ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณครับ ไม่ต้องอ่านก็รู้ว่าคนทั้งโลกเขาคิดกันยังไง จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 30 ส.ค. 51 16:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะคนทั้งโลกไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้ทำเรื่องชั่วมากี่อย่างแล้ว  ถ้ารู้คงคิดอีกแบบ จากคุณ : maquist12 - [ 30 ส.ค. 51 17:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะคนทั้งโลกไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้ทำเรื่องชั่วมากี่อย่างแล้ว  ถ้ารู้คงคิดอีกแบบ หากคุณรู้ว่ารัฐบาลไปทำชั่วอะไรก็แจ้งความ ให้ศาลตัดสินว่าผิดยังไงโดนลงโทษแบบไหน มาตัดสินกันเองแบบนี้เรียกว่าใช้ศาลเตี้ย มันก็วุ่นวายสิ จากคุณ : piyabute - [ 30 ส.ค. 51 17:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเป็นคนหนึ่งทีรู้สึกผิดหวัง และ ท้อแท้ กับความเป็นคนไทยขณะนี้ครับ  แต่ผมก็ยอมรับความจริงว่า  รัฐบาลดูถูกประชาชนมาก ในกรณี การแต่งตั้ง ลูกชาย รมว บางคน เป็นผู้ช่วย หรือ เลขา (ผมจำไม่ได้แล้ว)  การที่ผัวติดโผ 111 คน แต่เอาเมียมาทำหน้าที่แทนได้ การกลับเข้ารับราชการทหาร ได้ทั้งที่ สังคมรู้อยู่แก่ใจ ในกรณีของดาบยิ้ม......  เช่นนี้แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า รัฐบาลประเมิน ประชาชนต่ำเกินไป...... ผมไม่ได้รู้สึกดีกับหมู่คน ที่กำลัง ทำร้าย ประเทศ ด้วยการล้มล้างประชาธิปไตยขณะนี้   แต่รัฐบาลชุดนี้ ต้องเก็บเป็นบทเรียน  อย่าดูถูกความคิดของ ปชช อีกครับ จากคุณ : เป็นอย่างที่ฉันต้องการ - [ 30 ส.ค. 51 17:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่างน้อย ผมก็รู้ว่า ปชป พธม ทรท พปช ชท ฯลฯ เป็นอย่างไร ครับพี่#2 แล้วพี่รู้มะว่า ประชาธิปไตย แปลว่าอะไร? พี่รู้มะว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบอะไร? จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 30 ส.ค. 51 17:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สงสารพวกไร้สมองของพวกทิ จริง ๆ จากคุณ : NIKKEI_NIK - [ 30 ส.ค. 51 17:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 #2 ผมคิดว่าหลายๆคนก็รู้ว่ารัฐบาลเป็นยังไง แต่คุณรู้ไส้รู้พุงพันธมิตรมั้ยว่าเค้าทำไปเพื่ออะไร ถ้าเอาทางออกแบบ win-win ทุกฝ่าย ก็นี่เลย 1. ให้ พปช ถูกสั่งให้เลิกเล่นการเมืองตลอดชีพ 2. ปชป ชท ฯลฯ ถูกยุบและห้ามลงเลือกตั้ง 5 ปีให้หมด 3. จับแกนนำพันธมิตร 5 คนไประหารชีวิตข้อหากบฏไม่ก็ติดคุกตลอดชีพ นี่แหละคือการล้างทุกอย่างให้เริ่มจาก 0 ใหม่ แต่ใครจะทำ ??? จากคุณ : @scholly@ - [ 30 ส.ค. 51 17:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รัฐบาลจากการเลือกตั้งแต่กลับไปรับใช้คนหนีคดีเนี่ยนะ จากคุณ : Love Aey - [ 30 ส.ค. 51 17:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่พวกคุณไม่รู้ว่า การโกงโดยถูกกฏหมาย มันเสียหายต่อประเทศชาติ ขนาดไหน มากกว่า หุ้นตกเงินเฟ้อ มากมาย สงสารคนไม่เคยดูastv ถ้าคุณใจกว้างพอ ไปถามพวกที่ไปชุมนุม ว่าเค้ารู้อะไรมาเหรอ ถึงยอมออกมาสร้างเรื่องวุ่นวายให้พวกคนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางด่าว่าก่อกวนถ่วงความเจริญประเทศแบบนี้  พวกที่มองจากข้างนอกแล้วคิดเอง ควรคิดให้ลึกกว่านี้ จากคุณ : tam220t - [ 30 ส.ค. 51 19:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วเขาวิเคราะห์ตลาดหุ้นเวียดนาม จีน แล้ว ดาว เป็นเพราะพธม.ด้วยหรือเปล่าครับ จากคุณ : sace22 - [ 30 ส.ค. 51 19:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดูไปดูมา เหมือนจะไม่มีคนผิดเลย  ทุกคนถูกหมด  ตลกมากๆ เลย   จากคุณ : Duo-Core - [ 30 ส.ค. 51 20:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็เคยดูครับ ASS TV ทีวีตูดหมึก MANAGER ON LIE ก็เคยเข้าไปนานด้วยไม่ใช่แป๊บ ๆ คุณที่เห็นด้วยกับ พธม.ยอมรับไหมครับว่า คำพูดจา กร้าวร้าว ทั้ง ๆ ที่จำลองเป็นสายธรรมะ สายสันติอโศก บางเรื่องผมก็ไม่เห็นด้วยกับ รบ.ชุดนี้ เช่นเรื่องที่คุณว่าว่า เอาลูกชาย รมว.มาเป็นผู้ช่วย รมต.บางคน ผมก็รับไม่ได้ รมต.บางคนผมก็ไม่ชอบ ถ้าให้เอ่ยก็ ไชยา สะสมทรัพย์ แต่ เราต้องมีจุดยืนจุดหนึ่ง เรายืนอยู่บนพื้นฐานของระบอบประชาธิไตย ที่ทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากัน ทุกวันนี้ ผมเป็นคนหาเลี้ยงพ่อ แม่ ลูก และหลาน แต่เมื่อผมเข้าคูหา กากบาท ผมก็มีสิทธิเท่ากับพ่อ กับแม่ผม ที่ผมหาเลี้ยง เศรษฐีหมื่นล้าน หรือองคมนตรี ไปกระทั่งถึงคนกวาดถนนหาเช้ากินค่ำ เมื่อเข้าคูหากากบาทก็มีสิทธิมีเสียงเพียงแค่เสียงเดียว การที่รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง (ให้ตายเถอะ ผมไม่ได้กาให้ พปช.ด้วย) ทุกคนต้องยอมรับครับว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศตัดสินมาอย่างนี้แล้ว จะให้บอกว่า คนอีสานเลือกมา คนอีสานก็คนไทย เขาไม่ได้เป็นประเทศราชของไทย ไม่มีใครเป็นเมืองขึ้นใคร คุณก็ต้องยอมรับ พวกคุณอย่าเอาข้อตำหนิเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบอกว่าระบบนี้ไม่ดี มันไม่ได้หรอกครับ เหมือนกับต้นไม้ต้นหนึ่งที่ผลิดอกออกผลกำลังดี แต่มีเพลี้ย มีราเข้ามาเกาะ ซึ่งอาจเป็นเพราะโรคระบาดที่นาน ๆ เกิดที คุณเป็นเจ้าของไร่คุณก็บอกว่า ต้นไม้นี้ไม่เอาแระ ถอนมันทิ้งดีกว่า เพลี้ย รา เยอะ ทั้ง ๆ ที่หากรอให้โรคระบาด หรือการระบาดของเพลี้ยหมดไปในปีนี้ ปีหน้าฟ้าใหม่ คุณก็สามารถเก็บผลของต้นไม้นี้ กินได้ ขายได้ต่อไป แต่คุณบอกว่าไม่เอาแล้ว ถอนทิ้งเลย มีใครทำอย่างนี้ไหมครับ ต้นไม้นี้เพิ่งปลูกมาได้ 5 ปีแต่สามารถเก็บกินได้ไปชั่วลูกชั่วหลาน จะถอนทิ้งไหมครับ จากคุณ : Pete Chakky - [ 30 ส.ค. 51 20:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอถือสิทธิ์ที่มีการซื้อขายหุ้นเล็กๆน้อยออกความเห็นในห้องนี้หน่อยนะครับ หลังการปฏิวัติคราวที่แล้วประเทศไทยถูก"แช่แข็ง"ความร่วมมือทางการค้าจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการลงทุนภาครัฐที่ถูกเตะถ่วงอย่างจงใจ หรือการเจรจาความร่วมมือทางการค้าที่ชะงักงันไปเกือบ 100% สถานการณ์เวลานี้ตลาดธุรกิจสิ่งทอในประเทศของไทยแทบจะตายสนิทไปแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงมากนัก ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นยังพอมีคำสั่งซื้ออยู่บ้าง แต่คุณรู้บ้างหรือเปล่าว่าผู้ผลิตของไทยแทบจะถูกมองเป็น"ขอทาน"ไปแล้วในสายตาตัวแทนจัดซื้อจากต่างประเทศ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วย้อนหลังไป ผู้ผลิตสินค้าสิ่งทอจากประเทศไทยสามารถฟื้นคืนสภาพธุรกิจกลับมาจากสภาพอุตสาหกรรม Sunset คืนมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ "กรุงเทพฯเมืองแฟชั่น" ได้สร้างภาพพจน์และความหวังให้กับวงการธุรกิจเสื้อผ้าเป็นอย่างยิ่ง สินค้าสิ่งทอของไทยมีความหวังที่จะก้าวไปถึงขั้นสร้าง "แบรนด์ไทย"สู่ระดับโลกด้วยซ้ำ มีคำสั่งซื้อมาง้อผู้ผลิตในไทยมากมาย ถึงแม้โครงการยังไม่เกิดขึ้นจริงแต่ก็มีส่วนกระตุ้นเป็นอย่างมาก แต่ในวันนี้....แค่การสั่งผลิตมูลค่าเล็กๆน้อยๆ ก็"แห่"ไปถามราคาค่าผลิตจากโรงงานต่างๆนับสิบแห่ง แต่ละโรงงานแทบจะไม่คำนึงถึงกำไรกันแล้ว ตัดราคาเพื่อแย่ง Order กันแบบลืมตายทีเดียว โรงงานที่ยังอยู่ได้ต้องดิ้นรนไปทำตลาดในต่างประเทศเองถึงจะพอมีทางรอด ส่วนพวกที่เคยรอคำสั่งซื้อจากต่างประเทสก็รอเหมือนกัน......แต่รอวันตายครับ คนที่คิดว่ามุมมองต่อการเมืองประเทศไทยของต่างประเทศไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไทยจะเป็นอนาธิปไตยขนาดไหนต่างชาติไม่มีวันจะเข้าใจ ก็เชิญเชื่อกันต่อไปเถอะครับ อีกไม่นานพวกคุณคงจะได้เห็น"หลักฐาน"แบบชัดเจนอย่างยิ่งทีเดียว จากคุณ : สัมมาชน - [ 30 ส.