ความคิดเห็นที่ 1 หมายความว่า ถ้า ธนาคารกรุงไทยเจ๊ง ก็จะมีการขายสินทรัพย์ทั้งหมดและนำมาชำระหนี้คืนโดยจะต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ทั่วไป (รวมถึงผู้ฝากเงิน) จนได้รับเงินครบถ้วน แล้วจึงจ่ายให้ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ (และหากยังเหลือเงินอีก จึงจะจ่ายให้ผู้ถือหุ้นครับ) การด้อยสิทธิ จะมีผลเฉพาะ bankrupt เท่านั้นครับ อย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไร ได้ดอกเบี้ยตามหน้าตั๋วตามปกติ แต่หุ้นกู้นี้มี call option นะครับ ธนาคารอาจจ่ายเงินต้นคืนก่อนกำหนดได้หลังปีที่ 5 (และคิดว่าน่าจะใช้สิทธิครับ เพราะหลังปีที่ 5 การนับเป็นกองทุนขั้นที่ 2 จะลดลง ทำให้แรงจูงใจในการไม่ใช้สิทธิลดลง รวมถึงที่ดอกเบี้ยแพงด้วย สู้ไปออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิล้อตใหม่ดีกว่า) จากคุณ : krit587 - [ 5 ก.พ. 52 21:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนใหญ่แล้วที่แบงค์ออกหุ้นกู้ ไม่ได้ต้องการเงินเท่าไรหรอกครับ ถ้าอยากได้เงิน ไปเพิ่มดอกเบี้ยหาเงินฝากง่ายกว่า ต้นทุนต่ำกว่า เหตุผลหลักที่ออกคือต้องการกองทุนเพื่อนำไปคำนวณเพื่อรับสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่าครับ ข้อด้อยของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ คงไม่ใช่เรื่องกลัวเจ๊งหรอกครับ (ถ้าเจ๊งก็ได้เงินก่อนกระทรวงการคลัง ก็หรูแล้ว) แต่เป็นเรื่องสภาพคล่อง ครือว่า ขายได้ยากมาก และหากขายได้ ก็โดนกดราคามากกกกกก เหมือนซื้อรถครับ แค่ถอยออกมา ราคาก็วูบไปแล้ว (ไม่เชื่อลองซื้อแล้วไปหาที่ขายในวันรุ่งขึ้นดู) ดังนั้น ถ้าจะซื้อ คิดไว้เลยว่า มันคือหุ้นกู้ 5 ปี และหากขายก่อนกำหนดก็มีโอกาสขาดทุนมากกว่า  ถ้าถือได้ 5 ปี ก็เอาเลยครับ อ้อ อย่าลืมเรื่องภาษีดอกเบี้ย 15% ด้วยครับ จากคุณ : krit587 - [ 5 ก.พ. 52 21:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณคะ จากคุณ : กระต่ายจ้า - [ 5 ก.พ. 52 21:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์เรียกว่า subordinating bond ไม่ว่าธนาคารออกมา ก็ต้องด้อนสิทธิ์ เพราะกฎหมายกำหนด ถามว่าด้อยกว่าใคร ด้วยกว่าผู้ฝากเงิน เพราะกฎหมายกำหนกให้ใช้เงินคืนผู้ฝากเงินก่อนถ้าธนาคารล้ม จบข่าว จากคุณ : SummerMan - [ 6 ก.พ. 52 11:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1. สาเหตุที่ Bank ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ เพื่อผลักภาระความเสี่ยงไปให้กับผู้ซื้อหุ้นกู้ โดยเอาเงินไปค้ำประกันกองทุนสินทรัพย์เสี่ยง หมายถึงว่า ถ้าเกิด NPL เยอะๆ คนที่เสียงไม่ใช่ Bank แต่เป็นคนที่ซื้อหุ้นกู้ 2. เท่าที่ทราบพอครบกำหนด 5 ปี ส่วนใหญ่ Bank จะไถ่ถอนก่อนกำหนด เนื่องจากหมดอายุการค้ำประกันกองทุน Bank ก็เลยไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินแล้ว ดังนั้นโอกาสที่เราจะได้ดอกเบี้ย 6% หลังจากปีที่ 5 จึงมีค่อนข้างน้อย จากคุณ : Master (myrmts) - [ 6 ก.