ความคิดเห็นที่ 1 ผมใช้ ATM ธรรมดาเพราะค่าธรรมเนียมรายปีเท่ากัน แต่ความปลอดภัยต่างกันแล้วจะถือบัตรเดบิตไปทำไม จากคุณ : โจรสลัด.. - [ 10 ม.ค. 52 19:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เติมข้อที่ 6 ให้ก็ได้ ว่าเขาพยามบังคับให้ทำเป็นเดบิต และยกเลิกเอทีเอ็มให้หมดสิ้นไป จากคุณ : SummerMan - [ 10 ม.ค. 52 19:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หาแบ๊งค์ทำบัตร ATM  ยากมาก  เคยทำที่กรุงไทย บอกบัตรหมดทุกที  ทั้งที่บัตร เดบิท อันตรายมาก จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร - [ 10 ม.ค. 52 19:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 #1  be1st ของ bbl ซื้อของผ่าน net ได้ครับ แต่ต้อง รอ 7 วันถึงจะได้บัตร แต่ถ้ารับบัตรเลย จะซื้อไม่ได้ครับ #3 เท่าที่รู้ สามารถได้เงินคืนครับ แต่ต้องรอประมาณ 1 เดือน  ซึ่งต้องทำเรื่องครับ รูดกับใครก็ให้เขาทำเรื่องให้ แต่ถ้าซื้อทาง net ผมไม่รู้เหมือนกัน #5 มันเป็นบัตรเดบิตก็เลยต้องตัดเงินเลย มันไม่ใช่บัตรเครดิต ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ส่วนของกสิกร เป็น visual card มันกึ่งๆ บัตรเดบิตกับเครดิต   คือรูดแล้วอีกจะตัดเงินอีก 4-5 วัน   ไม่ได้ตัดเป็นรอบรายเดือน อีกอย่าง visual card ของกสิกรไทย ใช้ได้ตั้งแต่ 0600-2200 ครับ หลังจากนั้นใช้ไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม #6 ผมว่าบัตรเดบิตน่าจะได้เงินจาก visa บางส่วนนะ  ซึ่งเป็นการลดต้นทุนของทางธนาคารเอง เขาก็เลยลดการให้ทำ atm ซึ่ง atm น่าจะเป็นต้นทุนของธนาคารล้วนๆเลย โดยส่วนตัวผม  ผมเบิกหน้าเคาเตอร์ตลอดเลยครับ  กำลังจะไปยกเลิกของ bbl เร็วๆนี้ครับ ผมว่าลองไปเบิกหน้าเคาเตอร์ดูซิครับ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศซะมั๊ง จากคุณ : chapicha - [ 10 ม.ค. 52 20:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1. ก็เขียนไว้แล้วครับ ว่ายกเว้นของกรุงเทพ ต้องสมัคร vbv จึงจะซื้อได้ผ่านเน็ต 3. คืนเงินในที่นี้หมายถึง คืนส่วนแบ่งจากที่ซื้อสินค้า เหมือนบ้ตรเครดิตคืน 0.5-1% 5. ผมเข้าใจว่าของกสิกรใช้ได้ตลอดเวลานะครับ เคยใช้นอกเวลามาแล้ว ปัญหาคือเช็คไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าใช้นอกเวลา เพราะเข้าเว็บไปดูยอดไม่ได้ ความหมายคือ ให้กันยอดไว้ แล้วตัดเงินเมื่อถึงเวลา ลูกค้าก็ยังมีสิทธิ์รับดอกเบี้ยอีกหลายวัน เพราะวันที่ธนาคารจ่ายเงินคือวันที่ร้านค้าส่งรายการเข้ามา ไม่ใช่วันที่ซื้อขาย หากตัด ณ วันซื้อขายเลย ไม่ใช่เดบิตแล้ว เป็นบัตรกินเงินลูกค้าล่วงหน้า ตัด ณ วันที่ร้านค้าทำรายการพอดี เป็นเดบิต พอดีๆ ตัดหลังวันที่ร้านค้าทำรายการไปแล้วนิดหน่อย เป็นกึ่งๆ เครดิต อย่างที่ คห ข้างบนบอกว่าอีเว็บการ์ดเป็นครับ 6. ผมว่าเขาต้องจ่ายให้วีซ่า/มาสเตอร์ ในการได้มาซึ่งหมายเลข  แต่ทุกครั้งที่เรารูด เขาได้ส่วนแบ่งครับ คาดว่าอยู่ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ของยอดที่รูด ผมไม่ได้สนับสนุนให้เปลี่ยนไปใช้วิธีเบิกหน้าเคาเตอร์นะครับ แต่คิดว่าให้เลี่ยงไปใช้บัตรอย่างอื่น และอยากให้ธนาคารปรับปรุงบัตรเดบิตให้มีความเป็นธรรมมากกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 20:33:29 แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 20:29:44 จากคุณ : SummerMan - [ 10 ม.