ความคิดเห็นที่ 1 ความเฟื่องฟูในเอเชีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากการค้าและการลงทุนของสหรัฐ อเมริกา ได้ก่อปัญหาให้กับสหรัฐฯ ประเทศในเอเชียตะวันออกมีการเกินดุลบัญชี เดินสะพัดประมาณ 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ในขณะที่ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ตกราวปีละ 8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศในเอเชียนอกเหนือจากญี่ปุ่นได้สะสมการเกินดุลขนาดมโหฬาร ได้โดย การผลิตสินค้าและบริการราคาถูกให้กับสหรัฐฯ แต่นับแต่นี้ไปประเทศเหล่านี้ไม่ อาจพึ่งพิงตลาดหลักแห่งนี้ได้อีกต่อไป เมื่อคำนึงถึงว่าความสามารถของอเมริกา ที่จะธำรงการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้น ถูกจำกัดลงอย่างยิ่งยวด ส่วนการพักมูลค่า ของเงินเอาไว้ในสกุลเงินซึ่งแลกเปลี่ยนได้ง่ายที่สุด "ซึ่งก็คือดอลลาร์" ประเทศ ในเอเชียจะพบความเสี่ยงซึ่งอาจขาดทุนได้ไม่น้อยกว่าประเทศที่เป็นเจ้า ของ สกุลเงินนี้ ประเทศเอเชียเก็บเงินที่ได้กำไรจากส่วนเกินนี้เอาไว้ในรูปเงินดอลลาร์ สหรัฐ ซึ่งเป็นได้ทั้งตราสาร ตั๋วเงินฝาก และ หุ้นที่มีการกำหนดเงื่อนไขบางอย่าง เอาไว้ แล้วเรามีทางที่จะปกป้องมูลค่าของสิ่งเหล่านี้เอาไว้ในขณะที่เศรษฐกิจ สหรัฐ กำลังประสบปัญหาเช่นนี้หรือไม่ นั่นคือเงินสำรองของเอเชียจะต้องถูก เปลี่ยนให้เป็นพันธบัตรเอเชีย ซึ่งเมื่อไม่ได้สูญเสียมูลค่าของมันไปแล้ว ก็จะ สามารถถูกใช้เพื่อนำมากระตุ้นการค้าและการลงทุนในเอเชีย แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 51 20:34:51 จากคุณ : Black Propaganda - [ 8 ต.ค. 51 20:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พันธบัตรเอเชียไม่ได้เป็นเกมส์แบบได้หมด-เสียหมด ที่ให้ประโยชน์เฉพาะตัวมัน เองเท่านั้น มันยังเอื้อโอกาสให้กับการสร้างความมั่งคั่งได้ทั้งโลก ประชากรชาว เอเชียทั้งสามพันล้านคนต้องการให้รัฐบาลของพวกเขาได้นำเอาการเกิน ดุลการ ค้าที่พวกเขาไม่อาจหาประโยชน์จากมันได้เลยนั้น ลงทุนในประสิทธิภาพการ ผลิตที่จับต้องได้ มากกว่าที่พวกเขาจะเห็นการเล่นกับการลงทุนในกระดาษ, อย่างเช่น ตราสารทางการเงินซึ่งยากต่อการทำความเข้าใจ เราจะเรียกพันธบัตรนี้ว่า ดอลลาร์ของโลก หรือ "กลอบาร์" (แผลงมาจากคำ globars คือ global + dollars — ผู้แปล) (ซึ่งคุณอาจจะชอบเมื่อนึกถึงแท่ง โลหะที่เปล่งประกาย และครั้งหนึ่งเคยเป็นมาตรฐานการวัดมูลค่าสกุลเงิน มาตรฐาน) ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สามารถเล่นบทที่ ปรึกษา หรือผู้จัดการ ในการดูแลมูลค่าของดอลลาร์โลก หรือดอลลาร์นอก สหรัฐ ในขณะที่สกุลเงินในประเทศสหรัฐจะเสื่อมค่าลงถึงระดับดังที่เศรษฐกิจ ของ ประเทศดำรงอยู่ จากคุณ : Black Propaganda - [ 8 ต.