ค. 51 20:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคิดว่า เรากำลังไม่มีจุดที่จะยืนในสังคม ต่างหาก คุณ Pete ผมไม่ได้เห็นแตกต่างจากคุณเลย..... ผมก็ไม่เคยเลือก พปช เลย แต่ไปเลือกพรรคอีกข้าง เพียงเพื่อให้มีการคานอำนาจ....  ทุกวันนี้ผมก็ผิดหวังเหมือนกัน  ที่คำว่า ระบบของสังคม  มันกำลังล่มสลาย.... จากคุณ : เป็นอย่างที่ฉันต้องการ - [ 30 ส.ค. 51 20:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 13 จากคุณ : Tazjung - [ 30 ส.ค. 51 20:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วังเวงครับ กับอนาคตประเทศไทย.... ขึ้นอยู่กับพันธมิตรพวกนี้เท่านั้นเป็นผู้กำหนด  นี่หรือ.."ประชาธิปไตย"   ผู้โดยสารทั้งรถไฟ เครื่องบิน..ต้องตกเป็นตัวประกัน เศร้าใจจริง ๆ จากคุณ : แป๊ะแก่ (แป๊ะแก่) - [ 30 ส.ค. 51 20:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าดู  astv  ฝ่ายพันธมิตร    ปลุกปั่น ยั่วยุ  ปลุกระดม  ล้างสมอง อย่าดู  NBT  ฝ่ายรัฐบาล    เสนอความแตกแยก  เลือกข้าง สรุป   2 สถานีนี้ก่อให้เกิดความแตกแยกของสังคมไทย ไม่ว่าพันธมิตร หรือ รัฐบาล   จะแพ้หรือชนะ  ก็แล้วแต่   ประชาชนเดือนร้อน   ประเทศชาติเสียหาย    อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร จากคุณ : SiKHiUs - [ 30 ส.ค. 51 20:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพราะความที่คนไทยอยากจะเป็นอารยะประเทศเฉกเช่นเดียวกับชาวตะวันตก เราจึงต้องมารับผลของการที่คนในอดีตดิ้นรนก่อการในสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่เวลาดังที่เป็นอยู่นี้ เมื่อย้อนเวลาไปแก้อดีตไม่ได้ สิ่งที่ควรทำ คือ การมองหาอนาคต และทำในสิ่งที่ควร แน่นอนว่าการยอมรับจากนานาประเทศเป็นสิ่งจำเป็น แต่เราควรจะสนใจแก้ไขเรื่องภายในของเราให้เสร็จสิ้นเสียก่อน มิฉะนั้นมันก็จะไปซ้ำรอยอดีต ก่อปัญหาให้คนรุ่นหลังต้องตามแก้ เป็นลิงแก้แหแบบเราต่อไป อย่ากังวลเรื่องความคิดของคนอื่น ขอแค่ให้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเราเองกำลังทำ เห็นด้วยกับความเห็นที่ 11  แต่ยังไม่เห็นว่ามีอะไรตลก ทุกคนถูกหมด คนที่หลุดจากอำนาจที่ตัวเองเคยมีอย่างล้นฟ้าในประเทศไทยนี้ ย่อมอยากจะไขว่คว้าเอาสิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาให้ตัวเองและครอบครัวอันเป็นที่รัก เค้าคิดถูกนะ คนที่อยู่ข้างเดียวกับทักษิณ รับเงินเค้ามา รับผลประโยชน์ต่างๆ จากเค้ามา ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  ทำถูกหรือไม่   ก็ถูก คนที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีมาตลอดชีวิต เมื่อโชคช่วยให้ได้เป็น โดยไม่ต้องลงทุน ก็ย่อมที่จะยื้อตำแหน่งนี้ไว้จนสุดชีวิต  ก็ถูกสำหรับเค้า คนที่ต้องการมีอำนาจเพื่อจะได้ทุจริตโกงกิน เอาเงินเอาอำนาจมาเพื่อทำให้ครอบครัวมีความสุขที่สุด หรือ หวังว่าจะได้เป็นใหญ่ในอนาคตแบบนาย  ก็ถูกเหมือนกัน คนที่อยู่ในราชการ มีตำแหน่ง ถูกบีบบังคับให้ทำตามแรงอำนาจ ก็จำต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาตำแหน่งตัวเองไว้จนถึงตอนเกษียณ   ก็ถูกอีกน่ะแหละ คนที่ออกมารวมตัวกันตามคำสั่ง ตามแรงเงิน ทำให้ครอบครัวที่กำลังอดอยากได้มีกินไปวันๆ  ก็ถูกอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง คนที่ได้รับข้อมูลด้านเดียว มองเห็นจากภาพที่คนของทักษิณสร้างไว้ จะชื่นชมทักษิณหรือสมัคร ก็เป็นเรื่องถูก แล้วมาดูอีกฝ่ายบ้าง คนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะทนเห็นสิ่งที่ทักษิณทำไม่ไหว  เค้าผิดอะไร คนที่นอนอยู่บ้านดีๆ สุขสบาย มีความรู้ มีรายได้เหลือพอ ไม่มีความจำเป็นจะต้องทนมานอนกลางดิน กินกลางทราย แต่เค้ากลับเลือกมาสนับสนุนคนที่อยู่ตรงข้ามทักษิณ เพราะเค้าอยากทำเพื่อให้คนส่วนใหญ่ คนที่ไม่มีโอกาสรับรู้ข้อมูลต่างๆ ทำให้คนที่รู้แต่เพียงว่าคนที่ให้เงิน 300-500 บาทเป็นคนดีนั้น ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเห็นแก่ประเทศชาติมากขึ้น เค้าก็ย่อมไม่ผิดใช่ไหม คนที่ไปอยู่ในทำเนียบ เพราะเค้าหาทางเลือกอื่นมาบีบรัฐบาลสมัครที่เป็นหุ่นเชิดของทักษิณไม่ได้ หากเป็นคนอื่นเค้าคงจะลาออกหรือยุบสภาหนีไปนานแล้ว คนเหล่านี้ผิดที่ตรงไหน คนที่มีใจช่วยพันธมิตร เพราะอยากเห็นประเทศชาติดีขึ้น อยากให้คนไทยได้เข้าใจในสิ่งที่พันธมิตรทำ ในการจะกำจัดรัฐบาลและอำนาจของทักษิณให้หมดไป เค้าผิดอย่างไร คนที่ต้องการให้ประเทศไทยได้เริ่มต้นใหม่อย่างสะอาด ปราศจากเงาหรืออำนาจของผู้ที่คดโกงแผ่นดินอย่างไม่มีใบเสร็จให้จับได้ หรือ แม้จับได้ ศาลตัดสินแล้วก็หนีไปแบบทักษิณ เค้าผิดหรือไร ต่างคน ต่างฝ่าย ต่างก็ถูกทั้งสิ้น แต่เราควรจะพิจารณาว่าบนพื้นฐานความถูกต้องของแต่ละคนนั้น เป็นความถูกต้องเพื่อใคร และเพื่ออะไร ส่วนเรื่องการตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายไหน ก็ถือเป็นเรื่องที่ขึ้นกับเวรกรรมของแต่ละบุคคลว่า จะสามารถเห็นความเป็นจริงได้เพียงใด เมื่อผู้คนไม่ยึดถือหลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้า การกระทำใดที่ถูกจูงใจให้หลงผิดไป จนกลลายเป็นการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่ว ผลที่ผู้ปลูกจะได้รับก็ย่อมเป็นเฉกเช่นเดียวกับเมล็ดพันธุ์นั่นแล แก้ไขวรรคตอน แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 21:17:30 จากคุณ : นุนา1 - [ 30 ส.ค. 51 21:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อะไรแค่นี้จะเป็นจะตายกันหรือไง ถ้าตอนนี้หุ้นขึ้นไป 900 จุดจะโวยวายหรือเปล่า จากคุณ : sicll - [ 30 ส.ค. 51 21:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถึงแม้ขึ้นไป 1000 จุดก็โวยครับ กับอันธพาลกลุ่มนี้ ผมรักประชาธิปไตยครับ ประชาธิปไตยที่ผมมีสิทธิมีเสียง เท่ากับองคมนตรี จากคุณ : Pete Chakky - [ 30 ส.ค. 51 21:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไร้สาระ  มาก จากคุณ : กองพัน...nick - [ 30 ส.ค. 51 21:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หาความหวังใดๆไม่เจอเลย หาก  พธม  ทำแบบนี้  ปลุกระดมแบบนี้ ลองหาหนังสือจิตวิทยาตามร้านหนังสือดูสิ การพูดการจูงใจให้คนมีอารมณ์ และทำตามที่เราต้องการ โทนเสียงน้ำเสียงปลุกเร้า   ประเด็นที่อ่อนไหวต่างๆนานาถูกนำมาใช้ปลุกให้คนมีอารมณ์ ต่อต้านรุนแรงโดยมีประชาชนเป็นตัวละครให้เขาเดินเกมส์ ผมมาเดาๆว่าทำไมถึงต้องมีการเจาะเข้าไปยึดค้นเวที  พธม   แล้วถอยออก คาดว่าคงมีสายตำรวจรู้ว่ามันมีอะไรซุกซ่อนซ้อนแผนอยู่  ถึงได้  ข้าวของ มีด ไม้  ดังที่เห็น พธม  พอโดนเจาะไข่แดงเข้าเลยซัดกลับอย่างหนัก แต่ก็เหมือนกันในฝ่ายรัดบานก็มีสายข่าวของ   พธม ซึมอยู่ เหมือนกันกำหนดการต่างๆจึงเหมือนดู  หลบหลีกหยั่งเชิงกันเหลือหลาย แต่ดูแล้วไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ    หรือเสมอ    หรือเริ่มต้นใหม่ความเชื่อมั่นที่ว่า   สยามเมืองยิ้ม     สยามดินแดนแห่งความสงบที่คนทั้งโลกเขาเคยวางใจมันจบลงแล้ว ทุกวันนี้คุยกับใครเรื่องการเมือง  หากคนละฝั่งกันอารมณ์มันขึ้นแทบจะลุยยำกันเลยละต้องยั้งใจกันบอกเพื่อนเราไปคุยเรื่องอื่นเหอะไม่งั้นเราอัดกันแน่ นักจิตวิยามวลชนทุกท่าน    ที่ท่านใช้วิชาทาง  astv   ผมยอมรับเลยว่าท่าน ทำงานได้สำเร็จเกินร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับ วันนี้ก็นับว่าท่านได้บรรลุเป้าหมายระดับหนึ่งแล้ว  หากท่านได้ในสิ่งที่ท่านต้องการแล้ว   ท่านอย่าลืมใช้วิชาจิตวิทยาอันสูงส่งของท่าน ทำให้คนไทย กลับมาดีกันเหมือนเดิมได้ไหม    ขอร้องละ จากคุณ : ปลาเสืออ้วน - [ 30 ส.