PANTIP.COM : I7432802 ขอถามเกี่ยวกับ option หน่อยครับ []

ความคิดเห็นที่ 1

มี 3 ทางเลือกครับ
1. long future
ข้อดี ถ้าขี้นจริง ได้กำไรทันที่ ไม่ต้องเสีย premium (ยกเว้นช่วงที่ราคา future สูงกว่า set ) ข้อดีอันที่ 2 คือ สภาพคล่องดี อยากขายก็ขายได้เลย
ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน
ข้อเสีย ถ้าผิดทาง ก็ขาดทุน (ขาดเท่าไร ก็ขึ้นกับว่า cut ตอนไหน)

2. long call
ข้อดี ถ้าผิดทาง ก็ขาดทุนเท่าที่ซื้อ ตย. เข่น ซื้อที่ 20 ก็คือเสียเงินไป 4000 ก็ขาดทุนเท่านั้น ไม่มากไปกว่านั้น อาจได้เงินทอนหน่อยหากผิดทางไม่มาก
ข้อเสีย ถ้าถูกทาง (set ขึ้น) กว่าจะได้กำไรก็ต้องขึ้นเกิน premium เช่น ถ้า ดัชนี อยู่ที่ 300 ซื้อ call300 ที่ราคา 20 หมายความว่า ต้องขึ้นเกิน 320 จึงจะกำไร
ข้อเสียอีกข้อคือ สภาพคล่องต่ำ พอจะขาย บางทีต้องบวกเพิ่ม เพราะหาคนซื้อไม่ได้
3. short put
ข้อดี มีเงินอยู่ในกระเป๋าเป็น buffer เหนาะ ๆ ป้องกันการขาดทุนได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้า ผิดทางมาก ๆ ก็จะมีปัญหาขาดทุนไม่จำกัด (เหมือน long future แล้วผิดทาง)
ข้อเสีย ขาดทุนไม่จำกัด (แต่ก็ได้ส่วนลด) แต่ข้อเสียที่สำคัญคือ สภาพคล่องต่ำ

เอามาเป็นกลยุทธ์
ถ้าขี้เกียจคิดมาก เล่น future ไปเลย ได้ก็ได้ เสียก็เสีย อยากออก (ปิดสถานะ) ก็ออก
ถ้าชอบคิดบ้าง
ไม่มีเวลาเฝ้า ยอมเสียเงินแบบมีลิมิต ก็ซื้อ call แล้วก็เหมือนซัดเงินทิ้ง ไม่ต้องคิดมาก กำไรก็กำไร ขาดทุนก็เท่าที่จ่าย
ถ้ามีเวลาเฝ้า และชอบคิดบ้าง
ก็ short put
ถ้าผิดทางมาก ๆ ก็มอบต้ว (ตั้ง cut loss ไว้) แล้วก็มาดูตัวเองว่าทำไมวิเคราะห์ผิดทาง

ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง
เมื่อกำไรมาก หรือต้องการ cut loss การตั้ง bid offer ของ option มันจะห่าง ทำให้เงินหายไปอีก
วิธีแก้คือ ให้ปิดสถานะอันที่ active แทน เช่น
เรา long C300 ไว้ ดัชนีไปที่ 350 กำไรเละ แต่ไปดู bid ตั้งราคาแล้ว เหลือกำไรนิดเดียว เราก็ short C350 ซึ่งจะมีสภาพคล่องดีกว่า bidoffer แคบกว่าแทน
(ไปอ่านเรือง bear call bull call bear put bull put เพิ่มแล้วกันครับ)

จากคุณ : krit587 - [ 18 ม.ค. 52 20:23:44 ]