ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีตอนเช้าครับเฮีย เฮียเปิดทีเดียว 2 กระทู้เลย  น่าจะเปิดคุยโขมงฯให้น้องๆ ด้วยครับ  แหะๆ จากคุณ : อภิมหาชาตบุตร - [ 2 ต.ค. 51 08:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากภาพประกอบข้างบน สิ่งที่น่าสังเกตคือ เมื่อประมาณ ๑๒ ปีก่อน ค่า set index กับค่า  tisco index   มีค่าใกล้เคียงกันมาก  โดยทิสโก้อินเด๊กซ์สูงกว่าเซทอินเด๊กซ์เล็กน้อย แต่เมื่อวานนี้ เซ็ทอินเด๊กซ์อยู่ที่   ๕๙๔   ส่วนทิสโก้อินเด๊กซ์ยังอยู่ที่  ๑๕๗๘ !!!!!!! set  index  คิดจาก   จำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด  x  ราคาหุ้น ซึ่งก็คือมูลค่าตลาดรวมของหุ้นตัวนั้นๆ ส่วน   tisco index  คิดจาก "ราคาตลาดของหุ้นเท่านั้น"   ไม่ได้เอาไปคูณกับจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด เป็นไปได้หรือไม่ว่า   คนที่ถือหุ้นนอกกระแสบางตัว หุ้นที่ถืออยู่  ยังมีราคาตลาดสูงกว่าเมือสิบสองปีก่อน เพราะคิดตามราคาหุ้นเท่านั้น ไม่สนใจว่า  หุ้นตัวไหนเป็นขาใหญ่ ขาเล็ก ส่วนหุ้นมูลค่าตลาดรวมยักษ์ๆ   จนถึงวันนี้  เกือบทั้งหมด (ยกเว้น ปตท. และ ปตท.สผ. ฯลฯ ) ยังมีราคากลับขึ้นไปไม่ถึงครึ่งทางที่ลงมา ดังนั้น  คนที่เล่นหุ้นนอกกระแสหลัก ถ้าถือหุ้นที่ีมีปัจจัยพื้นฐานดีจริงๆ   น่าจะรอด  แบบพอร์ตตอนนี้มีมูลค่าสูงกว่าเมื่อสิบสองปีก่อน ???? ของผมเอง  น่าจะเพิ่มประมาณ.....เท่า โดยหุ้นที่ทำมูลค่าตลาดรวมของพอร์ต   ให้เพิ่มขึ้น เป็นหุ้นนอกกระแสหลักเกือบทั้งสิ้น ย้อนกลับไปดู  หลักง่ายๆ  ที่ทำยากอิ๋บอ๋ายก็คือ ซื้อหุ้นให้ถูกตัว (จากแรงกรรมของคนในบริษัทจดทะเบียน) ถือหุ้นให้ถูกเวลา (จากแรงกรรมความอดทนของตัวเราเอง) ขายหุ้นให้ถูกจังหวะ (จากแรงกรรมของคนในตลาดหุ้น) จากภาพประกอบข้างใต้ แสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล ที่ตลาดหลักทรัพย์นำเสนอผ่านสิ่งพิมพ์รายวันเมื่อสิบสองปีก่อน แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 09:17:17 จากคุณ : endophine - [ 2 ต.ค. 51 08:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ซันนี่ก็ไม่รู้จะพิมพ์อะไร ได้แต่ ค่ะ จากคุณ : Attention Please* - [ 2 ต.ค. 51 08:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นึกถึงกลุ่มเอกธนกิจ (FIN1) นะครับ  เก่งด้าน Investment Banking  ช่วงตลาดบูมก็บูมสุดๆ ........สร้างหนี้มากมาย  แล้วก็เจ๊ง ขณะนี้กลุ่ม Investment Banking ของสหรัฐฯ ทั้งหมดเจ๊งเหมือนกันเลย ที่ไม่เจ๊งให้เห็นคาตา.....ก็แปลงร่างเป็นธนาคารพาณิชย์ไปซะแล้ว (Goldman Sachs กับ Morgan Stanley ที่แปลงร่างครับ) จากคุณ : อภิมหาชาตบุตร - [ 2 ต.ค. 51 08:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้ เป็นบุญตาแท้..    ขอบคุณ พี่ endophine ค่ะ ตอนนั้นคำว่า "SET" กับ "ตลาดหุ้น" เป็นเหมือนมนุษย์ต่างดาว อยู่กันคนละโลก   จากคุณ : กะติ๊ด - [ 2 ต.ค. 51 08:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขออนุญาตเดานะครับ เพราะไม่ทราบเกี่ยวกับ Tisco Index หรือการคำนวณ SET Index ปกติจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเพิ่มทุนแล้ว...เพิ่มทุนอีก .........ทำให้ราคามัน dilute ลดลงไปครับ ขณะที่ราคาหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ลดลงไปเรื่อยๆ .............