ความคิดเห็นที่ 4
ความคิดเห็นที่ 7
เรียนถามพี่เอสซุงต่อ ตามประสาคนไม่มีความรู้ทางการลงทุน ถ้ามีอะไรไม่ถูกต้องช่วยแย้งเลยนะครับ เพราะผมไม่รู้จริงๆ มือใหม่มากๆ
เห็นด้วยครับว่า ธุรกิจอาหารคงจะดีจริง เพราะหลายบริษัทดูทำกำไรได้สม่ำเสมอ ทั้ง cpf, tuf ซึ่งมีความชำนาญมานานแล้ว
แต่ ธุรกิจอย่างชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์ ซึ่งไม่ได้ใช้ความชำนาญมากมาย ในอนาคต เราจะเชื่อได้อย่างไร ว่าจะไม่เกิดการย้ายฐานการผลิตอย่างที่หุ้นกลุ่มสิ่งทอ ได้เปลี่ยนจากไทยไปที่จีนครับ และสินค้าส่วนใหญ่เป็นการสั่งทำของลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศ หรือ ถ้าเกิดปัญหาอย่าง cei ขึ้นมาก็ลำบากแล้วครับ ทั้งๆที่เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งเป็นหุ้นปันผลชั้นเยี่ยมตัวหนึ่งอยู่เลย
สิ่งที่ผมกำลังสนใจ คือ ถ้าผมไม่มีความรู้ทางการลงทุน แล้วอยากเข้ามาลงทุนจริงๆ ในตลาดหุ้นขึ้นมา(ไม่ใช่เล่นหุ้น) ต้องการถือยาวๆ เพื่อเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจในแต่ละช่วง
ธุรกิจไหน ที่แนวโน้มของมัน จะอยู่ได้ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ(ทำไมต้องเฉพาะเจาะจงว่าช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ก็เพราะส่วนใหญ่รอบของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ หุ้นชั้นดี ราคาจะลดลงโดยมีอัตราส่วนที่ช้ากว่า หรือถ้าเข้าถูกตัว อาจเพิ่มขึ้นสวนตลาดได้ เพื่อที่จะรอหุ้นวัฏจักรให้กลับมาเพราะส่วนใหญ่ หุ้นวัฏจักร มีวัฏจักรตามรอบของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งผมก็ไม่ได้บอกว่า กลุ่มเรือ มันจะลงแล้วแน่นอน เพราะมันมีปัจจัยในเรื่องของราคา การแข่งขันระหว่างบริษัท และรอบของเศรษฐกิจในภูมิภาคอีกด้วย) เพราะเราจะเห็นแล้วว่า ในตลาดหุ้นไทย หุ้นวัฏจักรเป็นหุ้นที่มี leverage ที่สูงที่สุด คือมี fluctuation ของราคาเป็น high beta เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ซึ่งจะดีมากๆในขาขึ้น ถ้า จะเป็นนักลงทุน สมมติฐาน ผมได้กำหนดแผนการคร่าวๆในการลงทุนของตนเองว่า จะลงทุนในหุ้นกลุ่ม วัฏจักรเป็นหลัก โดยระหว่างนั้น จะรอลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่นเพื่อไม่ให้เสียโอกาส)
กลุ่มไหนกันนะ ที่มันควรจะดำรงความสามารถในการทำกำไรของตนเองไว้ได้ค่อนข้างมาก
๑ ธุรกิจอาหาร-เพราะเรามีความชำนาญอยู่แล้ว (พี่เอสซุงเติมให้) ผมเดาว่า cpf ,tuf ใครช่วยเติมให้อีกหน่อยครับ เอาที่มีศักยภาพแข่งขันได้ในโลกนะครับ
๒ ธุรกิจส่งออกชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์-พี่เอสซุงเติมให้ ผมเดาว่า delta, ccet, kce, metco, hana
