ความคิดเห็นที่ 1 ผมอยากเบ่นเข็มไปเป็นผู้วิเคราะห์ครับ <-- คิดดีแล้วเหรอ เอแบคบางนาจ้า แต่มีรถรับส่งให้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินไกล ..... ..... ..... ..... ..... ..... เด๋วมาตอบทีหลังนะ แต่ละคำถามตอบได้ยาวยืดทั้งนั้น จากคุณ : EAGo - [ 12 ก.ย. 51 20:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังรอคำตอบท่านที่เมตตา อยู่นะครั บ จากคุณ : garaboon - [ 13 ก.ย. 51 13:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1. สอบCISAที่ABAC ครับ 2. สมัครงาน นักวิเคราะห์, ผู้จัดการกองทุน, อาชีพด้านการลงทุนอื่นๆ 3. 2 ประเภทถูกแล้วครับ (แต่จริงๆอันหลังน่าจะเรียก อนุพันธ์) แต่อาจจะมีแบ่งในแง่อื่นอีกเช่น นักวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค,เชิงกลยุทธ์ 4. นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ไม่ต้องสอบอะไรเพิ่มครับ แต่ ถ้าด้านอนุพันธ์ต้องสอบกฎระเบียบเพิ่มครับ (หลังจากสอบCISA2ได้แล้ว) 5. ลักษณะงาน คือทำวิจัย และ มีพรีเซนต์บ้างเหมือนกันครับ (เดี๋ยวข้อนี้รอท่านอื่นตอบดีกว่า) 6. น่าจะ 25000-30000 up แล้วแต่ที่ และ ทัศนคติของที่นั้นๆครับ จากคุณ : ShadowDio - [ 13 ก.ย. 51 23:11:49 A:124.121.9.214 X: TicketID:171218 ]

ความคิดเห็นที่ 4 " ผมอยากเบ่นเข็มไปเป็นผู้วิเคราะห์ครับ <-- คิดดีแล้วเหรอ " จากคุณ : EAGo เหอะๆ ทำไมถามแบบนี้ละคับ จากคุณ : garaboon - [ 15 ก.ย. 51 16:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อ 1 - 4 มีคำตอบในเว็บของ TSI ครับ หรือโทรถามเขาก็ได้ครับ สายงานนักวิเคราะห์ เท่าที่ผมเห็นนะ ก็มี 1. เริ่มต้นก็ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ 2. นักวิเคราะห์ 3. รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ 4. ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ ก็ประมาณนี้นะ (ที่เหลือรอท่านอื่นตอบนะครับ) จากคุณ : KIRA YAMATO - [ 15 ก.ย. 51 18:10:03 A:202.41.167.246 X: TicketID:162421 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ถามดูน่ะครับ เพราะดูจากคำถามข้อ 5 แล้วเหมือน ๆ จะยังไม่ได้หาข้อมูลเชิงลึกเรื่องนี้มา คนอยากเป็นนักวิแคะก็เยอะ คิดว่านะ แต่บางทีอะไร ๆ มันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นทั้งเกิดจากปัจจัยภายนอกและภายในที่มารุมเร้าน่ะครับ เลยถามว่า คิดดีแล้วเหรอ 2. ไป tsi ก็ได้ครับ อย่างที่คิระว่า นอกจากนั้นแนะนำว่า บางงาน cisa is a must บางงาน cisa is an advantage พวก advantage ก็ลองไปหาในพวก jobsdb งานด้าน ๆ finance ละกันครับ ว่าอันไหนที่เขา value ด้านนี้ด้วย 3. อืมมมมมมมมมมมมมม ถูกมั้ยเหรอ ถ้าแบ่งตาม license วิเคราะห์ เดริ จะต้องไปสอบอีก ถ้าจะวิแคะแบบออกโทรทัศน์ ก็จะมีกฎอีกต้องว่างั้นว่างี้ แต่ตามที่ shadow dio บอกก็ถูกถ้าแบ่งตามประเภทนั้น ๆ ซึ่งสามารถหาได้ตาม broker's analysis ว่าแต่ละทีเขาจะแบ่งออกเป็นแบบไหนกันบ้าง เช่น strategist, technic, บ้าง ซึ่งมันก็ขึ้นกับแต่ละโบร๊กอยุ่ดี 4. หาดูที่ tsi ชัวร์สุด 5. ง่ายที่สุดก็หา job description มาดู ลองอ่านบทวิเคราะห์ดูว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง ทีนี้ก็ลองสมมุติตัวเองว่า ถ้าจะวิแคะ ptt หรืออื่น