PANTIP.COM : I7294748 อีกหน่อยผมคงได้เป็นรัฐมนตรีแน่เลย หากตัวถัดไปลิ่งอีก []

ความคิดเห็นที่ 6

ดูจากบล็อก พี่เย่ และ ที่พี่โพสใน Net มานาน
และพี่เย่ อุตส่าห์มาแบ่งปัน และมาเล่าเรื่องหนัง ที่ดูเรื่อง เจ้าพ่อตลาดหุ้น ที่ List ข้อดีที่ได้จากหนังเรื่องหุ้น ทั้ง 7 ข้อมาดูแล้ว ...

1. ก่อนที่คนเราจะเกิด ต้องตายก่อนเสมอ
ในเรื่องนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ล้มเหลวมาก่อนทั้งนั้น แต่ทุกครั้งก็จะได้คติดีๆจากผู้อาวุโสด้วยคำนี้ว่า
หากอยากจะเกิดใหม่เป็นเจ้าพ่อ ต้องรู้จักตายก่อน
พระเอก ต้องกินคุ้กกี้ผสมน้ำประทังชีวิต สุดท้ายก็ได้กินข้าวราดหน้าหูฉลามสมใจ

2. หากยังคงมีขุนเขา อย่ากลัวไร้เงาฝืน
ในเรื่องติงไห่ ถูกจับเข้าคุกในข้อหาฆ่าคนตาย ลูกชาย ขอให้มอบตัว โดยใช้คำนี้ปลอบ
ประหนึ่งว่า หากชีวิตไม่สิ้น โอกาสย่อมมีเสมอในการกลับมาแก้ตัว

3. ใบหุ้นก็คือกระดาษที่สามารถฆ่าคนได้ เรากำลังสู้อยู่กับคน ไม่ใช่กระดาษ
อาจารย์ของพระเอก พยายามให้พระเอกคิดเสมอว่าในตลาดหุ้น เรากำลังสู่อย่กับคน ไม่ใช่จะเอาชนะกระดาษ การอ่านใจคน
นิสัยคนได้ก็คือการชนะในตลาดหุ้น
ทำให้พระเอกพยายามศึกษานิสัยของคู่ต่อสู้ ว่าเป็นคนนิสัยเช่นไร ขอบลักไก่ ชอบข่มขู่ เอาหุ้นลมมาขาย
เลยทำให้พระเอกระดมเงินมาสู้ สู้จนคู่ต่อสู้ไม่มีปัญญาหาหุ้นมาส่งมอบได้ เพราะขายไว้ล่วงหน้า
แล้วหุ้นส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพระเอกแล้ว
คู่ต่อสู้จึงต้องของซื้อกลับในราคาแพงเพื่อเอามาส่งมอบ

4. หุ้นแต่ละตัวมักมีเครือข่ายของตัวเองเป็นกลุ่มๆ เหมือนบะหมี่6ถ้วย
ในเรื่องนั้นกลุ่มบริษัทของคู่ต่อสู้มีถึง6บริษัท เปรียบเสมือนบะหมี่6ถ้วย ที่มีเหรียญอยู่ในนั้นถ้วยละ1เหรียญ
การที่จะเอาชนะได้โดยการTake Overเพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่นั้น ก็ต้องกินทุกถ้วย จนหมด จนเจอเหรียญ
คนเรากว่าจะกินหมดก็ต้องอ้วกแตกพอดี เผลอๆถ้วยที่สองก็ยอมแพ้แล้ว
ในเรื่องพระเอก เลือกกินถ้วยเดียว กินให้หมด ไม่เหลือ แล้วเลิกกิน เข้าถือครองทีละบริษัท การสุ่มสี่สุ่มห้ากิน
ถ้วยนั้นถ้วยนี้ กินไปครึ่งถ้วย ไม่เจอเหรียญก็เปลี่ยนถ้วย ถอดใจ กว่าจะเจอเหรียญ อิ่มเสียก่อน
ดังนั้นหากจะเลือกเล่นหุ้น อย่าใช้หว่านแห ชอบตัวไหน เจาะไปที่ตัวนั้นเลย เวลามันขึ้นก็ไปทั้งกลุ่ม

5. ชีวิตจะไม่มีความสุขเลย หากไร้ซึ่งความรัก
ในเรื่องนั้นพระเอกก็ไม่ได้หมกหมุ่นแต่เรื่องหุ้นอย่างเดียว เขายังมีความรักมากมาย มีเรื่องส่วนตัว เข้ามาในชีวิต
ระหว่างนั้น เขาก็ไม่ได้ดูหุ้นตลอดเวลา
แต่ทุกครั้งที่เขาเข้าตลาด เข้าก็ประสบความสำเร็จทุกครั้ง
ดังนั้นการจดจ่อกับตลาดตลอดเวลานั้น ไม่ใช่เครื่องการันตีว่า จะสำเร็จเสมอไป

6. การที่หุ้นราคาลดลงมาก ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่คือเรื่องจงใจ
ในเรื่องคู่ต่อสู้ถือหุ้นมากกว่า70% ที่ราคา3เหรียญ ส่วนพระเอกมี20%
แต่คู๋ต่อสู้กดราคาขายลงมาให้เหลือ1.2เหรียญ ความเสียหายเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย
แต่คู่ต่อสู้นั้น ไม่ได้สะเทือนเพราะว่า เขามีหน้าตักที่เยอะกว่า จะเอาหุ้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วที่สำคัญ
หุ้นก็ยังคงอยู่ในมือเขามากมาย
ที่เขาทำคือให้ พระเอก และรายย่อยต่างๆทนไม่ได้กับผลขาดทุน จึงต้องขายออกมา สายป่าน ความอดทนที่น้อยกว่า
ทำให้ต่อกรไม่ไหว แล้วไม่รูว่าจะเกิดอะไรต่อไป จึงต้องขายออก
ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่ถือหุ้นใหญ่ เขารู้ตัวตลอดว่าทำอะไรอยู่

อีกข้อนึงครับ สำคัญมาก

7. พูดกับตัวเองเสมอว่า ต้องทำได้
ช่วงแรกๆ ตอนที่พระเอกยังไม่เป็นผู้เป็นคน ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
วันๆเอาแต่ฟังหูฟัง เชื่อหรือไม่ สิ่งที่เขาฟังอยู่ทุกวันในหูฟังคือ
ผมต้องรวย ผมต้องมีเงินเป็นหมื่นล้าน ผมต้องทำได้... เขาฟังกรอกหูอยู่ทุกวัน
ถือว่าเป็นหลักง่ายๆในการสร้างกำลังใจและการคาดหวังให้ตัวเอง

..................
ผมว่าพี่เค้าก็ Nice คนนึงเลยนะครับ

จากคุณ : ไชโป๊ผัดไข่ - [ 7 ธ.ค. 51 09:50:38 ]