ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำหนังสือสำหรับคนที่สนใจจะไปทางสายกลยุทธ์ครับ เล่นนี้ผมได้อ่านดูแล้ว พื้นฐานดีมากสำหรับคนที่อยากจะเป็นนักวางกลยุทธ์ เพราะเน้นพื้นฐานของกลยุทธ์ตั้งแต่เบสิคเลยจริงๆ เพราะพอพูดถึงกลยุทธ์หลายคนมุ่งไปที่พิชัยสงครามเลย ซึ่งทำให้ข้ามพื้นฐานที่สำคัญของหลักกลยุทธ์ ถ้าหลายท่านได้อ่านแล้วอาจนึกภาพตามออกว่า อ๋อ ทำไมโมเดลผมถึงมีแต่แนวแบบนี้ อิอิ    การวางกลยุทธ์ถ้าเป็นนักรบก็จะสนใจแต่พิชัยสงครามเพื่อจะให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างระหว่าง กุนซือ กับ นักรบ  ลองอ่านดูนะครับสนุกดี  แล้วเราก้จะมองออกว่าทำไมกุนซือถึงต่างกับนักรบ ทำไมขงเบ้งถึงพยามผลักดันให้เล่าปี่มีเมืองของตัวเองให้ได้ก่อน  หรือ ซุนวู คำนึงถึงการก่อร้างสร้างอาณาจักร โดยวางเรื่องสงครามเอาไว้เป็นประเด็นรอง อิอิ โปรโมตหนังสือเค้าเฉย  ผมว่าไม่แน่อาจจะมีแปลไทยเนอะ :) จากคุณ : MudleyGroup - [ 26 ม.ค. 52 17:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Happy Chinese New Year ครับ คุณ MudleyGroup ดีใจครับ ที่แวะเข้ามาเยี่ยม จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 18:08:27 A:125.27.166.82 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เช่นกันครับ ขอให้คุณ ดอกไม้มีความสุขมากๆ ไม่ตั้งกระทุ้น้อยใจแบบเมื่อปีที่แล้วนะครับ  :) จากคุณ : MudleyGroup - [ 26 ม.ค. 52 18:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณครับ กำลังพยายามอ่านหนังสือหาความรู้อยู่ครับ ตอนนี้อ่านเบสิคของ options แล้วก็อ่าน Nicholas Darvas อยู่ครับ ยังไม่มีคำถามใหม่ ๆ ที่คิดว่าควรถามเลยครับผม .......................................................................................... บางครั้งผมก็เรียกร้องมิตรภาพมากเกินไปครับ อาจเพราะอายุมากแล้วยังมีแนวคิดแบบเก่า ๆ คุณ MudleyGroup เป็นตัวอย่างที่ดีของการให้โดยไม่มีข้อแม้ครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 18:45:19 A:125.27.166.82 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาสวัสดีพี่Mudley ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้นู๋เริ่มต้น KZM เพื่อสร้างกระแสเงินสดในอนาคตแบบหยั่งยืนค่ะ จากคุณ : daandart - [ 26 ม.ค. 52 19:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาสวัสดีและขอบคุณคุณ Mudley ค่ะ ตอนนี้พอร์ตสร้างกระแสเงินสดให้เรื่อยๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : ppp11111 - [ 26 ม.