ๆ ให้ออกมาได้เหมือนเขา เราต้องรู้อะไร ทำอะไรบ้าง ยกตัวอย่างให้ เช่น dcf, factors ลักษณะเฉพาะของแต่ละธุรกิจ เช่น เอไอเอสก็ 3จี ปตทก็ ราคาน้ำมัน ทำ fin info forecast แล้วก็ลองออกบทวิแคะมาเองเลยซักอันนึงว่าทำได้มั้ย เขียนได้แบบเขามั้ย และอื่น ๆ ทีนี้ก็น่าจะเห็นภาพอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เป็นงานหลัก ๆ เวลาออก paper 5. ลักษณะงาน คือทำวิจัย และ มีพรีเซนต์บ้างเหมือนกันครับ (เดี๋ยวข้อนี้รอท่านอื่นตอบดีกว่า) Shadow Dio ใช่ ๆ เรื่องทำวิจัยนี่ของชัวร์เลย แต่พรีเซนต์นี่ก็แล้วแต่นะ ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นกับว่าเราอยุ่กับที่ไหนนั่นแหละ ถ้าโบร๊กที่เขา serve retail หนัก ๆ เลย ก็จะเห็นงานวิจัยออกมาแนว ๆ นึง จะมีพรีเซนต์ป่าวไม่รู้ แต่ถ้าโบร๊กที่เขา serve foreign fund manager ก็จะเห็นงานวิจัยออกมาอีกแนว ๆ นึง คนรู้จักบอกบางทีก็ต้องคุยกับพวก fm เหมือนกัน ลองอ่านของ kimeng, phatra, ubs, credit suisse, zmico เปรียบเทียบกันดู แล้วก็จะเห็นเอง 8. ถ้าโบร๊กนอกอันนึงเท่าที่รู้ก็ แปดหมื่น ปตรี จบใหม่ แต่ข้อมูลนานแล้วนะ โบร๊กไทย ๆ หน่อย ก็อย่างที่คุณ ชาโด้ว่า แต่เรื่องประสบการณ์ที่มีจะเอามา nego ได้มากแค่ไหนนี่ผมไม่ทราบครับ ผมเห็นด้วยกับ range of shadow dio น่ะ เรื่อง career path ผมก็เห็นเท่านี้เหมือนกันนะ อย่างที่คิระว่า ในสายของนักวิแคะจริง ๆ ๆ เลย มันก็แค่นั้นแหละ แต่นักวิแคะเก่ง ๆ ผมว่ามันจะเป็นฐานที่ดีให้กับการก้าวต่อไปเป็น fund manager นะ เพราะตัวลักษณะงานมันเองมันทำให้เราวิเคราะห์เป็นประจำ รุ้จักบริษัทเข้านอกออกใน ช่างเป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับ equity fund manager จริง ๆ แหละ ว่าแต่ นึกยังไงถึงไม่อยากทำ credit analyst แล้วล่ะครับ? เป็น credit analyst ให้กับธนาคารรึเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 51 21:55:35 จากคุณ : EAGo - [ 15 ก.ย. 51 21:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 " ว่าแต่ นึกยังไงถึงไม่อยากทำ credit analyst แล้วล่ะครับ? เป็น credit analyst ให้กับธนาคารรึเปล่าครับ " เดิมที่เป็น credit analyst ให้กับบริษัทประเภท ลีสซิ่ง เช่าซื้อ แฟ็กเตอริ่ง ให้กับธุรกิจครับ ปัจจุบันมาทำสินเชื่อการค้าให้กับบริษัทเอกชน สำหรับสินเชื่อลีสซิ่งแตกต่างกับ ธนาคารเล็กน้อยครับ เพราะ Product มีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากเรียกที่ดินเป็นหลักประกันไม่ได้ หรือ ถ้าได้ก็ยาก ส่วนสินเชื่อเอกชนก็ไม่ก้าวหน้าเท่าไรครับ อีกทั้งเงินเดือนก็ไม่โลดโผ้น เท่าครับ ก็เลยคิดว่าจะลองดู ส่วนใครมีความเห็นอย่างไรก็เชิญได้อีกนะครับ จะได้แชร์ข้อมูลกันด้วยครับ จากคุณ : garaboon - [ 16 ก.ย. 51 15:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ garaboon อย่าโกรธคุณ EAGo เลยครับ แค่แซวเล่นเท่านั้นครับ จากคุณ : KIRA YAMATO - [ 16 ก.ย. 51 18:00:02 A:202.41.167.246 X: TicketID:162421 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมไม่ได้โกรธครับ ส่งสัยจะซีเรียสมากไป ขออภัย ครับ 555 จากคุณ : garaboon - [ 16 ก.