๓ ธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล-ก็อยู่ในประเทศเราอยู่แล้ว บริการของเราก็ดีต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับราคาค่าครองชีพในประเทศ เราน่าจะทำ nursing care ,homecare, holidays แบบที่มาทำ plastic surgery ฯลฯ เป็นจุดขายได้สบาย
๔ ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯดีๆ-เพราะพื้นที่อยู่ในประเทศเรา ไม่ต้องไปแข่งกับใคร ผมยังมองว่า ต่อไป เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น ธุรกิจที่มี landbank มากๆ ในพื้นที่เป้าหมายในอนาคต ยังมีโอกาสโตได้เรื่อยๆ อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่ามีบริษัทไหนบ้าง ใครทราบช่วยมาต่อยอดให้หน่อยครับ (โดยเฉพาะบริษัทที่มีที่แถวสุวรรณภูมิ แต่อันนี้ น่าจะต้องไปเช็คดูอีกทีว่า มีกระแสเงินสดพร้อมลงทุน โดยที่ไม่ต้องเพิ่มทุน หรือมีแผนร่วมลงทุนกับต่างประเทศหรือไม่) ใครบอกได้ว่ามีอะไรบ้าง ช่วยยกตัวอย่างหน่อยครับ
๕ ธุรกิจที่มีการกระจายความเสี่ยงได้ดี หรือเป็น holding company ตัวอย่างเช่น ptt, scc
๖ กลุ่มโรงงาน ผมเดาว่าเราน่าจะยังเป็นสถานที่ดึงดูดการลงทุนได้ต่อเนื่องในอนาคตนะครับ เช่น amata, ticon , rojana
๕ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่มีศักยภาพขยายการลงทุนไปในตะวันออก ทีผมมองว่า กลุ่มนี้มีผล เพราะตะวันออกกลางมีเงินทุนสูงมาก และกลุ่มประเทศนี้ เมื่อน้ำมันใกล้หมด เขาจะต้องมองหาการลงทุน ทั้งในประเทศตนเองและต่างประเทศ ผมว่าไทยน่าจะเป็นเป้าหมายหนึ่งของการลงทุนจากกลุ่มนี้นะครับ(ผมเดาเอาเอง) แต่ก่อนที่จะไปลงทุนที่อื่น เขาจะต้องสร้างฐานการค้าในประเทศตนเองก่อน กลุ่มก่อสร้าง จึงน่าสนใจเข้าไปบุกเบิกด้านการก่อสร้างได้อีกมาก เช่น itd, ck, stec, ple เพราะเราน่าจะแข่งขันทางด้านราคากับประเทศใหญ่ๆได้
๖ กลุ่มแฟชั่น อัญมณี พี่พ่อน้องไอซ์เติมให้ อันนี้ ผมยังไม่เห็นภาพเมืองแฟชั่นเลยครับ ต้องรอดูต่อไป
ตอบ คุณแสดงความบริสุทธิใจด้วยอมยิ้มครับ -พอดีอยู่ว่างๆ เลยหาความรู้เพิ่มน่ะครับ เผื่ออนาคตข้างหน้าอยากเป็น vi ไว้บ้าง ก็ไม่เสียหลายนี่ครับ อิอิ วันนี้ ฝนไม่ตก เดี๋ยวไปหาหนังเกาหลีดูดีกว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเลย ปีหน้าหุ้นตกแล้ว ว่าจะหยุดไปเที่ยวเกาหลีเสียหน่อย ถ้าลงทุนแบบ vi ไว้บ้าง ตอนนั้นก็จะได้ลงทุนอยู่ได้อย่างสบายอารมณ์ไงครับ เอิ๊กๆ
จากคุณ : แมงเม่ามือใหม่ - [ 8 ต.ค. 48 15:56:59 A:58.136.70.21 X: TicketID:080268 ]
จาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=holysix&date=15-10-2005&group=1&gblog=2
จากคุณ :
kasimasi
- [
13 พ.ย. 51 07:45:20
]
|
|
|