ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาปาดครับ หุหุ จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 2 ก.พ. 52 08:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาปูเสื่อรอชมค่ะ จากคุณ : กะติ๊ด - [ 2 ก.พ. 52 08:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รออ่านครับ จากคุณ : ekgapoomj - [ 2 ก.พ. 52 08:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ติดตามอ่านด้วยใจระทึก ตึก ๆ ตัก ๆ จากคุณ : @power - [ 2 ก.พ. 52 08:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ๊ะ รูปนี้คล้ายๆ ที่ให้จิกอดชมแล้วค่ะ แต่ที่ให้ชมเน้นวิวหลังก่านี้ เข้ามานั่งทู้พาเที่ยวค่ะ จากคุณ : คุณน้องหนู - [ 2 ก.พ. 52 08:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รออ่านด้วยครับ... ................................................... ขอบคุณครับเฮีย... _/|\_ จากคุณ : helga - [ 2 ก.พ. 52 08:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความจริงอย่างหนึ่งที่ผมเชื่อและพยายามปฏิบัติคือ ถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้ต่ำมากเท่าไร เราก็จะมีพื้นที่ในการบริหารเป้าหมายของเรามากขึ้นเท่านั้น อย่างเช่นผมตั้งเป้าหมายการนัดพบกับกัลยาณมิตรทางโลกย์ ซึ่งขึ้นมาจากชุมพรทุกตรุษจีนไว้ว่า จะมีผู้มาร่วมพบปะ พูดคุยด้วยต่ำสุด ๒ คน   มันเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้เกือบร้อยเปอร์เซนต์ เพราะยังไงผมกับคุณธราธิป  ก็จะมาเจอกันอย่างแน่นอน แล้วในที่สุด  ก็ได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่่าสุด ในวันนั้น  ที่ร้านเอสแอนด์พี สาขาท่ามหาราช  ริมฝั่งเจ้าพระยา มีผู้เดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นไทย มาร่วมพบปะพูดคุยกันแบบเน้นสาระ ๔ คนคือ คุณหมู (ธราธิป)   ว่าที่เซียนกราฟ  ผู้ผ่านการพูดคุยกับกราฟมานานกว่าสามปี จนในที่สุด กราฟกลับเป็นฝ่ายพูดคุยกับคุณหมู ผม (endophine)   มนุษย์หุ้นผู้เดินทางแสวงหาเงิน จากหุ้นหนึ่งขีดและแสวงหาความรื่นรมย์ของชีวิตจากหนังหนึ่งถึงสามขีด คุณเอมเปิ้ล (m_ple) เซียนเศรษฐศาสตร์มหภาค  เจ้าของกระทู้ซับไพร์มไตรภาคสุดฮิตของสินธร http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2008/10/I7123157/I7123157.html http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2008/10/I7157137/I7157137.html http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7410917/I7410917.html คุณกีกี้ (g20001) มนุษย์หุ้นผู้สารภาพว่า อ่อนระโหยโรยแรง กํบการพยายามแสวงหาเงินจากตลาดหุ้น สู้แสวงหาความรื่นรมย์ของชีวิต จากหนังสามขีดไม่ได้ ผมลองแยกคร่าวๆ  ถึงวิธีการลงทุนของแต่ละคน ตามความเห็นของผม ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับความเห็นของเจ้าตัวคือ ๑ คุณหมู "เลือกหุ้น"ด้วยวิธีการแบบ VI   โดยดูการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียน ผ่านกระทู้ต่างๆทางเวบทีวีไอ หลังจากเลือกได้หุ้นแล้ว จะบริหารจัดการ"ราคาหุ้น"   ด้วยการติดตามดูการกระทำของคนในตลาดหุ้น ผ่านอำนาจซื้อของเงิน อำนาจขายของหุ้น   ด้วยกราฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้ตามดูผลประกอบ  ของหุ้นที่ได้เลือกไว้ลงทุน !!!!!!!! ๒ ตัวผมเอง เลือกหุ้นโดยดูการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียนผ่านข่าวจาก http://www.set.or.th/set/todaynews.do?language=th&country=TH เป็นหลัก บางครั้งเลือกหุ้นดีๆ จากเวบ http://www.thaivi.com/webboard/viewforum.php?f=1&sid=1465e5c3c12b5eef0ea7d474a6ee6285 หรือเลือกหุ้นที่คิดว่าดี จากข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ยอมรับว่าผมเลือกหุ้นตามบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์น้อยมาก หรืออาจจะไม่เคยเลยก็ไม่รู้ จำไม่ค่อยได้   ??? หลังจากเลือกได้หุ้นที่คิดว่าดีแล้ว ก็จะพยายามบริหารจัดการ "ราคาหุ้น" ด้วยการ ถือยาวกินเงินปันผล ขายทำกำไร เปลี่ยนหุ้นจากยีลด์ต่ำกว่า  ไปถือหุ้นที่ยีลด์สูงกว่า ขายขาดทุนเมื่อปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ พยายามชอร์ตอะเกนส์พอร์ต หุ้นดีๆ เพื่อเพิ่มหุ้น โดยไม่ต้องเพิ่มเงิน   การบริหารจัดการราคาหุ้น ทำไปตามสามัญสำนึก  และประสบการณ์ที่ผ่านๆมา   ไม่เคยดูกราฟ เพราะดูไม่เป็น ๓ คุณเอมเปิืล ค่อนข้างแปลกใจมากๆ  เมื่อคุณเอมเปิ้ลบอกว่า ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค ไม่สามารถนำมาต่อยอด ใช้บริหารจัดการราคาหุ้นในตลาดได้ เลยเน้นไปที่การดูกราฟ เช่นเดียวกับคุณหมู ถ้าให้เปรียบเทียบ  ผมคิดว่าน่าจะเป็นว่า ถึงคุณเอมเปิ้ลจะเล่นฟุตบอลเก่ง (เศรษฐศาสตร์มหภาค) ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเล่นฟุตซอลเก่งไปด้วย (หุ้น) ๔ คุณกีกี้ เข้าใจว่าเลือกหุ้นด้วยการดูผลประกอบการของคนในบริษัทจดทะเบียน และเลือกบริหารจัดการ ราคาหุ้นด้วย .......?? ข้อมูลที่ได้จากการสนทนา  ไม่สามารถระบุได้ว่า คุณกีกี้บริหารจัดการราคาหุ้น  ด้วยวิธีไหน ??? แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 09:01:45 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 09:00:12 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 08:57:37 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:21:19 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 09:15:37 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 09:11:21 จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 09:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามารออ่านภาคต่อไปคะ ^ ^ จากคุณ : minimuay - [ 2 ก.