ค. 51 20:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากรัฐบาลใหม่ของสหรัฐไม่ได้มีสายตายาวไกลที่จะให้การ ยอมรับมาตรฐานใหม่ซึ่งเป็นดอลลาร์ภายนอกนี้? รัฐบาลในประเทศเอเชียก็ยัง คงสามารถออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ประเทศ เหล่านี้ได้รับส่วนเกินดุลครั้ง ใหม่ ประเทศอย่างจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สิงคโปร์ และ ไทย สามารถเห็นชอบที่จะ แบ่งปันบางส่วนของเงินทุนสำรองของตนเอง ในอัตราส่วนที่แน่นอนลงไปในตระ กร้าสกุลเงินที่จะออกพันธบัตรนี้ ผลตอบแทนของพันธบัตรนี้จะอยู่ในระดับเดียว หรืออาจจะมากกว่าพันธบัตรสหรัฐ ในฐานะที่ผู้ออกพันธบัตรนี้มีฐานะดีกว่าสหรัฐ ที่จะให้ผลตอบแทนผู้ลงทุน แต่ก็มีความยากลำบากสำหรับนักลงทุนที่จะตัดสินความเสี่ยงทางการเมืองใน เอเชียอยู่บ้าง ตาลีบันยังคงปฏิบัติงานอยู่ในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน แต่บทบาทของประเทศเหล่านี้เป็นแต่เพียงในนาม ส่วนการปล่อยก๊าซพิษใน สถานีรถไฟใต้ดินของญี่ปุ่นไม่สามารถกัดกร่อน ความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นในการ ให้คำมั่นของพวกเขา ความเสี่ยงเป็นเรื่องสัมพัทธ์ ผมอยากจะวางเดิมพันลงฝั่ง รัฐบาลจีน — ซึ่งเคยมองข้ามคำทำนายเมื่อ 18 เดือนก่อนโดย แฮงค์ พอลสัน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ, ว่าจีนอาจสูญเสียมูลค่าทาง เศรษฐกิจนับล้านล้านดอลลาร์ หากพวกเขาไม่เปิดตลาดหุ้นแบบเสรี ซึ่งน่าคิดว่า เป็นเรื่องฉลาดกว่าการสวดอ้อนวอนแด่พระผู้เป็นเจ้า ให้สหรัฐหาโมเดลการเจริญ เติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ และการกำกับการดูแลสถาบันการเงินให้พบ จากคุณ : Black Propaganda - [ 8 ต.ค. 51 20:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับคนที่คุ้นเคยกับตลาดพันธบัตรแล้ว นี่อาจไม่ใช้ข้อเสนอที่เป็นเรื่องพลิก ฟ้าดินแต่อย่างใด มีรัฐบาลประเทศเอเชียหลายประเทศได้ออกพันธบัตรในสกุล เงินของตนเอง คุณภาพและผลตอบแทนก็แตกต่างกันออกไป ผลตอบแทนของ พันธบัตรเอเชีย ต้องรวมเอาความผันผวนต่างๆเข้าด้วยกัน แล้วไปเทียบกับผล ตอบแทนที่ไม่ได้น่าพอใจในเวลานี้นักของพันธบัตรสหรัฐ แล้วให้ตลาดเป็นผู้ ตัดสิน แต่อย่างไรก็ตาม ผลรวมของพันธบัตรเอเชียให้ภาพที่เป็นบวกกว่ามาก ส่วนที่เป็นปัญหาจริงก็คือความรับรู้ในอดีต ซึ่งดูเหมือนกำหนดไปแล้วอย่างถาวร โดยพวกหน่วยงานจัดอันดับทั้งหลาย ว่าประเทศเอเชียทั้งหลายเป็นผู้กู้ สหรัฐ เป็นผู้ให้ยืม แต่ตอนนี้ประเทศเหล่านี้บางแห่งเป็นผู้ให้กู้ มันเป็นเวลาที่จะเก็บเกี่ยว ผลตอบแทนในฐานะผู้ให้กู้ มูลค่าของการให้กู้จะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีถ้า พวกเขาสร้างการตัดสินใจ ร่วมกัน พันธบัตรร่วมเหล่านี้สามารถกำหนดให้ซื้อขายได้ใน โตเกียว สิงคโปร์ และ ฮ่องกง พันธบัตรนี้สามารถเอื้อให้เกิดการพัฒนาตลาดทุนที่เข้มแข็งขึ้นใน