหลัง 3 ไม้เท่าเดิม แต่หุ้นที่เหลือเล่นข้างบนอาจเพิ่มเป็น 10 ไม้ จุดเบสิคมาก ๆ คือ ขายแล้วซื้อคืน ขายในจำนวนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องคาดเดาตลาด ขายแล้วซื้อคืนไปเรื่อย ๆ สักระยะอาจมองว่าเงินกองหลัง อยู่เฉยไม่ได้ใช้ประโยชน์ ถ้าคิดแบบนั้นจริง ๆ ก็ลองแปลงกองหลัง แปลงแล้วก็ทำตามหลักการธรรมดาต่อไป เอาหุ้นที่แปลงมาขายแล้วซื้อคืน ทำซ้ำ ๆ ต่อไปอีก ได้เงินแฝงก็เพิ่มหุ้น จะเพิ่มตัวเดิม หรือเพิ่มตัวใหม่ก็ตามแต่ ทำไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นจุดต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น พลิกแพลงได้มากขึ้น ตราบใดที่ยังอยู่ในหลักการพื้นฐาน และถ้าตลาดหุ้นหรือหุ้นตัวนั้น ๆ ที่เราถือ ไม่ได้มีปัญหาถึงกับต้องหยุด หรือเลิกกิจการไป เราก็จะมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มูลค่าพอร์ต หรือรายได้ ก็จะเพิ่มตามมาโดยธรรมชาติครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 20 ส.ค. 51 20:35:06 A:125.27.165.177 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พูดว่า 3 ปี ค่อยได้ กสงฝ อาจทำให้ dsm ดูเรื่อยเชื่อยไปหน่อย จริงๆ ระหว่างนั้น เงินก้อนนั้นมันก็ไม่ได้นอนอยู่ที่เดิมหรอกครับ มันออกมากระโดดโลดเต้นนานแล้ว DSM ก็มีหลักไว้ให้หมดแล้วนะครับ ว่าหน้าที่ของ หุ้น และ เงิน แต่ละชุดทำอะไร และ ทำเมื่อไหร่ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ถ้าคุณmiracles_maker เริ่มทำไปซักพัก เดี๋ยวเห็นกองหลังค้างไว้เยอะหน่อย ก็จะทนไม่ได้ ย้ายมันบุกขึ้นหน้าเอง จะทำแบบนั้นก็ได้ ลองดูครับ สนุกๆ จากคุณ : ฉินจัง - [ 21 ส.ค. 51 09:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พี่เสี่ยวหลงครับ  .. ....... พี่ดอกไม้เขาบอกวิธีเพิ่มหุ้นเอาไว้ครบถ้วนแล้วครับ และพี่ฉินจังก็ได้บอกวิธีเชื่อมโยง และรายล่ะเอียดสอดคล้องกับ พี่ดอกไม้ด้วยครับ ** ลองเอาไปปรับใช้ดูน่ะครับ จากคุณ : ดะเชา - [ 21 ส.ค. 51 09:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคร้าบ คุณดะเชา จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 21 ส.ค. 51 10:13:10 A:125.27.164.215 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สรุปว่ามันคือการ เล่น Shot นั่นเอง หุ้นตก ก็ยอมขายขาดทุนไป ลงมากๆ ก็ซื้อคืน ได้หุ้นมากขึ้น หรือ ซื้อหุ้นเท่าเดิมก็ได้เงินเหลือ หลักการแบบนี้ จะสำเร็จได้ ผู้ลงทุนต้องหัดมอง แนวโน้มครับ ถ้าแนวโน้ม พลิกกลับเป็นขาขึ้น คุณจะไม่มีทางทำได้ เลย ขายแล้วก็คือขายหมู จะทำได้แต่แนวโน้มขาลงเท่านั้น ซึ่งนั้นก็คือ ขายแล้วหุ้นตกก็ทะยอยขาย ไป พอหุ้นเริ่มขึ้น ก็ทะยอยซื้อก็ได้หุ้นเพิ่ม ถ้าหากมอง แนวโน้มราคาหุ้นตัวนั้นไม่ออก แนวทางการลงทุนไหนๆ ก็คงทำ ได้ยาก นะครับ ของแบบนี้ต้องหัดครับ ไม่นานก็เป็นเอง อาจต้องเสียค่าครู ให้กับตลาด ถือว่าเป็นความรู้สักหน่อยนะครับ จากคุณ : แอฟโฟร่ (Wai-ta-min) - [ 21 ส.