ค. 52 20:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับ  สำหรับผมเคแซดเอ็มมันเหมือนมาเติมช่องว่างดีเอสเอ็มแบบผมครับ เพราะผมไม่เคยอยู่กับหุ้นตัวไหนต่อเนื่องยาวนานเกิน 1 ปี   ซึ่งผิดแนวดีเอสเอ็มอยู่แล้ว  แต่มาสิงอยู่ที่คลับดีเอสเอ็ม  อิอิ เป็นเล่นรอบ  เก็งกำไรมากกว่า  บังเอิญเข้าตลาดขาขึ้น  เล่นถูกตัว แต่พอเวลาหุ้นขาลงทั้งตลาด  ไม่ว่าตัวไหนก้อทานกระแสไม่ได้ หันไปมองดูมูลค่าพอร์ตแล้วใจมันแป้ว   สองอาทิตย์นี้ได้ทำรายการขายซื้อขายทีเด็กซ์  แค่สองรายการเอง  อิอิ ยังคงต้องฝึกฝนต่อไปครับ .......................................................... มีคำถามนึงครับ  การสะสมคอลออปชั่น  ทีละโซนแบบทีเด็กซ์   ใช้ได้มั้ยครับกับโมเดลนี้ จริงอยู่ที่มันมีเวลาหมดอายุ  แต่ตามแนวทางของหมอเก่งสามารถต่ออายุได้ โดยการปิดตัวลองคอลที่จะหมดอายุในวันสุดท้าย  และเปิดลองคอลใหม่ในซีรี่ย์ใหม่ทดแทนตัวเดิม  (กรณีที่เซทลง) พี่มัดลี่ย์  ว่ามันโอเคมั้ยครับ/ หรือแนวทางไหนที่พี่ใช้อยู่ครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 26 ม.ค. 52 20:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 http://thaispecial.com/bookshop/newbookpreview.asp?booklist=9743145711 พอดีไปเจอภาษาไทยเข้าครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 20:50:27 A:125.27.166.106 X: TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 9  สวัสดีครับพี่มัดฯ 10 ปี  สู้ สู้  ...... จากคุณ : akae - [ 26 ม.ค. 52 21:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คือผมใช้วิธีนำกระแสเงินสดที่ได้มาแบ่งครับ ไปลงใน inverse etf กับ options ถ้า options ได้กำไรบ่อยๆ ผมก็จะเอากำไรนั้นมาเล่นใน Future ครับ ดังนั้นทุกอย่างผมจึง Base มาจาก ETF หมดเลย เพราะทำมาจนลงตัวแล้วว่ากระแสเงินสดที่ได้จาก ETF เนี่ยมันตกอยุ่เฉลี่ยเท่าไร อย่างที่บอกครับเราจะไปเล่นตลาดพวกนี้วิธีไหนก็ได้ ถ้าเราไม่มีอารมณ์ จะเล่นด้วยกราฟ หรือ อะไรก็ได้ ตราบใดที่เราเอากำไรมาเล่นน่ะครับ perfomance เราจะทำได้ดีกว่าเอาทุนมาเล่นแน่นอนอย่างเห็นได้ชัดครับ :) ** Inverse ETF เป็นเครื่องมืออีกตัวหนึ่งในอเมริกาที่นิยมมาก แต่ตอนนี้อาจจะยังไม่รุ้จักแพร่หลาย กล่าวคือ เป็น ETF ที่ให้ผลตรงข้ามกับสินทรัพย์ที่มันอ้างอิงอยุ่นั่นเอง เช่น SET50 ลง 5 จุด  Inverse ETF ก็จะเพิ่มขึ้น 5 จุด อะไรทำนองนี้ ซึ่งสะดวกกว่าการ short sell มาก ดังนั้น ในอนาคตถ้าเราเชี่ยวชาญ ETF  หากบ้านเรามีการนำ Inverse ETF มาใช้เราก็จะต่อยอดกับพอร์ตเราได้ทันทีครับ ** :) ส่วนวิธีการเทรดของผมในตลาดอนุพันธ์ที่คุณจอนฟอนถามนั้น ใช้ใช้วิธี Number Trading ครับ ขีดเส้นแนวนอนขึ้นมาเส้นหนึ่งตามใจ ถ้าราคาหุ้น เกินเส้นนั้น ผม Long แล้วปิดตามใจ ถ้าต่ำกว่าเส้นนั้นผม short ดังนั้นไม่ว่าจะเทรดกี่วัน เส้นผมเปลี่ยนไปตามใจเสมอ จึงยากที่เค้าจะจับทางเราได้ จากคุณ : MudleyGroup - [ 26 ม.