ย. 51 18:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งานที่ CFA is a plus เท่าที่ผมค้นเจอนะ มีดังต่อไปนี้ 1. Investment Analyst 2. Investment Banking 3. Financial Analyst (Corporate Finance) 4. Consultant 5. Fund Manager (น้ำหนักความสำคัญต่อ CFA ก็แล้วแต่ตำแหน่งนะครับ ในที่นี้ไม่ได้บอกไว้) แต่ผมกลับคิดว่า คนที่อยากเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ไม่น่าจะแยะนะครับ คือ ผมคิดจากคนจบสายการเงินในแต่ละปี กับคนที่สมัครสอบ CISA น่ะครับ แล้วยิ่งนับเฉพาะคนที่สอบผ่านแล้วด้วยเนี่ย แต่ละปีน้อยครับ (ไม่รู้เหมือนกันนะ อาจจะไม่ถูกก็ได้) โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าคุณอยากได้เงินเดือนแยะล่ะก็ ผมแนะนำให้เรียนบัญชีดีกว่าครับ (อันนี้แล้วแต่ความชอบนะ) ถ้าเทียบเงินเดือนของนักบัญชี กับ นักการเงินแล้ว ผมรู้มาจากเพื่อน ๆ ที่เรียนปริญญาโทด้วยกันเนี่ย เยอะกว่านักวิเคราะห์มากครับ ยิ่งถ้าสอบ CPA ได้ด้วยนะ มากกว่าคนที่ได้ CFA มากครับ (แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นกับแต่ละตำแหน่งนะ) ถ้าชอบสายด้านวิเคราะห์แล้ว ผมแนะนำว่าให้ฝึกทักษาการซื้อขายหลักทรัพย์ การจับจังหวะตลาดพวกนี้ด้วย ก็จะทำให้เราสามารถลงทุนไปด้วยได้ครับ จากคุณ : KIRA YAMATO - [ 16 ก.ย. 51 20:04:55 A:202.41.167.246 X: TicketID:162421 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วได้ความรู้ดี ^^ ถ้าเป็นผมแนะนำ ก็คงบอกว่า ชอบอะไรก็ทำยังงั้นละกานนนนน ถึงงานไหนได้เงินเยอะ แต่ไม่ชอบ มันก็ทำได้ไม่นานหรอก เด๋วไฟก็มอดดดดดดด ....... ผมอ่ะ ไฟมอดแล้วมอดอีก 5555555 แต่รอเรียนโทจบก่อน ไปแน่ หุหุ ..... ต้องมาทำงานที่เกี่ยวกะวิทยาศาสตร์ที่ไม่รู้เรื่องแล้วเรียนต่อการเงินที่สนใจเนี่ย ....... มันทำใจลำบากอ่ะ ........ เฮ้อออออออออ จากคุณ : sonซัน - [ 17 ก.ย. 51 16:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่พวกงาน credit มันจะโตไปเป็น CFO อ๊ะป่าวครับ O_O อยากได้เงินแจ๋ว ๆ ก็ลองสมัคร IฺB ดิครับ จากคุณ : EAGo - [ 18 ก.ย. 51 01:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรียนคุณ KIRA YAMATO ผมไม่ได้จบบัญชีครับ จบเศรษฐศาสตร์การเงิน ไม่ชอบด้านบัญชี แต่ชอบสาวบัญชี Audit ครับ 555 เรียนคุณ EAGo   credit มันจะโตไปเป็น CFO >>> อันนี้แล้วแต่จังหวะครับ ไม่ชัวน์เสมอไป แล้ว IB เนียมันอะไรหรอครับ จากคุณ : garaboon - [ 18 ก.ย. 51 13:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 IB คือ Investment Bank เป็นหน่วยที่ให้คำปรึกษากับบริษัทที่ต้องการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือต้องการทำพวก รีสะตั๊กเจ้อริ่ง ทำ เมอเจ้อแอนแอ๊กควายซีชั่น ลักษณะงานของงานคือ ทำงานเยี่ยงทาส เลิกเที่ยงคืนเป็นเรื่องธรรมดา เลิกเช้าก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ไอบีที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็ไม่พ้น ubs, csfb, goldman sachs และอื่น ๆ ซึ่งพวกนี้ หน่วยไอบีเป็นแค่หน่วยย่อย ๆ ในบริษัทใหญ่ ๆ แบบนั้น คล้าย ๆ แผนกว่างั้นเหอะ ในประเทศไทยแทยทุกโบร๊กจะมีแผนกไอบีอยุ่ ไปดูเพื่อความแน่ใจเอาเองจาก 56-1 or annual report ถ้าจะเข้าไปก็น่าจะมีตำแหน่ง 2 แบบ analyst and associate อันแรกจะต่ำกว่าอีกอัน แต่อันนี้ของไทยยังไงผมไม่รุ้นะ โบร๊กไทยเท่าที่รุ้ว่ามีไอบีก็มี ภัทร