ความคิดเห็นที่ 1 http://www.tfex.co.th/th/investor_corner/knowledge.html ลองหาความรู้เบื้องต้นก่อนครับ ถ้ายังไม่รู้เรื่องการTrade future จริงๆ อย่าเพิ่งลองเล่นเลยครับ มันค่อนข้างอันตรายเพราะมี leverage ที่สูงมาก   ยิ่งช่วงที่ตลาดผันผวนแบบนี้ คุณลงทุน 1 สัญญา 50000 บาท มันอาจจะหายกลายเป็น 0 บาทในคืนเดียว จากคุณ : fat shark - [ 25 ต.ค. 51 18:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมทำตารางสำหรับเทรดออพชั่นไว้ครับ ลองใส่ค่าต่างๆ ไปเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะเข้าใจได้มากขึ้นเยอะเลยครับ ถ้าสนใจ ส่งอีแมวมาทางหลังไมค์ครับ เด๋วส่งไปให้(ไฟล์ Excel) ส่วนค่าcom คร่าวๆ 25สัญญาแรก คิดสัญญาละ 90+vat สัญญาอนุพันธ์ ต้องมีเงินสดในบัญชีก่อนครับ ถึงจะเทรดได้(คือเทรดปุ๊บก็ตัดเงินเลย) จากคุณ : T-Fake - [ 25 ต.ค. 51 19:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอด้วยครับ ขอบคุณครับ kinma_md@hotmail.com จากคุณ : kinma - [ 25 ต.ค. 51 19:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โหนี่ขนาดอ่านมาแล้วบ้างนะ  เหมือนไม่ได้อ่านเลยนะเนี่ย atm ก็ราคาปิด set50 เมื่อวาน  เรามอง ขึ้นก็ L มองลงก็ S เลือกเอาซักราคา แล้วก็เข้าไปดูราคานั้น อยากตั้ง บิด ออฟ เท่าไหร่ก็ตั้งตามไป  เช่น ato 300 เราจะ S ก็ดู 270 อะไรแบบนี้  270 ก็จะมีคนตั้ง บิด ออฟ ไว้เราอยากได้เลย ก็เคาะเลย เป็ฯตัน จากคุณ : kanakum - [ 25 ต.ค. 51 19:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็เลยขอถามว่า... 1. ผมใช้โบรกของกิมเอ็งนะครับ เค้าคิดค่าซื้อ หรือขาย+VAT =เท่าไหร่กันครับ แบบทางเน็ตนะครับ ถ้าเป็นหุ้นนี้ 0.15%+VAT ใช่ไหมครับ ตอบ ประมาณ 96 บาทต่อสัญญาครับ ทั้งซื้อและขาย(เปิดและปิด) 2.ค่า พรีเมี่ยม เค้าคิด กันจากอะไร และอย่างไร (บอกด้วยภาพก็ดีครับ) ตอบ ; คิดจาก in the money + ค่าคาดหวังครับ ตัวหลังนี่ คนอื่นอาจจะเรียกอย่างอื่นนะครับ แต่ผมเรียกว่าค่าคาดหวังของตลาดที่ตลาดให้ option แต่ละตัว ณ สถาณการณ์นั้นๆ เช่น ตอนนี้สัญญาเดือน ธ.ค. เหลืออีก สองเดือนหมดอายุ ค่าคาดหวังมัน 20 กว่าๆ ครับ แต่พอใกล้ๆ หมดอายุ ค่านี้จะอยู่แถว 10 บาท ส่วน in the money ก็คือ strike price เทียบกับ ดัชนี set50 ณ ขณะนั้นๆ เช่น ตอนนี้ set50 อยู่ 300 จุด call320 จะ in the money = 20 ครับ 3.ผมดูจาก Keliberty ของกิมเอ็งแล้ว งงมาก ทำไมมันมี ตารางและราคาอะไรเต็มไปหมด งงจริงๆ ครับ ตรงกลางจะมีราคา อะไรครับ(Strike Price)และ ATM  OTM  ITM  มันคืออะไรครับ ตอบ ตรงนี้ไม่แน่ใจครับ เพราะผมใช้ของ ซีมิโก้ 4.แล้วราคาตรง บิด กับ ออฟเฟอ มันคืออะไรครับ (ใช่ ค่าพรีเมี่ยม ไหมครับ * คูณ ด้วยเท่าไหร่ครับ) ตอบ : ใช่ครับ คือพรีเมียมที่เขาซื้อขายกัน ราคาจะคูณด้วย 200 ต่อจุดครับ 5.กำไร-ขาดทุนนี้ 1 จุดเท่าไหร่ ครับ ตอบ ; จุดละ 200 บาท ( ยังไม่รวมค่าคอมฯ ไปกลับประมาณ 96*2 นะครับ ) 6.