ค. 52 21:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตามลิงค์ของคุณพี่ดอกไม้ฯ ไป... http://thaispecial.com/bookshop/newbookpreview.asp?booklist=9743145711 เล่มภาษาไทยชื่อ กุญแจทองสู่สุดยอดกลยุทธ์ครับ ปกแข็งแปลโดย บุญชัย ปัญจรัตนากร : แกรี่ แกเลียดิ พิมพ์ที่ ดิแอสไพเรอร์สกรุ๊ป พิมพ์ปี 2551 195 หน้า น้ำหนัก 640 กรัม ราคา 240 บาท ............... หน้าปกเขียนโปรยตัวเล็กๆ ไว้ด้วยว่า กลยุทธ์ประจำวันสำหรับทุกๆ คน วิธีที่จะ ฟัง --> เล็งเป้า --> เคลื่อนที่ --> อ้างสิทธิ์ .................................. ที่จริงผมซื้อมาอ่านได้หลายวันแล้ว ... แต่ยังอ่านไม่จบ ผมเคยอ่านพิชัยสงครามซุนวูฉบับแปล ของคนแต่งคนเดียวกัน...แล้วก็มึนไปพักใหญ่ๆ อิอิ จากนั้นก็ลืมไปเลย จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 26 ม.ค. 52 21:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีคะพี่Mudley สุขสันต์วันตรุษจีนนะคะ   ป๋าห่านซื้อที่ไหนคะ  กันจะไปซื้อมั่ง จากคุณ : กันดัมจัง - [ 26 ม.ค. 52 21:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่า ดันมีเวอร์ชั่น ภาษาไทยจริงๆด้วย ขอบคุณ ป๋าห่าน มากครับ ไม่น่าไปซื้อเวอร์ชั่น Eng เลย  -*- สวัสดีตรุษจีนครับ คุณ กันดัม จัง ใกล้สอบอีกครั้งหรือยังครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 21:47:05 จากคุณ : MudleyGroup - [ 26 ม.ค. 52 21:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเลยจ้า..... ................... อ่ะ ล้อเล่งงงง... ผมซื้อจากร้านนายอินทร์ครับ... ที่ซี-เอ็ดก็มี ถ้าซื้อตามเน็ต ของร้านหนังสือจุฬาก็น่าจะมีนะครับ หรือชัวร์ ก็ปูทะเล ตามลิงค์คุณพี่ดอกไม้ฯ เลยครับ  (ถูกกว่าที่ผมซื้อตั้ง 10 บาท ด้วย ) จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 26 ม.ค. 52 21:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณพี่มัดเลย์ฯ อ่านภาษาต้นฉบับน่ะดีแล้วครับ...ได้อรรถรสกว่า ผมอ่านภาษาไทย บางทียังงงๆ ... บ่อยครั้งรู้สึกกลัวว่า หลายๆ ประโยค คนแปลจะไม่เข้าใจเนื้อหา แล้วแปลออกมามั่วๆ  อิอิ...(ระแวงไปโน่น..จริงๆ ผมอ่านแล้วอาจจะมึนเอง...เอิ๊กๆๆ..) จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 26 ม.ค. 52 21:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พูดถึงเรื่องสอบแล้วช้ำใจคะ พี่Mudley กันสอบตกคะ งือๆ  ส่วนของ interest theorem ได้เต็ม ส่วนของ option ได้ 1 คะแนน  อยากจะร้องไห้เป็นภาษาปาปัวนิวกินี พี่มัดเลย์พอจะแนะนำหนังสือ option ที่เป็นภาษาไทยให้กันหน่อยได้ไหมคะ เพราะตอนนี้คราวซวยมาเยือนไวมาก คือกันสอบ วิชาหลักในโซน คณิตศาสตร์(มีprobability กับ การสร้าง model) ผ่านหมด เหลือแต่ วิชาโซนธุรกิจนี่เลยคะ ตกรวดตั้งแต่วิชาพื้นฐานเลย จากนี้คือ โซนธุรกิจ การเงินล้วนๆ   ชีวิตตอนนี้ เอ๋อมากๆคะ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 22:06:05 จากคุณ : กันดัมจัง - [ 26 ม.