กิมลั้ง แบ๊งกรุงเทพก็มีนะ ฟิลลิป ทำไอบีขึ้นชื่อเรื่องเงินดีอยุ่แล้ว แต่ของไทยเบื้อลึกเบื้องหลังยังไงนี่ไม่ชัวรี์ ไม่นานมีนี้เพิ่งมีคนส่งเมสเสจมาถามเรื่องไอบีผมก็บอกไปตรง ๆ ว่าไม่ค่อยทราบเหมือนกัน ทีนี้ไลเซ่นที่จะใช้ก็จะต่างกัน เห็นว่าต้องได้เรื่องกดหมายด้วยเพราะมันเกี่ยวกับ จริง ๆ ที่พันทิพนี่มีคนนึงเขาเชี่ยวเรื่อง IB นะ ถ้าอยากถาม insight ไปตั้งกระทู้ใหม่เลยดีกว่า เขาตอบได้ดีกว่าผมแน่ ๆ ก่อนที่จะกระโดดมาทำ ลองศึกษารายละเอียดดูดี ๆ ก่อนนะครับ ทั้ง analyst, ib และอื่น ๆ ๆ ด้วย จากคุณ : ฟฟฟฟ (EAGo) - [ 18 ก.ย. 51 16:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ EAGo เขียนได้ขำและตลกดีครับ (แอ็กควายซิชั่น) คุณ garaboon ถ้าทำ Credit อยู่ ลองดูพวก Credit Risk Management ดูเพิ่มเติมสิครับ เผื่อสนใจ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีครับ จากคุณ : KIRA YAMATO - [ 18 ก.ย. 51 19:03:05 A:202.41.167.246 X: TicketID:162421 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอ่อ ขอถามคุณ garaboon นิดนึงครับ Credit Analyst นี่ต้องทำยอดปล่อยกู้หรือเปล่าครับ แล้วทำงานกี่วันต่ออาทิตย์นึงครับ ขอบคุณครับ (ผมถามเป็นความรู้นะ ไม่ได้อยากไปทำหรอกครับ) จากคุณ : KIRA YAMATO - [ 18 ก.ย. 51 19:41:53 A:202.41.167.246 X: TicketID:162421 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรียน คุณ KIRA YAMATO Credit Analyst ถ้าเป็นธุรกิจด้าน ลีสซิ่ง ต้องทำยอดปล่อยกู้ ต่อเดือนครับ แต่ถ้าเป็นแบงค์ไม่ต้องครับเพราะลูกค้าวิ่งเข้าหา 555 แต่การทำยอดก็ไม่ยากนักนะครับเงินดีพอประมาณ(เมื่อเทียบกับงานนะครับ) ทำงาน 5 วัน ต่ออาทิตย์ ยกเว้นว่ามีเคสที่จำเป็นต้องเข้าบอร์ดเร่งด่วน หรือ อยากให้ทันสิ้นเดือน ก็เข้ามาทำได้ แต่ถ้าเป็นสินเชื่อการค้า เงินเดือนน้อยพอประมาณ (-_-!) ทำงาน 6 วันบางสัปดาห์ (เสาร์เว้นเสาร์) (T_T) จากคุณ : เซ็งเป็ดพะโล้ หมู 3 ชั้น (garaboon) - [ 19 ก.ย. 51 10:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณ garaboon มาก ๆ ครับ ได้ความรู้อาชีพทางการเงินเพิ่มแล้ว (อยากให้ทุก ๆ ท่านในบอร์ดนี้ช่วยกันแบ่งปันความรู้กันมาก ๆ ครับ เพราะบางทีบางอย่างก็ไม่รู้จะไปถามใครเหมือนกัน อย่างอันนี้ Credit Analyst มี 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ลีสซิ่ง แบ็งค์ สินเชื่อการค้า ผมยังไม่รู้เลยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ) จากคุณ : KIRA YAMATO - [ 19 ก.ย. 51 18:05:44 A:202.41.187.247 X: TicketID:162421 ]

ความคิดเห็นที่ 19 IB ลักษณะงานก็ตามความหมายอย่างที่คุณ EAGo บอกนั่นแหละคับ ตำแหน่งก็เริ่มจาก Analyst > Senior Analyst > Associate > Senior Associate > AVP > VP > Head of IB ส่วน Licence นี่ ควรจะไปอมรมและสอบ FA licence (ไม่ใช่อบรมโค้ชฟุตบอลอังกฤษนะคับ) FA=Financial Advisory แต่ต้องมี exp. 2 ปีก่อนถึงจะสอบได้ ส่วน CFA ผมว่าก็สำคัญนะ (ทั้งในส่วนของความรู้ที่จะได้นำมาใช้และการได้รับ respect จากลูกค้าและคนในวงการ) ขอให้โชคดีในสิ่งที่ตัวเองกะลังตามหาละกันนะคับ จากคุณ : KlinsFed - [ 20 ก.