ค. 51 21:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่พวกคุณไม่รู้ว่า การโกงโดยถูกกฏหมาย มันเสียหายต่อประเทศชาติ ขนาดไหน มากกว่า หุ้นตกเงินเฟ้อ มากมาย สงสารคนไม่เคยดูastv ถ้าคุณใจกว้างพอ ไปถามพวกที่ไปชุมนุม ว่าเค้ารู้อะไรมาเหรอ ถึงยอมออกมาสร้างเรื่องวุ่นวายให้พวกคนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางด่าว่าก่อกวนถ่วงความเจริญประเทศแบบนี้  พวกที่มองจากข้างนอกแล้วคิดเอง ควรคิดให้ลึกกว่านี้ จากคุณ : tam220t ----------------------------------- ดิฉันเคยดู ASTV ค่ะ นั่งดูหลายชั่วโมงด้วย แล้วก็อดขำ คนที่เชื่อไม่ได้ การพูดของแกนนำ ส่วนใหญ่จะมีแต่การด่าเอาสะใจ ไม่มีเนื้อหาสาระ พอมาถึงส่วนของเนื้อหา ถ้าเราไม่ต้องรับข่าวสารจาก รัฐบาลเลยยังจับได้ว่า พธม โกหก -*- การพูดจา การสรุป ผิดตรรกคณิตศาสตร์โดยสิ้นเชิง ยังหัวเราะอยู่เลย ดิฉันไม่ได้ดูถูกนะคะ แต่เหมือนคนฟังไม่ได้ใช้สมองฟัง ถ้าใช้สมองซักนิด เอาแค่ ตรรกะ วิชา ตรรกศาสตร์ สมัย ม.ปลาย มาใช้ ก็จะเป็นความจริงของโลก เฮ้อ คนที่ไปชุมนุม ไม่ได้รู้อะไรเลยซํกนิด ปิดหูปิดตาจากโลกภายนอก เค้าบอกเค้าป้อนอะไรก็รับไว้ ไม่มีสติ แต่ตอนนี้ขำไม่ออกแล้วค่ะ มีแต่สร้างความเดือดเรือนให้คนอื่น แต่ไม่เป็นไรค่ะ อะไรจะเกิดก็ให้เกิดไป อีก 10 ปีข้างหน้า มีการชำระประวัติศาสตร์ เขาเหล่านั้นก็จะมีชื่อติดไปในประวัติศาสตร์ ในฐานะ คนโง่ที่โดนหลอก ไปตลอดกาล กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นก็ต้องรับผลของกรรม แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 21:54:50 จากคุณ : กันดัมจัง - [ 30 ส.ค. 51 21:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คห.ที่ 18 ครับ 1. หลัง 14 ต.ค. 2514 ทุกคนก็เปล่งเสียงร้องไชโยว่า"ฟ้าสีทองผ่องอำไพ"แล้ว ประชาชนล้มเผด็จการได้แล้ว แต่ความที่ไม่รู้จักใช้สิทธิที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อประชาชนของหลายๆฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย สร้่างความหมั่นไส้แบบสะสมให้กับประชาชนทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนทหารที่พ่ายแพ้ไปสามารถกลับมาเอาคืนได้ในปี 2516 ทั้งอำนาจและเลือดเนื้อประชาชน 2. หลังจากโค่นล้มรัฐบาลชาติชายที่ถูกรสช.เรียกว่า "บุฟเฟ่ต์คาร์บิเนท" ประชาชนคิดว่าได้กำจัดนักการเมืองที่ฉ้อฉลแผ่นดินไทยได้แล้ว แต่ทหารก็กลับมาทำให้ประเทศไทยนองเลือดอีกเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2535 3. หลังจากโค่นล้มรสช.ได้ พรรคการเมือง"ฝ่ายเทพ"ได้เป็นรัฐบาล เป็นยุคที่กลุ่มมันสมองระดับประเทศเชื้อสายตระกูลสูงที่เรียกว่า "เทคโนแครต"ลงเลือกตั้งมากที่สุด และ คนไทยก็ดีใจกันเพราะคิดว่าประเทศไทยจะใสสะอาดได้เสียที สุดท้าย"พรรคเทพ"ก็มัวหมองในสมัยที่ 1 ด้วยเรื่องแจกสปก. 4-01 และล้มในสมัยที่ 2 ด้วยข้อหากฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ผมไม่พูดถึงสภาพประเทศไทยหลังคมช.ปฏิวัติก็แล้วกัน ความถดถอยในช่วงนั้นยังสดใหม่ในความทรงจำกันอยู่ แต่อยากจะถามว่าประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้นได้มีการเอาเลือดไปล้างโคลนหลายครั้งแล้ว....มันได้สะอาดขึ้นจริงๆสักครั้งหรือไม่? จนมาในวันนี้ก็ยังคิดจะใช้วิธี"เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่"มาแก้ไขปัญหาอีก เอามวลชนมากดดันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีก คุณคิดหรือว่าจะแก้ปัญหาได้จริง? ต่อให้คุณเอาปืนไปถล่มบ้านล้างตระกูลนักการเมืองชั่วๆในสายตาของคุณ นักการเมืองรุ่นใหม่ๆก็จะเกิดขึ้นมาอีกและวิถีทางการเมืองก็จะทำให้พวกที่"อุดมคติสูงแต่ความอดทนต่ำ"ทั้งหลาย ต้องออกมาเดินขบวนไล่กันใหม่อีกนั่นแหละ ผมไม่คิดจะดูถูกความจริงใจที่ยอมทนลำบากไปนอนกลางดินกินกลางทรายเพื่อต่อสู้กับคนที่พวกคุณมองว่าชั่วร้าย พวกคุณอาจจะมีเจตนารักชาติอย่้างแท้จริงก็ได้ แต่ผมไม่เชื่อว่าประเทศไทยเหลือแค่วิธี"เผาบ้านเพื่อไล่หนู" ยอมละเมิดกติกาประชาธิปไตยทำร้ายบ้านเมืองเพื่อโค่นล้มคนที่พวกคุณเกลียดชังแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การนำของคนที่ถูกจับโกหกได้มาแล้วหลายต่อหลายครั้งอย่างนายสนธิ วันนี้พวกคุณกำลังคิดว่าประเทศไทยต้องยอมเจ็บปวดเสียหายเพื่อ"กวาดบ้านให้สะอาด"เสียก่อน รอให้บ้านเมืองโปร่งใสไร้นักการเมืองจอมขี้โกงแล้วค่อยกลับมาเดินหน้าก็ยังไม่สาย แต่ผมกลับเชื่อว่าประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ยุคมืดเหมือนเมื่อช่วงปี 2521-2529 อีกครั้งหนึ่งที่บ้านเมืองมีแต่ความอึดอัด บรรดาผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เอาบ้านเมืองเป็นตัวประกันเพื่อชิงอำนาจกันโดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน บทบาทของตัวละครประเภท ท่านป๋า - จปร.7 -พลเอกฉลาด - อดีตพลตรีมนูญ -พลเอกอาทิตย์ - จปร.5 จะกลับมาขึ้นเวทีประลองกำลังกันใหม่ให้เจ็บปวดหัวใจกันอีก เพราะประชาชนได้ถูกกันออกไปนอกเวทีแล้วด้วยการเมืองประเภท"ลากตั้งระบบ 70/30" ตามเป้าหมายของแกนนำพธม. บ้านเมืองที่ไม่มีจุดยืนทางประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็ง ไม่อดทนแก้ไขปัญหาผ่านทางสถาบันการเมือง เอาแต่อารมณ์และความหวาดกลัวด้วยมายาคติว่านักการเมืองจะทำให้บ้านเมืองวายวอดภายในวันนี้พรุ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนในโลกนี้ก็มีแต่ความเสื่อมถอยทั้งนั้นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 51 07:26:23 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 22:34:10 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 22:21:16 จากคุณ : สัมมาชน - [ 30 ส.ค. 51 22:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยถามตัวเองไหม ทำไมเกลียดเขา  ไม่ถูกใจ ทำไมชอบเขา ได้อะไรจากเขา เขาเป็นอะไร ดีๆเลวๆปะปนกันไป ต้องแยกแยะให้ออก เห็นต่างกัน แต่อย่าแตกแยกแบ่งข้างกัน ฝรั่งเห็นอย่างไรก็ดี ฟังไว้ก็ดี เสียงสะท้อนจากแดนไกล แต่ไม่ชัดเจนละเอียดเท่าคนไทยเราเองหรอกครับ อย่าเอาคำอ้างใครมาทำให้พวกเราแตกแยกมากขึ้นเลย ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ที่เป็น/วุ่นวายอยู่คือผลที่ตามมาจากการกระทำ?ในอดีต จากคุณ : pungee1 - [ 30 ส.ค. 51 22:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รัฐบาลเลวๆออกไปเหอะ จากคุณ : อ สุวงศ์ - [ 30 ส.ค. 51 22:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สนับสนุนการต่อสู้ในวิถีทาง การเลือกตั้ง --------------------------------------- - เขมร   ใครทำให้เรื่องที่สามารถรอมชอมกันได้เป็นเรื่องใหญ่ พันธมิตรหรือ รัฐบาล สุดท้ายก็เหมือนเดิมคือต้องร่วมกันระหว่างไทยกับเขมร คงไม่มีใครบอกนะว่าให้ไปทำสงครามกับเพื่อนบ้าน - ปตท   พอทหารเป็นรัฐบาลเงียบไปเลยนะ ไม่เห็นจะมาทวง - โกงกิน   เพิ่งมาทำงาน ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตัวเองพิจารณาตั้งเลย  มีหลักฐานหรือป่าวว่าเค้าโกง -ว่าเค้าคุกคามสื่อ แต่ดันมีกรณี NBT - ใครกันที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้ประเทศเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยว  อยู่ดีๆ ไปปิดสนามบิน คิดดูเองนะว่าทำให้ประเทศไทย เสียหายไป เท่าไหร่แล้ว จากคุณ : Rppc2 - [ 30 ส.ค. 51 23:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รัฐบาลเลวๆออกเหอะ จากคุณ : อ สุวงศ์ - [ 30 ส.