พ. 52 12:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่มเติม หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ถ้าซื้อแล้ว ก็ติดกาวตราช้างไว้ได้เลยครับ ถ้าต้องการใช้เงิน ขายก่อนกำหนดค่อนข้างยาก ไม่ค่อยมีใครรับซื้อ จากคุณ : Master (myrmts) - [ 6 ก.พ. 52 12:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอเถียงครับว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ ธนาคารเป็นผู้ออก มีความน่าเชื่อถือกว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่ธุรกิจประเภทอื่นๆออก  น่าจะนำไปขานในตลาดรองได้ อย่างไรก็ตามราคามันขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือเมื่อวันขาย  ถ้ามันใกล้ล้มในวันที่อยากขายก็คงไม่มีใครซื้อ จากคุณ : SummerMan - [ 7 ก.พ. 52 12:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คือผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ แต่เท่าที่สัมผัสจากประสบการณ์แค่ 3 ปีและรู้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น 1. มีแต่ธนาคารเท่านั้น ที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ เพราะเป็นเรื่องของการเพิ่มกองทุนเพื่อรองรับสินทรัพย์เสี่ยง (Capital adequacy ratio, BIS) บริษัททั่วไปจะไม่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ (เพราะไม่รู้จะออกไปทำไม ไม่ได้ประโยชน์อะไร ออกไปก็ต้องเพิ่มดอกเบี้ยให้มากกว่าหุ้นกู้ธรรมดา) จะออกเฉพาะหุ้นกู้ธรรมดา 2. หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ซื้อขายในตลาดรองยากจริง ๆ ครับ ด้วยเหตุผลคือ 2.1 มีข้อกำหนดให้แบงค์ และสหกรณ์ไม่สามารถซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิได้ แค่นี้ player ก็เหลือแต่รายย่อยแล้ว 2.2 รายย่อยก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ (จะเห็นว่ากระทู้ถามเรื่องนี้เต็มไปหมด) เมื่อไม่เข้าใจ ก็ไม่เล่นดีกว่า 2.3 อย่างที่ผมบอกในกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7499603/I7499603.html หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็น tier 2 มันต้องมีคุณสมบัติตามที่แบงค์ชาติกำหนด มันจะสามารถไถ่ถอนได้หลังปีที่ 5 และการถูกลดการคำนวณเป็นกองทุนที่ลดลงเรื่อย ๆ ทำให้แรงจูงใจที่ทำให้แบงค์ call ก็สูง  ดอกเบี้ย stepก็มักจะไม่มาถึง เพราะโดน call ก่อน ซึ่งสรุปว่า model การคิด pricing จริง ๆ ซับซ้อน และทำให้มันไม่ดีอย่างที่คิด สรุปว่า รายย่อยที่พอเข้าใจ และสามารถเล่นได้ พอไปคำนวณ model yield แล้วก็จะพบว่า ผลตอบแทนมันไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าจะซื้อ ก็ต้องได้ราคาดีจริง ๆ (หรือถูกจริง ๆ ) นั่นเป็นที่มาว่า ถ้าอยากขาย คนซื้อก็จะกดราคา ในทางความเป็นจริง ต่อให้ rating เท่ากัน เวลาเท่ากัน หุ้นกู้ด้อยสิทธิจะซื้อขายที่ yield สูง (หรือราคาต่ำ) กว่าหุ้นกู้ปกติของบริษัททั่วไปครับ ตย นะครับ หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ TMB153A  ขายกันที่ yield 6.5% ขณะที่ หุ้นกู้ที่ rating A เท่ากัน ของบริษัทอื่น ที่อายุเท่ากัน  (6 ปี)ขายกันที่ yieldประมาณไม่เกิน 6% ครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 52 10:13:08 จากคุณ : krit587 - [ 8 ก.พ. 52 10:02:37 ]