ก็มีหลักทรัพย์อีกจำนวนนึงที่ราคาเพิ่มขึ้นเป็นหลายๆ เท่าตัวเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์ใหม่ๆเพิ่มเข้ามาในตลาดทุกๆปี ............มาแทนที่หลักทรัพย์ที่เจ๊งหรือออกไปอยู่ในหมวดฟื้นฟูกิจการ การคำนวณเฉพาะราคาโดยไม่นำปริมาณหุ้นมาถ่วงน้ำหนัก จึงได้ผลต่างจากการถ่วงน้ำหนักครับ จากคุณ : อภิมหาชาตบุตร - [ 2 ต.ค. 51 08:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณอภิมหาชาตบุตร ให้คนอื่นเปิดดีกว่าครับ ผมเปิดทีไร   พอร์ตเดี๊ยงทุกทีเลย ส่วนเรื่องการคำนวณดัชนีทิสโก้ ผมก็จำไม่ค่อยได้   จำได้หลักๆคือ เขาคำนวณแต่ราคาหุ้น  ที่มาการปรับฐานไปตามราคาเพิ่มทุน และ XD ???? คงต้องรอผู้ที่รู้จริ้ง เข้ามาบอกข้อมูลที่ถูกต้องครับ ข้อมูลจากภาพประกอบข้างบน แสดงให้เห็นว่า   ตลาดหลักทรัพย์เริ่มจะจำแนกประเภทนักลงทุน หลังจากที่พี่หรั่ง  ขายแบบล้างผลาญ แถวดัชนี ๑๗๐๐  ตอนต้นปี ๒๕๓๗  ผ่านไปแล้วสองปี กว่าพี่ไทยเรา  จะรู้ว่าไอ้หรั่งเอ๊ยพี่หรั่งขาย ก็ปาเข้าไปอีกเกือบครึ่งปีต่อมา   ตลาดจึงออกมาแจ้งข้อมูลการซื้อขายของพี่หรั่ง ในตอนนั้น  คนเดินเข้าบ่อน  เอ๊ยนักลงทุนไทยด่าตลาดฯกันจนหูชา ถ้ารู้ว่าพี่หรั่งขาย  ตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนนั้นพี่ไทยเรา คงตายหยังเขียดกันน้อยกว่านั้น จากภาพประกอบ มีที่น่าสังเกตคือ ๑ ตอนนี้ตลาดได้ตัดข้อมูลพอร์ตของโบรกเกอร์ทิ้งไปแล้ว ไม่แน่ใจว่า  กลต.ห้ามเล่น  หรือว่าหมกเม็ดเเอาไปรวมกับนักลงทุนรายย่อย ??? ๒   สำนักเงินลงขันไทย (กองทุน) ได้ผงาดขึ้นมา เป็นเงินที่มีอำนาจซื้อนำจริง และหุ้นที่มีอำนาจขายนำจริง บางทีฟัดกับพี่หรั่งแบบ  เอ็งทีข้าที โดยที่รายย่อยได้แต่มองตาปริบๆ ๓  นักลงทุนรายย่อย  หรือจอมยุทธแมลงเม่าไทย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงเป็น  ผู้ครอบครอง เงินที่ไม่มีอำนาจซื้อนำจริงและหุ้นที่ไม่อำนาจขายนำจริง นอกจากว่า จะมีการรวมศูนย์ของอำนาจซื้อและอำนาจขาย จากจิตวิทยามวลชน  เกิดการแตกตื่นซื้อและแตกตื่นขาย ถ้าเกิดจิตวิทยามวลชนแบบรวมหมู่มากๆ ต่อให้สิบพี่หรั่ง  ห้าสิบกองทุน ก็เอาจอมยุทธแมลงเม่าไทยไม่อยู่ บางท่านอาจจะสงสัยว่า ก็รายย่อยเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดฯ ทำไมถึงกำหนดทิศทางของตลาดฯไม่ได้ ผมเคยเปรียบเทียบไว้ง่ายๆดังนี้ นักลงทุนรายย่อย   เอาเงินมารวมกัน อาจจะสามารถซิ้อรถจากัวร์ได้ ๑ พันคัน แต่ว่า ไม่มีนักลงทุนรายย่อย  แม้แต่คนเดียว จะสามารถซื้อรถจากัวร์ได้แม้แต่ล้อเดียว ส่วนเงินของเสี่ยชาตรี  เสี่ยเจริญ  เสี่ยทักษิณ  เสี่ยฯลฯ แค่เพียงคนเดียว  จะสามารถซื้อรถจากัวร์ได้คนละสิบคัน ดังนั้น  ปริมาณเงินแบบนับโดยรวม   จึงไม่ใช่ตัวชี้ขาดตลาดหุ้น ตัวชี้ขาดคือ อำนาจซื้อของเงินและอำนาจขายของหุ้น ที่แต่ละคนหรือแต่ละนิติบุคคลมีอยู่ ๔  ถ้าพอร์ตใคร  ตอนนี้ยังมีมูลค่าพอร์ตสูงกว่าเมือสิบสองปีก่อน ซักสองสามเท่าขึ้นไป "โดยที่ไม่ได้ใส่เงินเพิ่มเข้าไปอีกเลย" น่าจะอยู่ในตลาดหุ้นไปได้อีกนาน ผมไม่ค่อยเชื่อว่า  ระยะแค่ปีหรือสองปี จะสามารถตัดสินได้ว่า   ใครควรจะยึดการซื้อขายหลักทรัพย์  เป็นอาชีพหลัก ข้อ ๕   ดูภาพประกอบแล้วลองเติมกันเอาครับ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 09:41:01 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 09:19:50 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 09:13:46 จากคุณ : endophine - [ 2 ต.