จะ long call  ทำอย่างไรครับ 7.จะlong put ทำอย่างไร 8.จะshort call ทำอย่งไรครับ 9.จะshort put ต้องทำอย่างไรครับ ตอบ : สี่ข้อนี้ต้องลองเองครับ ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ long คือซื้อ short คือขายครับ ซื้อ ปิดด้วยขาย ขาย ปิดด้วยซื้อ 10.ถ้าเรา เปิด long แล้ว ตอนปิดlong นี้จะต้องเสียค่า พรีเมี่ยมอีกไหมครับ ตอบ ; ไม่เสียครับ ตอนปิด long ราคาพรีเมียมที่เราขายได้ก็คือส่วนของกำไรหรือขาดทุนครับ 11. เวลาจ่ายเงินนี้เค้า ตัดผ่านบัญชีใช่ไหมครับ T+3 ใช่ไหม ตอบ ; ผมใช้ cash balance ครับ 12.อื่นๆที่ควรรู้ครับ ตอบ ; ข้อนี้ขอตอบกว้างๆ ว่า option สภาพคล่องยังไม่ดีนะครับ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการอะไรจากการเข้ามาในการลงทุน option นะครับ ถ้าอยากเก็งกำไร ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย ต้องมีลูกล่อลูกชนพอตัว แต่ถ้าอยากป้องกันความเสี่ยง option ก็จะกัดความเสี่ยงแค่ค่าพรีเมียม ในกรณีที่เราซื้อนะครับ ลองหาหนังสือของตลาดหลักทรัพย์มาอ่านเพิ่มเติมก็ได้ครับ ก่อนลงสนามจริง จากคุณ : บอย (momo dog) - [ 26 ต.ค. 51 20:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. ผมใช้โบรกของกิมเอ็งนะครับ เค้าคิดค่าซื้อ หรือขาย+VAT =เท่าไหร่กันครับ แบบทางเน็ตนะครับ ถ้าเป็นหุ้นนี้ 0.15%+VAT ใช่ไหมครับ ตอบ ผมใช้ของ Asiaplus ค่าคอม+VAT ขาเข้าขั้นต่ำ 96.3 (คอม 90 + VAT 6.3) บาท ขาออกก็เช่นกันครับ ขั้นต่ำ 96.3 บาท 2.ค่า พรีเมี่ยม เค้าคิด กันจากอะไร และอย่างไร (บอกด้วยภาพก็ดีครับ) ตอบ คิดจาก 3 องค์ประกอบหลัก ๆ  คือ (1) Intrinsic Value หรือก็คือมูลค่าเฉพาะที่เป็นบวกถ้าสมมติ Exercise ในวันนี้ทันที เช่น สมมติสัญญา Put Exercise ที่ 300 จุด ถ้าดัชนี SET50 อยู่ที่ 290 จุด Put Option สมมติเรา Exercise ตอนนี้ทันที ก็จะได้กำไรเท่ากับ 300 - 290 = 10 จุด ต่อ 1 สัญญา นี่ก็คือ Intrinsic Value หรือมูลค่าที่เป็น 0 กรณีที่ไม่คุ้มที่จะ Exercise เช่นสัญญา Put ที่ Exercise 300 จุด ถ้าดัชนี SET50 อยู่ที่ 310 จุด ก็ไม่คุ้ม ที่จะ Exercise ในกรณีนี้ Intrinsic Value จะเท่ากับ 0 นี่ก็คือ Intrinsic Value (2) ระยะเวลาคงเหลือของสัญญา ถ้าเวลาเหลือมาก มูลค่าก็จะมากขึ้น เพราะ มีโอกาสที่ Intrinsic Value จะมีค่าเป็นบวกได้เยอะ ๆ  เช่น Option Series S50Z08P300 (S50 ก็คือ SET50; Z08 ก็คือหมดอายุเดือนธันวาปี 2008; P300 ก็คือสัญญา Put ที่ Exercise 300 จุด) ควรจะมีราคาต่ำกว่า Series s50H09P300 (H09 ก็คือหมดอายุมกราปี 2009) เนื่องจาก S50H09 มีเวลาเหลือมากกว่า S50Z08 (3) ค่าความผันผวนของ SET50 ถ้าผันผวนมาก ก็มีโอกาสที่จะทำให้ Intrinsic Value มีค่ามาก มูลค่า Option ก็จะมากตาม หมายเหตุ : มูลค่า Options ก็คือค่า Premium นั่นเอง เพราะฉะนั้น Options Premium = Intrinsic Value + Time Value + Underlying Volatilily Factor 3.