ค. 52 21:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วิธีการคุณ MudleyGroup ฟังแล้วแปลกดีครับ เหมือนกับพอมีความรู้ระดับนึงแล้ว ก็ทำอะไรได้ง่ายไปหมด ........................................................................................... ผมอยากขอถาม เกี่ยวกับ เงินส่วนกำไรที่เอาไป bet ถ้าเรามีเงินกำไร หรือกระแสเงินสด ส่วนนึงที่แบ่งมาได้ ในการเอาไป bet เราจะมีแนวคิดพื้นฐาน money management เงินส่วนนี้ได้อย่างไรบ้างครับ ............................................................................................. ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 22:12:17 A:192.168.0.17 X:125.27.166.106 TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เคยฟังตอนที่คุณ MudleyGroup ตอบหนูกันดัม ครั้งนึง ว่าไม่ค่อยใช้กลยุทธ์ของ options ที่เป็นการจำกัดกำไรมากนัก ผมคิดว่าในส่วนของกำไรที่เอาไปเทรด คงจะสามารถเสี่ยงได้มากขึ้น คราวนี้สงสัยว่าเราใช้หลักการบริหารเงินปกติ หรือว่ามีข้อคิดอะไรที่ต่างกันออกไปไหม สำหรับเงินส่วนนี้ครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 22:24:25 A:192.168.0.17 X:125.27.166.106 TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ครั้งนั้น ได้อ่านที่พี่Mudley เขียน เข้าใจขึ้นมากๆเลยคะพี่ดอกไม้ พี่Mudley บอกว่าใช้ straddle ตัวเดียว พารอด......ตอนแรกไม่เกต ได้ตามอ่าน link ที่พี่ๆ DSM ทิ้งไว้ให้ในกระทู้เอม  ตาสว่างขึ้นเยอะเลยคะ จากคุณ : กันดัมจัง - [ 26 ม.ค. 52 22:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมยังไปไม่ถึงไหนเลยครับหนูกัน เพิ่งได้รู้จักเบสิค 6 อย่าง long call , short call long put, short put covered call, covered put แค่รู้ว่าเค้าทำอะไรกันครับ ที่เอามาผสมกันยังอ่านมะถึงเลย จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 22:38:42 A:192.168.0.17 X:125.27.166.106 TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อยากจะบอกว่า ตอนสอบตกรอบที่ 1 กันยังแยก long และ call ไม่ออกเลยคะ   ลุ้นพี่ดอกไม้อ่านตามมาไวๆ  กันจะได้ถามด้วย แฮ่ๆ จะให้ดี ชวนพี่ดอกไม้ พี่Mudley มาสอบด้วยดีกว่า 55555+ จากคุณ : กันดัมจัง - [ 26 ม.ค. 52 22:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 น้องกันดัมครับ หนังสือภาษาไทย Options พี่เองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เลยได้แต่ยืนเชียร์ตรงนี้แล้วกัน สุ้ๆครับ จะแวะมากดดันถามเป็นระยะ อิอิ แ ต่ส่วนที่น้องสอบผ่านนี่ถือว่าเก่งเลยนะครับ หลายคนไม่ชอบ part นั้นเลย คุณดอกไม้ สำหรับการนำไป Bet เนี่ย เนื่องจากกำไรที่เราแบ่งมาได้แล้ว มันควรจะต้องรับความเสี่ยงได้มากขึ้น และทำในส่วนที่คนปกติไม่กล้าทำหรือตัดสินใจครับ ผมจะไม่ใช้ Money management แล้ว แต่จะใช้ Event Driven แทนกล่าวคือ เช่นสมมุติมีข่าวร้ายมากๆ กลัวสุดๆ เอ...