ภูมิภาค และรักษาไว้ได้อย่างมั่นคง ในขณะที่สหรัฐได้กลับไปดูแลปัญหาวิกฤติ การเงินของตนเอง สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดก็คือส่วนเกินของเอเชียจะถูกวนกลับ ไปใช้ในการ สร้างสินทรัพย์ที่มีผลิตภาพในเอเชีย ผู้เขียนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย แปลและเรียบเรียงจาก FT : An Asia bond could save us from the dollar ที่มา http://www.siamintelligence.com/wordpress/an-asia-bond-could-save-us-from-the-dollar/ ******************************************* จากคุณ : Black Propaganda - [ 8 ต.ค. 51 20:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สมแล้วท่าน วิสัยทัศน์ยาวไกลสุดๆ ท่านทำเรื่องนี้เกือบสำเร็จ ถ้าไม่มีพวกแกงค์แป๊ะ และ ท็อปบูตโง่เง่า มาให้ร้าย ทำลายท่าน ถ้าท่านยังอยู่ตอนนี้พันธบัตรเอเชียคงขายได้แล้ว และประเทศไทยคงจะ มีความมั่งคั่งมากมากกว่าตอนนี้ แล้วก็ตามที่ท่านบอกนั่นแหละ ไอตัวนี้จะคอยช่วยประคองเศรษฐกิจโลก สุดยอดจริงๆครับ ท่านทักษิน จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง - [ 8 ต.ค. 51 21:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม คิดถึงทักกี้ จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 8 ต.ค. 51 21:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เก่งจริงๆครับ ผลงานอีกอันนึงที่น่าจดจำก็คือ ให้คนซื้อ ltf ที่เวฟ4ไปเวฟ5ของกราฟเดือน แถมยังให้กองทุนห้ามถือเงินสดเกิน40% บังคับให้คนซื้อถือ5พ.ศ. หลอกล่อให้ผลตอบแทน10%ของภาษี สงสัยท่านจะกลัวออกของไม่ได้ราคา เลยเอาคนชั้นกลางมาช่วยรับหุ้น กว่าท่านจะกลับมาเก็บคืน ราคาคงแบกะดินไปแล้ว กว่าท่านจะมากะตุกอีกทีคนที่ติดอยู่ได้เวลาพ้นจากคุกพอดีขายทิ้งไปกันหมด เจริญ จากคุณ : mumu1999 - [ 8 ต.ค. 51 21:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คิดถึงครับ จากคุณ : chat156 - [ 8 ต.ค. 51 22:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อัปลักษณ์ จากคุณ : kop999kiat - [ 8 ต.ค. 51 22:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นเรื่องที่ดีครับแต่ในทางปฏิบัติน่าจะยากมาก เพราะแค่เริ่มจะคิดก็คงคุยกันไม่จบแล้วอย่าว่าแต่ไทยเลย แค่ให้จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ตกลงกันแค่นี้ก็น่าจะคุยกันยาว ก็น่าจะคล้าย ๆ กับเงินยูโร ซึ่งในระยะยาวเป็นสิ่งที่ดีแต่กว่าจะเกิดสิีงนี้ขึ้นมาก็ต้องอาศัยทั้งปัจจัยมากมาย จากคุณ : kinma - [ 8 ต.ค. 51 23:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วคิดถึงท่าน เมื่อไหร่ท่านจะได้กลับมาทำงานเพื่อประเทศอีกครั้ง ตอนนี้ สหายพันธมิตรฯ กำลังจะเผาบ้านเมืองอย่างสนุกสนานเลยครับ จากคุณ : ไม่หวั่นแม้วันมามาก - [ 8 ต.