ค. 52 20:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยมากที่สุดครับ จากคุณ : อาตี๋อินเตอร์ - [ 10 ม.ค. 52 20:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อ 6 อะ แบงค์มันจะได้ค่าธรรมเนียมบัตรมากขึ้นกว่าบัตรเอทีเอ็มแบบธรรมดา จากคุณ : By myself - [ 10 ม.ค. 52 20:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระหว่าง atm กับบัตรเดบิต  ผมว่าทางธนาคาร ดีดลูกคิด ดูแล้วล่ะว่า อันไหนทำรายได้เพิ่มมากกว่ากัน จากคุณ : chapicha - [ 10 ม.ค. 52 20:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โหวตดีก่า จากคุณ : กองพันลูกผู้ชาย - [ 10 ม.ค. 52 20:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 5. K-Web Shopping Card ของ Kbank เป็น virtual credit card ไม่ใช่ บัตรเดบิตครับ จากคุณ : นายตึก - [ 10 ม.ค. 52 21:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อ1 ธนาคารอื่นๆ ลอง http://www.mastercard.com/us/personal/en/cardholderservices/securecode/index.html scb https://vbv.scb.co.th/scbenroll/enroll.aspx SCB ผมลองแล้วไม่ได้ อิอิ ไม่รู้จะมีไว้ทำอะไร จากคุณ : KZi - [ 10 ม.ค. 52 21:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ช่วยกันโหวตนะครับ 1. อย่างที่บอกครับ มีแต่กรุงเทพ และ กสิกรที่ใช้ผ่านเน็ตได้ ของไทยพาณิชย์นั้น จากรายงานของแบงค์ชาติเคยมีผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันออกมาแต่ก็ยกเลิกไป คิดว่าคงไม่กำไรเลยเอาออกไป 5. เป็นเครดิตไม่เต็มปากครับ เพราะต้องมีเงินในบัญชีคำ้ไว้ แต่ระบบเก็บเงินเหมือนเครดิต 3/5 วัน นับแต่ร้านค้าทำรายการ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 21:27:58 จากคุณ : SummerMan - [ 10 ม.ค. 52 21:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมคงโชคดีมั๊ง  เคยทำกระเป๋าตังค์หาย  ต้องทำบัตรใหม่ทั้งหมด  เลยเลือกที่จะใช้บัตรเครดิต  เป็นบัตรเอทีเอ็มด้วย  เพราะผูกกับบัญชีเงินเดือนของผม ( ตอนทำไม่ได้คิดอะไรมาก  แค่ไม่อยากพกบัตรหลายใบ)   ค่าบริการรายปี ผมได้รับการยกเว้น  เพราะยอดใช้บัตรสม่ำเสมอ  และมากพอที่ได้รับการยกเว้นอัตโนมัติ  ( เคยโทรไปถามกับทางธนาคารมานะครับ )   ถึงตอนนี้ ผมรู้สึกเลยว่า ดีจังแฮะ  ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม  หรือระหัสผ่าน ที่มีหลาย ๆ ตัว ต่อหนึ่งบัตรให้ยุ่งยาก  แต่คราวนี้คงต้องระวังเรื่องกระเป๋าตังให้มากขึ้นแค่นั้นเองครับ จากคุณ : ckman (ckman) - [ 10 ม.ค. 52 22:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 10 ม.ค. 52 23:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เคยจะจองที่พักโรงแรมของเว็บอะไรจำชื่อไม่ได้ ใช้บัตรเดบิตไม่ได้ครับ เขารับแต่บัตรเครดิต..........งงมากอ่ะ ทั้ง ๆ ที่เป็น วีซ่าเหมือนกัน จากคุณ : neajay2549 - [ 10 ม.ค. 52 23:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โหวตครับ ไม่สมควรอย่างยิ่งในการเก็บค่าธรรมเนียมบัตร ทั้งเดบิต ทั้งเอทีเอ็ม เห็นเอทีเอ็มของซิตี้แบงค์ในไทยยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็มเลยครับ อยู่ในไทยเหมือนกัน ทำไมเค้ายังทำได้ครับ จากคุณ : rantoyouall (rantoyouall) - [ 10 ม.ค. 52 23:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอโหวตครับ เพราะเห็นด้วยเช่นกัน จากคุณ : @power - [ 11 ม.