แต่ตลาดมันไม่ลงแฮะ แปลกๆนา ซึ่งถ้าผมถือทุนอยุ่ผมไม่กล้าซื้อชัว มีแต่ข่าวร้ายๆสุดๆ แต่ประเด็นคือตลาดไม่ตอบรับ ผมก็จะลองนำกำไรเนี่ย ไป bet ใน call options ดู ดังนั้นหากตลาดมันดันขึ้นมาจริงๆผลตอบแทนผมจะสูงปรี๊ดแน่นอน เพราะชาวบ้านช่วงนั้นกลัวกันหมด ราคาที่ผมได้เนี่ยมัน discount ความกลัวมาให้ด้วยเพียบ และถึงแม้ถ้าพลาดผมก้ขาดทุนแค่กำไร คราวนี้มาดูแบบที่สองกันแบบ Event Driven ตามกระแส เช่นเกิดกระแสหนักๆอะไรสักอย่างที่คนเพิ่งรับรุ้ เราจะ bet บนเหตุการ์ที่มันแก้ไขได้ยาก ถ้าแก้ไขได้ก็ดี แก้ไขไม่ได้ผลตอบแทนเราจะสูงปรี๊ด เช่น เหตุการณ์ฟองสบุ่อสังหา ฟันของอลันกรัน สเปน ก็ไป bet ราคาบ้านในอเมริกาไว้ กล่าวคือถ้าอเมริกาแก้ไขปัญหาใหญ่ระดับนี้ได้ ก็ดีไปยอมขาดทุนส่วน bet  ถ้าไม่ได้ผลตอบแทนของเค้าก้จะสูง เป้นตัวอย่างครับ ยกมาให้คุณดอกไม้ เห้นไอเดีย ครับผม :)  เพื่อให้เข้าใจเคสสองได้ดีขึ้นผมยกตัวอย่างกรณีลดดอกเบี้ยบ้านเราแล้วกัน ไม่มีทางที่เราจะไม่ลดดอกเบี้ยตาม เนื่องด้วยภาวะกดดันจากปัจจัยต่างๆมากมาย เช่นอเมริกาลดดอกเบี้ยแบบช็อคตลาด ดังนั้นแรงกดดันเหล่านี้ถือเป้น Event ให้เราเข้าไป bet ได้เช่นกัน คุณดอกไม้ก็อาจจะไป bet โดยการซื้อตราสารหนี้ก่อนที่ แบงค์ชาติจะตัดสินใจประกาดอัตราดอกเบี้ยเป็นต้น ถ้าเค้าไม่ลดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเค้าลดเราจะเห้นว่ากองทุนตราสารหนี้พุ่งเพียงช่วงไม่กี่วันเป้นต้นครับ :) จากคุณ : MudleyGroup - [ 26 ม.ค. 52 22:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากครับ คุณ MudleyGroup จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 26 ม.ค. 52 23:03:42 A:192.168.0.17 X:125.27.166.106 TicketID:179642 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณคะพี่ Mudley   แวะมากดดันเป็นระยะๆนะคะ  เผื่อกันไม่เข้าใจจะได้ถามเยย  555555+ จากคุณ : กันดัมจัง - [ 26 ม.ค. 52 23:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณพี่MudleyGroup ที่มาให้ความรู้เรื่อยๆ ครับ การสร้างเมืองหลวงของพี่ เพื่อนผมประทับใจมากๆ เลย คำแนะนำของพี่เป็นประโยชน์กับผมนอกจากเรื่องหุ้นยังเป็นประโยชน์ในหลายๆ เรื่องเลยครับ จากคุณ : อนาคต - [ 27 ม.ค. 52 01:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณพี่MudleyGroup มากๆครับ ได้ความรู้อย่างมากครับ จากคุณ : ยิปซีร่อนเร่ - [ 27 ม.