ย. 51 09:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หวัดดีครับ เพือนๆ พี่ๆ ทุกคน ขอมาแจมในกระทู้นี่ด้วย จะทันมั้ยนี่.. ผมเคยตั้งกระทู้ในนี้นานแล้ว เรื่องการสอบ CFA วิชาการเงินที่ควรจะเรียนเพื่อสอบ CFA และ ประเภทของงาน ผลตอบแทน และ ความก้าวหน้าหลังได้ CFA แล้วอ่ะครับ พอดีตอนนั้น ใกล้ต้น ธค 50 กระทู้ผมเลยแทบจะเงียบสนิท แนะนำตัวก่อน ตอนนี้ เรียนโท MBA อยู่อ่ะครับ เคยทำงานสายวิเคราะห์สินเชื่อ SME ของธนาคารแห่งหนึ่งมาได้ 6 ปี ก็สนใจอยากจะมาทำงานด้าน Investment เหมือนกัน ก็ศึกษาว่า CFA สอบยากมั้ยยังไง และคำถามต่างๆข้างต้น จบ ป.ตรี การเงินมา ไม่เคยทำงานสาย investment เลย พอตอนนี้ต้องมาเรียนวิชา(ปโท)การเงินที่เน้นไปด้าน investment แล้ว ก็เหนือยดี ใช้ได้ ไหนๆ มาแนะนำแล้ว ขอถามหน่อยนึงนะครับ ตอนนี้เรียน Investment อยู่ครับ เคยเรียน ป.ตรี แต่ลืมหมดแล้วครับ แล้วหากเลือกได้ สองตัว(มีเวลาเหลือให้แค่สองตัวครับ)  จาก 1)Portfolio Management 2)Financial Statement and Security Analysis 3)Merger and Acquisition 4)Derivatives and Risk Management 5)Financial Engineering and Risk Management ตัวไหนน่าเรียนเพื่อสนับสนุนการสอบ CFA หรือ ทำงานสาย investment ครับ อีกนิดครับ Corporate Finance นี่จะเกี่ยวข้องกับการสอบ CFA หรือทำงานสาย investment มากน้อยแค่ไหนครับ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันเท่าไร ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : ksomboon - [ 20 ก.ย. 51 14:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบคุณ ksomboon ถ้าสำหรับสอบ CFA ผมเลือก 1 กับ 2 แต่ถ้าจะเอาความรู้มาทำงานสาย IB ก็ 2 กับ 3 ครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : Black and White - [ 20 ก.ย. 51 15:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้ผมเลยแทบจะเงียบสนิท ...อาจจะไม่ใช่ใกล้ต้นธันวาก็ได้ครับ อาจเป็นเพราะคำถามมันครอบคลุมคำตอบที่กว้างราวกับมหาสมุทรทั้ง 7 ของโลก หรือมันอาจจะหาได้เองตามกระทู้ยอดฮิต จนไม่มีใครเขาอยากตอบน่ะครับ พูดจริง ๆ นะเออ ...ผมเจอแบบ งานไฟแน้นมีอะไรบ้างนี่ แทบจะไม่อยากตอบ มันเยอะะะะะะะะะมาก ------------------------ 1)Portfolio Management 2)Financial Statement and Security Analysis 3)Merger and Acquisition 4)Derivatives and Risk Management 5)Financial Engineering and Risk Management ตัวไหนน่าเรียนเพื่อสนับสนุนการสอบ CFA หรือ ทำงานสาย investment ครับ 1. cfa 2. cfa 3. dunno 4. cfa 5. not sure คืองี้นะครับ แต่ละตัวที่กล่าวมาสนับสนุน cfa มั้ย ผมตอบแบบค่อนข้างฟันธงได้แค่ 3 ตัว ก็อย่างที่เห็น เพราะอะไรผมถึงได้แค่ *ค่อนข้าง* แล้วถึงได้แค่ *3ตัว* ก็เพราะว่าความโหดเหี้ยมของแต่ละที่มันไม่เท่ากันไง ฟินเอ็นจิเนียเนี่ย คำถามคือ เรียนลึกขนาดไหน? Stochastic Calculus? or just Basic Quant? ถ้าถึงขนาด สโต คิดว่าไม่น่าช่วยกับ cfa หรอก เพราะเท่าที่ดู curr ครั้งล่าสุดไม่เจอนะ ส่วนเมอเจ้อนี่เอากันลึกแค่ไหนอะ อันนี้ก็ยังไม่รุ้ ทีนี้มันก็จะมาเจอกับคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนเพื่อน cfa นั่นก็คือ........... ไปขอ course outline your teacher to compare with CFA curriculum ไงครับ ง่ายมาก ๆ ๆ ๆ เลย ขอดู text ล่วงหน้าเลยใช้เล่มไหนแล้วเอามายันกัน แค่นี้ก็จบเรื่อง ------------------- Studying for working อืม พูดยากนะ บางครั้ง theory มันก็ต่างจาก practice นะครับ ผมต้องการจะบอกว่า......