ค. 51 23:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่มีผู้นำคนไหนมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลเท่า พล.ตร.โท ดร. ทักกี้ อีกแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 51 23:28:57 จากคุณ : Taksin Come Back (CyberJump) - [ 8 ต.ค. 51 23:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าท่านสร้างประโยชน์ให้ประเทศไทยเยอะนะครับ จากคุณ : คุณสมดี - [ 9 ต.ค. 51 00:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รู้สึกได้เลยว่า ตอนที่ท่านเป็นนายก ไม่มีอะไรที่เมืองไทยทำไม่ได้  งานที่ประกาศไว้เดินหน้าตลอด  ในเวทีโลก เราก็ยืนได้อย่างสง่าผ่าเผย    คิดถึงท่านครับ จากคุณ : นกเบิกอรุณ - [ 9 ต.ค. 51 00:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดีกว่า กม.ขายชาติ จากคุณ : V_Accy - [ 9 ต.ค. 51 00:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อดีตนายก น่าจะเป็นลูกครึ่งนะครับ นิสัย เค้าไม่ค่อยเหมือนคนไทยเลย จากคุณ : benzzuza - [ 9 ต.ค. 51 01:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไอเดียนี้ สิงคโปร์ชอบแน่ๆ เพราะจ้องจะเป็นโต้โผมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่จีนกะญี่ปุ่นยังไม่ยอมเล่นด้วย แต่ไทยจะได้ประโยชน์หรือเสียอธิปไตยทางการเงินกันแน่ ส่วน ดร.โอฬารก็เป็นที่ปรึกษาหลักมาตั้งแต่ต้น คงอยากออกหน้ามารับนโยบายจากนายกฯตัวจริงแล้วล่ะ อ่านครั้งแรกเคลิ้มเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าคิดทบทวนและศึกษาข้อมูลให้ดีๆ แล้วรู้สึกกลัวมากกว่าค่ะ ระยะสั้นน่ะดีแน่ (ถ้ามีคนเอาด้วยจริงๆ แต่ตอนนี้ต่างคนต่างเก็บเงินกลับประเทศไปรักษาแผลกันอยู่) แต่ระยะยาวก็จะเป็นปัญหามากกว่าเดิม เชื่อเต็มหัวใจว่าคุณทักษินแกเก่งจริงๆ แต่เรื่องแก้ปัญหาประเทศระยะยาวต้องฟังในหลวงท่านค่ะ การกู้หนี้ยืมสิน โยกเงินไปต่างประเทศ ขาย/จำนองสมบัติชาติ มีแต่จะทำให้ลำบากในระยะยาวนะคะ วิธีเดียวคือต้องแข็งแกร่งกันภายในประเทศให้ได้ด้วยการอยู่อย่างพอเพียง และเลิกบริโภคสินค้าต่างประเทศที่ไม่จำเป็น (พยายามอยู่เหมือนกัน) ป.ล. ความคิดเห็นส่วนตัว แบบไม่เอียงข้าง คือไม่ได้เกลียดทักษิน (แค่ไม่ไว้ใจเจตนานิดหน่อย) และไม่นิยมพธม.ด้วย (เห็นใจคนที่โดนกล่อมจนยอมไปตายแทนแกนนำและผู้อยู่เบื้องหลัง) แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 51 02:01:26 จากคุณ : Lionella - [ 9 ต.ค. 51 01:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตาฝาดแน่ ๆ ที่มีคนเรียกคน ๆ นี้ว่าท่าน?? จากคุณ : ใบไม้ไร้รัก - [ 9 ต.ค. 51 02:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ^^^ ^^ ดูข่าวต่างประเทศบ่อยๆๆหน่อย  ฟังแต่สื่อเสี้ยม ข้างเดียว เดี๋ยวเขางอกนะ จากคุณ : คลื่นในสายลม - [ 9 ต.