ค. 51 11:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณดอกไม้ DSM และคุณ ดะเชา มากครับ ผมขอสรุป Concept ของ DSM สั้นๆ น่ะครับ --- >  เท่าที่ศึกษา และอ่านมาได้ระยะหนึ่งคือ " ซื้อถูก และ ขายแพง " โดยมี Steps ในการขาย และซื้อ เพื่อที่จะได้ส่วนต่าง "กสงสฝ" มาใช้สำหรับหุ้นตัวอื่นๆ (หรือตัวเดิม) ต่อไป โดยที่เราไม่ต้องสนใจราคาที่เราซื้อ ก็เพื่อป้องกันใจเรา "วอกแวก" เท่านั้นเอง ผมเข้าใจถูกรึเปล่าวครับ ? ขอบคุณอีกครั้ง ^_^ จากคุณ : miracles_maker - [ 21 ส.ค. 51 22:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอเปลี่ยนเป็น "ซื้อถูกกว่าขาย" ดีกว่านะครับ คุณ miracles_maker เมื่อทำแล้วจะได้กระแสเงินสดแฝงนำไปจัดสรรเพื่อเพิ่มหุ้น เป็นค่าใช้จ่าย เป็นเงินสำรองตามสัดส่วน ราคาซื้อที่เราพยายามไม่สนใจนั้น เฉพาะซื้อครั้งแรกครับ หลังจากนั้นต้องสนใจเพราะต้อง "ซื้อให้ถูกกว่าขาย" ทุกครั้ง ตอบคุณ แอฟโฟร่ ครับ ถ้ารู้ว่าแนวโน้มเป็นขาลง ควรขายทั้งหมดในครั้งเดียวครับ แล้วรอให้ราคาลงมาต่ำสุดแล้วซื้อคืนทั้งหมด ไม่ควรทะยอยซื้อขาย ถ้ารู้ว่าแนวโน้มเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ควรซื้อเพิ่มโดยใช้เงินแฝงทั้งหมดที่ทำได้ หยุดการขายทั้งหมด รอจนราคาขึ้นไปที่จุดสูงสุด จากนั้นค่อยขาย แต่เพราะไม่รู้ จึงต้องทะยอยขาย เพื่อสร้างโอกาสที่จะซื้อกลับคืนมาครับ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 04:26:38 จากคุณ : wasansem - [ 22 ส.ค. 51 04:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การ Short against port เป็นการลดต้นทุนในหุ้น แต่ไม่ใช่ DSM เลยครับพี่ Wai-ta-min จากคุณ : Way Back ฯ กิน Wai-A-Gra อิอิ - [ 22 ส.ค. 51 08:44:54 A:124.120.72.209 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พี่ miracles_maker ลองคิดซะว่า 10% ที่เสียไป ทำให้ 90% ที่เหลือมีมูลค่าไม่ลดลงไปกว่าเดิม เหมือนซื้อประกัน แต่คิดแบบนี้มันก็ไม่ใช่ DSM เหมือนกัน อิอิ ซื้อถูกขายถูกกว่า อาจดูเหมือนเป็นการชอร์ทพอร์ท แต่ไม่ใช่ DSM ผมคิดว่าจะใช้มัน ต้องเข้าใจในแนวคิดและหลักการก่อน ส่วนวิธีการนั้นค่อยปรับเอา การหยิบเอาวิธีการมาใช้โดยไม่เข้าใจ จะทำให้เสียหายได้ครับ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 22 ส.