ความคิดส่วนตัวนะ.....ผมคงไม่คาดหวังอะไรจากพวก theory มากขนาดว่ามันจะเสริมการทำงานได้แบบ significantly อะ ถ้าตอบให้กว้างมาหน่อย สมมุติ เดริเวอถีบ ถ้าไปทำ marketing คงไม่น่าจะได้ใช้มั้ง เพราะตลาดเดริไทยไม่ได้จะดีอะไรมากมายด้วย ผมต้องการจะบอกว่า มันขึ้นกับว่าจะไปทำงานอะไรด้วยน่ะครับ เพราะงานด้าน อินเวส มันก็มีหลากหลาย...อย่างที่ว่าน่ะเนอะ --------------- อีกนิดครับ Corporate Finance นี่จะเกี่ยวข้องกับการสอบ CFA หรือทำงานสาย investment มากน้อยแค่ไหนครับ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันเท่าไร ...แนะนำว่าไปโหลด LOS or curriculum มาดูดิครับ ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นหัวข้อใหญ่ข้อนึงเลยนะเออ ---------------------- คำถามยอดฮิต เบื่อ credit analyst อีกคนแล้วเหรอครับ O_O ทำไมอ้ะ จากคุณ : EAGo - [ 20 ก.ย. 51 18:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณ คุณ Black and White กับ คุณ EAGo มากนะครับสำหรับคำแนะนำ ก็จริงๆ อย่างที่คุณ EAGo แนะนำ เรื่อง curriculum ผมยังไม่เคยไปหามาอ่านเลย เคยเข้าไปในเวบ cfainstitue.org แค่ผ่านๆ เอง สำหรับรายละเอียดวิชาต่างๆ ผมได้เห็นแค่ course description แค่นั้นเอง คงต้องไปขอ syllabus จาก prof แต่ละท่านที่สอนวิชานั้นๆ แล้วหล่ะครับ สำหรับ Financial Statement and Security Analysis ผมเคยเรียนมาแล้วตอน ป.ตรี แล้วตอนทำงานใช้พวก Financial Statement Analysis มาเยอะเหมือนกัน ก็ค่อนข้างชัวร์เรื่องนี้ แต่ Security Analysis ไม่ได้ใช้เลย ลืมไปหมดแล้วเช่นกัน สำหรับ คำถามยอดฮิต เบื่อ credit analyst อีกคนแล้วเหรอครับ O_O ทำไมอ้ะ มันสนุกที่ได้รู้ business model ของธุรกิจที่หลากหลายในหลายๆ อุตสาหกรรม แต่รู้ไม่ลึกนะรู้ภาพกว้างๆ อ่ะครับ แต่พอทำไปหลายปี มันก็เริ่มเจออะไรซ้ำๆ แล้ว องค์กรใหญ่ คู่แข่งก็เยอะ กว่าจะไปถึงระดับผู้บริหาร คงอีกนาน ความรู้การเงินที่เรียนได้ใช้ไม่เยอะเท่าไร ยิ่งด้าน investment ไม่ได้ใช้เลย ก็ทำให้ลืมหมดแล้ว ใช้แต่ด้าน credit analysis, feasibility analysis พวกนั้น Corporate Finance ไม่ได้ใช้เลยด้วย นั่นหล่ะ เลยทำให้อยากลองทำงานด้านอื่นดูบ้างอ่ะครับ ^^ จากคุณ : ksomboon - [ 21 ก.ย. 51 04:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แนะนำว่าลองไปที่นี่ครับ www.elitebook.net มี los ของ 2009 ออกมาแล้ว และอื่น ๆ หึ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ความรู้การเงินที่เรียนได้ใช้ไม่เยอะเท่าไร ยิ่งด้าน investment ไม่ได้ใช้เลย ก็ทำให้ลืมหมดแล้ว ...ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะสิ่งที่คุณเรียนไม่มีใครเขาใช้กันหรอกครับ 555555 :-P เรื่องบางเรื่องที่มัน ทิดสะดี๊ ทิดสะดีเนี่ย ถ้าไม่ได้อยุ่ในระดับ research, strategic จริง ๆ คงไม่ได้แคะหรอก ไม่ต้องซีเรียสครับ 55 ลองดูครับ มันอาจจะดีก็ได้ แต่ทำ credit มาก็ได้เปรียบเรื่องอ่านงบการเงินสำหรับทำพวก analysis, feasibility และอื่น ๆ ว่าแต่มี model feasibility เด็ด ๆ มั้ยครับบ ขอหน่อยสิ :-P ปล kira มี msn มั้ยครับ จากคุณ : EAGo - [ 21 ก.