ค. 51 06:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตาไม่ฝาดหรอกครับ ที่ผมรักทักษิน ไม่ใช่เพราะเค้าเป็นอะไร แต่เพราะผมเห็น ว่าเค้าทำอะไรครับ ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนยากคนจน ความตั้งใจที่จะพัฒนาประเทศจากทุกภาคส่วน ความตั้งใจที่จะสร้างที่ยืนบนเวทีโลกให้ประเทศไทย ทุกอยากที่เค้าทำ มองเห็นและจับต้องได้ ถ้าใครจำมงคลชีวิตได้ จะมีข้อนึงบอกว่า บูชาบุคคลที่ควรบูชา ผมคิดว่าท่านทักษินเป็นหนึ่งคนที่ควรบูชาครับ แล้วก็มีที่ปรึกษาทางธุรกิจชื่อดังของเมกาคนนึง เคยพูดว่า ถ้าคุณชอบอะไร คุณคิดถึงอะไร คุณก็จะได้สิ่งนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่รวย อาจจะเป็นเพราะคุณเกลียดคนรวยก็เป็นได้ ทั้งๆที่คนรวยมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นคนดี สวรรค์มีตาครับ ไม่ปล่อยให้คนไม่ทำดี รวยได้หรอก จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง - [ 9 ต.ค. 51 08:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบที่คุณทักษิณมีนโยบายปราบยาบ้าอย่างจริงจังมากกว่ารัฐบาลชุดอื่น จากคุณ : จั๊กจั่นบันเทิง - [ 9 ต.ค. 51 21:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เก่งจริงๆครับ ผลงานอีกอันนึงที่น่าจดจำก็คือ ให้คนซื้อ ltf ที่เวฟ4ไปเวฟ5ของกราฟเดือน แถมยังให้กองทุนห้ามถือเงินสดเกิน40% บังคับให้คนซื้อถือ5พ.ศ. หลอกล่อให้ผลตอบแทน10%ของภาษี สงสัยท่านจะกลัวออกของไม่ได้ราคา เลยเอาคนชั้นกลางมาช่วยรับหุ้น กว่าท่านจะกลับมาเก็บคืน ราคาคงแบกะดินไปแล้ว กว่าท่านจะมากะตุกอีกทีคนที่ติดอยู่ได้เวลาพ้นจากคุกพอดีขายทิ้งไปกันหมด เจริญ ....... เชื่อมโยงกันดีนะครับ ถ้ามองในแง่ร้าย ดูๆแล้วยิ่งเรามองอะไรๆในประเทศในแง่ร้ายสุดๆเนี่ย ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน จากคุณ : Rasia - [ 9 ต.ค. 51 21:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นึกถึงตอนปราบยาบ้าอย่างหนัก แล้วรักท่านจริง ๆ  ยิ่งตอนนี้ได้ยินโฆษณา ที่ว่า ให้เด็ก ๆ อย่าหลงติดยา  แต่ความจริงที่เราเจอมา เด็กไม่อยากติดยา แต่เพราะ  นักเรียนทำตัวเป็นพ่อค้ายา แล้วบังคับให้รุ่นน้องเสพยาจนติด นี่คือการบ่อนทำลายชาติตัวจริง   ตอนนี้เราอดคิดไม่ได้ว่า แป๊ะ กับพ่อค้า ยามีเอี่ยวกันหรือเปล่า จากคุณ : Kpetcharat - [ 9 ต.ค. 51 22:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คห. 20 เขาผมอาจจะงอก ในขณะที่ท่านกำลังกัดกินซากศพในหนองน้ำก็ได้นะคับ คนเก่งหลายคนเป็นคนรวยผมยอมรับ และผมเชื่อว่าสวรรค์ไม่ใช่ตรายางและทำหน้าที่ฟอกคนรวยให้เป็นคนดีแน่ ๆ ที่สำคัญผมไม่เคยคิดใช้คำว่าบูชากับคนรวยแต่ผมเห็นด้วยที่จะใช้คำนี้กับคนดี ผมนับถือคนดีและคนเก่ง และแยกแยะได้อย่างมีสติ 100% ว่ามันต่างกัน จากคุณ : ใบไม้ไร้รัก - [ 10 ต.ค. 51 13:33:36 ]