ค. 51 23:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรียนคุณสัมมาชน สิ่งที่บอกในข้อความด้านบน เพียงพยายามจะสื่อให้เห็นว่า ประชาธิปไตยที่ปราศจากความเข้าใจนั้น นำมาซึ่งผลอย่างไร บ้านเมืองที่อยากเป็นประชาธิปไตยโดยตัวเองยังไม่พร้อม ผู้คนไม่มีความรู้ ไม่รู้จักรักษาสิทธิของตัวเองและประเทศชาติ ขาดความรู้ความเข้าใจ ในคำว่า ประชาธิปไตย อย่างแท้จริง จึงมีแต่ความเสื่อมถอยอยู่ตลอดเวลา เพราะรากเหง้าของเชื้อร้ายไม่เคยถูกจำกัดให้หมดสิ้นไปได้เสียที เพียงแต่มันขึ้นกับว่าเราจะมองเห็นด้วยตาตัวเองได้หรือไม่ เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างก็ถูก บนพื้นฐานของความเข้าใจที่ต่างกัน ก็เป็นธรรมดาที่จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ต้นตอของเหตุการณ์ที่คุณได้ยกมานั้น ก็เกิดด้วยเหตุเดียวกันนี้ คือ ประชาชนไม่สามารถปกป้องสิทธิของตัวเองและประโยชน์ของประเทศชาติ ปล่อยให้นักการเมืองมีโอกาสฉ้อฉล ทำร้าย ทำลายบ้านเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแต่ครั้งนี้สื่อสารมวลชนถูกใช้ในการทำความเข้าใจกับประชาชนได้มากกว่าอดีต และต่างฝ่ายต่างก็มีสื่อที่จะใช้ในการหักล้างความชอบธรรมของอีกฝ่ายลง ผลที่เกิดขึ้นคือ ประชาชนถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย เป็น พวกคุณ พวกผม ทั้งที่จริงแล้ว เราทุกคนคือพวกเดียวกัน ตราบเท่าที่เรายังเป็นคนไทย มีพ่อหลวงองค์เดียวกัน เรื่องในอดีตเราคงตามไปแก้อะไรไม่ได้ แต่ในวันนี้เมื่อคนกลุ่มหนึ่งเห็นว่าอำนาจไปตกอยู่ในมือคนไม่ดี ก็เป็นหน้าที่ที่คนกลุ่มนั้นจะหาทางเปิดช่องให้คนดีมาบริหารบ้านเมือง ซึ่งจำเป็นต้องเกิดขึ้นนอกสภา เพราะรัฐสภากลายเป็นแค่ตรายางให้กับรัฐบาลผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ จะแก้ไขกฎหมาย ระเบียบอะไรก็ได้ดังใจปรารถนา ซึ่งวิถีการเมืองนอกสภาในประเทศส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นเดียวกับสิ่งที่พันธมิตรกำลังทำ ประกอบกับคนที่มีอำนาจนั้นก็ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม ไม่เคยคิดจะยอมเสียสละตัวเอง ถ้าเป็นประเทศอื่นไม่ว่าจะฝั่งตะวันตกที่วิจารณ์เราหรือตะวันออกด้วยกัน ผู้นำคงจะแก้ปัญหาที่ตัวเอง (กรณีที่ฝ่ายค้านมีเสียงเพียงพอที่จะลงคะแนนให้ชนะรัฐบาลได้) เพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลายออกไป แต่บ้านเรากลับเลือกที่จะยืนหยัดอยู่เพราะเห็นว่าอย่างไรจำนวนเสียงในสภาก็ชนะแน่นอนในการลงคะแนนทุกครั้ง ส่วนประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ปล่อยทิ้งไว้ เดี๋ยวก็เหนื่อยตายกันไปเอง เหตุการณ์ต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดเช่นนี้ การเลือกที่จะตัดเนื้อร้ายทิ้ง ย่อมดีกว่าที่จะอดทนรอจนเนื้อร้ายกัดกินอวัยวะลามไปทุกส่วน จนสุดท้ายเราต้องสละชีวิตไปด้วยมิใช่หรือ จากคุณ : นุนา1 - [ 30 ส.ค. 51 23:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่เอาพันธมิตร จากคุณ : เปลือกข้าว - [ 30 ส.ค. 51 23:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พธม. ทำลายชาติ จากคุณ : หนมเปี๊ยะ - [ 30 ส.ค. 51 23:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เอาพันธมิตร จากคุณ : ปปชแพ้ภัยตัวเอง (เปลือกข้าว) - [ 30 ส.ค. 51 23:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #29 สรุปว่าคุณเลือกจะตัดเนื้อร้ายทิ้งแต่ผมเห็นว่าชิ้นที่คุณอยากจะตัดไม่ใช่เนื้อร้าย แล้วเรื่องมันจะจบยังไง ใครกันแน่คือคนที่ไม่รู้จักรักษาสิทธิของตัวเองและประเทศชาติ ขาดความรู้ความเข้าใจ ในคำว่า ประชาธิปไตย อย่างแท้จริง จากคุณ : etorys - [ 30 ส.ค. 51 23:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอเว้นเรื่องการเมืองครับ เอาเฉพาะเนื้อข่าวที่เกี่ยวกับหุ้น ไม่รู้ว่าสื่อที่เขียนนี่เขาเป็นนักวิเคราะห์เหรอครับ หรือมี inside ข้อมูลการตัดสินใจซื้อขายของ นลท. ต่างประเทศ หรือประเทศอิตาลีลงทุนในประเทศไทยในระดับ 25% เลยเหรอครับถึงมีอิทธิพลได้ขนาดนั้น สื่อไทย นักวิเคราะห์ไทย บล. ไทยหรือ บล. นอกที่อยุ่คลุกคลีกับตลาดยังไม่มีืใครออกมาเดามั่วๆ แบบนั้นเลยครับ ไม่ได้ต้องการทะเลาะครับ แต่เวลาอ่านข่าวผมมักจะวิเคราะห์ แหล่งข่าวด้วยครับ ว่าเป็นใคร พูดทำไม มีผลประโยชน์จากการให้ข่าวหรือไม่ จากคุณ : *John* - [ 30 ส.ค. 51 23:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไอ้สมัครต้องลาออกเท่านั้น จากคุณ : TGA - [ 31 ส.ค. 51 00:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เซ็งมากๆเลย กระทู้การเมืองอีกแล้ว จากคุณ : บุรี (Buree) - [ 31 ส.ค. 51 06:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สรุปแล้วแนวคิดของคนที่เห็นด้วยกับพธม.คือ ต้องทำลายล้างเชื้อชั่วให้หมดสิ้นก่อน   ต้องรอให้ประชาชนมีความพร้อมก่อนถึงจะสมควรได้รับประชาธิปไตย ในวันที่ไม่ประชาชนยังไม่พร้อมอย่างทุกวันนี้ ถึงมีการเลือกตั้งเสียงส่วนใหญ่ของประเทศก็จะยังโง่เลือกแต่นักการเมืองเลวๆเข้าสภา ไม่จำเป็นต้องไปสนใจบทเรียนในอดีตเพราะเป็นสิ่งที่กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว บทเรียนทางประวัติศาสตร์ไม่มีความหมายในวันนี้ การออกมาไล่รัฐบาลที่พธม.เห็นว่าชั่วร้ายด้วยวิธีการอารยะขัดขืนแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คือการรักษาสิทธิ์ของประชาชน คนที่ไม่ออกมาไล่รัฐบาลคือพวกตาบอดที่ไม่รู้จักรักษาสิทธิ์ของพลเมือง คุณจะเชื่อไหม....คุณพูดได้เนื้อหาคล้ายๆกับที่อดีตนายกฯ ฯพณฯ ธานินทร์ กรัยวิเชียรเคยออกแถลงการณ์เปิดตัวรัฐบาล"หอย"ของท่านเมื่อปี 2516 มากทีเดียว ผมยังจำคำพูดของท่านติดหูจนทุกวันนี้ว่า :- "ประเทศไทยยังไม่พร้อมสำหรับระบอบประชาธิปไตย ควรจะเรียนรู้ทีละขั้นๆเพื่อความมั่นคงในอนาคต รัฐบาลจึงจำเป็นต้องปล่อยให้ระบอบประชาธิปไตยค่อยๆเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป.....จนกว่าจะถึงอีก 12 ปีข้างหน้า...." ผ่านไปแล้ว 35 ปีผมคงจำไม่ได้แม่นยำชนิดคำต่อคำ แต่เนื้อหา 95 % คือแบบนี้ ถ้าคนไทยส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันกับสิ่งที่ผมสรุปจากความเห็นของคุณข้างบนนี้ ผมก็คงต้องยอมรับอย่างที่คุณพูดเหมือนกันว่าประเทศไทยไม่ควรปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยจริงๆด้วย และไม่ควรจะคิดจะทำอีกตลอดไปด้วยซ้ำ ใครจะเอาบ้านเมืองไปต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญเถอะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 51 07:25:22 จากคุณ : สัมมาชน - [ 31 ส.ค. 51 07:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อไหร่รัฐบาลเลวๆจะไปเสียที จากคุณ : อ สุวงศ์ - [ 31 ส.ค. 51 07:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อไร พธม . มันจะทำเพื่อชาติซักที จากคุณ : rnakym - [ 31 ส.ค. 51 08:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พาลทะมิด แค่เสียงส่วนน้อย แต่ทำลายชาติ ได้ขนาดนี้ อหังการเหลือเกิน จากคุณ : somoh - [ 31 ส.ค. 51 08:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เสียงโง่ๆๆๆๆๆของ  ประเทศ เวรกำ จากคุณ : กองพัน...nick - [ 31 ส.ค. 51 10:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อยากถาม #18  ถ้าคุณเป็นคุณสมัคร ณ ตอนนี้   ระหว่างคำว่า "ระบบ" คือรักษา กฎ กติกาของสังคมไว้ กับ คำว่า "สบายตัว" คือยอมลาออก  ไปอยู่บ้านเลี้ยงแมว ทำรายการ  ชิมไป บ่นไป  ดีกว่า เป็นคุณ  จะเลือกทำอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากกว่ากันนะคุณ จากคุณ : Duo-Core - [ 31 ส.