ย. 51 18:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้ มีน้องที่เพิ่งเรียนจบ ป.โท มาบอกว่า มีคนที่รับสมัครงานถามว่า น้องอยากทำงานด้านการเงิน แล้ว ด้านไหนของการเงินหล่ะที่ สนใจอยากทำ น้องเขาก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน น้องก็เลยถามว่า งานด้านการเงินมีด้านไหนบ้าง? ผมก็ รู้แค่หางอึ่ง ทำมาแต่ด้านสินเชื่อ จริงๆ งานด้านการเงินก็มีเยอะนะ ไปทำ ธนาคาร วาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเงินทุน บริษัทกองทุนรวม ฯลฯ พวกนี้ ก็เน้นการเงินเป็นหลักแล้ว (พูดเหมือนรู้สะเยอะเลยผม แต่จริงๆ ก็ไม่เคยสัมผัสเลย :P) น้องคงอยากทราบว่า งานการเงิน ต้องเอาความรู้ทางการเงินด้านไหนไปทำงานมากกว่า ..(หรือเปล่า) เข้าเรื่อง คุณ EAGo ขอบคุณครับ สำหรับเวบไซต์ ว่าแต่ Model Feasibility เด็ดๆ นี่คือยังไงอ่ะ ครับ ผมเคยเห็นทีเป็นโปรแกรมที่เขามาให้ลองใช้ เพื่อจะได้ให้เราซื้อ  บาง function มันไม่ตอบสนองสิ่งที่เราอยากใช้ บางอย่างอยากมี ก็ไม่มี บางอย่างไม่อยากมี ก็มีให้รกๆๆ หน้าจอ ตอนผมทำงานก็เลย ผูกสูตรใน excel เอง เออเอง มาตลอด ยิ่งหากเป็นโครงการ ก็ทำตั้งแต่ประมาณการผลิต ยอดขาย ลูกหนี้เจ้าหน้า ค่าเสื่อมราคา งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด งบดุล capital budgeting  sensitivity analysis break-even point ที่คุณ EAGo บอกคือ แบบนี้เปล่าครับ ^^ จากคุณ : ksomboon - [ 22 ก.ย. 51 04:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เสริมนิดครับ สินเชื่อการค้า ถ้าไม่มีความจำเป็นอย่าเข้ามาเด็ดขาด เนื่องจาก ... 1. สายงานนี้ ไม่ใช้ core business คือ คุณไม่ก้าวหน้าแน่นอน 2. ไม่มีมาตรฐานการวิเคราะห์ ไม่มีหลักการด้วยครับ แม้กระทั้งขั้นตอน คือ ทำมั่วๆ ง่ายๆ เหอะๆ เพื่อที่จะบอกกับนักลงทุนว่ามีการป้องกันความเสี่ยงอันนี้อยู่ "มันสนุกที่ได้รู้ business model ของธุรกิจที่หลากหลายในหลายๆ อุตสาหกรรม แต่รู้ไม่ลึกนะรู้ภาพกว้างๆ อ่ะครับ แต่พอทำไปหลายปี มันก็เริ่มเจออะไรซ้ำๆ แล้ว" >>>> อันนี้เห็นด้วยครับ สินเชื่อจะประเภทเก่งแบบเป็ดอะครับ จะให้บินจิงๆก็ไม่ได้ จะให้ดำน้ำลึกๆ ก็ไม่เป็น แถมวิ่งบนบกก็ไม่เร็วพอ 555 สุดท้าย ผมยังรอความเห็นที่แตกต่างกับคนอื่นๆอยู่นะครับ โดยเฉพาะ Career Path จากคุณ : garaboon - [ 22 ก.ย. 51 10:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาอ่านครับ ได้ความรู้ใหม่ๆๆเยอะเลยครับ ขอบคุณมากนะครับ ^^ จากคุณ : beyond - [ 22 ก.ย. 51 12:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ garaboon ผมไม่แน่ใจว่าที่คุณหมายถึงคือแบบที่ผมหมายถึงหรือเปล่า   "สินเชื่อการค้า ถ้าไม่มีความจำเป็นอย่าเข้ามาเด็ดขาด...สายงานนี้ ไม่ใช้ core business " --> หมายถึงวิเคราะห์แต่สินเชือให้กับลูกค้าที่เป็น trading firm เหรอครับ จริงๆ โดยหน้าที่ต้องบริการลูกค้าทั้งสินเชื่อที่เป็นเม็ดเงินและไม่เป็นเม็ดเงินด้วยนะครับ และก็ต้องบริการลูกค้าทุกประเภทกิจการครับ เราเลือกไม่ได้หรอกครับ หากลูกค้ามีเครดิตที่ดี และอุตสาหกรรมที่ลูกค้าอยู่มีแนวโน้มที่ดี ก็ควรจะสนับสนุนครับ ขอมองต่างมุมนะครับ   ผมว่า core business ของธนาคาร ก็คือ การรับฝากเงิน และปล่อยกู้ต่อ โดยได้กำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย นอกจากนั้นรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเช่น แลกเงินโอนเงิน ก็อีกส่วนหนึ่ง สำหรับเรื่องความก้าวหน้า ผมหมายถึงในประเด็นที่ว่า จำนวนพนักงานทั้งองค์กรมันเยอะมาก เป็นหมื่นคนได้ การก้าวหน้ามันก็ต้องแข่งขันกัน นั่นถึงบอกว่า การก้าวหน้าก็ลำบากพอสมควร สำหรับงานด้าน IB ผมเข้าใจเองว่า สมัยนั้น เศรษฐกิจไม่ดี ที่ธนาคารเอง งานด้านนี้แทบไม่เน้นอะไรเลย ก็เลยเข้าใจว่ายังไม่ใช่ core business เหมือนกันครับ หากเข้าใจตรงกันหรือไม่อย่างไร ก็ยินดีจะรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมนะครับ ^^ จากคุณ : ksomboon - [ 23 ก.ย. 51 10:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรียนคุณ ksomboon เข้าใจในลักษณะเดียวกันครับ เป็น trading firm ก็ได้ หรือเป็นพวก การผลิตและจำหน่ายก็ได้ครับ คือ กำหนดวงเงินที่จะให้ลูกค้าซื้อเชื่อ อะครับ ซึ่งมุมมองส่วนตัวแล้วเห็นว่าขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เข้าไปทำด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทใหญ่ หรือเป็นต่างชาติ ถึงจะมีหน่วยงานด้านนี้ครับ อย่างของผมเป็นบริษัทเหล็ก เนเจอร์ แล้ว ป้องกันความเสี่ยงดีสุดคือซื้อเงินสด ครับ (เงินมาของไป)  ดังนั้นก็อย่างที่บอกครับ สินเชื่อแทบจะไม่จำเป็น มีขึ้นเพียงเพื่อ ให้นักลงทุนทราบว่ามีการป้องกันความเสี่ยงด้านสินเชื่อด้วยเท่านั้นเอง โดยเป็นหน่วยงานหนึ่งในฝ่ายการเงิน ส่วนบริษัทอื่นผมก็ว่าไม่สำคัญนะครับ ทำให้มันไม่โตเลย จากคุณ : อึดอัดมากๆๆ (garaboon) - [ 23 ก.ย. 51 11:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ว่าแต่ว่า 1. ใครมีหนังสือ CISA Level 1 มือ 2 มะครับ ถ้าไม่ใช้ผมจะขอซื้อต่ออะครับ 2. หนังสือมือ 2 นี้ หาซื้อได้ที่ไหนบ้างอะครับเนีย หรือ ถ้าได้เป็น E-BOOk จะดีมากครับ 3. มีแบบฝึกหัดที่นอกเหนือจากที่ TSI จำหน่ายเล่มละ 250.- บาท มะครับ คือผมว่ามันมีให้ทำน้อยไปอะครับ 4. เครื่องคิดเลขนอกจากซื้อที่ TSI แล้วสามารถซื้อได้ที่ไหนอีกอะครับ เปิด เสาร์อาทิตย์ มะครับ คือ ผมเห็นมีขายที่ เวบ MRfinance.org ด้วยอะครับไม่ทราบว่าใครเคยซื้อไปใช้มังเป็นอย่างไรครับ TSI นี้ เปิด เสาร์ - อาทิตย์ปะครับ เพื่ออาจต้องไปจิงๆ 555 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 51 11:31:09 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 51 11:28:43 จากคุณ : garaboon - [ 23 ก.ย. 51 11:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวันเลย ช่วงนี้ Assignment เต็มไปหมด ผมเคยมีลูกค้าเป็น บริษัทเหล็ก เหมือนกัน ซื้อมาขายไปดื้อๆ นี่หล่ะครับ เปอร์เซ็นกำไรน้อย แต่หากเทียบเป็นเม็ดเงินเยอะมาก วงเงินแทยไม่ได้ใช้อย่างที่บอกหล่ะครับ แต่หากเป็นลูกค้าที่ ผลิตหรือบริการ มักจะเริ่มกิจการเป็นส่วนใหญ่ การใช้เม็ดเงินเพื่อไปลงทุนในอสังหาฯ ก็มากอยู่ ประเด็นอยู่ที่จะคาดการณ์ได้อย่างไรว่า ลูกค้าจะชำระหนี้ได้ตลอดตามเงื่อนไขจนครบสัญญากู้อ่ะครับ สำหรับเครื่องคิดเลข ไม่ลอง bid ที่ ebay เหรอครับ แต่ไม่แน่ใจว่า หากผู้ขายอยู่ ตปท จะคิดค่าส่งแล้วคุ้มกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ..แค่เป็นทางเลือกนะครับ ^^ จากคุณ : ksomboon - [ 1 ต.ค. 51 15:39:35 ]