ค. 52 07:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถูกต้องที่สุด ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ผมใช้บัตรเครดิตผูกกับบัญชีออมทรัพย์แทนบัตร ATM จากคุณ : นักมายากลเงา - [ 11 ม.ค. 52 13:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องแบบนี้ แบงค์ชาติควรจะเข้ามาดูแล วันๆผมเห็นเก่งแต่เรื่องกะโหลกกะลา พวกกฏระเบียบ ข้อกฏหมาย ออกระเบียบนั่นนี่ ไม่เคยมาดูว่า แบงก์พาณิชย์มันลูกเล่นหากินกับประชาชนเยอะขนาดไหม จากคุณ : คุณหน่อง - [ 11 ม.ค. 52 14:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทำบัตรเดบิตอยู่ในบัตรเดียวกันกับ ATM นี่อันตรายมากค่ะ เท่าที่เคยมีประสบการณ์ เคยมีคนโขมยบัตร ATM  2 ครั้ง แต่เอาไปใช้ไม่ได้เพราะไม่ทราบรหัส ถ้าเป็นบัตรเดบิตคงลำบาก เพราะอาจจะเอาไปซื้อสินค้าได้ แต่ดูท่าทางแล้วเป็นการกลั่นแกล้งมากกว่า เพราะบางครั้งก็โขมยบัตรเครดิตไปด้วย 3 ใบ แต่ไม่ได้เอาไปรูดอะไร คงกลัวโดนจับได้ หรือไม่ก็เป็นโจรฉลาด รู้ว่าทำไปก็ไม่รอด หรือไม่ก็โขมยเอาไปทิ้ง แบบว่าสะใจโรคจิต จากคุณ : อนิลฑิตาแห่งอำมฤตาลัย (เด็กเกาะสมุย) - [ 11 ม.ค. 52 14:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หลายๆ ข้อผมคิดไม่ถึง แต่ที่คุณพูดมันก็ดันถูกอีก ...โหวตครับ จากคุณ : Pain in the neck - [ 11 ม.ค. 52 18:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถูกค่ะ... วันนี้เพิ่งไปยกเลิกของKBankมาเอง ขี้เกียจจ่ายรายปีอ่ะ ที่บ้านบอกทำเป็นเครดิตไปหมดเรื่อง -"- เสียทั้งรายปี ทั้งค่าทำบัตร กรรมของคนถือ ใช้ก็ใช้ได้ไม่เต็มที่ เต็มที่จริงๆก็แค่กดตังค์เนี่ยแหล่ะ จากคุณ : Renze - [ 11 ม.ค. 52 18:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เคยไปถาม จนท. ของกสิกร เรื่องความปลอดภัยของบัตรเดบิท ถ้าเกิดบัตรเราหาย แล้วมีคนเอาบัตรไปรูดซื้อของมันก็ได้เลยน่ะสิ จนท. ตอบไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง (เรากำลังจะจบปริญาใบที่สามในสาขาเศรษฐศาสตร์ ยังฟังไม่รู้เรื่องเลย) วกไปวนมา สรุปว่ามันอันตรายแน่นอน แต่ก็ไม่มีทางเลือกในเมื่อ 1. เราไม่มีคุณสมบัติที่จะทำบัตรเครดิตได้ เพราะไม่มีเงินเดือนประจำ แม้จะมีรายไดต่อปีมากกว่า 3 แสนบาทก็ตาม 2. เรายังต้องการรูดบัตรซื้อของ ไม่ต้องการพกเงินสดจำนวนมาก สุดท้ายเราก็ทำได้แค่ เหลือเงินไว้ในบัญชีของบัตรเดบิทไม่มากนัก เท่าที่น่าจะต้องใช้เท่านั้น ส่วนเงินส่วนใหญ่ต้องไปเปิดอีกบัญชีนึงโดยไม่มีบัตรอะไรท้งนั้น ให้มันนอนเฉยๆ อยู่อย่างนั้น ก็ยังคงดีกว่าต้องมากังวลว่าถ้าบัตรหายแล้วเงินจะปลอดภัยไหม เคยคิดว่าบัตรเดบิทนี่มันดีจังเลย ทำอะไรได้ตั้งเยอะ พอมาถึงตรงนี้เหมือนต้องใช้ๆ ไป เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ลงตัวกว่านี้ ไม่มีสินค้าอื่นที่สามารถใช้ทดแทนกันได้เลย ผุ้บริโภคอย่างเราก็ได้แต่บ่นต่อไป ใครจะสนกันล่ะ ในเมื่อธนาคารมีแต่ได้กับได้ จากคุณ : meaw-angle - [ 11 ม.ค. 52 19:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ คห 24 ครับ มีทางทำบัตรได้ครับ แม้ว่าไม่ใช่รายได้ประจำ ถ้าไม่ได้จริงๆ ในที่สุด ก็ใช้เงินฝากคำ้ไปก่อนได้ บัตรเสริมก่อนก็ได้ แต่ก็ต้องวนหลายๆ แบงค์หน่อย ผมลองไปหลายที่เหมือนกัน ก็ได้มาธนาคารหนึ่ง เสร็จแล้วก็ออกบัตรเพิ่มมาอีก 2 ใบ จากคุณ : SummerMan - [ 11 ม.