พ. 52 09:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การสนทนาในวันนั้น   ผู้ร่วมเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้น ต่างพุ่งเป้า  ไปที่การพยายามจะล้วงตับ  วิชากราฟของคุณหมู ล้วงไปล้วงมาถึงจะล้วงไม่ถึงตับ   ผมก็ได้ฟันธงไว้ในใจตั้งแต่วันนั้นว่า พอร์ตคุณหมูในอีกสี่ีปีข้างหน้าจะต้องโตมากๆๆ จะกี่เท่าก็คงตอบไม่ได้ เคยมีคนถามคุณหมูว่า ตั้งเป้าหมายพอร์ตไว้ที่เท่าไร คำตอบแบบอิกคิวซัง นิกายเซนของคุณหมูก็คื่อ "เป้าหมายคือไม่ตั้งเป้าหมาย" โอ้โฮ  ถ้าเป็นแบบนั้น   ก็มีพื้นที่ในการบริหารจัดการกับราคาหุ้น ได้ทุกรูปแบบ ผมขอสรุปว่า คุณหมูจะประสพความสำเร็จจากการลงทุน ด้วยปัจจัย ๓ ประการสำคัญคือ ๑  มีความสามารถในการใช้ความรู้ ที่มีประโยชน์กับพอร์ตหุ้นตัวเอง ๒  มีระเบียบวินัยที่เคร่งครัด ในการใช้เครื่องมือ ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพกับพอร์ตของตัวเอง ๓  มีปัจจัยพื้นฐานสะสมส่วนตัวที่ดีมาก ทั้งสถานะทางการเงิน สถานะทางการงานที่มั่นคง   และที่สำคัญมากๆก็คือ มีชีวิตครอบครัวที่เรียบง่าย   ขยัน ประหยัด และอดออมสูง แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 09:46:07 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 09:42:15 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:24:04 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:13:42 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 09:32:56 จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 09:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามารออ่านยอดวิชาด้วยคนครับ จากคุณ : อภิมหาชาตบุตร - [ 2 ก.พ. 52 09:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จัดเก้าอี้นั่งอ่านลุ้นหาวิชาและกราฟครับ จากคุณ : d.hunt - [ 2 ก.พ. 52 10:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ   จากคุณ : Jazz Lilt - [ 2 ก.พ. 52 10:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 2 ก.พ. 52 10:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอลงรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ ๑  มีความสามารถในการใช้ความรู้ ที่มีประโยชน์กับพอร์ตหุ้นตัวเอง มีข้อสังเกตว่า  นักลงทุนส่วนใหญ่ มักจะได้ความรู้ที่ไม่มีประโยชน์กับพอร์ตหุ้นของตัวเอง แบบความรู้ ข้อมูลข่าวสารท่วมหัว เอาตัวไม่รอด เท่าที่ผมจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คุณหมูเริ่มศึกษากราฟจากหนังสือ "มหัศจรรย์แห่งเท็คนิค" หลังจากไม่ประสพความสำเร็จ จากการลงทุนตามแนวทางหนังสือ"ตีแตก" เรียกว่าความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเอง คงไม่คอนเวอร์เจ๊งกับความรู้แนววีไอพันธ์แท้ หลังจากอ่านหนังสือมหัศจรรย์แห่งเท็คนิค ก็ดูกราฟอีไฟแนนซ์จากจอคอม   และพรินท์กราฟออกมานั่งอ่านนอนอ่าน นับร้อยๆแผ่น จนก็ได้เครื่องมือกราฟ "ที่เข้ากับพอร์ตของตัวเอง" ในที่สุด ประมาณว่า  ต้องยอมเหนื่อยนั่งคุย(เพ่งดู)กราฟมาเกือบสามสี่ปี จนในที่สุด  กราฟก็ยอมคุยด้วย การที่รู้กราฟ โดยไม่เคยไปฝึกเรียนกับสำนักสอนกราฟไหนเลย อาจจะเป็นเหตุที่ ทำให้ชอบ อาฮุย เพื่อนซี้ของฤทธิ์มีดสั้นลี้คิมฮวง ผู้ฝึกปรือกระบีจากธรรมชาติรอบตัว เครื่่องมือการบริหารจัดการ "ราคาหุ้น" ที่ผมจำได้แบบงูๆปลาๆคือ คุณหมูดู EMA ? จากกราฟที่ให้บริการโดย http://www.efinancethai.com/index.aspx จากนั้นจะทำการคัดกรองหุ้น ด้วยการใช้ตัวชี้วัด (indicator) ๔ ตัว ผมจำได้แค่สองคือ stocastic  และ macd โดยมี macd เป็นตัวคัดกรองด่านสุดท้าย ตัวชี้วัดอีกสองตัว ผมลืมไปแล้ว  แต่ไม่ใช่อีเลียทเวฟ ไฟโบแนคชี่และบอลลิงเกอร์แบนด์ จากการทดสอบ ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ทำให้คุณหมูมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าตัวชี้วัด ระยะยาวยังดี ระยะสั้นแย่   ให้ถือต่อ ซื้อเพิ่มหรือชอร์ตอะเกนส์พอร์ต เพิ่มหุ้นไม่เพิ่มเงินได้ ตัวชี้วัด ระยะยาวไม่ดีระยะสั้นดี   ต้องเตรียมขาย เช่นเคยส่งซิกบอกเพื่อนสมาชิกที่คุ้นเคยกันทางหลังไมค์ว่า ให้ขายปูนใหญ่ที่ ๒๐๔   เพราะดูแล้วตัวชี้วัดระยะยาวไม่ดี ถึงแม้ระยะสั้นจะดี คือมีการดีดกลับจาก ๒๐๔ ขึ้นไปที่ ๒๐๘ ก็ตาม ถ้าผมจำคำสนทนาในวันนั้นไม่ผิด ตัวชี้วัดค่ารายสัปดาห์ดี  รายวันไม่ดี ให้ยึดรายสัปดาห์เป็นหลัก และถ้าตัวชี้วัดค่ารายเดือนดี  รายสัปดาห์ไม่ดี ให้ยึดรายเดือนเป็นหลัก ผมสรุปเอาเองตามใจชอบว่า "ยังไงยาวก็ดีกว่าสั้น"     ในวงสนทนาวันนั้น คุณหมูยังได้ตอบปริศนาคาใจผมมานานแล้วว่า ดูกราฟ  ทำให้ถือหุ้นได้นานเป็นปีๆเลยหรือ  ??? ยอมรับว่า  ผมไม่เคยเชื่อมาก่อน เพราะคิดว่า คนที่ถือหุ้นได้นานเป็นปีๆ น่าจะเป็นวีไอพันธ์แท้ คำตอบที่ได้ในวันนั้นคือ   ค่าชี้วัดสี่สัปดาห์พอรวมเป็นค่าชี้วัดหนึ่งเดือน ถ้าค่าหนึ่งเดือนยังดี ก็ให้ถือค่าหนึ่งเดือนเป็นหลัก ค่าสิบสองเดือนรวมเป็นค่าหนึ่งปี ถ้าค่าหนึ่งปียังดี  ก็ให้ถือค่าหนึ่งปีเป็นหลัก น่าจะเป็นเพราะหลักการนี้   จึงทำให้สามารถเก็บปตท.สผไว้ จนราคามันขึ้นไปสองสามเท่าตัวจากที่ราคาที่ซื้อไว้ โดยมีการชอร์ตขายระหว่างทาง เพราะดูแล้ว ค่ารายเดือน  ค่ารายปีในตอนนั้นยังดีอยู่ ผิดกับเมื่อสี่ห้าเดือนก่อน ค่าระยะยาวไม่ดี แต่ค่ารายสั้นดี ต้องเลือกขายทำกำไร แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 12:18:10 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:37:21 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:27:39 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 10:20:07 จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 10:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : แมวเหนือ - [ 2 ก.พ. 52 10:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ(ถ้าไม่รบกวนเกินไปอยากฟังพี่ธราธิป,พี่m_pleและพี่g2001มาร่วมเล่าด้วยใครเห็นด้วยชูแขนโชว์จั๊กกะแร้ด้วยครับ) ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : d.hunt - [ 2 ก.พ. 52 10:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ จะพยายามไปคุยกับกราฟดูสักครั้ง จากคุณ : สมชาย บางพลี - [ 2 ก.พ. 52 10:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขาดผมได้ไง ผมเป็นแฟนคลับนะ ขอเกาะไปด้วยคนครับ จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 2 ก.