เมื่อวานมีเพื่อนสมาชิกห้องสินธร
ถามเกี่ยวกับคนลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นอาชีพหลัก
ผมไม่เคยใช้คำว่า เล่นหุ้นเวลาพูดกับใคร
เพราะมันเป็นเรื่องจริงจังของชีวิต ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
คนที่คิดว่าหุ้นคือการเล่น ก็มักจะเสียงเงินแบบไม่ใช่เล่นๆ
ไม่ทราบว่าเคยได้อ่านกระทู้นี้หรือยัง
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2008/08/I6889051/I6889051.html
ตามความคิดของผม
ใครเริ่มเข้าตลาดหุ่้นเมื่อห้าปีที่แล้ว
ก็เป็นเวลาที่อำนาจซื้อของเงินเริ่มน้อยลงไปกว่าเมื่อสองปีหน้านั้น
ไม่ต่ำกว่า ๗๕ เปอร์เซนต์
ในขณะที่อำนาจขายของหุ้น กลับเพิ่มขึ้นถึง ๓๐๐ เปอร์เซนต์
สมมติเช่น เงิน ๑ บาทเมื่อปี ๒๕๔๔
ซื้อหุ้นปตท. ได้ ๑ หุ้น
พอมาปี ๒๕๔๖ ต้องใช้เงินถึง ๔ บาท
ถึงจะซื้อหุ้น ปตท. ได้ ๑ หุ้น
เท่ากับอำนาจซื้อของเงินลดลงไป ๗๕ เปอร์เซนต์
อำนาจขายของหุ้นเพิ่มขึ้นมา ๓๐๐ เปอร์เซนต์
ไม่แน่ใจว่าอ่านแล้วจะเข้าใจหรือเปล่า ????
ความผิดพลาดอันแรกสุดของนักลงทุนบางท่านก็คือ
เริ่มเข้าตลาดหุ้น
ในจังหวะที่ อำนาจซื้อของเงินเสื่อมถอยอย่างรุนแรง
สวนทางกับอำนาจขายของหุ้น ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
จึงไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาสั้นๆ
เพราะเลือกยืนผิดข้าง
แทนที่จะคือครองเงินที่ไม่อำนาจซื้อเอาไว้ก่อน
กลับไปถือครองหุ้น ที่อำนาจขายกำลังพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแทน
คำว่าระยะเวลาสั้นๆของผม
อาจจะยาวมากๆ สำหรับนักลงทุนเจนเรชั่นวายเกือบทุกคน
เพราะผมคิดว่า สั้นที่สุดที่จะพิสูจน์ว่า
ใครจะอยู่ในตลาดหุ้นได้ตลอดไป
น่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบสองปี
นอกจากว่า ใครทำเงินจำนวนมากได้ในพริบตา
แล้วทำคลายเครียดเรโชมหภาค
เอาเงินทุกบวกกำไร ออกจากตลาดหุ้นไปเลย
แบบนั้นก็จะอยู่ในตลาดหุ้นได้ตลอดกาล
เหมือนกับบัญชีหุ้นของเพื่อนผม
ซึ่งชักเงินออกไปแล้วสองเท่ากว่า ของเงินที่ใส่เข้ามาในตลาดหุ้น
หุ้นที่เหลือ ต่อให้เจ๊งหมดก็ยังกำไร
กรอบระยะเวลาสิบสองปี
ไม่ว่าใครจะเริ่มเข้าตลาดตรงจุดไหน
เข้าตลาดในตอนที่ อำนาจซื้อของเงินเสื่อมถอยอย่างเช่นห้าปีก่อน
หรือ
เข้าตลาดในเวลาที่อำนาจขายของหุ้นเริ่มเสื่อมถอย อย่างเช่นตอนนี้
ผมเชื่อว่า ในที่สุดก็จะได้เงินทุนบวกกำไรคืน
ปัญหาที่ต้องบริหารให้ได้คือ
ต้องถือครองเงินและหุ้นให้ถูกเวลา
คนที่ผมคิดว่า มีความสามารถในการสลับการถือครอง
เงินและหุ้นได้ถูกเวลา
เอาเฉพาะคนที่ผมติดตามอ่านความเห็นในปัจจุบันนี้ (เป็นทัศนะส่วนตัว)
อันดับหนึ่ง ขอยกให้พี่เสี่ยหมอกาเบรียล
ตามมาติดๆด้วยคุณแซค คุณgantz และคุณหมูครับ
ส่วนคนที่ผมขอฟันธงว่า
พอร์ตจะโตห้าเท่า ภายในห้าปีนับจากนี้ก็คือ
คุณเต่าหยวนเปียว
เพราะตอนนี้
กำลังถือครองเงินที่มีอำนาจซื้อสุดๆ
ไว้เต็มกระเป๋าเลย
เอาเงินที่อำนาจซื้อเพิ่มขึ้นสองสามร้อยเปอร์เซนต์
ไปแลกกับหุ้นที่อำนาจขายน้อยลง ๗๕ เปอร์เซนต์
แค่ซื้อหุ้นให้ถูกตัว ตามปัจจัยพื้นฐาน
ถือหุ้นให้ถูกเวลา "ตามความสามารถส่วนตัวที่สอนกันไม่ได้"
ในระยะยาวๆ
มูลค่าพอร์ตหุ้นไม่เพิ่มได้ไง
อ่านความเห็นเพิ่มเติมได้จากกระทู้นี้ครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=35904
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 51 11:21:36
๙๙๙๙๙ ประสพกาม เอียประสบการณ์ของคนผ่านรก ผ่านสววรค์ในตลาดหุ้นมานานกว่า...ปี
