ความคิดเห็นที่ 5
แต่ผมคิดผิดคือเราต้องเอาเงินไปวางไว้เฉยๆ เลย ไม่สามารถเอาเงินตรงนั้นมาซื้อขายได้ เท่ากับว่าถ้าจะซื้อหุ้นอีกก็ต้องหาเงินอีกส่วนมาจ่ายค่าหุ้นด้วย ถ้า เอาเงินไปวางไว้ 15,000 แล้วซื้อหุ้นอีก 15,000 ก็ต้องหาเงิน 30,000
แต่ถ้าผมใช้ Cash Balance ผมจะซื้อหุ้นแค่ 15,000 ก็โอนเงินเข้าไปแค่ 15,000 ถ้าผมจะซื้อ 30,000 ผมก็โอนเงินเข้าไป 30,000
วิธี Cash Balance จะเท่ากับได้หุ้นมูลค่า 30,000 วิธี Credit Line จะได้หุ้นเท่ากับ 15,000 เท่านั้น เพราะอีก 15,000 ต้องเอาเงินไปวางเป็นหลักประกันก่อน
ผมคงเข้าใจถูกแบบนี้ใช่มั้ยครับ
- เข้าใจผิดค่ะ เงินที่เอาค้ำประกัน ลูกค้าสามารถทำเรื่องถอนมาชำระเป็นค่าหุ้นได้ค่ะ หลังจากนั้นหุ้นที่ จขกท.ซื้อไว้ก็จะเป็นตัวค้ำประกันแทนเงินสด ขอยกตัวอย่าง เอาแบบละเอียดๆไปเลยนะค่ะ วงเงิน 100,000 บาท 15% คือ 15,000 บาท วันที่ 1 ซื้อไป 30,000 บาท วงเงินจะเหลือ 70,000 บาท หลังจากนั้นทำเรื่องขอถอนเงินประกันมาชำระค่าหุ้น ฉะนั้นแล้ววันที่ T+3 โบรกจะไปตัดเงินใน ATS คุณแค่ 15,000 บาท(ยังไม่รวมค่าคอม+VAT7%) แล้ววงเงินคุณก็จะตีกลับมาเหมือนเดิมที่ 100,000 บาท เพราะว่าชำระค่าหุ้นไปแล้ว และหุ้นเนี่ยจะเป็นตัวค้ำประกันพอร์ตแทนเงินสด และในกรณีที่คุณขายหุ้นออกไปหมด ถ้ายังอยากมีวงเงินเพื่อซื้อขายอยู่ คุณจขกท.ก็จะต้องซื้อหุ้นตัวใหม่เพื่อค้ำไว้ หรือว่าแจ้งทางโบรกว่าให้ตัดเงินไว้ 15% เพื่อค้ำประกันไว้ เช่น วันที่ 1 ขายหุ้นออกหมด 30,000 บาท ถ้าไม่ซื้อหุ้นค้ำก็ทำเรื่องหักเงินไว้เพื่อค้ำประกันพอร์ต วันที่T+3 เงินก็จะเข้าไปบช ATS 15,000 บาท (ยังไม่ได้หักค่าคอม+VAT7%)
ถ้าเป็น Cash Balance ถ้าผมโอนเงินเข้าไป 50,000 ผมจะมีวงเงิน 50,000 แล้วถ้าผมซื้อไป 30,000 วงเงินผมจะเหลือ 20,000 แล้วอย่างนี้พอถึงวันที่ T+3 แล้วผมต้องสำรองเงินไว้อีก 30,000 เพื่อชำระค่าซื้อหรือไม่ครับ หรือว่าทางโบรกจะหักเงิน 30,000 ออกจาก ยอดเงิน 50,000 ไปเลยครับ - ทางโบรกหักไปเลยค่ะ 30,000 บาท แต่ยังไม่รวมค่าคอม+VAT7% นะค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วจะหักไป สามหมื่นนิดๆ ค่ะ
จากคุณ :
นมปั่นกับมันบด
- [
20 ธ.ค. 51 23:46:11
]
|
|
|