ผมดูจาก Keliberty ของกิมเอ็งแล้ว งงมาก ทำไมมันมี ตารางและราคาอะไรเต็มไปหมด งงจริงๆ ครับ ตรงกลางจะมีราคา อะไรครับ(Strike Price)และ ATM  OTM  ITM  มันคืออะไรครับ ตอบ Strike Price ก็คือ Exercise Price นั่นเอง ให้ดูได้จากเลขสามตัวท้ายของชื่อ Series ครับ เช่น S50Z08P300 ในที่นี้ Strike Price ก็คือ 300 จุดครับ ATM คือ At-the-money หมายถึง ถ้าสมมติ Exercise ในวันนี้ จะเสมอตัวครับ เช่น ถ้าวันนี้ SET50 อยู่ที่ 300 จุด  สมมติว่า Exercise S50Z08P300 ก็จะเสมอตัวครับ ดังนั้น ไม่ว่าจะ Exercise หรือไม่ Exercise ก็ไม่ต่างกัน ดังนั้น อยู่เฉย ๆ ไม่ใช้สิทธิ์ดีกว่า ATM จะเกิดในกรณีที่ดัชนี SET50 มีค่าเท่ากับ Stike Price ครับ ITM คือ In-the-money หมายยถึง  ถ้าสมมติ Exercise ในวันนี้ จะกำไรครับ เช่น ถ้าวันนี้ SET50 อยู่ที่ 290 จุด  สมมติว่า Exercise S50Z08P300 ก็จะมีกำไรสำหรับ Put ครับ ITM จะเกิดในกรณีที่ดัชนี SET50 มีค่าต่ำกว่า Strike Price ในกรณี Put และมีค่าสูงกว่า Strike ในกรณี Call ครับ OTM คือ Out-of-the-money หมายยถึง  ถ้าสมมติ Exercise ในวันนี้ จะขาดทุนครับ เช่น ถ้าวันนี้ SET50 อยู่ที่ 310 จุด  สมมติว่า Exercise S50Z08P300 ก็จะขาดทุนสำหรับ Put ครับ ดังนั้น คนที่มีเหตุผลจึงไม่ทำการใช้สิทธิ์ครับ ปล่อยให้ Option หมดอายุไปดีกว่า นอกจากนี้ยังมีคำเรียกเพิ่มเติมครับ เช่น Deep ITM คือ ถ้าใช้สิทธิ์ ก็จะมีกำไรมโหฬาร ส่วน Deep OTM จะเป็นไปในทางตรงกันข้ามครับ 4.แล้วราคาตรง บิด กับ ออฟเฟอ มันคืออะไรครับ (ใช่ ค่าพรีเมี่ยม ไหมครับ * คูณ ด้วยเท่าไหร่ครับ) ตอบ ใช่ครับ มันคือค่า Premium นั่นเอง ก็เหมือนกับเสนอซื้อขายหุ้นครับ ถ้าต้องการซื้อ (Open or Close Long Position) ก็วาง Bid เข้าไปครับ ถ้าต้องการขาย (Open or Close Short Position) ก็ตั้ง Offer ไปครับ ส่วนค่า Premium ที่เห็น Bid Offer อยู่ในกระดานนั้น มีหน่วยเป็นจุด ถ้าจะแปลงเป็นมูลค่า ซึ่งในที่นี้จะขอเรียกว่า Notional Amount ก็ต้องเอา 200 บาท ไปคูณครับ 5.กำไร-ขาดทุนนี้ 1 จุดเท่าไหร่ ครับ ตอบ จากข้อที่แล้ว ตัวคูณคือ 200 บาท ดังนั้นกำไร หรือขาดทุน 1 จุดจึงมีมูลค่าเท่ากับ 1*200 = 200 บาท ครับ 6.จะ long call  ทำอย่างไรครับ ตอบ ที่ Asiaplus ใช้คำสั่ง Long-open ครับ โดยเลือก Series ที่ลงท้ายด้วย cXXX ครับ เช่น S50Z08C300 ส่วนถ้าจะปิดสถานะ ก็ทำได้โดยใช้คำสั่งในทางตรงกันข้าม ก็คือ Short-close ครับ 7.จะlong put ทำอย่างไร ตอบ ที่ Asiaplus ใช้คำสั่ง Long-open ครับ โดยเลือก Series ที่ลงท้ายด้วย pXXX ครับ เช่น S50Z08P300 ส่วนถ้าจะปิดสถานะ ก็ทำได้โดยใช้คำสั่งในทางตรงกันข้าม ก็คือ Short-close ครับ 8.จะshort call ทำอย่งไรครับ ตอบ ที่ Asiaplus ใช้คำสั่ง Short-open ครับ โดยเลือก Series ที่ลงท้ายด้วย cXXX ครับ เช่น S50Z08C300 ส่วนถ้าจะปิดสถานะ ก็ทำได้โดยใช้คำสั่งในทางตรงกันข้าม ก็คือ Long-close ครับ 9.