ค. 51 11:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คงต้องขอรบกวนคุณสัมมาชนกลับไปอ่านความเห็นที่ 18 และ 29 อีกครั้ง คุณจะทราบว่าที่เขียนไปไม่มีจุดไหนที่บอกว่าไม่ต้องสนใจอดีตเลย ตรงกันข้ามได้บอกให้ย้อนกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยในช่วงที่ประชาชนไม่สามารถรักษาสิทธิและประโยชน์ของชาติได้ด้วยตัวเอง จึงเกิดเหตุการณ์ดังที่คุณได้ยกมาในความเห็นที่ 24 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยวันนี้ ก็เกิดจากการที่ข้อมูลได้ส่งผ่านการสื่อสารอันทันสมัย ซึ่งสมัยก่อนไม่เคยมี และไม่เคยถูกนำมาใช้ การที่คนกลุ่มหนึ่งมากดดันรัฐบาล เพราะต้องการจะล้างเชื้อร้ายในบ้านเมืองให้หมดโอกาสกัดกินประเทศไทยต่อไป คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิดอะไรในวิถีการเมืองนอกสภา และการที่คนอีกกลุ่มหนึ่งมาต่อต้าน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ก็ย่อมถูกต้องบนพื้นฐานจิตใจของคนเหล่านั้น นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ประชาธิปไตยของประเทศไทย ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน กับ อีกฝ่ายที่รักษาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องที่เกิดจากการใช้ช่องโหว่ของคำว่าประชาธิปไตยในประเทศไทย  ประชาธิปไตยที่คนกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่งเข้าใจว่า คือ การกากบาทบนบัตรเลือกตั้ง เลือกผู้ที่ตนเห็นว่าดีไม่ว่าด้วยเหตุผลใด แม้ว่าคนที่ตนเองเลือกไปจะกระทำย่ำยีกับประเทศชาติอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงยึดมั่นในความคิดที่ว่า คนคนนั้นมาจากการเลือกตั้ง ความขัดแย้งจึงต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำพูดของ ฯพณฯ ธานินทร์ คุณว่าผิดที่ตรงไหน การที่รัฐบาลท่านได้ชื่อว่า รัฐบาลหอย มีทหารคอยปกป้อง ก็เพราะประชาชนในช่วงเวลานั้นขาดความเข้าใจในคำว่า ประชาธิปไตย มิใช่หรือ และในเวลาไม่นานเปลือกหอยก็ต้องฆ่าเนื้อหอยด้วยมีการคอรัปชั่นอย่างมากมายอีกครั้ง การคอรัปชั่นนั้นมาจากไหน ก็มาจากนักการเมืองทั้งหลายที่เห็นประเทศไทยเป็นขุมทรัพย์ จะตักจะตวงโดยละโมบอย่างไร ก็คงไม่มีใครรู้เท่าทันได้ คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไม ฯพณฯ ธานินทร์ถึงร่วมมือในการปฏิวัติครั้งนั้นด้วย ในประวัติศาสตร์ของประชาธิปไตย ประเทศไทยต้องบอบช้ำเพราะอะไร ขอให้ลองตรองดูอีกสักครั้งเถิด แล้วคุณจะรู้ว่าการจะทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มตัว ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนที่มีความรู้ ความเข้าใจในประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และเห็นแก่ประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ วันที่ประชาชนทั้งประเทศมีความรู้  ความเข้าใจ และรู้คุณค่าของแต่ละเสียงที่ลงคะแนนไป วันที่เงินและอำนาจไม่อาจซื้อ บังคับ หรือ จูงใจด้วยภาพลวงตาให้ประชาชนทำตามความต้องการของนักการเมืองได้ วันนั้นต่างหากที่ประเทศไทยจะได้มีประชาธิปไตยอย่างเต็มภาคภูมิเสียที แต่ปัญหา คือ เราทุกคนจะมีโอกาสได้เห็นวันนั้นหรือไม่  ในเมื่อปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ต้องอดอยากยังเป็นสิ่งใกล้ตัวกว่าเรื่องการเมือง วันที่เศษเงินไม่กี่ร้อยบาทของนักการเมืองสามารถทำให้เขาอยู่รอดได้ในระยะหนึ่งทีเดียว แล้วประชาธิปไตยของเราจะไปได้ไกลเพียงใด และขอเรียนเพิ่มเติมในเรื่องภาคธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม ขออนุญาตยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เคยได้ประสบด้วยตัวเองเรื่องหนึ่ง ในวันที่นายพินิจ จารุสมบัติได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมช่วงไม่กี่วัน ก็มีคำสั่งเรียกเงินจากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่มีกลุ่มใดสามารถปฏิเสธได้ และการเรียกเก็บเงินครั้งนั้นก็ย่อมไม่มีใบเสร็จตามปกติ  ข้อเท็จจริงนี้สามารถตรวจสอบได้กับผู้ที่เป็นกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2547 หากเช็คในส่วนที่เป็นพนักงานอาจจะไม่ได้รับทราบข้อมูลเหล่านี้ เพราะทางรมต. ไม่ต้องการให้มีหลักฐาน ขนาดเป็นแค่รัฐมนตรียังอาจหาญเช่นนี้ ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยนั้นจะกระทำได้เพียงไร นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยในช่วงเวลาที่เชื้อร้ายฟักตัวก่อนที่จะเป็นเนื้อร้ายเกาะกินเมืองไทยจนกร่อนไปทั้งประเทศ เหตุที่กลุ่มพันธมิตรต้องมาชุมนุมก็เพื่อให้เนื้อร้ายดั่งสนิมเหล็กเหล่านั้น ไม่มีโอกาสได้กระจายตัวเกาะกินทั่วขวานทองของไทยต่อไป ขออนุญาตเรียนคุณ Duo-Core ให้กรุณากลับไปอ่านคำตอบเกี่ยวกับคุณสมัคร ในความเห็นที่ 18 บรรทัดที่ 9 อีกครั้ง จากคุณ : นุนา1 - [ 31 ส.ค. 51 12:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 44 1 เสียงของผมหนุน สมัคร  ต้าน พันธมิตรครับ ล็อคอินไม่เเปลกครับจะอ่านซะส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เเสดงความคิดเห็น จากคุณ : VALID - [ 31 ส.ค. 51 13:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 จขกท  ถ้าจะเอาบทความมาลงควรลงให้ครบไม่ใช่ตัดตอนมาลง แล้วลิงค์ที่ให้ก็ไม่ใช่  เวลาอ้างอิงอะไรทำให้กระจ่างด้วย จากคุณ : supanut09 - [ 31 ส.ค. 51 13:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลองไปดู เกาหลีใต้ดูก่อนไหม ให้เอาเนื้อสหรัฐ เข้า เจอประท้วงเป็นแสน ครม ลาออกทั้งคณะ ประเทศไหนมันหน้าด้าน บอกเลือกเข้ามา ทำอะไรก็ถูกทุกอย่าง ซะงั้น ถ้านักการเมืองมีสำนึก ปัญหาก็น้อย อ้าว เบอร์ลุสโคนี่ก็เคยโดนไล่นี่ แบบนี้แหละ ฮาฮา แต่ก็กลับเข้ามาได้ จากคุณ : You'll never walk alone - [ 31 ส.ค. 51 14:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จริงอยู่บางครั้งต้องดูจากภายนอกเข้ามา แต่บางครั้งถ้าไปห่วงภายนอกมากไป แล้วจะแก้ปัญหาได้หรือเปล่าครับ จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 31 ส.ค. 51 15:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทำไมลิงค์ที่ผมทำไว้หาย  เป็นลิงค์ที่ จขกท ไปเอาบทความจากที่นั่นมาลง แล้วตัดตอนบทความออกมา  ถ้าจะทำอะไรก็เปิดให้หมดไม่ใช่หมกเม็ด ควรจะไปตั้งกระทู้ที่ห้องราชดำเนิน จากคุณ : supanut09 - [ 31 ส.ค. 51 15:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 http://www.lastampa.it/_web/cmstp/tmplrubriche/giornalisti/hrubrica.asp?ID_blog=98 ทางเวปเค้าคงเปลี่ยนลิ้งต้องขอโทษด้วย เจตนาที่นำมาลงเพราะ ต้องการให้รู้ว่าคนต่างชาติมองไทยยังไง นี่เป็นเสียงของคนต่าง ชาติเสียงหนึ่งที่สอดคล้องกับที่อื่น และมันจะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจ+ค่าเงินบาทของไทย ส่วนเรื่องการเมืองเราต้องยอมรับว่า เราเป็นแค่ประชาชนตัวเล็กๆ คงไม่มีอำนาจอะไร หากจะมีการลงทุนในหุ้นช่วงระยะเวลานี้ ให้ระวังให้มากและให้จับตาดูการเมืองให้ดี ไม่ว่าจะคนต่างชาติหรือคนไทยในประเทศ เพราะมันส่งผลต่อค่าเงินบาทและตลาดการลงทุน     โดยเฉพาะคนต่างชาติที่จะมาลงทุนในไทย(ลงทุนในหุ้น,ลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต) เค้ามองกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยเป็นกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคารพประชาธิปไตย เพราะ เห็นคนจนเป็นคนโง่และถูกซื้อเสียง จนกระทั่งเรียกร้องเผด็จการหรือระบบการเมือง70/30 ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า "คนต่างชาติไม่ยอมรับระบอบอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย" ที่พูดนี่ไม่ได้มีความต้องการต่อว่ากลุ่มพันธมิตร แต่ต้องการให้เห็นว่า คนต่างชาติคิดยังงัย เพื่อทำการประเมินเหตุการณที่อาจจะเกิดขึ้น  เพื่อให้พวกเราชาวสินธรทำการตั้งรับกับ เหตุการณ์ในอนาคต ปัญหาค่าเงินบาทเป็นเรื่องสำคัญ จากการที่กลุ่มพันธมิตรต้องการให้ ปตท.กลับมาเป็นของ รัฐ มองคนต่างชาติเป็นปิศาจที่มากอบโกยผลประโยชน์ของชาติ แต่กลับไม่มองว่าไทยไม่มี เทคโนโลยีที่จะพัฒนาประเทศ ขอยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ "ซิมบับเว" เกี่ยวกับปรากฎการเงินเฟ้อ 2ล้าน% เงินไม่มีค่า อยากให้เพื่อนๆ มองโดยไม่แบ่งว่าเป็นกลุ่มพันธมิตร หรือ นปก. แต่ให้มองถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น หากรัฐบาลลาออกหรือถูกรัฐประหาร ก็ซื้อทองเก็บไว้แทนการเก็บเงินสด จากคุณ : chamchompoo - [ 31 ส.