Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ### นิยาย "ชีวิตคือการเล่นหุ้น" ตอนที่ 5 ลงทุนเพื่ออนาคต

    ผมนั่งรอน้องน้ำที่สวนสาธารณะไม่ไกลจากที่ทำงานขอเธอนัก แม้เราจะคุยโทรศัพท์ด้วยกันทุกวัน วันละ 3 เวลา แต่โอกาสที่เราจะได้มีเวลาไปเที่ยวทานข้าวด้วยกันช่างน้อยเหลือ เพราะน้ำเองก็ดูเหมือนจะมีธุระเยอะ  เราจึงเจอประมาณเดือนละครั้งเท่านั้น ด้วยความที่ไม่ค่อยได้เจอบ่อยๆ มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่จะพบเธอ เช่นเดียวกับวันแรกที่เธอมาทานอาหารที่ร้านผม

    วันนี้ผมเตรียม surprise น้องน้ำด้วยครับ ผมทำแซนวิชห่อเป็นอาหารกลางวัน และเมื่อคืนผมอัดเพลง mp3 เพลงโปรดของผม ชื่อ it might be you ของ Stephen Bishop

    เนื้อเพลงก็ประมาณ

    Time
    I've been passing time watching trains go by
    All of my life  Lying on the sand, watching seabirds fly
    Wishing there would be
    Someone waiting home for me

    แปลผิด ๆ ถูก ๆ ก็ประมาณ เวลาที่ฉันเหม่อมองรถไฟผ่านไป ตอนฉันนั่งอยุ่บนหาดทรายนกก็บินผ่านหัวไป ฉันอยากกลับบ้าน ……  เนื้อร้องเพลงนี้ขึ้นต้นค่อนข้างแปลก ไม่รู้เหมือนกันว่าสื่ออะไร ทำไมต้องนก ทำไมต้องรถไฟ ท่าทางจะเป็นเพลงเพื่อชีวิตของฝรั่งมัน  

    แต่ผมไม่สนใจหรอก ทั้งเพลงผมชอบแค่ท่อนสร้อยแค่นั้นแหละครับที่มันร้อง

    ….And it's telling me it might be you
    All of my life

    ....มันต้องเป็นเธอแน่ๆ ที่ฉันรอมาทั้งชีวิต    



    เธอฟังแล้วต้องนั่งร้องไห้แน่ๆ เอ.....ผมควรจะเตรียมผ้าเช็ดหน้ามาด้วยนะเนี่ย




    “พี่แมว !!” เธอตะโกนใส่ผมจากด้านหลัง เล่นเอาผมตกใจจนทำกล่องแซนวิชหล่น

    “โถ่ น้ำครับ ผมตกใจหมด”

    “แย่แล้ว อะไรหล่นหือคะ ?”

    “อาหารกลางวันที่ผมทำมาให้น้ำทานไง ดีนะครับที่ฝากล่องมันแน่น ไม่งั้นได้กินทั้งฝุ่นทั้งทรายแน่ๆ”

    “ถึงหล่นโดนทรายน้ำก็จะทานค่า” เธอยิ้ม

    “แต่ผมลืมซื้อน้ำเปล่ามาด้วย”

    “น้ำพกมาแล้วนี่ไง” เธอยื่นถุงพลาสติก มีน้ำดื่มอยู่ 2 ขวด




    เราทานอาหารกลางวันกันในบนม้านั่งในสวน ลมอ่อนๆที่หอบกลิ่นของฤดูหนาวพัดผ่านเราทั้งสอง อากาศเย็นนิดๆ กับคนที่เรารักนั่งอยู่ด้วยกัน ผมรู้สึกสุขใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน



    “น้ำว่าไหมครับ ว่าเราเจอกันน้อยไปหน่อย”

    “อืมม นั่นสิเนอะ”

    “ผมเห็นพระจันทร์เต็มดวงบ่อยกว่าเห็นหน้าน้ำอีกนะครับ”

    “น้ำเน่า”

    “น้ำเน่าแต่ก็เห็นเงาจันทร์นะครับ”

    “เน่าๆๆๆๆ ชักจะเน่าขึ้นทุกวันแล้วนะ ก็น้ำต้องอ่านหนังสือและเรียนภาษาอังกฤษด้วยนิ สอบชิงทุนมันมีเรื่อยๆ น้ำอยากไล่สอบให้หมดทุกที่ ไม่อยากเสียโอกาส”


    ถ้าเธอได้ไปเมืองนอกจริง ผมคงเหงา


    “พี่แมวไม่ไปลองสอบชิงทุนบ้างหรือ เผื่อบางทีเราจะได้ไปเรียนด้วยกัน”

    “โน โน พี่ไม่เคยคิดจะเรียนต่อเลยในชีวิต พี่อยากหาอะไรลงทุนมากกว่า เช่น หุ้น”

    “การศึกษาก็เป็นการลงทุนนะคะ”

    “ยังไง?”