ค. 52 19:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องทำบัตรเครดิต   ถ้าไม่มีเงินเดือน  แต่ถ้ามีเงินหมุนเวียน หรือมีเงินฝากหลักแสนขึ้นไปก็ทำได้จ้า จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร - [ 11 ม.ค. 52 20:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดูความเห็นข้างบนๆแล้วเห็นต่าง เอาต่างประเทศมาเป็นเครื่องวัด  อะไรๆๆในเมืองไทยก็ลวงโลกเกิน   กฏหมายเขาเด็ดขาด ไม่มีลดกึ่งหนึ่งเพราะสารภาพ  ภาษีเขาเก็บมากเอามาพัฒนา.... เราอยู่อย่างนี้ก็โชคดีมากแล้ว จากคุณ : กระดาษแผ่นเล็ก - [ 11 ม.ค. 52 21:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ จิ้มไป คคห. ที่ 26 มีเงินฝากหลักแสนที่คุณว่า มันคือ 5 แสนบาทขึ้นไปในบัญชีออมทรัพย์ แถมต้องมียอด 5 แสนขึ้นไปนานกว่า 6 เดือนด้วย ใครจะเอาเงิน 5 แสน (สำหรับเรามันเยอะมากนะ) ไปทิ้งไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ตั้งครึ่งปีล่ะคะ จากคุณ : meaw-angle - [ 11 ม.ค. 52 21:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เกณฑ์ของแต่ละธนาคารไม่เหมือนกันครับ อันนั้นออมทรัพย์ด้วยจึงต้องเยอะ เห็นด้วยว่าไม่มีเหตุผลให้เอาไปทิ้งไปเฉยๆ นักลงทุนที่ดีไม่ทำกัน ถ้าฝากประจำบางที่ให้ 100% เต็มวงที่ฝากได้ แล้วใช้ไปเรื่อยๆ ในที่สุด เราก็ถอดเงินที่ค้ำประกันออกมาได้ ถ้าชำระตรงเวลาเต็มจำนวน ใช้จ่ายสม่ำเสมอ จากคุณ : SummerMan - [ 12 ม.ค. 52 05:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยสุด ๆ ปกติก็ใช้แค่กดเงินจากบัญชีเท่านั้นเอง ไม่เคยใช้บัตรเดบิตไปรูดซื้อของซักกะที ก็ในเมื่อมีบัตรเครดิตแล้วจะเอาบัตรเดบิตไปรูดทำไมล่ะ?? ทำไงได้ล่ะครับ  ประชาชนตาดำ ๆ ก็รับความเสี่ยงไปตามยถากรรม... โหวตโลด!!!!!! จากคุณ : 220volt - [ 12 ม.ค. 52 09:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ถึงกับลวงโลกหรอกครับ แต่เป็นการหากินกับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่สามารถหาบัตรเครดิตได้ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 12 ม.ค. 52 11:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ลวงโลกก็ได้ครับ ลวงไทย   ไปตั้งชื่อธนาคารหรือชื่อพรรคก็ได้ ไทยลวงไทย... ล้อเล่นนะ อย่าคิดมาก :-) จากคุณ : SummerMan - [ 12 ม.ค. 52 12:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมก็เอาเงินไว้ในบัตรเดบิตแค่พันบาท ปรกติก็ไมได้ซื้อไรแพงๆอยู่แล้ว รูดค่าอาหารนิดหน่อยๆ หรือซื้อหนังสือ ทีละร้อยสองร้อย ด้วยเดบิท แบบบางทีขี้เกียจไปเดินหาตู้กดเงินน่ะ แต่ถ้าจะซื้ออะไรแพงๆก็จะเดินเอาบุคไปถอน กับอีกบัญชีที่ไม่มีบัตรใดๆผกไว้ จากคุณ : panumas05 - [ 12 ม.ค. 52 23:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมเปิดบัญชีกับ ธ.กรุงเทพ ก็ขอทำแค่บัตร ATM ครับ (ที่เขาเรียกว่าบัตรบัตรบัวหลวง นั่นล่ะครับ) จ่ายน้อยกว่า 100.- / ปี  แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ ยังทำได้หรือเปล่านะครับ ข้อดี: จ่ายค่ารายปีน้อยกว่า, ปลอดภัยกว่า ข้อเสีย: จำกัดจำนวนถอน 50,000.- / วัน จริง ๆ แล้ว ผมเห็นดีด้วยกับบัตร debit ที่ให้วงเงินถอนต่อวันสูงกว่า และที่สำคัญคือนำไปถอนได้ที่ต่างประเทศ แต่คัดค้านที่ใช้รูดได้เหมือนบัตรเครดิตครับ (^^) จากคุณ : ตี๋น้อยน้อย - [ 18 ม.ค. 52 17:29:06 ]