ค. 51 16:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 49 ู^ ^ ^ ไม่ได้ตั้งใจหมกเม็ด ไม่อยากให้มองในส่วนการเมือง อยากให้มองถึงผลที่จะกระทบกับ เศรษฐกิจมากกว่าเพราะ มันเป็นเรื่องปากเรื่องท้อง ต้องขอโทษด้วยหากผิดพลาดประการใด หรือจะแจ้งให้ลบกระทู้ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 51 16:54:57 จากคุณ : chamchompoo - [ 31 ส.ค. 51 16:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้าใจความรู้สึกของคุณ chamchompoo ที่อยากนำเสนอข่าวความเห็นของต่างชาติ แต่ขออนุญาตลอกคำพูดของคุณ บัตรผ่าน 821 มา ว่า จริงอยู่บางครั้งต้องดูจากภายนอกเข้ามา แต่บางครั้งถ้าไปห่วงภายนอกมากไป แล้วจะแก้ปัญหาได้หรือเปล่าครับ ที่สำคัญ ไม่ใช่เพราะข้ออ้างที่ยกให้ประชาชนฟังว่า เราต้องห่วงสายตาคนภายนอกด้วยว่าเค้าจะมองเราอย่างไรหรอกหรือ จึงมีนโยบายแอบแฝงที่เปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ จนทำให้ผู้ประกอบการชาวไทยต้องล้มหายตายจากไปมากต่อมากแล้ว ตัวอย่างแค่คำค้านเรื่อง FTA ที่มีกันตลอดมา แต่รัฐบาลในยุคนั้นก็หาได้เคยฟังคำทักท้วงจากผู้ประกอบการไทยไม่ ต่อให้ทำ Public hearing (ขอโทษที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ) กันสักร้อยรอบ คำตอบที่ได้รับก็ไม่เคยนำไปช่วยคิดหาทางออกให้ว่า จะปกป้องกิจการต่างๆ ของคนไทยได้อย่างไรเลยสักครั้ง ยังคงดำเนินการต่อไปจนถึงวันนี้ วันที่วงจรเศรษฐกิจของประเทศไทยแทบจะถูกตัดตอนโดยนักลงทุนต่างชาติไปสิ้นแล้ว ประเทศส่วนใหญ่ที่ริอ่านจะทำ FTA เขาล้วนแต่ศึกษามาอย่างถี่ถ้วนแล้วทั้งสิ้น มีแต่ประเทศเรานี่ล่ะ อยากจะเปิดนักหนา ให้ฝ่ายหนึ่งไปศึกษา แต่เวลาเจรจากลับส่งอีกฝ่ายหนึ่งไปแทน เจรจาอย่างไรก็เสียเปรียบเขาด้วยขาดความเข้าใจในข้อตกลงอย่างถ่องแท้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมผู้ประกอบการไทยถึงสู้อะไรกับชาวโลกได้อย่างลำบากยากเย็น ก็คนในของเรายื่นดาบให้ข้างเขาเสียแล้ว พี่น้องเจ้าของกิจการไทยจะเหลือสิ่งใดเล่า จากคุณ : นุนา1 - [ 31 ส.ค. 51 17:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ต้องบอกก็รู้ครับ ว่าประเทศเกือบทั่วโลกเค้าเอือมกับพันธมิตร กบฎประเทศขนาดไหน เมื่อไรจะจับตัวแล้วไปตัดหัวให้เป็นเยื่องย่างสักทีนะ เริ่มทนไม่ไหวแล้ว จากคุณ : princess_joyzaxzy - [ 31 ส.ค. 51 17:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เจ้าของกระทู้กินข้าวบ้าง จากคุณ : อ สุวงศ์ - [ 31 ส.ค. 51 18:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ีความคิดเห็นที่ 52 นโยบายแอบแฝงที่เปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ จนทำให้ผู้ประกอบ การชาวไทยต้องล้มหายตายจากไปมากต่อมากแล้ว ู^ ^ ^ ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ แต่เราไม่สามารถนำทรัพยากรเหล่านั้นมาใช้งาน ได้ จนกระทั่งเราต้องนำเข้าจากต่างชาติ แต่สินค้านำเข้าจะมีมูลค่าสูง ผู้บริโภคเดือดร้อน รัฐเองก็เดือดร้อนเพราะมีแต่การนำเข้า ไทยจึงอยากจะเป็นผู้ผลิตเองบ้าง แต่ไทยไม่มี ความรู้+เทคโนโลยี+เงินลงทุน ยกตัวอย่างเช่น แร่เหล็ก แร่ทอง แร่ดีบุก รวมถึงน้ำมัน ที่มีในไทย แต่เราต้องให้ต่างชาติมาสำรวจ+ขุดเจาะ+กระบวนการผลิตเพื่อแปรรูป เราต้องยอมรับความจริงว่า ไทยไม่มีความรู้+เทคโนโลยี+เงินลงทุน รัฐหาทางออกโดย การให้สัมปทาน คือ แหล่งทรัพยากรยังคงเป็นของไทย(คือไม่ได้ขายแหล่งทรัพยากร) การบริหารเศรษฐกิจมหาภาค เป็นเรื่องยาก เพราะฝ่ายหนึ่งอาจได้เปรียบ แต่ฝ่ายหนึ่ง อาจเสียเปรียบ ยกตัวอย่างเช่น ไทยทำFTAกับจีนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล็ก ผู้นำเข้าเพื่อใช้ ในอุตสาหกรรมได้ผลประโยชน์ แต่ผู้ผลิตเพื่อขายให้อุตสาหกรรมเสียผลประโยชน์ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ไทยไม่มีโรงถลุงเหล็กในประเทศ ยังไงก็ต้องนำเข้ามาอยู่ดี ปัจจุบัน ไทยต้องนำเข้าเข็มเย็บผ้าจากต่างประเทศ เพราะเราไม่มีเทคโนโลยีในการผลิต อยากให้เพื่อนๆ เวลามองอะไรก็แล้วแต่ ให้มอง 2 ด้าน มันไม่มีอะไรที่ทำแล้วได้เปรียบ ทุกอย่างหรอก มันก็ต้องมีได้เปรียบบ้าง เสียเปรียบบ้าง (แต่ในอนาคตได้เปรียบแน่นอน) แต่เรื่องเปิดร้าน Seven-Eleven ไม่เห็นด้วยเลย เยอะยังกับดอกเห็ด จากคุณ : chamchompoo - [ 31 ส.ค. 51 19:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ทำลายกันเข้าประเทศชาติ กฎกติกามี ก้อแหกกฎ ตั้งศาลเตี้ย ไม่คิดจะหาทางออก ด้วยวิธีทางที่ถูกต้อง ให้ประเทศชาติกันบ้างเหรอ คนโง่จำนวนมาก ก้อย่อมเป็นเหยื่อ อันโอชะของคนฉลาดแกมโกงเพียงไม่กี่คน บางคนมันบอกว่ารักชาติ แต่รู้ม่ะการรักชาติแบบผิด ๆ มันทำลาย และทำร้ายประเทศชาติ ให้เสียหายแค่ไหน หรือว่า เราจะต้องเปลี่ยนการปกครอง กลับมาเป็น ระบบสมบูรณายาสิทธิราช ล่ะครับ ประเทศชาติถึงจะได้เจริญสักที หรือว่าจะเอาระบบคอมมิวนิสต์ ดีม่ะ จากคุณ : halfofw - [ 31 ส.ค. 51 21:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ในแง่ธุรกิจการแลกทรัพยากรกับความรู้ทางเทคโนโลยี เงินลงทุนจากต่างชาติในประเทศที่กำลังพัฒนานั้น ถือเป็นเรื่องปกติ แต่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ที่จำกัด และป้องกันขอบเขตของคนต่างชาตินั้นไว้ให้กับคนไทยด้วย ในประเทศที่กำลังพัฒนาอื่น อย่างจีน หรือ เวียดนาม มีกฎหมายเรื่องของการลงทุนระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ผู้ลงทุนต่างชาตินั้นถ่ายทอดความรู้ให้กับพนักงานที่เป็นคนท้องถิ่น การจะนำผลกำไรออกก็มีข้อลดหย่อนให้ต้องนำกลับมาลงทุนต่อ แต่ก็มีการสนับสนุนการลงทุนคล้ายๆ BOI บ้านเรา ซึ่งเขาทำได้แบบที่คนในประเทศไม่ต้องเสียเปรียบมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการบ้านเราต้องเสียหายนั้น ตัวอย่างง่ายๆ ใกล้ตัวเช่นที่คุณยกมา กรณีห้างโลตัส (7-eleven ยังไม่ถือเป็นตัวปัญหาใหญ่ เนื่องจากขายราคาพอๆ หรือสูงกว่าท้องตลาดนิดหน่อย เหมาะสำหรับคนต้องการความสะดวก) หรือ คาร์ฟูร์ ต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีการจำกัดเขตการตั้งห้างเหล่านี้ให้อยู่ตามชานเมือง หรือ ที่เรียกว่า Zoning เพื่อให้ผู้ประกอบการเล็กๆ ที่เราเรียกกันว่า โชห่วย มีโอกาสที่จะทำมาหากินภายในละแวกของตัวเองได้ ขณะที่บ้านเรานั้นเปิดให้ตั้งได้ในใจกลางเมืองกันเลยทีเดียว 2 ห้างติดกัน แถมถัดไปอีกแค่ถนนเดียวก็มีห้างเดิมซ้ำอีก อย่างถนนพระรามสี่ (ขอยกคุณงามความดีให้แก่ ดร. สุวรรณ วลัยเสถียร ผู้เปิดประตูให้ต่างชาติด้วยตัวเอง) ส่วนระดับใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เป็นผู้ประกอบการที่มีตราสัญลักษณ์ (Brand) เป็นของตนเอง ก็ถูกบีบให้ผลิตและขายสินค้าราคาถูกภายใต้ตราของห้างเหล่านี้ ส่วนสินค้าตัวเองก็ต้องขายราคาแพงกว่าในห้างเดียวกัน นี่ยังไม่นับการคิดเงินค่าจุดขายระดับสายตาอีก แล้วคุณคิดว่าคนไทยจะซื้อของใคร จนถึงทุกวันนี้คนก็ยังเข้าห้างโลตัสราวกับว่ามีของแจก ทั้งๆ ที่เค้าใช้กลยุทธ์ Lost leading (ขอโทษที่ใช้ภาษาอังกฤษ) มาล่อให้คนเข้าไปซื้อแท้ๆ แค่มีของถูกไม่กี่อย่างปะปนอยู่กับของแพง ซึ่งไม่ว่าอย่างไรคนก็ต้องซื้อของแพงติดไปด้วย รวมแล้วคือเฉลี่ยๆ กันไป คนขายได้ คนซื้อไม่ได้ไม่เสีย (เพราะซื้อของถูกแพงเฉลี่ยกันไปในราคาที่จ่ายพอๆ กับไปห้างอื่น) แต่ผู้ผลิตไทยตาย แล้วคนตะวันตกทำอะไรกับผู้ประกอบการไทยด้านอุตสาหกรรมบ้าง อยู่ว่างๆ ก็เปิด Anti-dumping เรื่องสับปะรดไทย ทำให้ผู้ประกอบการไทยโดนภาษี Anti-dumping มาแล้วกี่ปี จะไปขายแข่งกับใครก็ไม่ได้ สุดท้ายตลาดโดยรวมก็กลายเป็นของคู่แข่งไทยไป กว่าที่ผู้ประกอบการจะฟื้นตลาดกลับมาได้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ สินค้าต่างๆ ที่ทั้งเราและเขาจำเป็นต้องนำเข้าและส่งออก ถือเป็นเรื่องปกติในโลกธุรกิจที่ต้องมีคนได้เปรียบและเสียเปรียบอย่างที่คุณบอกมานั้นถูกต้อง แต่ประโยชน์ที่สำคัญที่สุด