ค. 51 09:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับเฮีย... จากคุณ : helga - [ 2 ต.ค. 51 09:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนจะแวบไปจากหน้าจอคอมฯ ไปเดินเล่นศูนย์สิริกิต ขอบคุณทุกๆท่าน  ที่แวะเข้ามาอ่านและออกความเห็นครับ สแกนหน้าปกหนังสือพิมพ์ของตลาดหลักทรัพย์มาให้ดู ถ้าเครื่องสแกนเนอร์มีชีวิต มันคงจะคันฝุ่นตัวไรหนังสือ น่าดูเลย แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 09:39:57 จากคุณ : endophine - [ 2 ต.ค. 51 09:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอวว  จริงด้วย  เฮียเคยบอกแล้วเรื่องเปิดคุยโขมงฯ แหะๆ  ผมลืมไปเองครับ  ขอบคุณครับเฮีย   -ลบดีกว่า- แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 51 23:47:33 จากคุณ : อภิมหาชาตบุตร - [ 2 ต.ค. 51 09:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ขำพี่อภิฯ   เข้ามาขอบคุณเฮีย endo เช่นเคยค่ะ   จากคุณ : มดพัทยา - [ 2 ต.ค. 51 10:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเคยอ่านบทความหนึ่ง ซื้อหุ้นแล้วตามราคาทุกวัน ก็เหมือน คุณปลูกข้าวโพดแล้วขุดรากมาดูทุกวันว่ารากมันยาวหรือยัง ... หากเรามีความรู้ว่า ปลูกข้าวโพด แล้วรู้ว่ามันโตได้ยังไงโดยไม่ต้องขุดรากมาดู ... เราน่าจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้เช่นกันครับ ^_^ จากคุณ : KENG76 - [ 2 ต.ค. 51 10:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปลูกข้าวโพด10ปี ออกผล8ปี  น้ำท่วมปีหนึ่ง  ตั๊กแตนลงปีหนึ่ง น่าจะถือว่าโอเค ถ้าปีที่แย่ไม่เสียใจมากไปจนเสียสุขภาพ มาโหวตกระทู้เฮีย จากคุณ : อมหุ้นแล้วยิ้ม - [ 2 ต.ค. 51 10:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ .........เราจะปลูกมะม่วงค่ะ (คุณโอ่งสี) ล้อเล่นค่ะ จากคุณ : member28 - [ 2 ต.ค. 51 10:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนหุ้นมูลค่าตลาดรวมยักษ์ๆ   จนถึงวันนี้  เกือบทั้งหมด (ยกเว้น ปตท. และ ปตท.สผ. ฯลฯ ) ยังมีราคากลับขึ้นไปไม่ถึงครึ่งทางที่ลงมา ดังนั้น  คนที่เล่นหุ้นนอกกระแสหลัก ถ้าถือหุ้นที่ีมีปัจจัยพื้นฐานดีจริงๆ   น่าจะรอด  แบบพอร์ตตอนนี้มีมูลค่าสูงกว่าเมื่อสิบสองปีก่อน ???? จากคุณ : endophine ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เห็นด้วยอะ หุ้นที่มีเจ้าของๆคงไม่ปล่อยให้ราคาต่ำนานเกินไป ยิ่งมีสภาพคล่องน้อยๆ ยิ่งง่ายต่อการดันขึ้น จากคุณ : สี่คูณสอง - [ 2 ต.ค. 51 11:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ จากคุณ : สินธุลี - [ 2 ต.ค. 51 14:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ นานๆจะเห็ฯเฮียตั้งกระทู้เสียที หุ้นเดิมๆ นี่น่าสนใจนะครับ เราจะไปหาอ่านเรืองราวแบบนี้ได้ที่ไหนกันหนา ที่ไมตอ้งเดินทางไปหัองสมุดมารวย   อยากมองดูคนรุ่นก่อนว่าเค้าเล่นกันอย่างไร คิดอย่างไร เล่นตัวไหนกันหนะครับ จากคุณ : khonthai.tk. - [ 2 ต.ค. 51 22:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พลาดกระทู้นี้ได้ไง ขอบพระคุณเฮียเอ็นโดมากครับ จากคุณ : ธราธิป - [ 3 ต.ค. 51 11:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขออนุญาตแตกกระทู้เฮียเอ็นโด จากคุณ : m-ko - [ 5 ต.ค. 51 17:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : d.hunt - [ 5 ต.ค. 51 23:50:36 ]