พ. 52 11:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พี่ d.hunt  ขา หนุ่มๆ เจอกันเค้าเป็นสาระ สาวๆ เจอกันไร้สาระมากค่ะ แต่สนุกดี จากคุณ : คุณน้องหนู - [ 2 ก.พ. 52 11:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยังคุยกับกราฟไม่รู้เรื่อง บางครั้งดูเหมือนรู้ แต่เอาเข้าจริงไม่รู้เรื่องกันเลย จะพยามยามหัดให้รู้ งูๆปลาๆก็ยังดี จากคุณ : saimai77 - [ 2 ก.พ. 52 11:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีครับ เฮียเอ็นโดและทุกท่านครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 11:24:11 จากคุณ : ธราธิป - [ 2 ก.พ. 52 11:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... ขอบคุณเฮียครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 2 ก.พ. 52 11:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พอดีเพื่อนแวะมาคุยด้วย เลยขาดตอนไปหน่อย   ต่อข้อสอง ๒  มีระเบียบวินัยที่เคร่งครัด ในการใช้เครื่องมือ ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพกับพอร์ตของตัวเอง ข้อนี้ผมคิดว่าสำคัญกว่าข้อแรก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะ "รู้ดีแต่ทำไม่ได้" คำถามน่าคิดมากๆ   ที่คุณเอมเปิ้ลได้ถามคุณหมูในวันนั้นก็คือ กราฟที่พี่พูดมา  ก็เป็นเครื่องมือทางเท็คนิคที่ทุกคนรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือชนิดไหน คำตอบของคุณหมู แสดงให้เห็นว่า   มันขึ้นอยู่กับระเบียบวินัยอันเคร่งครัดในการใช้เครื่องมือของเราเอง ลองไล่เป็นข้อๆ   วินัยอันเคร่งครัดในการใช้เครื่องมือการลงทุนของคุณหมูก็คือ ๑ ถ้าตัวชี้วัดไม่ชี้ไปในทางเดียวกันมากถึงสามในสี่ตัว จะไม่ลงมือซื้อหรือขายหุ้นตัวนั้น คุณหมูได้ให้ข้อคิดที่นักดูกราฟที่มีวินัย  ยึดปฏิบ้ติกันทุกคนคือ หุ้นราคาถูก จะซื้อไปทำไม   ถ้ายังมีราคาถูกกว่านั้นอีก และ หุ้นราคาแพง  ทำไมจะไม่ซื้อ   ถ้ามันยังจะมีราคาแพงไปกว่านั้นอีก ผิดกับผม ที่คิดว่า หุ้นราคาถูกต้องซื้อ   ถ้ายีลด์มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ ตามราคาหุ้นที่ลดลง   ๒  ซื้อหุ้นด้วยเงินสดที่ไม่กระเทือนกับชีวิตประจำวัน ๓ ต้องเสมอต้นเสมอปลายกับการใช้เครื่องมือและจะไม่ใช้เครื่องมือกราฟที่ตัวเองถนัด  ไปซื้อขายหุ้นสามขีดโดยเด็ดขาด   ส่วนหุ้นสองขีดไม่แน่ใจว่าใช้หรือเปล่า ??? http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7466208/I7466208.html สำหรับความเสมอต้นเสมอปลายในการใช้เครื่องมือ ก็คงจะหมายความว่า เวลาซื้อขายพันหุ้น   ก็ต้องสามารถใช้เครื่องมือได้ดีและนิ่งเท่ากับเวลาซื้อขายล้านหุุ้น นักลงทุนจำนวนมาก  จะไม่รู้สึกกดดันและใช้เครื่องมือได้ดีมากๆ เมื่อเป็นการซื้อขายหุ้นจำนวนน้อยๆ   แต่จะลังเลและตัดสินใจไม่ค่อยได้   ถ้าเป็นการซื้อขายจำนวนมากๆ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 12:21:07 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 11:41:25 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 11:41:22 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 11:36:38 จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 11:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 16   ขอบคุณครับ(ถ้าไม่รบกวนเกินไปอยากฟังพี่ธราธิป,พี่m_pleและพี่g2001มาร่วมเล่าด้วยใครเห็นด้วยชูแขนโชว์จั๊กกะแร้ด้วยครับ) ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : d.hunt   - [ 2 ก.พ. 52 10:44:52 ]   เห็นด้วยครับ ชูแย้วคราบ จากคุณ : แขนข้างเดิม - [ 2 ก.พ. 52 11:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๓  มีปัจจัยพื้นฐานสะสมส่วนตัวที่ดีมาก ทั้งสถานะทางการเงิน สถานะทางการงานที่มั่นคง   และที่สำคัญคือมีชีวิตครอบครัวที่เรียบง่าย   ขยัน ประหยัด และอดออมสูง เวลาไม่มีแรงกดดันจากชีวิตนอกตลาดหุ้น เรามักจะตัดสินใจได้ง่ายและเด็ดขาดกว่าตอนมีแรงกดดัน คุณเอมเปิ้ลยอมรับว่า  เงินออมทั้งหมด  ได้ลงทุนในหุ้น นั้นก็หมายความว่า  ถ้าลงทุนในหุ้นพลาด มีโอกาสที่เงินออมทั้งหมดจะสูญหายไป ดังนั้น  มันก็อาจจะมีส่วนทำให้การตัดสินใจที่ควรจะเป็น พลอยผิดพลาดไปด้วย สมมติเช่น   ถ้าเราอยากถือหุ้นต่อ แต่สถานการณ์ทางการเงินมันบีบ เราก็อาจจะต้องขายหุ้นทิ้ง  ทั้งๆที่ไม่อยากขาย ในขณะที่อีกคน  สถานการณ์ทางการเงินดีมาก พอร์ตหุ้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเงินลงทุน ถ้่าเสียหายก็ยังรับได้สบายมาก เลยสามารถถือยาว  จนกำไรได้หลายๆเท่าตัว ชีวิตของคุณหมู  ไม่ได้รับผลกระเทือนจากการขาดทุนของพอร์ต เรียกว่าเจ๊งจนหมดก็ยังอยู่ได้สบาย จึงมีส่วนเสริมสร้างให้การใช้เครื่องมือลงทุน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลองสำรวจปัจจัยพื้นฐานสะสมของเราเองดู ว่ามันมีส่วนในการทำให้ตัดสินใจผิดพลาดหรือถูกต้องเพียงใด แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 09:45:10 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 12:33:19 จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 11:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยครับ คุณหมู  คุณเอมเปิ้ล  คุณกีกี้  น่าจะมาช่วยเสริมความเห็นส่วนตัว ที่ผมบันทึกไว้  อาจจะตกหล่นไป อย่างเช่นคุณหมู ถ้าไม่เป็นการล้วงตับมากเกินไป น่าจะเฉลยได้ว่า ตัวชี้วัดทั้งสี่ตัว   มีอะไรบ้าง ความจริงกะว่าจะเขียนอะไรเยอะแยะไปหมด เอาเข้าจริงๆ  สมองมันตื๊อคิดไม่ออก ข้อจบด้วยข้อคิดนี้ก็แล้วกัน "คุณยังเป็นนักลงทุนที่ดีไม่ได้หรอก ถ้ายังรู้สึกว่าขาดใครไปซักคนแล้ว  คุณจะซื้อขายหุ้นไม่ได้" แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 12:00:20 จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 11:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้ทั่นเอ็นโด ...ซู๊ดยอดดด จากคุณ : ทั้งโหวตทั้งแจก (แท็กซี่นิรนาม) - [ 2 ก.พ. 52 12:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านและออกความเห็นครับ จากคุณ : endophine - [ 2 ก.