ความคิดเห็นที่ 1 1. เป็นเพียงอดีตที่ผ่านมา ว่ากองทุนเคยทำมาให้ได้เท่าไหร่ครับ ไม่ใช่เวลาข้างหน้าที่เป็นอนาคต ว่าจะเป็นเท่าไหร่ เพราะกองทุนประเภท ที่เปิดให้ทำรายการ เข้าลงทุนหรือถอนทุนออก จะบ่งบอกความแน่นอนไม่ได้ครับ ต่างจากกองทุนประเภทบ่งบอกอายุแน่นอน อย่างเช่น SCBGB3M3 หรือ SCBGB6M45 ที่กำลังเปิดขาย (ครั้งเดียว) ในช่วงนี้ ที่จะสามารถระบุผล ตอบแทนที่แน่นอนไว้ก่อนได้เลย โดยที่เบื้องต้น 12 - 18 ก.ย. 51 มีเปิดให้จองซื้อได้ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขา โดยมีให้เลือกได้ 2 อายุ :: SCBGB3M3 อายุ 3 เดือน โดยเบื้องต้นกำหนดผลตอบแทนที่ 3.25% ต่อปี :: SCBGB6M45 อายุ 6 เดือน โดยเบื้องต้นกำหนดผลตอบแทนที่ 3.40% ต่อปี 2. SCBSFF เป็นกองทุนตราสารหนี้ ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามแต่สถานะการณ์ ที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็น MMF (Money Market Fund) ครับ เพียงแต่ช่วงนี้ กองทุนเลือกตราสารหนี้ ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 3 เดือน ทำให้สภาพกองทุนคล้ายๆ MMF ครับ 3. SCBSFF สามารถทำรายการผ่านทาง SCB Easy Net ได้ถึง 16:00 น. ทำให้มีความคล่องตัว ที่จะเป็นแหล่งพักเงินรอการใช้จ่าย รวมถึงรอหา จังหวะการลงทุนกับกองทุนต่างๆ ได้อีกมากครับ 4. อย่างไรก็ได้ครับ จากคุณ : pjuk - [ 14 ก.ย. 51 22:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะถ้า SCBSFF สามารถขยับเพิ่มขึ้นได้ทุกวัน ก็หมายถึงสามารถเก็บเพิ่ม และขายคืนเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องอาศัยจังหวะการลงทุนเลยครับ จากคุณ : pjuk - [ 14 ก.ย. 51 22:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตราสารหนี้ระยะสั้น มันมี กองทุนเปิดและกองทุนปิดครับ ถ้ากองทุนปิด คือต้องถือให้ครบเวลา เช่น เค้าจะระบุว่า 3 เดือน 6 เดือน 12เดือน ก็ว่ากันไป  ถ้าถือไม่ครบ ก็เอาไปขายออกไม่ได้ครับ แต่ถ้าครบ ก็จะได้ต้นพร้อมดอกเบี้ยที่ใกล้เคียงกับที่เค้าระบุ  อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าครับเช่น ระบุว่า 3% ต่อปี แล้วอายุ คือ 1 ปี ก็คือจะได้เงิน 10,300 บาทคืนมานั่นเองครับ ถ้ากองทุนเปิด จะคิดเป็นหน่วยลงทุนครับ เช่น หน่วยละ 10 บาท  ถ้าคุณลงทุน 10,000 บาท ก็จะได้ 1,000 หน่วยครับ  แล้วขอให้ยึดหน่วยเป็นหลักเลยนะครับ  ทุกๆวันของกองทุน มูลค่าหน่วยลงทุนมันจะเพิ่มขึ้นครับ  เช่น เมื่อคุณถือ 1 วัน หน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น 0.0011 บาท เท่ากับว่า วันถัดมา ก็จะมีมูลค่าหน่วยลงทุนเป็น 10.0011 บาท ถ้าขายคือ ทั้งหมด 1,000 หน่วย ก็คือ 1000*10.0011 = 10,001.1 