คือ ประโยชน์ของชาติและประชาชนส่วนใหญ่ รัฐบาลได้มองถึงจุดนี้หรือไม่ ต้องถามว่า WTO กับ FTA นั้นทำไปเพื่อใคร ได้ประโยชน์อะไร ข้อตกลงที่มีเพื่อฮั้วกันระหว่างชาติที่พัฒนาแล้ว เอื้อประโยชน์แก่ชาติตะวันตก หรือ ชาติที่มีกำลังมากกว่าให้มาเอารัดเอาเปรียบชาติที่อ่อนแอกว่ามาโดยตลอด รัฐบาลที่บริหารประเทศควรเป็นผู้ที่ประเมินว่าสมควรที่จะเอาผลประโยชน์ของประเทศไปเสี่ยงเช่นนั้นหรือไม่ กรณี ISO9000, 18000 หรือ เกณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาใหม่เรื่อยก็ตาม ถามถึงประโยชน์ที่แท้จริง นอกจากนั่งคุมเอกสารแล้ว มีความจำเป็นหรือไม่ ทำให้ทำงานกันสะดวกขึ้นหรือไม่ ก็แค่เอามาเป็นตัวการันตีให้เห็นว่า ผู้ประกอบการไทยผลิตสินค้าได้มาตรฐานที่จะส่งออกได้เท่านั้น เราต้องจ้างพวกบริษัทที่ปรึกษาเสียเงินไปเท่าไหร่ ขณะที่โลกตะวันตกเองพยายามลดขั้นตอนในการทำงานลง แต่กลับเอาเกณฑ์เหล่านี้มาทำให้ประเทศกำลังพัฒนาอย่างพวกเราต้องเพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่ายให้มากขึ้น เมื่อต้นทุนสูงกันขนาดนี้ จะตั้งราคาสินค้าให้ไปแข่งในตลาดโลกได้อย่างไร แล้วเป็นการค้าเสรีที่ตรงไหน ในเมื่อตั้งกฎเกณฑ์สารพัดกับประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอกว่าแบบนี้ ถือว่าเป็นการกีดกันทางการค้าในรูปแบบของมหามิตรน่าจะเหมาะกว่า ลำพังแค่ AFTA ที่ทำกับประเทศคู่ค้าที่มีกำลังพอๆ กับประเทศไทย เรายังเอาตัวแทบไม่รอด นี่หาญไปทำ FTA กับประเทศที่เหนือกว่าทั้งกำลัง และชั้นเชิงทางการค้าอย่างมากมาย คุณยกตัวอย่างจีนมา ก็ขอว่ากันเรื่อง FTA กับจีนเลยก็แล้วกัน บ้านเราเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่ผักและผลไม้ (พิกัด 07-08) ของไทยเขากลับอ้างเรื่องโรคพืชและแมลง กว่าจะนำสินค้าพ้นจากขั้นตอนการตรวจต่างๆ ได้ ผักผลไม้ก็เกือบเน่าไปเสียแล้ว ในแต่ละมณฑลก็มีกฎระเบียบที่ต่างกันไป แถมยังมี VAT อีก 13% ขณะที่ผักผลไม้จากจีนทะลักเข้าไทยแบบไม่มีปราการอะไรกั้นเลย อาจจะมองในแง่ของผู้ซื้อว่าได้ประโยชน์ แต่เกษตรกรไทยที่เป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศเล่าจะปล่อยให้เขาค่อยๆ ตายไปเช่นนั้นหรือ และในแง่การนำเข้าและส่งออกเหล็กไปจีนที่คุณกล่าวถึงนั้น ฝ่ายจีนเองมีมาตรการจำกัดการนำเข้าเหล็กจากไทยเพียงร้อยละ 3 มาระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่ว่าผู้ส่งออกของเราจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ขออนุญาตเอารายงานการประชุมของคณะกรรมการร่วม WTO (โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย) มาให้ดูเป็นตัวอย่างว่า ตั้งแต่ทำ FTA กับจีนในปี 2546 ไทยได้เสียดุลการค้าให้จีนในปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 66,598.7 ล้านบาท ถ้าจะให้มองทั้ง 2 ด้าน ก็ขอให้ลองเทียบอัตราส่วนระหว่างความเสียหายของภาคเกษตรกรรมกับประโยชน์ที่ภาคอุตสาหกรรมได้รับแล้ว คุณว่าคุ้มหรือไม่ พิมพ์เสร็จแล้วเพิ่งเห็นว่าข้อความยาวเหยียด ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ยึดพื้นที่กระทู้ของคุณ chamchompoo พาออกทะเลไปขนาดนี้ แต่อยากให้เข้าใจว่า ขณะนี้ คือ เวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศไทย เราต้องหาทางยุติปัญหาที่เกิดในปัจจุบัน เวลาของเราทุกคนไม่มีเหลือสำหรับความกังวลกับคำวิจารณ์ของสื่อต่างประเทศ เพราะเขาไม่ใช่เรา และเราก็ไม่ใช่เขา ย่อมไม่มีวันทำให้เขาเข้าใจดังที่เราเข้าใจได้ และเราก็อาจจะไม่มีวันเข้าใจเขาได้ว่าเหตุใดจึงคิด และวิจารณ์ออกมาเช่นนั้น จากคุณ : นุนา1 - [ 31 ส.ค. 51 22:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เพราะว่าอ่านแล้วถึงได้  คอมเม้นท์ไง ถึงได้ถามไงว่าถ้าเป็นคุณ  คุณจะยื้อตำแหน่งไว้เพื่ออะไร คุณสมัครลองมีหน้าที่แล้ว  เขาก็จะทำงานให้บรรลุ  ไม่ทิ้งไว้ ครึ่งๆกลางๆ  เขาเป็นคนมีศักดิ์ศรี  เพราะถ้าไม่มี  คงปล่อยวางแล้ว แล้วมันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  ที่ใครบางคนจะตัดสินใจทำอะไร ในภาวะวิกฤตเช่นนี้  เพราะเหมือนว่า กำลังถูกหอกจากทุกทิศทุกทาง พุ่งเข้าใส่  และก็คงจะรู้ด้วยว่า การลาออกหรือยุบสภา เป็นเพียงแค่ ข้ออ้างอันหนึ่ง  ที่ พธม. ตั้งไว้  แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า  พธม. จะทำอะไรต่อไปอีก จากคุณ : Duo-Core - [ 1 ก.ย. 51 00:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คนที่รับว่า ตัวเองได้เป็นนายกฯ เพราะคนอื่นให้เป็น คนมีศักดิ์ศรี??? ถ้าจะมีคงเป็นได้แค่ ศักดิ์ศรีของนอมินี   เมื่อวันหนึ่งที่ความฝันอันสูงสุดในชีวิตได้เป็นจริง ใครจะยอมละทิ้งไปได้ง่ายๆ ขอเรียนว่า ตั้งแต่รับรู้เรื่องการเมืองได้ คนที่ชื่อว่า สมัคร ไม่เคยรู้จักปล่อยวางอะไรได้ ชีวิตมีแต่คำว่า ต้องเอาชนะ ไม่ว่าจะต้องเข่นฆ่ากี่ชีวิตเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจมา ก็ไม่เคยสนใจ ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคใหญ่ ก็ด่ากราดผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ได้เป็นนายกฯ ก็กระทบกระเทียบ หยาบหยามเปรียบเปรย ยกตนว่าดีกว่าผู้ที่ได้เป็นนายกฯ มาแล้ว ไม่ได้นักข่าวเป็นพวก ก็ตวาด ผรุสวาท ด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด ไม่เคยคิดจะรอมชอมกับฝ่ายตรงข้ามเพื่อบ้าน เพื่อเมือง มีแต่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เคยมีสักครั้งไหม ที่สมัครยอมเสียสละทำอะไรเพื่อประชาชนตาดำๆ โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า อยู่เพื่อทำหน้าที่ต่อเพราะถือว่าเป็นความรับผิดชอบ จึงไม่อาจนับว่าเป็นความจริงได้ และถ้านี่คือ ท่าทีของคนมีศักดิ์ศรี ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คนกลุ่มหนึ่งหรืออีกหลายกลุ่มไม่ต้องการนายกฯ ที่เปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีอย่างท่านกระมัง จากคุณ : นุนา1 - [ 1 ก.ย. 51 10:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 60 "คนอื่น"ให้สมัครเป็นนายก ก็มาจากเสียงของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่หรือครับ เรียกร้องให้สมัครรอมชอม แต่พันธมิตร ไม่เคยคิดจะรอมชอมเลยซักนิดเดียว ไปเรียกร้องให้แป๊ะลิ้มถอยก่อน จะดูดีกว่านะครับ จากคุณ : เถ้าลอย - [ 1 ก.ย. 51 13:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เสียงคนไทยที่ว่านั้นได้มาแบบใด ย่อมรู้อยู่แก่ใจผู้กระทำ คนที่หยิบยื่นโอกาสในตำแหน่งนายกฯ ให้แก่คุณสมัคร ถือสิทธิ์อย่างไรหรือ จึงได้ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น หากว่ามิใช่นายทุน แล้วทุนนั้นมาจากแห่งใดเล่า ถ้ามิใช่การฉ้อฉล ใช้กลโกงต่อชาติและพี่น้องร่วมแผ่นดิน จนตอนนี้ต้องกลายเป็น "คนหนีคดี" หรือคำว่า "คุณธรรม" ของผู้คนบนแผ่นดินไทยนี้ได้เปลี่ยนนิยามไปแล้ว จากคุณ : นุนา1 - [ 1 ก.ย. 51 14:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 29 คุณนุนา1 เรื่องในอดีตเราคงตามไปแก้อะไรไม่ได้ แต่ในวันนี้เมื่อคนกลุ่มหนึ่งเห็นว่าอำนาจไปตกอยู่ในมือคนไม่ดี ก็เป็นหน้าที่ที่คนกลุ่มนั้นจะหาทางเปิดช่องให้คนดีมาบริหารบ้านเมือง ซึ่งจำเป็นต้องเกิดขึ้นนอกสภา ### อยากรู้จังว่าคนดีของคุณนุนา1 เป็นใคร คงไม่ใช่ ปชป.นะครับเพราะฝ่ายนี้ก็โกง หรือคุณไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ สปก.4-01 เลยหรือ ทุกคนมีความคิด ความเชื่อ คุณจะเชื่อว่า ปชป. ดี ก็เป็นสิทธิของคุณ แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศเขาเชื่อว่า พปช.ดีกว่า (เลวน้อยกว่า) คุณก็ควรจะยอมรับความคิดขอบคนส่วนใหญ่ เพราะเขาเชื่อว่าอีกฝ่ายที่คุณดันให้เป็นนายกมันเลวกว่าไง เข้าใจหรือยัง จากคุณ : Big BuBu - [ 1 ก.ย. 51 17:42:43 ]

ความคิดเห็นที่ 63 นายกสมัคร คงเป็นที่ชื่นชมมากกกกกกกกกกกกกกเลย อุอุ จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา - [ 1 ก.ย. 51 17:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ด้วยความเคารพครับ แล้วถ้าเกิด ท่านอภิสิทธ์ ได้เป็นนายกขึ้นมานี่จะเรียกว่ามีศักศรีดิ์หรือเปล่าครับ ในเมื่อเป็นนายกที่รอมาตลอด (อย่างน้อยก็ 2 สมัยแล้ว ไม่รู้จะต้องรออีกแค่ไหน) เมื่อวานคุณ สนธิก็บอกแล้ว ว่า สนับสนุน ปชป. และอภิสิทธิ์เป็นนายก (จากช่องข่าวเนชั่น) ผมไม่เห็นรู้สึกว่าเราๆ (ประชาชนจริงๆ) จะได้อะไรซักอย่างจากการทะเลาะกันของคนที่อยู่ข้างบนเลยครับ ทุกฝ่ายต่างใช้ ประชาชนเป็นเบี้ยทั้งนั้น การประท้วงแบบนี้ผมก็ซึมซับมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากแม่ไปนั่งประท้วงตอน พฤษภาทมิฬ 35 เหมือนกัน (ดีที่ท่านไม่เป็นไรกลับมา) ถ้านักการเมืองทั้งฝ่ายมาร? ฝ่ายเทพ? ดีจริง เค้าคงไม่เสนอกม. บำเหน็จบำนาญ ที่ไม่รู้ตอนนี้มันคว่ำไปหรือยังหรอกครับ (ไม่ทราบว่ามีใครพอจำได้บ้าง) ปล. สุดท้ายอยากให้เลิกได้แล้ว ระบบอุปถัมป์เส้นสาย เด็กใครเด็กมัน ประเทศนี้มันจะได้เจริญๆ ซักที จากคุณ : ลาออกได้ลาออกไปแล้ว (khanchang) - [ 1 ก.ย. 51 18:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่ได้คิดว่าคนดีจะต้องเป็นคนของปชป. แต่อย่างใด ด้วยไม่เคยลืมเหตุที่รัฐบาลนั้นต้องยุบสภาเพราะการโกงกินของคุณสุเทพ เช่นเดียวกับคุณ BigBuBu เหมือนกัน เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีรัฐบาลใดที่ไม่โกงกิน เพียงแต่จะกินด้วยอาการตะกละตะกรามจนไม่เหลือศักดิ์ศรีของความเป็นคนหรือไม่เท่านั้นเอง หากอยากจะเป็นประชาธิปไตยจริง เราก็ควรที่จะเรียนรู้ในการยอมรับความคิดเห็นของบุคคลอื่นเช่นกัน หากการยอมรับความเห็นของเสียงส่วนใหญ่นั้น สามารถกระทำได้ต่อเมื่อไม่มีการกระทำความผิด แต่เมื่อมีข้อมูลตรวจสอบได้ว่าเกิดสิ่งที่ไม่ควรแล้ว การเพิกเฉยนั้นน่าจะถือเป็นความผิดยิ่งกว่า เสมือนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่เห็นสิ่งผิดทำนองคลองธรรมเกิดขึ้นตรงหน้า เพราะฉะนั้นการที่ใครสักคนไม่ต้องการคุณสมัคร หรือ คุณทักษิณนั้น ไม่ได้หมายความว่า เขาคนนั้นจะต้องไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง หรือ มีใจฝักฝ่ายในฝ่ายนั้น กรุณาอย่าเหมารวมคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรา เป็นฝ่ายศัตรูไปเสียทุกผู้ทุกคน เพราะความคิดเช่นนี้จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนแก่แผ่นดินไม่รู้สิ้น ความขัดแย้งในบ้านเมืองเรามีมากจนเกินพออยู่แล้ว การมองคนที่คิดต่างกันเป็นศัตรู จึงมีแต่จะยิ่งทวีความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคม เราควรที่จะแสดงความคิดเห็นว่าเราคิดอย่างไร มีข้อมูลอย่างไร มาแบ่งปัน มาอธิบาย เผื่อบางทีคนที่เห็นต่างกับเราอาจจะกลับมาเข้าใจในแบบที่เราเข้าใจมากขึ้นก็เป็นได้ ปล. คุณ khanchang พูดถูกทีเดียวในเรื่องที่ว่า ประชาชนอย่างเราเป็นแค่เบี้ย  แต่อย่างหนึ่งที่เบี้ยอย่างเราๆ พึงกระทำ คือ รักษาไว้ซึ่งเมืองของเรา   ส่วนเรื่องระบบอุปถัมภ์ เส้นสายนี้ เป็นปัญหาโลกแตกที่แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วก็ยังแก้ไม่จบ จนกว่าผู้บริหารในทุกระดับ ตั้งแต่บริษัท ห้าง ร้าน ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนรัฐบาล จะรู้จักคำว่า "คุณธรรม" อย่างแท้จริง  ด้วยความเคารพเช่นกัน จากคุณ : นุนา1 - [ 1 ก.ย. 51 20:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถึง คุณนุนา1 คุณนุนา1 ไปห้างโลตัสคุณเคยสังเกตุมั้ยว่า จะมีซุ้มเล็กๆตั้งขายของจำนวนมาก บางซุ้มก็ เป็นสินค้าOTOP  สินค้าในห้างก็เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศ  ส่วนของกินราคาก็แพงกว่า ตลาดมาก ผักบางอย่างจะเป็นผักปลอดสารผลิตในไทยเอง มีนำเข้าบ้างส่วนน้อยมากก อีกทั้งห้างโลตัสจะตั้งเฉพาะในเมืองใหญ่เท่านั้น โดยส่วนตัวคิดว่า ห้างใหญ่ที่มีจำนวนไม่มากไม่เป็นอุปสรรคต่อร้านขายปลีกเท่าไรนัก แต่ SEVEN-ELEVEN มีปัญหากับร้านค้าปลีกมาก เดียวนี้ร้านค้าปลีกต้องปิดไปจำนวนมาก เพราะสินค้าที่วางขายในร้านขายไม่ออก..กลายเป็นสินค้าเก่า..ผู้บริโภคก็ไม่ซื้อ ร้านค้าปลีกก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งในประเทศก่อนหน้านี้มีร้านค้าปลีกจำนวนมาก แต่เดี๋ยวนี้อยู่ไม่ได้ ถ้าคุณคุณนุนา1จำตอนเป็นเด็กๆได้ จะนึกได้ว่าเราไปซื้อของตามร้านค้าปลีกบ่อยมาก   ไปก่อนเดี๋ยวมาคุยเรื่องการเมืองต่อ จากคุณ : chamchompoo - [ 1 ก.ย. 51 21:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เรียนคุณ chamchompoo ห้างโลตัสในช่วงที่เริ่มถูกโจมตีอย่างหนักจากธุรกิจค้าปลีกต่างๆ ในช่วงประมาณ 5-6 ปีก่อน ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อภาพลักษณ์ของห้างอย่างมาก การนำเอาสินค้า OTOP และสินค้าไทยต่างๆ ไปเพิ่มในห้างก็เป็นไปเพื่อให้แรงต่อต้านเบาบางลง แต่พฤติกรรมเอาเปรียบผู้ผลิตสินค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบการของไทยยังไม่ได้ลดลงเลย ตั้งแต่กระบวนการต่อรอง ซื้อขาย จนถึงวิธีจ่ายเช็ค แต่จะมีคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่มีโอกาสรับรู้ข้อมูล ซึ่งถ้าคนภายนอกได้ทราบความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ความรู้สึกที่มีต่อห้างเหล่านี้ก็อาจจะเปลี่ยนไป จริงๆ แล้วหากห้างเหล่านี้ไปอยู่ตามชานเมืองแล้วให้ร้านค้าปลีกเป็นฝ่ายนำรถออกไปซื้อเข้ามาขายในเมือง วงจรร้านค้าปลีกก็ยังจะอยู่ได้อย่างดี ถือว่าเป็นน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า แต่เมื่อห้างเหล่านี้รุกเข้ามาถึงใจกลางเมือง ร้านค้าปลีกจึงต่อสู้ได้อย่างลำบากมากขึ้น และในที่สุดห้างเหล่านี้ก็ตัดวงจรค้าปลีก โดยยึดลูกค้าไว้หมด เนื่องจากลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ร้านค้าปลีกจึงต้องปิดตัวลง ส่วนที่เห็นโลตัสตั้งในเมืองใหญ่ๆ เพราะได้เปลี่ยนสภาพจากห้างให้กลายมาเป็นร้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า Lotus express เพื่อลดแรงเสียดทานจากสังคมว่ารังแกกิจการค้าปลีกรายย่อย ตรงนี้น่ากลัวมากกว่าเป็นห้างเสียด้วยซ้ำไป เพราะตีกินได้ทุกจุด ไม่เหลือให้ทั้งร้านค้าปลีกรายย่อย และ 7-eleven กรณี 7-eleven จะนับว่าเป็นคู่แข่งของร้านค้าปลีก ก็นับได้ แต่คงไม่ตรงและมีผลแรงเท่ากับห้างใหญ่ๆ ด้วยว่าราคาสินค้าที่ขายไม่ได้ตั้งแบบให้ต่ำกว่าทุน เน้นอาหารและของใช้จุกจิกบ้าง และหากมีโลตัส, โลตัสเอ็กซเพรส หรือ คาร์ฟูร์เข้าไปอยู่ใกล้ๆ กัน คนย่อมไปที่ห้างมากกว่า ตัว 7-eleven ก็เข้าข่ายต้องตายเหมือนกัน ต้องเรียนตามตรงว่าส่วนตัวแล้วจะไม่เข้าโลตัส หรือ คาร์ฟูร์ในประเทศไทย ยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งน่าจะไม่เกินปีละ 3 ครั้ง และแม้มีเหตุให้ต้องเข้าไป ก็จะไม่ซื้อสินค้าที่เป็นตราโลตัสหรือคาร์ฟูร์เด็ดขาด ไม่ว่าจะถูกกว่ากันกี่บาทก็ตาม เนื่องจากอยากช่วยจะรักษาตราสินค้าไทยเอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างในห้างจะกลายเป็นตราของห้างไปเสียหมด เพราะถ้ารอให้ถึงวันที่ผู้ประกอบการไทยกลายเป็นแค่เพียงผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับห้าง ตลาดทั้งหมดจะกลายเป็นของห้าง กลไกตลาดจะเปลี่ยนแปลงโดยมีห้างเป็นผู้ควบคุมทันที อาจจะดูยังไกลตัวไปเพราะสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยเวลา แต่หากป้องกันไว้ไม่ให้เกิดเลยย่อมจะดีกว่า ส่วนใหญ่จึงไปอุดหนุนกิจการคนไทยด้วยกันอย่างฟู้ดแลนด์เป็นหลัก หรือ ร้านค้าปลีกใกล้ๆ (ที่ส่วนใหญ่ก็คงจวนปิดตัวเต็มทีแล้ว) ด้วยวัยไม่ค่อยจะอำนวย คงต้องขอตัวไปนอนก่อน เรื่องการเมืองคงต้องขอพักไว้มาคุยกันพรุ่งนี้ต่อ ราตรีสวัสดิ์ จากคุณ : นุนา1 - [ 1 ก.ย. 51 23:35:14 ]