พ. 52 12:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณเฮียค่ะ เด๋วดึกๆมาอ่านใหม่อย่างละเอียดค่ะ อ่านคร่าวๆจับความได้ว่า อาจารย์พี่หมู ซู๊ดดดดดดดดดดดดดด ยอดดดดดดดดดดดด ขอคารวะ 3 จอกค่ะ ดึกๆ ค่อยมาแจกกิฟนะคะ ตอนนี้ค่อนข้างยุ่งค่ะ จากคุณ : sea angel - [ 2 ก.พ. 52 12:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รบกวนทุกท่านช่วยโหวตด้วยครับ โหวตสำคัญกว่า กิฟครับ คนจะได้อ่านอย่างทั่วถึงครับ _/|\_ การให้ึความรู้ผู้อื่นก็เป็นบุญอย่างนึงครับ ==' จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 2 ก.พ. 52 12:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาอ่านค่ะ ขอบคุณพี่เอนโด ที่นำสาระดีๆมาแบ่งปันค่ะ     จากคุณ : Kading - [ 2 ก.พ. 52 12:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เฮียครับ สงสัยต้องใช้ตัวช่วย เครื่องพลิกหุ้น แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 13:34:10 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 13:01:10 จากคุณ : GABLIEL - [ 2 ก.พ. 52 13:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตครับ... จากคุณ : ifool57 - [ 2 ก.พ. 52 13:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าพี่คลายเครียด กะ พี่ธราธิปนี่เป็นคนเข้าใจtechnical ดีที่สุดแล้วครับ Heart Of Technical TimeFrame & Consistency จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 2 ก.พ. 52 13:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สนับสนุนข้อนี้ครับ ... ถือว่าเป็นหลักกลับตัวของผมก็แล้วกันครับ ของท่านอื่นๆ อาจจะพิจารณาต่างออกไป 1. คุณยังเป็นนักลงทุนที่ดีไม่ได้หรอก ถ้ายังรู้สึกว่าขาดใครไปซักคนแล้ว  คุณจะซื้อขายหุ้นไม่ได้ ข้อนี้ผมว่าสำคัญจริงๆ ... หากเราต้องไปนั่งข้างๆคนๆหนึ่ง ไปนั่งในฝูงชน เปิดเวบบอร์ดเพื่อรอคนมาบอกให้ซื้อขาย .... เจ๊งครับ ฟันธง การสนทนาในห้องค้า ในเวบบอร์ด มันก็เหมือนสังคมหนึ่ง สนทนาได้ทุกอย่าง เรื่องหุ้นเป็นเรื่องรอง เรื่องวิชาหุ้นก็เป็นรองลงไปอีก แค่คุยๆ กันเฮๆ ฮาๆ เท่านั้น ทายผิดถูกถือเป็นเรื่องรองๆ ... การซื้อขายหุ้น ต้องมาจากตัวเองเท่านั้น 2. มีปัจจัยพื้นฐานสะสมส่วนตัวที่ดีมาก เงินลงทุนในหุ้น ต้องไม่ทำให้เครียด และต้องถือว่าเป็น ทุนจริงๆ ใช้ทุนนั้นสร้างรายได้ หากสองอย่างนี้ผ่าน ทีเหลือ ก็แล้วแต่วาสนาว่าใครจะหา "ทาง" เจอก่อนกันน่ะครับ จากคุณ : KENG76 - [ 2 ก.พ. 52 13:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากค่ะ ยกมือโหวตเลย :) จากคุณ : 007-s - [ 2 ก.พ. 52 14:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาตอกบัตรครับ วันนี้งานยุ่งมาก (คาดว่ายุ่งจนถึงพรุ่งนี้เช้า T-T ) สัญญาครับ ว่าจะมาเล่าให้ฟัง ว่าวันนั้นคุยไปได้อะไรมาบ้าง อะไรที่หาไม่ได้จากหนังสือเล่มใดๆ โปรดอย่ารอคอย แต่จงติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน :) จากคุณ : m_ple - [ 2 ก.พ. 52 14:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือกันโหวตครับ คนใหม่ๆจะได้มีความรู้ไว้ใช้เล่นหุ้นครับ จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 2 ก.พ. 52 14:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามานั่งอ่านด้วยคนค่ะ   ^ ^ จากคุณ : spaceship - [ 2 ก.พ. 52 15:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กราบขอบพระคุณเฮียเอ็นโด และ ทุกท่านครับ เฮียเอ็นโดจับประเด็นมาแจกแจงได้ละเอียดยิบแล้วครับ คงไม่มีอะไรเสริมอีกแล้ว.. ถ้าหากจะมีอะไร ใคร่ขอแสดงความเห็นเดียวครับ.. เทคนิคคัล... ส่วนตัวแล้ว ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้เลย จึงใช้วิธีรอครับ....รอจนกว่าเครื่องมือ ส่งสัญญานแล้วเท่านั้น ถึงจะลงมืออย่างใดอย่างหนึ่ง การลงทุนของแต่ละท่าน ใช้ระยะเวลาสั้นยาวไม่เท่ากัน การอ่านเทตนิคคัล ย่อมจะไม่เหมือนกันด้วยครับ ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่อาจใช้กฎใดกฏหนึ่งตายตัวครับ ควรต้องพลิกแพลงได้ตามสถานะการณ์ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : ธราธิป - [ 2 ก.พ. 52 15:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 " คุณยังเป็นนักลงทุนที่ดีไม่ได้หรอก ถ้ายังรู้สึกว่าขาดใครไปซักคนแล้ว  คุณจะซื้อขายหุ้นไม่ได้ " เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า " คุณยังไม่เหมาะกับตลาดหลักทรัพย์หรอก ถ้ายังรู้สึกว่าขาดใครไปซักคนแล้ว  คุณจะซื้อขายหุ้นไม่ได้ " จากคุณ : อันปังแมน - [ 2 ก.พ. 52 15:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ๓ มีปัจจัยพื้นฐานสะสมส่วนตัวที่ดีมาก เวลาไม่มีแรงกดดันจากชีวิตนอกตลาดหุ้น เรามักจะตัดสินใจได้ง่ายและเด็ดขาดกว่าตอนมีแรงกดดัน คุณเอมเปิ้ลยอมรับว่า  เงินออมทั้งหมด  ได้ลงทุนในหุ้น นั้นก็หมายความว่า  ถ้าลงทุนในหุ้นพลาด มีโอกาสที่เงินออมทั้งหมดจะสูญหายไป ดังนั้น  มันก็อาจจะมีส่วนทำให้การตัดสินใจที่ควรจะเป็น พลอยผิดพลาดไปด้วย ข้อนี้เห็นด้วยเป็นอย่างมากครับ ยังเคยคิดเลยว่าถ้าเราเป็นคนซื้อขายหุ้นของกองทุน เราคงจะตัดสินใจดีกว่าที่ซื้อหุ้นให้ตัวเอง อย่างไรก็โหวตครับ จากคุณ : สมชาย บางพลี - [ 2 ก.พ. 52 15:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอถามพี่หมู ธราธิปครับว่า.. Indicator ทั้ง 4 ตัวที่พี่ใช้นั้น พี่กำหนดขึ้นมาตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่าครับ ว่าจะใช้แค่ 4 ตัวนี้ จนกระทั่งจับหลักการใช้งานได้โดยไม่เปลี่ยนไปลองใช้ตัวอื่นเลย หรือ... พี่ใช้ Indicator หลายๆ อย่างแบบลองผิดลองถูกมาจนลงเอยที่ Indicator 4 ตัวนี้ครับ ขอบคุณพี่เอ็นโดฯ และพี่ๆ ทุกท่านที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ จากคุณ : zylinz - [ 2 ก.พ. 52 18:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณค่ะเฮียเอ็นโดฯ หุ้น..ทำให้หัวใจอ่อนล้า และเดียวดาย... ลุ้น..จนเพลีย หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้... ตื่นขึ้นมา...ไม่รู้วันนี้คือเวลาไหน... อ้าว...นึกว่าฝันไป  เช้านี้ซื้อพี่เทพ 99 บาท 2000 หุ้น... ขาย...