บาทครับ ก็คือได้กำไร 1.1 บาทนั่นเองครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อขายกันได้ทุกวันครับ  แต่ที่เค้าบอกว่า port 3 เดือน ไม่เกินหนึ่งปีอะไรนั่น สำหรับมือใหม่ก็ยังไม่ต้องศึกษาก็ได้ครับ เอาแค่ซื้อขายได้วันไหน ทุกวันหรือไม่ ค่าธรรมเนียมเท่าไรก็พอครับ อีกอันที่สำคัญคือ ซื้อขายขั้นต่ำเท่าไร เพราะว่าแต่ละที่มีขั้นต่ำต่างกัน  ตั้งแต่ 1, 1000, 2000 , 5000 , 10000 บาทต่อครั้งครับ 2.ใช่ครับ เป็นแบบกองทุนเปิดครับ ซื้อขายได้ทุกวันทำการครับ  แต่โดยปรกติกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นแบบนี้ที่ซื้อขายได้ทุกวัน เวลาสั่งขายวันนี้เราจะได้รับเงินวันรุ่งขึ้นครับ 3.เอา บลจ.ของธนาคารที่คุณสะดกวหรือมีบัญชี  แต่ทางที่ดีอย่างที่ผมแนะนำ ดูขั้นต่ำ เข้าออก ที่เหลือแต่ละบลจ แทบไม่ต่างกันครับ 4. ไม่ต้องติดตามเลยครับ เพราะว่าเสียเวลาครับ ถ้ามีเวลาติดตาม ผมแนะนำว่าเป็นกองทุนผสมน่าจะดีกว่า  แต่ควรเอาเวลาทำความศึกษาดีกว่า  โดยในเวลาที่เราศึกษา ก็เอาเงินเข้ากองตราสารหนี้ไปก่อนจะได้เห็นการทำงานของมันครับ ว่ามันเป็นอย่างไรแน่ครับ จากคุณ : ออกกำลัง - [ 14 ก.ย. 51 23:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำตราสารหนี้ระยะสั้น K-treasury ของกสิกรครับ ถ้าเปรียบเทียบทั้งสามธนาคาร SCB BBL Kbank ความสะดวกที่สุดก็กสิกรครับ เหตุผล เวลาซื้อ กรณีใช้เงินสดซื้อนะครับ ทั้ง Scb และ  bbl ต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชน เวลาขาย Scb ไม่ต้องถ่ายสำเนา แต่ bbl ต้องถ่ายสำเนาอีกครับ สำหรับ kbank ซื้อหรือขายไม่ต้องถ่ายสำเนาบัตรครับ ที่สำคัญ ปรับสมุดที่ตู้เอทีเอ็มได้ อีกสองธนาคารยังทำไม่ได้ ผลตอบแทนใกล้เคียงกัน มากสุด bbl kbank Scb การลงทุนความเสี่ยงต่ำมาก ผลตอบแทนก็ไม่สูงมากนะ สภาพคล่องก็วางแผนนิดหน่อย ขายวันนี้ได้เงินพรุ่งนี้ตอนบ่าย จากคุณ : ปุ๋ยอินทรีย์ - [ 15 ก.ย. 51 08:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับทุกคำตอบ ขอถามเพิ่มเติมนะครับ 1. ควรเลือกลงทุนสำหรับกองทุนปิด หรือกองทุนเปิดครับ มีหลักพิจารณาอย่างไร 2. ถ้าเลือกกองทุนเปิด หน่วยลงทุนจะเพิ่มขึ้นทุกวัน ถ้าเราซื้อช้าเท่ากับเราต้องควักเงินก้อนเพื่อซื้อหน่วยลงทุนในราคาสูงกว่าวันนี้สิครับ 3. กองทุนเปิด มีกำหนดระยะเวลาการซื้อขายไหมครับว่าต่ำกว่าหนึ่งปี (เท่าที่เข้าใจต้องมีสิครับ เพราะเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น) 4. ตกลงนิยามของ MMF ก็คือตราสารหนี้ระยะสั้นถูกไหมครับ ซึ่งมีทั้งกองทุนปิดและเปิด และ K-treasury ก็คือกองทุนรวมประเภท MMF หรือตราสารหนี้ระยะสั้น ... จากคุณ : coeguru - [ 17 ก.ย. 51 09:42:12 ]