    “ก็ ถ้าเรามีความรู้เพิ่มขึ้น เรียนสถาบันที่ดีๆ มีปริญญาหรือใบประกาศรับรอง มันก็เป็นการเปิดโอกาสให้เราหางานได้เงินเดือนสูงกว่าเดิม ทำงานที่ดีขึ้น มีโอกาสต่างๆมากขึ้นตามไปด้วย และถึงตอนนั้น จะลงทุนอะไรเพิ่มก็ยังไม่สายนะคะ”

    “ผมไม่รวยไปเรียบร้อยแล้วหรือครับ กว่าน้ำจะเรียนจบแล้วเริ่มทำงานเพราะตอนเรียนมันใช้เวลาหลายปีนะ”

    “ระหว่างที่พี่แมว เสี่ยงๆ ลองๆ น้ำก็สร้างความแข็งแกร่งทางความรู้ แม้อาจจะเริ่มช้า แต่ไม่ได้แปลว่าแซงพี่แมวไม่ได้นะคะ”

    “แล้วทำไมไม่เลือกเรียนในเมืองไทยละครับ แม่จะได้ไม่เป็นห่วง”  จริงๆ ผมเองต่างหากที่เป็นห่วง

    “ที่เมืองนอกมันก็มีอะไรที่ในเมืองไทยไม่มีเยอะนะคะ อย่างน้อยๆ ภาษาอังกฤษของน้ำต้องดีขึ้นมากมาย”

    “น้ำคงอยากไปเมืองนอกมากเลยใช่ไหมครับ”

    “ใช่แล้วคะ”





    ผมไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย





    “น้ำต้องไปทำงานต่อแล้วนะ ถึงบ่ายโมงแล้ว”


    “เดี๋ยวๆๆๆๆๆ”

    “อะไรหรือ ?”



    “อย่าเพิ่งไปสิ นั่งอีกแปบนึงนะ มานั่งฟังเพลงรับลมเย็นๆกันสักเพลง สองเพลงนะ”



    “อืมม ก็ได้ แค่ 5 นาทีนะคะ”

    “ได้ครับ”




    ผมหยิบเครื่องเล่น mp3 ออกมา แต่พอกดไปกดมา





    แบ็ตหมดครับ !!!




    “น้ำครับ แบ็ตหมดอะ”


    “พี่แมวร้องให้น้ำฟังแทนก็แล้วกัน”

    “ผมร้องเพลงไม่เป็น !!”


    “งั้นน้ำไปละนะ ไว้ฟังด้วยกันคราวหน้าก็แล้วกัน น้ำจะเอามาให้ฟังบ้าง”



    ผมเดินกลับบ้านคนเดียว รู้สึกเซ็งตัวเองที่ไม่รอบคอบเอาซะเลย




    ผมฮัมเพลงระหว่างเดินกลับบ้าน

    Time
    I've been passing time watching trains go by
    All of my life
    Lying on the sand, watching seabirds fly
    Wishing there would be
    Someone waiting home for me
    Something's telling me it might be you
    It's telling me it might be you
    All of my life

    Looking back as lovers go walking past
    All of my life
    Wondering how they met and what makes it last
    If I found the place
    Would I recognise the face
    Something's telling me it might be you
    Yeah it's telling me it might be you

    So many quiet walks to take
    So many dreams to wake
    And we've so much love to make
    Oh, I think we've gonna need some time
    May be all we need is time

    And it's telling me it might be you
    All of my life

    I've been saving love songs and lullabies
    And there're so much more
    No one's ever heard before

    Something's telling me it might be you
    Yeah, it's telling me it must be you
    And I'm feeling it'll just be you
    All of my life

    May be it's you (it's you)
    May be it's you (it's you)
    I've been waiting for all of my life


    รอบหน้าผมจะต้องเปิดให้น้องเขาฟังให้ได้









    love

    แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 51 20:51:52

    แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 51 13:18:12

    แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 51 12:06:18

    จากคุณ : kennyG - [ 11 พ.ย. 51 12:03:55 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com