ปกติผมจะมีเวลาโพสต์ในวันอาทิตย์แต่เสาร์นี้ตื่นเช้าฝนตกหนักยังไม่ได้ไปไหน เปิดจอมาดูดาว แจกกีฟให้คุณเย่ เลยมานั่งคิดว่าอะไรที่จานปลาและคุณเย่มีคล้ายๆกัน ผมว่าสัญชาตญานและการอยู่ในปัจจุบัน
บางครั้งการเล่นหุ้นของเรา เราใช้สมองซีกซ้ายมากเกินไปซึ่งสมองซีกซ้ายจะเป็นเรื่องวิชาการ เหตุผล ตรรกะ รายละเอียด แต่สมองซีกขวาจะเป็นเรื่องภาพรวม ความรู้สึก
ทุกคนคงเริ่มเหมือนๆกันคือศึกษาจากตำราบ้าง ผู้รู้บ้าง
อย่างผม แอบเรียนมาเกือบหมดเศรษฐศาสตร์มหภาค เศรษฐศาสตร์จุลภาค ทฤษฎีเกม การทำบัญชี งบดุล กราฟต่างๆ
ที่คิดเองก็มีการใช้สมการเล่นหุ้น think_pos ratio
ท้ายสุดก็แค่อยู่กับปัจจุบันสังเกตุการเคลื่อนไหวของราคาแล้วก็หัดนับ1-2-3-4-5-A-B-C
ที่สำคัญอย่าเอาความคิดเรามาพันธนาการเรา เช่นเราวิเคราะห์ว่าต้องลงยาวก็ยึดอยู่แบบนั้น ทั้งที่เราเป็นแค่คนคนหนึ่งในตลาดไม่อาจฝืนตลาดได้ เหมือนคนเล่นเรือใบ เขาไม่สามารถกำหนดคลื่นลมได้แต่สามารถแล่นเรือไปได้ทุกทิศทางจนจบการแข่งขัน
นี่อาจตรงกับคำพูดของจานปลาที่ว่าหุ้นขึ้นต้องมีเรา หุ้นลงต้องไม่มีเรา
จบ Cใหญ่หรือยังไม่มีใครรู้แน่ แต่ปัจจุบันกำลังจะนับ1 กันใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ครั้งที่แล้วนับ1-2-3-4-5จาก384ไป480 ครั้งนี้ถ้านับ5ได้ถึง510-540(fibonaci1.3x-1.6x)ก็น่าจะจบขาลงได้
สัปดาห์หน้าขอชวนเพื่อนนับหนึ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงด้วยกันนะครับ(ต้องนับยาวหน่อยเวฟห้าจะได้ผ่าน480ครับ
ป.ล.กองทุนมาช่วยกันนับก้ได้นะครับ "พลังไทยเพื่อไทย" อย่าเพิ่งหวังเพื่อนต่างชาติซึ่งตอนนี้ไม่น่าจะมีบทบาทในตลาดทุนสักเท่าไรแล้ว(เงินน้อย หุ้นน้อย) ทรัพย์สินของเราหลักทรัพย์ของเรา เรากำหนดได้เองไม่ใช่หรือว่าราคาเหมาะสมอยู่เท่าใด
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 51 07:43:48