จะshort put ต้องทำอย่างไรครับ ตอบ ที่ Asiaplus ใช้คำสั่ง Short-open ครับ โดยเลือก Series ที่ลงท้ายด้วย pXXX ครับ เช่น S50Z08P300 ส่วนถ้าจะปิดสถานะ ก็ทำได้โดยใช้คำสั่งในทางตรงกันข้าม ก็คือ Long-close ครับ 10.ถ้าเรา เปิด long แล้ว ตอนปิดlong นี้จะต้องเสียค่า พรีเมี่ยมอีกไหมครับ ตอบ Premium นี้หมายถึงมูลค่าหรือราคา Options นั่นเองครับ หลักการคล้ายกับซื้อหุ้นน่ะครับ แต่ในที่นี้มูลค่าซื้อหุ้นก็คือมูลค่า Premium ของ Options นั่นเอง ขาเข้าก็ซื้อของมา ถ้าของมูลค่าเพิ่มขึ้น ขาขายออกก็มีกำไร นั่นคือ ขาออกตอนปิดสถานะ ไม่ต้องเสียค่า Premium อีกแล้วครับ แต่ถ้าหมายถึงค่าคอม + VAT แล้วยังต้องเสียครับ เป็นของส่วนขาออก 11. เวลาจ่ายเงินนี้เค้า ตัดผ่านบัญชีใช่ไหมครับ T+3 ใช่ไหม ตอบ ที่ Asiaplus จะให้เราวาง Margin ในบัญชี TFEX ก่อนที่จะเข้าไปเปิดสถานะ Long หรือ Short โดยถ้ามีการเปิดสถานะแล้ว เงินค่า Premium ที่เราต้องจ่ายก็จะถูกหักออกจากบัญชีครับ และในกรณีที่เราเปิดสถานะ Short-open ในที่นี้จะขอเรียกว่า Write Call ในกรณี Call หรือ Write Put ในกรณี Put ในชั้นแรกเราจะได้รับมูลค่า Premium เข้ามาในบัญชี ครับ แต่ถ้าเวลาผ่านไปเราขาดทุนจากการเปิดสถานะ Short เงินในบัญชี Margin ก็จะลดลง และถ้าลดลงจนถึงระดับหนึ่ง เราจะต้องนำเงินมาเติมให้เต็มภายใน T+1 หลักการของ Margin จะเหมือนกับกรณีของ SET50 Futures ครับ 12.อื่นๆที่ควรรู้ครับ ตอบ เห็นด้วยกับความเห็นข้างบนครับ เรื่องสำคัญที่พึงต้องเข้าใจก็คือ เนื่องจากสภาพตลาด SET50 Options ของบ้านเราตอนนี้ค่อนข้าง ขาดสภาพคล่อง จึงทำให้การซื้อขายเปิดปิดสถานะเป็นไปอย่างลำบาก  ส่วนต่างระหว่าง Bid กับ Offer ค่อนข้างมาก อีกทั้งราคา Premium ก็ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้น สภาพตลาดจึงยังไม่เหมาะกับการเล่นเก็งกำไร แต่อยากแนะนำให้ศึกษากลยุทธ์ + ใช้ Options สำหรับป้องกัน ความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นจะดีกว่าครับสำหรับตอนนี้ ตัวอย่างเช่น ผมซื้อ Put Options ไว้เมื่อตอน SET50 อยู่ที่ 340 จุด มาถึงตอนนี้ ก็ช่วยทำให้พอร์ตกองทุน LTF ของผมมีผลขาดทุนน้อยกว่าปกติได้ เนื่องจาก การ Mark-to-Market ส่วนที่ผมเสียหายจากการลงทุนหุ้น ระยะยาวถูกชดเชยด้วยกำไรจากการ Long-open Put Options ครับ กลยุทธ์ง่าย ๆ แบบนี้ เรียกว่า Protective Put ครับ นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่น ๆ ที่ซับซ้อนอีกมากมายที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการพอร์ตหุ้นตามความเหมาะสม ครับ จากคุณ : b1b2 - [ 27 ต.ค. 51 00:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอแก้ข้อ 2. นิดนึงนะครับ เผอิญพิมพ์เร็วไปหน่อย H09 คือหมดอายุ มีนา 09 ครับ Derivatives ในตลาดตอนนี้จะมีแต่สัญญาที่หมดอายุรายไตรมาสดังนี้ Series H หมดอายุ มีนาคม Series M หมดอายุ มิถุนายน Series U หมดอายุ กันยายน Series Z หมดอายุ ธันวาคม จากคุณ : b1b2 - [ 27 ต.ค. 51 00:39:56 ]