สุ่มปิด..97 บาท ดีใจทีกระชากหัวใจกับ.. การ..นอนหลับสักงีบ ที่แสนแพง... ชีวิตช่างอ้างว้างและเดียวดาย เมื่อนึกถึงทางข้างหน้า...ที่มีแต่หมอก ตลาดระดมทุนแห่งนี้ มา..จากคนหลากอารมณ์ สุข ทุกข์ ได้มาเพียงแค่ข้ามวัน  แล้วก็กระจายเป็นทุนของตลาด..ไป รู้..แต่ห้ามไม่ได้ จึงต้องเวียนว่ายอยู่กับวังวล.. จากคุณ : สุเกียง - [ 2 ก.พ. 52 19:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สุดยอดแห่งความรู้ คือประสบการณ์ที่ฝ่าฟัน ขอคารวะทั้ง 4 ท่านครับ โหวตด้วยกิีฟด้วย ให้หมดเลยจ้า... จากคุณ : @power - [ 2 ก.พ. 52 20:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณที่มีกระทู้ดีๆ จากคุณคลายเครียดด้วย รอฟังคำตอบจากคุณธราธิป และรอฟังคนอื่นๆ จากคุณ : Dal ja - [ 2 ก.พ. 52 21:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทั้งโหวตทั้ง Give ครับ จากคุณ : Wish You Were Here - [ 2 ก.พ. 52 21:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณครับ ชอบภาพประกอบ (เปียโนหุ้น) จากคุณ : wealthyman - [ 2 ก.พ. 52 21:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สุดยอดค่ะ จากคุณ : ดอกไม้บานในดวงใจ - [ 2 ก.พ. 52 21:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ค่อยเหมือนกระทู้ดีๆของชาวสินธรหน่อย เบื่อกระทู้ใส่ความเห็นทางการเมืองที่ลำเอียงมากๆ จากคุณ : ข้าวกระเพรา - [ 2 ก.พ. 52 22:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณครับ จากคุณ : ชายชุดดำ (ID_Number_070) - [ 2 ก.พ. 52 23:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โหวต พร้อมกับคารวะด้วย Give ครับผม ถ้าเข้านอน โดยไม่แวะห้องนี้จะพลาดมหันต์ ขอบคุณครับผม จากคุณ : พลังขับเคลื่อน - [ 2 ก.พ. 52 23:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณครับ ทั้ง 4 ท่าน โดยเฉพาะ ท่าน เอ็นโดฯ  ทำให้ผมมองเห็นรางๆสำหรับสิ่งที่มองหามานานเพื่อเติมในสิ่งที่คิดว่าขาดไป  ต่อไปอยู่ที่การนำไปใช้แล้วละครับว่าจะได้ผลดีหรือไม่  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนก็จริงแต่การได้รับการชี้แนะจากครู บา อาจารย์  ผู้รู้จริงก็ทำให้ก้าวหน้าได้เร็วขึ้น จากคุณ : ผ่านไหม - [ 3 ก.พ. 52 05:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.TextBooK - [ 3 ก.พ. 52 08:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตามมาอ่านค่ะ ยังเขียนอะไรเข้าใจง่ายเหมือนเดิม แต่เข้าใจง่ายกะปฏิบัติง่ายมันก็คนละอย่างกันน้า อยู่ที่นิสัยอันถาวรของแต่ละคน ต้องเลิกเห็นหุ้นขึ้นแล้วตาโต้ เอามั่งดิ ม่ายด้ายน้าจำไว้ จากคุณ : อาม่าแฟนพันธ์แท้ค่ะ (กุหลาบจามูร์) - [ 3 ก.พ. 52 08:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มาช้าดีกว่าไม่มา ขอบคุณครับเฮียเคลี่ อ่านแล้วนึกถึง2สหาย เคลี่ปวยตอ สนทนากับ อาฮู(เหมี)ย สวัสดีครับอาม่า สบายดีนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 09:37:53 จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 3 ก.พ. 52 09:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 57 VOTE & GIVE สาระดีๆอีกแล้วครับท่าน.... ถ้าแรงกดดันจากภายนอกมาก โอกาสตัดสินใจผิดพลาดก็มากตามจริงๆ ถ้าใจไม่นิ่งพอ จากคุณ : KOKISME - [ 3 ก.พ. 52 09:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับ ขออุนณาติตอบ คห. 43 นะครับ.. อินดี้พื้นฐาน 4 ตัว ที่ใช้ คือตัวธรรมดาทั่วไปครับ fsto ssto rsi macd คำถาม ถามว่า.. Indicator ทั้ง 4 ตัวที่พี่ใช้นั้น พี่กำหนดขึ้นมาตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่าครับ ว่าจะใช้แค่ 4 ตัวนี้ จนกระทั่งจับหลักการใช้งานได้โดยไม่เปลี่ยนไปลองใช้ตัวอื่นเลย หรือ... พี่ใช้ Indicator หลายๆ อย่างแบบลองผิดลองถูกมาจนลงเอยที่ Indicator 4 ตัวนี้ครับ ครับ..... เรียนตอบครับ... แรกเริ่มกร๊าฟที่ใช้ ผมใช้กร๊าฟยาฮู เวอร์ชั่นเก่าครับ ซึ่งก็คือ อินดี้ 4 ตัวนี้ครับ ไม่ได้ใช้หลายๆตัวแบบลองผิดลองถูก จดจำเพียงเท่านี้ และ เมื่อเปลี่ยนมาใช้ eFIN ก็ยังคงใช้ 4 ตัวนี้ครับ.. เพียงเพิ่มอีกบางตัว ตามคำชี้แนะของอีกหลายท่านครับ จากคุณ : ธราธิป - [ 3 ก.พ. 52 11:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณทุกๆท่าน  ที่เข้ามาอ่านและออกความเห็นอีกครั้งครับ ถ้าคุณเอมเปิ้ลจะออกความเห็นเพิ่มเติม อยากจะให้ช่วยทำเป็นแตกประเด็นไปอีกกระทู้ครับ มานึกดูแล้ว  ยังมีอีกสองสามเรื่องที่เราพูดกันในวันนั้น ซึ่งผมคิดว่า  จะมีประโยชน์สำหรับนักลงทุน ในแง่มุมมองของการลงทุนหุ้นในเชิงคุณภาพ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 11:12:23 จากคุณ : endophine - [ 3 ก.พ. 52 11:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โหวต ค่ะ จากคุณ : Cybil - [ 3 ก.พ. 52 19:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้าไปอ่านลิ้งค์นี้ของเฮียเอ็นโดฯ แล้ว ยอมรับและนับถือจากใจจริงค่ะ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7487065/I7487065.html#21 "ปีนขึ้นเหนื่อยกาย  ปีนลงเหนื่อยใจ" คำตอบก็คือ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานทางร่างกายและจิตใจของแต่ละคน นั่นไง  ปัจจัยพื้นฐานสะสมของแต่คนมีไม่เท่ากัน แล้วผลลัพธ์จากการลงทุน เอ๊ยจากปีนลงพระปรางค์ จะเหมือนกันได้ไง เนื่องจากเมื่อสิบห้าปีก่อน ผมเคยเจ๊งหุ้น เอ๊ยเคยปีนพระปรางค์มาแล้วสองครั้ง ถึงจะกลัวความสูงจนแทบปัสสาวะราดเหมือนกัน ก็สามารถบอกเคล็ดลับการคัทลอส  เอ๊ยการปีนลงพระปรางค์วัดอรุณได้ว่า เอามือทั้งสองข้างจับราวบันไดข้างใดข้างหนึ่งให้แน่นๆ ยืนหันข้างเข้าหาราวบันได แล้วให้เพ่งมองแต่ขั้นบันไดที่เราจะลงเท่านั้น   "อย่าลองลงไปยังราคาหุ้น  เอ๊ยพื้นฐานที่เราปีนขึ้นมา" เพราะถ้ามองลงไปเห็น  อาจจะใจเสียไม่กล้าคัทลอส เออนะ  แม้แต่การปีนขึ้นปีนลงพระปรางค์วัดอรุณ ก็ต่อยอดมาเป็นการฝึกคัทลอสหุ้นได้เหมือนกันนะ คืออย่ามองลงไปจุดที่เราปีนขึ้นมาชมดอย ให้มองเฉพาะแต่ราคาที่มันลอยอยู่ตรงหน้า (*** เฮียเอ็นโดฯ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความให้อ่าน ๆแล้วทั้งเข้าใจและทำให้ตาสว่างขึ้นมาทันที ได้สัจจธรรมที่ลึกซึ้งจากการได้อ่านทุกๆบทความที่เฮียถ่ายทอดให้ ****) ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : สุเกียง - [ 3 ก.