ค. 51 08:55:22 A:124.120.72.209 X: TicketID:170540 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คือมุมมองก็อาจต่างกันไปนะครับ วันนี้ผมเองก็คงบอกไม่ถูกว่า มุมมองแบบไหนที่ตรงจริง ๆ ผมเทรด DSM โดยใช้แนวคิดที่มองว่า ซื้อหุ้นมาเป็นทรัพย์สิน จากนั้นใช้การขายและซื้อคืนให้ถูกกว่า เป็นขบวนการสร้างรายได้ คือ เงินสดแฝง ทำการขายแล้วซื้อคืน ซ้ำ ๆ กันไปเรื่อย ๆ นำรายได้มาซื้อทรัพย์สินเพิ่ม แล้วก็ทำกระบวนการกับทรัพย์สินต่อไป ในระยะหลังผมเองเน้นไปที่การขาย และซื้อให้ถูกกว่าเป็นหลัก ไม่ค่อยได้คิดถึง การซื้อแล้วไปขายให้สูงกว่าเท่าไรนัก แม้ว่าบางจังหวะอาจมีการจับคู่แบบนั้นบ้างก็ตาม ส่วนราคาเข้าซื้อลงทุนในทรัพย์สิน คงเป็นคล้าย ๆ กับคุณ wasansem ว่า คือ ซื้อตอนแรกแล้วก็ไม่ค่อยได้มองอีก จะไปเน้นที่กระแสเงินสดที่เข้ามาเรื่อย ๆ อันนี้ก็เป็นเพียงแนวคิดเฉพาะตัว ที่ทำอยู่ปัจจุบันนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 22 ส.ค. 51 10:55:49 A:125.27.164.238 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ miracles_maker ถ้าอยากให้ได้ครบเหมือนเดิม ก็ไม่ยากครับ หากมองหุ้นทุกตัวเหมือนกันและเป็นทรัพย์สินในการสร้างรายได้ หุ้น A ขายไป 18.00*1000 = 18000 คงเหลือหุ้น A = 9000 ซื้อหุ้น B ที่ราคา 14.00*1000 = 14000 ( เงินกองหลังหุ้น A ) หุ้น A บวกหุ้น B = 10000 ตามเดิม แถมให้อีกครับซื้อหุ้น A 19.5*100 = 1950 ( เงินรายได้อนาคต ) รวมเป็นหุ้นทั้งหมด 10100 เหลือเป็นเงินออม 1000 และเป็นค่าใช้จ่ายอีก 1000 .................... ปัญหามันอยู่ที่ว่า คุณ miracles_maker จะบริหารเงินยังไง และหากหุ้น A ลงมาถึงราคา 14 บาท (หรือต่ำกว่า) จะเอาเงินส่วนไหนมาซื้อคืน และหากเงินยังไม่พอจะแก้ไขยังไง ถ้ามีคำตอบผมว่ามันก็ซื้อให้ได้เท่าเดิมได้นะ ตามข้างบนนั้นแหละครับ .................... แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 12:01:10 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 11:53:35 จากคุณ : loaw - [ 22 ส.ค. 51 11:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมคิดว่าจะใช้มัน ต้องเข้าใจในแนวคิดและหลักการก่อน ส่วนวิธีการนั้นค่อยปรับเอา การหยิบเอาวิธีการมาใช้โดยไม่เข้าใจ จะทำให้เสียหายได้ครับ จากคุณ : Way Back ฯ - [ 22 ส.ค. 51 08:55:22 A:124.120.72.209 X: TicketID:170540 ] หนับหนุนข้อความพี่เวย์ ข้างต้นคับ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 22 ส.ค. 51 18:32:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอขอบคุณความคิดเห็นทุกๆ ท่านน่ะครับที่ให้ความกระจางมากขึ้น ^_~ ว่าแต่ "ช่องว่าง" ที่คุณ เด่นศรี บอกไว้นี้คืออะไรครับ ผมยังคิดไม่ออกซักที ช่วยเฉลยได้ไหมครับ หรือว่าต้องหาเอาเอง ขอบคุณครับ ^_^ จากคุณ : miracles_maker - [ 23 ส.ค. 51 12:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่า หลายความเห็นข้างบนก็เฉลยให้เห็นแ ล้วนะครับว่า ช่องว่าง คืออะไร ถูก ผิด อย่างไร ขอให้ชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : atlantic (atlantic) - [ 6 ก.ย. 51 23:26:39 ]