ค. 52 10:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีใจมากที่มีสังคมแบบห้อง DSM อยู่ ... เป็นกระทู้ที่น่าอ่าน และ อบอุ่นจริงๆ ครับ (ตกลงผมพึ่งสั่งซื้อหนังสือทาง online ไปเมื่อกี้เอง ... ฮ่าๆๆๆ) เวลา 10 ปี ไม่นานนะครับ สำหรับการสร้างธุรกิจ ผมถือว่าคุณมัดเลย์ ให้แนวทางการสร้าง ธุรกิจผลิตเงินอย่างที่เราอยากได้ และ สามารถทำได้จริงทุกๆ คน ส่งต่อให้ลูกหลานได้ (พูดเหมือนขายตรงเลยเนอะ ... ฮ่าๆๆๆ) ระดับโซรอส หรือ บัฟเฟต์ เหมือนกับ เราค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แล้วเราอยากยิ่งใหม่เหมือน บิลเกต เจ้าของวอลล์มารต์ หรือ แม้แต่เจ้าสัวซีพี คงมีความเป็นไปได้น้อยมาก ... ด้งนั้น เราขอแค่ส่วนแบ่งตลาดเพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนเข้ามาใช้ในครอบครัว เพิ่มจากการทำงานปกติ ก็เพียงพอแล้ว ขอให้ทุกท่านมีความสุข เนื่องใจวันตรุษจีนนี้ด้วยนะครับ ^_^ จากคุณ : KENG76 - [ 27 ม.ค. 52 10:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คงต้องไปหาหนังสือที่พี่ Mudฯ แนะนำมาอ่านด่วนเลยครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : zylinz - [ 27 ม.ค. 52 13:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณคุณ MudleyGroup มากเลยครับ โดยเฉพาะหนังสือ(ภาษาไทย) อิอิ เริ่มอ่านแล้วยังงงๆ ในหลายจุดเลยครับ :) จากคุณ : คุณกำลังเห่าต้นไม้ผิดต้น - [ 29 ม.ค. 52 09:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แอบตามอ่านเป็นระยะ ๆ ขอคารวะคุณ MudleyGroup ที่เป็นแสงจุดประกายให้เห็นแนวทางครับ ผมคิดว่าจริงๆน่าจะมี พลังเงียบ(ขอเรียกท่านที่กำลังแอบบศึกษาและทำตามอย่างเงียบเช่นผม ว่าพลังเงียบ  นะครับ)อยู่เป็นจำนวนไม่น้อยนะครับ อาจจะไม่ได้ทำตามร้อยเปอร์เซนเพราะแต่ละคนก็ คงมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ต่างออกไป คงจะแอบเข้ามาติดตามคำชี้แนะเรื่อยๆครับ  __/|\__  ขอบคุณครับ จากคุณ : สุดยอดทานคือให้ความรู้เป็นทาน (เหล็กเส้น) - [ 31 ม.ค. 52 17:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นอีกหนึ่งคนที่เข้ามาอ่านกระทู้คุณMudleyGroup เสมอๆและนำเอาแนวคิดต่างๆไปปรับใช้ครับ ^^ รวมทั้ง kzm ด้วย (เป็นพลังเงียบอีกหนึ่งคนครับ :)  ) เพิ่งจะได้ความรู้ใหม่จากในคคห.ที่10 ว่ามีสิ่งที่เรียกว่า Inverse ETF ด้วย อย่างนี้ถ้าเราแบ่งเงินออกเป็นสองส่วนเท่าๆกันแล้วทำ kzm กับ ETF และ Inverse ETF ก็น่าจะดีใช่มั้ยครับ เพราะเมื่อตัวนึงขึ้นอีกตัวนึงก็ลง เราจะได้ขายทำกำไรตัวนึงขณะเดียวกันก็เก็บหุ้นกลับคืนโซนให้กับอีกตัวนึง ผลัดกันไปผลัดกันมา แทบไม่ต้องรอเวลาเลย แถมทั้งสองตัวดูเหมือนจะปกป้องกันและกันได้ด้วย ไม่ทราบว่าคิดแบบนี้ถูกรึเปล่าครับ จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า - [ 31 ม.ค. 52 20:57:57 ]