พ. 52 22:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 62 จากใจจริงอย่าถามคำถามหนึ่ง แต่ไม่ถามเพราะว่า เดี๋ยวคนอื่นๆมองว่า คำถามนั้นแรงไป ไว้ผมเจอพวกพี่ทั้งสี่เหมือนไร ขอถามคำถามนี้ล่ะกันครับ เกี่ยวกับใจ เพราะใจถ้าไม่สู้ มันก็เท่ากับตัดสินแล้วว่าแพ้ทั้งแต่ไม่รบ สุดท้ายขอขอบคุณพี่ๆทั้งสี่ด้วยครับ ที่มาถ่ายทอดวิทยายุทธ์ :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 3 ก.พ. 52 23:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 4 ก.พ. 52 01:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สงสัยมาปิดกระทู้ ช้าจริงๆเลยเรา ขอบคุณอาเฮียเคลี่ผู้เปิดกระทู้ และผู้ร่วมสัมมนาทั้ง3ท่าน อินดี้ของพี่ธราธิปก็ใช้กันทั่วไป จะได้ผลหรือได้เจ๊งก็อยู่ที่คนใช้จริงๆ เพราะข้าพเจ้าก็ใช้ไอ้นี่แหละ แต่ไม่ค่อยได้ตังค์ สงสัยเป็นศิษย์วัดรุ่นหลังเขา จากคุณ : อ-ริน - [ 4 ก.พ. 52 11:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีครับ  คุณหมอ อ-ริน ส่วนตัวแล้ว.... ผมใช้อินดี้อย่างง่ายๆ ไม่ซับซ้อนครับ เพียงรออินดี้ ส่งสัญญานแล้วเท่านั้น เพียงติดตามอินดี้มากกว่าติดตามราคา เมื่ออินดี้ ยังไม่ส่งสัญญาน ทำได้เพียง..รอคอยครับ จะไม่ลงมือก่อน หรือคาดเดาล่วงหน้าครับ เพราะว่าการคาดเดาล่วงหน้า เป็นความเสี่ยง แต่ก็มีบ่อยที่ ผิดพลาด... เพราะว่า ตลาดมีปัจจัยภายนอกมากมายที่เราคาดไม่ถึง ถึงกระนั้น หากอินดี้ยังคงยืนยันสัญญานเดิม เป็นเรื่องดีที่จะซื้อเพิ่ม ในราคาต่ำกว่า.. หรือขายชอร์ต เพื่อรับคืนในราคาที่ต่ำกว่า เป็นการเพิ่มหุ้นโดยไม่เพิ่มเงิน ตามแนวทางที่เฮียเอ็นโดท่านสั่งสอนไว้ครับ คนในตลาด จำเป็นต้องมีเครื่องมือ มีอาวุธประจำกาย อย่างน้อยก็ดูแลตัวเองและปกป้องพี่น้องเพื่อนฝูงครับ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : ธราธิป - [ 4 ก.พ. 52 12:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณค่ะ พี่ธราธิป เช็งเม้งปีนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะพาเจ้ามดเอ็กซ์ไปคารวะคุณลุงค่ะ จากคุณ : อ-ริน - [ 4 ก.พ. 52 19:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 67 โอ้ น่ายินดีมากครับ คุณหมอ อ-ริน ครับ หลานมดเอ็กซ์ ต้องน่ารักน่าเอ็นดูมากๆ จากคุณ : ธราธิป - [ 5 ก.พ. 52 00:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณครับ โหวตครับ จากคุณ : อยากเป็นเหา (voyo) - [ 5 ก.พ. 52 22:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 69 งานเยอะมาก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย ตอบช้าไปหน่อย โทษทีครับ เข้าเรื่อง หลังจากได้คุยกับผู้แสวงหาเงินในตลาดหลักทรัพย์ตามที่เฮียเอนโดได้เปิดประเด็นมานั้น ผมเห็นว่า สิ่งที่ผมได้รับวันนั้นเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของผมมากๆ และอยากบอกต่อครับ คิดว่าจะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆ ท่าน :) นั่งคิดอยู่สองคืน พยายามจะเรียงเป็นเรื่องราว แต่เรียงไม่ถูก มันไม่ค่อยประติดประต่อเท่าไรนัก (นึกออกแค่ว่าพยายามจะล้วงตับพี่ธราธิปว่า พี่ท่านเทรดอย่างไงแค่นั้นเอง ฮา) ถ้าเล่าแล้วไม่เป็นเรื่อง อย่าว่ากันนะครับ เอาเป็นว่าเขียนประเด็นที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านแล้วกัน ถ้ามีประเด็นไหนที่ผมเข้าใจผิดไป หรือสื่อความไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยเฮียเอนโด พี่ธราธิป และพี่กีกี้อย่างสูงนะครับ และถ้าช่วยแก้ไขให้จะขอบพระคุณอย่างสูงครับ จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 08:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 70 1. ด้วยความเคารพอย่างสูงนะครับ คนที่ได้ชื่อว่าเซียนนั้น trade system ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยย (trade system แปลง่ายๆ คือวิธีการเล่นหุ้น) สำหรับผม นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้ในคืนนั้นเลยล่ะครับ เริ่มจากพี่ธราธิปก่อน เมื่อก่อนตอนที่ผมเล่นสินธรใหม่ๆ เวลาเห็นเซียนๆ เทคนิค โพสกราฟ วิเคราะห์กราฟกันนั้น ผมแอบชื่มชมอยู่ในใจว่า โหหห ไฮโซ อยากรู้แบบนั้นบ้าง อยากเก่งแบบนั้นบ้าง และหวังว่าจะทำเงินให้ได้แบบนั้นบ้าง ต่อมา ก้อได้ไปซื้อหนังสือโน้นนี่มาอ่าน การอ่านกราฟเอย อ่านอินดี้เลย ตัวนี้ดูอย่างไง ตัวนั้นดูอย่างไง แม้ความรู้จะหางอึ่ง แต่ผมพอจะเข้าใจอินดี้ต่างๆ ว่า ดูอย่างไง และมันจะบอกอะไรเรา เช่น MACD ดูเส้นนี้ตัดเส้นนี้นะ RSI ขายมากเกิน ซื้อมากเกิน ดูไดเวอเจ๊ง คอนเวอเจ๊ง (ฮา) บลาๆๆ แต่ก้อยังไม่ได้ตัง (ไม่ฮา อิอิ) ผมไม่เคยทำเงินได้จากการดูกราฟเลย (แม้จะแอบแก้ตัวกับตัวเองเสมอๆ ว่า งานเยอะ ไม่มีเวลาดูกราฟอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก้อตาม) จนได้คุยกับพี่ธราธิป พี่เค้ากรุณาเล่าให้ฟังว่า เวลาตัดสินใจซื้อหุ้นตัวหนึ่งดูจากอะไรบ้าง ด้วยเวลาไม่เอื้ออำนวยนัก ประกอบกับไม่มีกราฟให้ดู (ผมประทับใจคำพี่ธราธิปมาก ที่พี่บอกว่า เสียดายไม่มีคอมกับตัว จะเปิดกราฟให้ดูเลยว่า ที่เค้าว่ากราฟสวยมันเป็นอย่างไง ตัวไหนที่พี่ซื้อเลย ยิ่งลงยิ่งซื้อ โหห ไม่มีหวงวิชาเลยอ่ะ) พี่ธราธิปเลยไม่ได้สอนละเอียดมากนัก แต่ก้อพอจับใจความได้ว่า พี่ธราธิปดูอินดี้แค่สี่ตัวเท่านั้น (ตามที่พี่ตอบไว้ว่า fsto ssto rsi macd) อินดี้ธรรมดาๆ ที่เปิดได้จากเวป efinance เนี่ยล่ะ แล้วจึงไล่ดูจากกราฟ week ถ้าสวย ดูกราฟ day, ไล่ไปเรื่อยๆ 60 30 15 เพื่อหาจังหวะที่จะซื้อหุ้นได้ราคาที่ดีที่สุด เล่นเอาผมตกใจว่า มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ แถมตกใจไปอีกว่า คนที่เล่นแล้วได้ตังที่พี่เค้าพอรู้มา เค้าดูอินดี้กันไม่เยอะหรอก และก้อไม่ได้พิศดารอะไรมากมายเลย เหอๆๆ จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 08:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถัดมาก้อเฮียเอนโด คนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เฮียแกแค่ดูว่า หุ้นตัวไหน  yield สูง (คือปันผลต่อราคาหุ้นสูง หรือ dividend yield) พื้นฐานดี (พื้นฐานดีของเฮียคือ ยอดขายมีอนาคต ไปได้ หนี้น้อย แค่นั้นเองละมั้ง ที่ดูหลักๆ ^^" ) วันนั้นอยู่ๆ ตอนกินข้าว ก้อถามพี่หมูขึ้นมาเลยว่า ซื้อหุ้น superware ดีไหม (ใช่หุ้นตัวนี้หรือเปล่าครับ เฮีย หุ้นพื้นฐานผมจำไม่ค่อยได้ ฮา) ธุรกิจเซรามิกของเค้ายังดีอยู่ไหม ถ้าพี่หมูว่าดี ผมว่าจะซื้อเหมือนกัน (ผมนะแอบแปลกใจ ง่ายไปหรือเปล่าครับเฮีย ^^ ) ผมถามต่อไปว่า ถ้าซื้อแล้วลงล่ะ คัทเปล่า เฮียบอกว่า ถ้าลงแสดงว่า yield ยิ่งสูง ก้อต้องยิ่งซื้อสิ เหอๆๆๆ ถ้าราคาขึ้น แสดงว่า yield ต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่ง และเห็นว่ามีหุ้นอื่นที่ให้ yield ดีกว่า ก้อจะขายตัว yield ต่ำไปหาตัว yield สูง ระหว่างทางอาจจะมีขายทิ้งไปบ้าง ถ้าลงมาก้อรับกลับด้วยจำนวนเงินที่ขายไป (ซึ่งแปลว่าได้หุ้นมากขึ้น และนั่นหมายความว่าจะได้ปันผลหรือ yield ในรูปตัวเงินมากขึ้นไปอีก) เล่นอยู่แค่เนี่ย (นึกถึงคำพูดของ Edward Derman ที่เขียนลง Financial Analysts Journal เล่มล่าสุด เมื่ออาทิตย์ก่อน ที่บอกว่า Financial Models ส่วนใหญ่ไม่ได้บอกว่า ราคาของสินทรัพย์นั้นจะเป้นเท่าไร แต่เพียงบอกว่า สินทรัพย์นี้ถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ เราจะได้เลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด นักการเงินระดับโลกกับ temple boxing วิธีคิดไม่ต่างกันเลย ให้ตายสิโรบิ้น ^^ ) แต่อย่างที่ทุกท่านทราบ เฮียเอนโดเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าเรียกว่า ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้เต็มปาก คำว่าประสบความสำเร็จไมได้หมายความว่าพอร์ทโตเป็นระดับพันล้าน แต่สามารถหาเงินในตลาดหุ้นเพียงพอสำหรับรายจ่ายที่ต้องใช้ เท่านั้นพอ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเป้าหมายสำหรับใครหลายๆ คนเหมือนกัน แต่น้อยคนนักที่จะทำได้แบบนั้น จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 08:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มันไม่ยอมให้แก้ไขข้อความอ่ะ ชื่อ Edward Derman จริงๆ พี่ท่านชื่อ Emanuel Derman นะครับ คนที่เขียนหนังสือ My Life As a Quant อ่ะครับ ขออภัย ^^" จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 08:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 73 2. ถ้ามันง่ายอย่างนั้น ทำไมคนไม่รวยกันทั้งประเทศล่ะ ผมเชื่อว่า ผมสามารถเขียน trade system ของพี่ๆ ทั้งสองท่านออกมาเป็น flow chart ได้ เพราะวิธีเทรดของพี่ๆ ทั้งสองค่อนข้างมีหลักการแน่นอน กล่าวคือ ผมสามารถเขียนออกมาได้เลยว่า ถ้าคุณอยากเก่งเหมือนพี่สองคนนี้นะ เวลาซื้อหุ้นทำตามแบบนี้นะ 1. ดูว่าตัวนี้ตัดตัวนี้หรือยัง ถ้าตัดแล้วไปข้อ 2  จากข้อ 2 ดูว่า ตัวนี้ สูงกว่าค่านี้ไหม ถ้าสูงไปข้อ 3 ถ้าไม่กลับไปข้อ 1 ใหม่ บลาๆๆ ถ้ามันเคลียทุกเงื่อนไขได้ ก้อซื้อเลย เข้าใจไหมครับ ผมแอบสงสัยว่า ถ้ามันแน่นอนขนาดนั้น ทำไมคนไม่รวยกันทั้งประเทศไปแล้วล่ะ? เฮียเอนโด ให้คำตอบที่เฮียพูดเสมอๆ ว่า เพราะปัจจัยพื้นฐานสะสมคนเราไม่เหมือนกันไง ถ้าสมมติว่า ผมเล่นหุ้นตามเฮียเอนโดทุกอย่างเลย ถามว่าผมอยู่รอดไหม ผมตอบได้เลยว่า ผมไม่รอด ผมไม่ทราบขนาดของพอร์ทและผลตอบแทนของพอร์ทของเฮียเอนโดนะครับ แต่ผมคิดว่า แม้ yield จะไม่สูงมากนัก แต่ขนาดพอร์ทใหญ่พอที่จะทำให้ yield ต่ำๆ นั้น ทำรายได้ออกมาเป็นตัวเงินที่สามารถใช้ชีวิตอย่างไม่อัตคัท ประกอบกับครอบครัวที่พร้อม เข้าใจ รวมถึงกรณีที่เจ็บไข้ได้ป่วย ก้อสามารถเบิกได้ ทำให้เฮียเอนโดสามารถเล่นแบบนี้ได้ ผมล่ะ พอร์ทผมแค่หลักแสนบาท ถ้าได้ yield 5% คิดเป็นเงินแค่ไม่กี่พันบาท ถามว่า ผมจะอยู่รอดทั้งปีไหม ;) หรือถือไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเกิดเจ็บป่วย ล่ะ ไม่มีให้เบิก ต้องขายหุ้นมารักษาตัว แล้วจะเอาที่ไหนกิน ^^" พี่ธราธิปก้อมีธุรกิจส่วนตัวด้วยเช่นกัน เกิดวันหนึ่งตลาดเกิด panic trade system ที่ใช้เกิดผิด เค้าเสียเงินทั้งตลาดออกไปหมด ถามว่าพี่ท่านจะเดือดร้อนไหม? ขอแก้ข่าวนิดหนึ่งนะครับเฮียเอนโด ผมไม่ได้เอาเงินออมมาเล่นหุ้นนะครับ (เพราะเงินออม ผมไม่มีสักบาท ฮา) เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมนำมาเล่นหุ้นนั้น ผมกู้ยืมมาทั้งสิ้น (ด้วยดอกที่สูงกว่า MLR ซะล่วยยย ^^" ) ถ้าผมเจ๊ง ถามว่าผมจะเดือดร้อนไหม ;) สมมติว่าผมซื้อหุ้นตัวเดียว ราคาเดียวกับพี่ธราธิป แล้วมันตกมาสิบช่อง ถามว่า ผมกับพี่ธราธิป ใครจะตื่นตระหนก ตกใจ และกดดันกว่ากัน :) เท่าที่พี่ๆ เล่าให้ฟังวันนั้น คนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นส่วนมาก ต่อให้เค้าเจ๊งหุ้นหายหมดทุกบาททุกสตางค์ เค้าก้อไม่ตาย เพราะสินทรัพย์ที่เค้าเอามาลงทุนในหุ้นนั้น ไม่ใช่เงินส่วนใหญ่หรือรายได้หลัก เพราะฉะนั้น ใจเค้าจะนิ่งกว่ามากๆ และจะตัดสินใจได้เฉียบคมกว่า (ถูกหรือผิดก้ออีกเรื่อง อย่างน้อยก้อตัดสินด้วยสมอง มากกว่าด้วยใจ) เพราะฉะนั้น นี่คือคำตอบว่า ทำไมคนที่อ่านหนังสือหุ้นครบทุกเล่ม เรียนจบเอก ถึงไม่ได้การันตีว่า คุณจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เหมือนที่เฮียเอนโดพูดเสมอๆ ครับ ปัจจัยพื้นฐานสะสมคนเรามันไม่เหมือนกัน :) จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 74 3. กราฟไม่สวยให้รอ อันนี้เป็นอีกอันที่พูดง่าย แต่ทำโคดยากเลย ผมถามพี่ธราธิปว่า พี่จะซื้อหุ้นนี่ อินดี้ต้องคอนเฟิร์มหมดใช่ไหม พี่เค้าว่า อย่างน้อยก้อต้อง 3 ใน 4 ตัวล่ะ ผมล้วง (ตับ) ต่อไปว่า อ้าว แล้วถ้ามันสวยแค่สองตัว ไม่ลองเล่นดูหน่อยหรอ พี่เค้าบอกว่า ไม่ พี่จะรอต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคอนเฟิร์มหมด ถึงจะซื้อ ประมาณว่า ถ้าไม่มั่นใจ อย่าซื้อ เงินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เรามาเล่นหุ้นเพื่อหาเงิน ไม่ใช่มาเล่นเอาสนุก <-- บรรทัดนี้ผมเติมเอง ^^" นี่เป็นสิ่งที่รายยุ่ยๆ (อย่างผม) ทำกันไม่ค่อยได้ เห็นหุ้นวิ่ง ก้อเคาะตามบ้าง กลัวตกรถ หรือเลือกไปเล่นหุ้นปั่น เพราะเห็นว่ามันรวยเร็วดี (แต่ถามหน่อย คุณเคยรวยกับหุ้นปั่นไหม ถ้าไม่มี insider? ) เพราะฉะนั้น ถ้ากราฟยังไม่สวย ให้รอ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น :) จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 75 4. โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย สิ่งนี้ได้เรียนรู้จากพี่ๆ ทั้งสามคนเลย เรามักจะเห็นว่า คนโน้นคนนี้มาบอกเล่าว่า ได้หุ้นตัวโน้น ตัวนี้ กำไรเท่านั้น เท่านี้ แต่เวลาเค้าเสีย น้อยครั้งนักที่เค้าจะมาโพสให้ชม ซึ่งระดับเซียนทั้งเฮียเอนโด พี่ธราธิป และพี่กีกี้ เคยผิดพลาดและเสียตังในตลาดมาแล้วทั้งสิ้น อย่างที่เฮียเอนโดบอกไว้ พี่ธราธิปกว่าจะมีวันนี้ เคยล้มเหลวกับวิธีเทรดแบบอื่นๆ มาก่อน ถึงจะมาประสบความสำเร็จแบบตอนนี้ คนที่อยู่รอดจนถึงปัจจุบันหน่ะ ผมว่าเป็นคนที่เคยผิดพลาดแล้ว กลับมาคิดว่าเราผิดตรงไหน และหาวิธีที่เหมาะสมกับเราให้เจอ ไม่ใช่ยังเทรดโดยที่... จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 76 5. "คุณยังเป็นนักลงทุนที่ดีไม่ได้หรอก ถ้ายังรู้สึกว่าขาดใครไปซักคนแล้ว  คุณจะซื้อขายหุ้นไม่ได้" ปิดท้ายด้วยสิ่งที่เฮียเอนโดนำมาปิดท้ายแล้วกันนะครับ ถ้าคุณยังต้องการใครสักคนมาบอกว่า หุ้นตัวนี้ซื้อดีไหม ราคานี้ขายได้หรือยัง มีหุ้นเด็ดแนะนำกันบ้างได้ไหม บลาๆๆ ผมเกรงว่า คงยากครับ ที่คุณจะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น เหตุผลสำคัญเลย คือ ปัจจัยพื้นฐานของเราไม่เหมือนกัน พอร์ทคนเราไม่เท่ากัน ความจำเป็นในการใช้เงินก้อไม่เหมือนกัน soure of fund ก้อแตกต่างกัน บลาๆ แล้วคุณจะเล่นหุ้นแบบเค้าได้อย่างไร? จริงไหมครับ เพราะต่อให้คุณซื้อหุ้นเหมือนกันกับเค้า ก้อใช่ว่าคุณจะถือหุ้นได้เหมือนเค้า และใช่ว่าคุณจะขายได้ราคาเดียวกับเขา และผมกล้าพูดว่า ไม่มีใครถูกเสมอ คนได้ Nobel prize in economic ก้อเจ๊งได้เช่นกัน (LTCM รู้จักไหมครับ ^^" ) เพราะฉะนั้น คุณซื้อตามเค้า แล้วเจ๊ง สายป่านเค้าอาจจะยาวกกว่า ที่จะแก้ตัววันหลังได้ แต่คุณล่ะ มีเงินไปแก้ตัววันหลังหรือเปล่า หรือจะมีเวลายาวนานไปแก้ตัวเหมือนเค้าหรือเปล่า วันที่เค้าได้ คุณอาจจะติดธุระไปส่งลูก แต่วันคุณว่าง เค้าอาจเสีย ผมเชื่อว่า รายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุน เสียตังจนหมดตัว แล้วจึงตัดใจออกไป แต่ก้อจะมีรายย่อยใหม่ๆ เข้ามา(เอาเงินมาทิ้ง)ในตลาดเสมอๆ และถ้าไม่หมด ก้อไม่ยักจะออกไปเสียด้วยสิ (ฮา) ผมก้อเป็นหนึ่งในนั้น ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะอยู่ในตลาดได้นานแค่ไหน หมดเงิน(กู้ ฮา) ก้อนนี้ ผมก้อคงโดนบังคับจบเกมส์เหมือนกัน ^^" จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สุดท้ายเป็นคำแนะนำจากผม (เชื่อดีไหมว้า เล่นหุ้นทุกวันนี้ ยังไม่ได้ตังเลย ^^" ) ทุกครั้งที่ซื้อหุ้น ผมอยากให้คุณจดใส่กระดาษเก็บไว้ ว่า ทำไมคุณถึงซื้อหุ้นตัวนี้ และทำไมต้องราคานี้ และเวลาที่ขาย คุณก้อกลับมาจดว่า ทำไมคุณถึงขาย และทำไมต้องราคานี้ ผมเชื่อว่าถ้าคุณทำแบบนี้ทุกๆ ครั้ง คุณจะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นครับ (อย่างน้อยผมว่าคุณก้อไม่หมดตัวอ่ะ) ลองทำดู แล้วจะรู้ว่าทำไมครับ :) จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณเฮียเอนโด พี่ธราธิป พี่กีกี้ อีกครั้งนะครับ ความรู้ที่ได้รับมีค่ามากสำหรับผม ผมสัญญาว่าจะนำความรู้ที่ได้ เอาตัวรอดและอยู่ในตลาดหุ้นไปนานๆ ครับ (ฮา) สวัสดีครับ จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอแตกไปแจ้งข่าวแล้วกันนะครับ :) จากคุณ : m_ple - [ 6 ก.พ. 52 09:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุณเอมเปิ้ล ไว้วันอังคารแตกประเด็นอีกรอบซิครับ จะได้ร่วมแจมด้วย  วันนี้หมดเวลาทำการโพสต์กระทู้พอดี เป็นหนึ่งในวินัยการลงทุน เอ๊ยการโพสกระทู้ของผมครับ จากคุณ : endophine - [ 6 ก.พ. 52 12:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สุดยอดเลยครับ  ขอบคุณทุกท่านจากใจ ส่วนตัวผมยังไม่ได้ลงสนามเลย  ก็เลียบๆเคียงๆ ดูนั่น ดูนี่  เป็นระยะๆ  กะหาความรู้ให้แม่นๆก่อนค่อยลุย แต่ว่าปัญหาที่ผมพบก็คือตามที่เฮียบอกเลยครับ " มีข้อสังเกตว่า  นักลงทุนส่วนใหญ่ มักจะได้ความรู้ที่ไม่มีประโยชน์กับพอร์ตหุ้นของตัวเอง แบบความรู้ ข้อมูลข่าวสารท่วมหัว เอาตัวไม่รอด " คือผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมเป็นคนที่ชอบเสพข้อมูลมาก  เจอไรเจ๋งๆเซฟเก็บไว้ทั้งหมด อ่านแล้วอ่านอีก   แต่ไปๆมาๆคล้ายเป็นการ overdose  ความเข้าใจมันตีกันมั่ว  หยิบจับอะไรไม่ได้ซักอย่าง ตอนนี้เลยเริ่มที่จะจดเลคเชอร์  ทำบันทึกการเรียนรู้ของตัวเอง คือความรู้หรือข้อมูลอันไหนที่ดูมีประโยชน์  ผมจะเซฟมานั่งอ่าน  แล้วก็เขียนสรุปลงสมุดเอาเองอีกรอบ   ( คือผมรู้สึกว่าอ่านจากไฟล์ที่เซฟมาเลย  มันดูเยอะเกินน่ะครับ  แหะๆ ) ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปได้ซักกี่น้ำเหมือนกันครับ  ใจจริงมันอยากลองลงสนามแล้ว  ฮ่าๆๆ จากคุณ : ettexo[R] - [ 6 ก.พ. 52 13:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณทุกท่านครับ ที่คายความลับ... 555 จากคุณ : teeranet - [ 6 ก.พ. 52 14:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 83 นานมาแล้ว ที่มิได้มีสาระ เยี่ยงนี้ในสินทร คารวะ และ ขอบคุณซือแป๋ ทั้ง สามท่าน ถ้าผมประสบความสำเร็จได้แบบเฮีย endo เฮีย ธราธิป และ คุณ m-ple ผมจะได้มาเล่าเรื่องตำนาน ของผมมั่ง ฮาๆๆๆ ********************************** ทุกวันนี้ผมยังหาทางออกจากลูกบอลสีดำนี้ไม่ได้เลย ตอนแรกนึกว่า มีลูกเดียว ที่ไหนได้ มีเป็นโรงงาน เลย เริ่มคล้าย matrix เข้าไปทุกทีแล้ววววว จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 6 ก.พ. 52 14:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาโหวตและเก็บเข้าคลังครับ จากคุณ : Gunner_Noy_Skywalker_5 - [ 8 ก.พ. 52 09:24:05 ]