ความคิดเห็นที่ 1 ยังมีอีกเหรอ ผมเคยเห็นไอ้เงื่อนไขนี่ตั้งแต่ยังไม่มาเมืองนอก คุณจะซื้อตรงจากธนาคารหรือว่าซื้อที่มีคนอื่นมาขายต่ออ่ะครับ จากคุณ : SummerMan - [ 6 ก.พ. 52 15:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 10 ปี เราว่ามันนานจัง  แต่แบงค์ของรัฐไม่น่าจะมีปัญหาน่ะ  ถ้า 5 ปี เรารีบซื้อเลย จากคุณ : ลูกนกหลงทาง - [ 6 ก.พ. 52 15:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบแบบรู้น้อยน่ะครับ สงสัยว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้ ธ.ทำไมจ่ายดอกดีจังเลย ธ.นำเงินไปทำอะไรคะ      ธนาคารออกหุ้นกู้ จะบริหารง่ายกว่าในแง่ของดูเรชั่นเงินกู้ที่แน่นอน ค่าใช้จ่ายต่อธุรกรรมน้อยกว่า (ลองเทียบกับรอคนมาฝากเงินประจำ 1 หรือ 2 ปีต้องมีธุรกรรมกี่ครั้ง เงินสำรองและเงินที่ส่งให้กองทุนประกันเงินฝาก) จึงแลกด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า แล้วจะไม่เสี่ยงสำหรับเงินเราหรือ ที่สำคัญคำว่า "ด้อยสิทธิ" หมายถึงอะไร       สำหรับผู้ซื้อหุ้นกู้ แน่นอนว่าเสี่ยงกว่าเงินฝากเพราะไม่มีประกันเงินฝาก ธนาคารล้มอาจจะไม่ได้เงินคืนทั้งหมด ส่วนด้อยสิทธิเป็นลำดับเจ้าหนี้(ผู้ซื้อหุ้นกู้)ว่าอยู่ลำดับรองลงไป แปลว่าหากธนาคารเจ๊ง ต้องขายทรัพย์สินธนาคารทอดตลาด เจ้าหนี้ประเภทนี้จะได้เงินทีหลังเจ้าหนี้รายอื่นๆหรืออาจไม่ได้เลยหากทรัพย์สินมีมูลค่าไม่พอกับการชำระหนี้ เจ้าหนี้รายอื่นจะได้รับเงินก่อน จากคุณ : Godgate - [ 6 ก.พ. 52 15:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 5 ปี นี่เป็นสิทธิ์ของแบงค์ที่จะถอนนะครับให้ถือว่าเงินจะต้องอยู่ในหุ้นกู้ 10 ปี จึงจะเอาออกมาใช้ได้นะครับ จากคุณ : neopaint2005 - [ 6 ก.พ. 52 17:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แบงค์ไม่ต้องการเงินครับ ถ้าต้องการเงินแค่ออกดอกเบี้ยเงินฝากซัก 3% ขี้คร้านเงินจะท่วมแบงค์ครับ แต่ที่ต้องออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ เพราะต้องการเพิ่มเงินกองทุน เพื่อรับกับสินทรัพย์เสี่ยง การเพิ่มเงินกองทุนทำได้ 2 อย่าง คือ เพิ่มหุ้นทุน (tier 1 กองทุนขั้นที่ 1) ซึ่งใครก็ไม่อยากทำ (เรื่องอะไรมา share กำไร) กับอีกวิธีคือ เพิ่มกองทุนขั้นที่ 2 (tier 2) ซึ่งแบงค์ชาติกำหนดให้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ที่มีลักษณะต่อไปนี้สามารถนับเป็นกองทุนขั้นที่ 2 ได้คือ อายุ 10 ปี (ไถ่ถอนก่อนกำหนดได้หลังปีที่ 5) มีสิทธิในการได้รับเงินคืนกรณีล้มละลาย หลังเจ้าหนี้ทั่วไป แต่ก่อนผู้ถือหุ้น การนับยอดเป็นกองทุนจะลดลงหลังปีที่ 5 (ถ้าจำไม่ผิดลดลงปีละ 20%) ทำไมต้องเพิ่มเงินกองทุน ในกรณีปกติ สมมุติแบงค์อยากขยายการดำเนินการ เช่นให้กู้เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะสามารถระดมเงินฝากได้ แต่ธปท. ก็มองว่ามันมีความเสี่ยงของคนฝาก จำเป็นที่แบงค์จะต้องหาส่วนทุนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ขั้น 1 หรือ 2 ตย. หากต้องการป่ล่อยกู้ 100 บาท ต้องมีเงินกองทุน 8.5บาท คือหาเงินฝากได้ 91.5 บาท ต้องเพิ่มส่วนกองทุนอีก 8.5 บาท จึงสามารถขยายการให้กู้ได้ ความยากอยู่ตรง 8.5 บาทนี่แหละครับ เพราะต้องมีแรงจูงใจพอควรให้คนมาซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิ  เพราะเรื่องของ ระยะเวลาที่นาน liquidity ในตลาดรองที่ต่ำ และความที่หลายคนไม่เข้าใจเรื่องของความด้อยสิทธิ ในกรณีที่ไม่ปกติ เช่น NPL สูงขึ้น พอเกิด NPL การคำนวณความเสี่ยงของหนี้จะเพิ่มขึ้น จากเดิมปกติ 100% ก็จะเป็น 150% ทำให้ต้องหาเงินกองทุนมากขึ้นครับ แบงค์ส่วนใหญ่จะไม่ออกหุ้นกู้ธรรมดาครับ เพราะหาเงินจากเงินฝากง่ายกว่า และต้นทุนถูกกว่า แต่ก็ไม่เสมอไปครับ ตย.เช่น bay ก็เคยออกหุ้นกู้ธรรมดา เพื่อหาเงินไปทำเรื่อง leasing  โดยหุ้นกู้ปกติ ก็จะได้ rating เท่ากับ rating ขององค์กร แต่หุ้นกู้ด้อยสิทธิมักจะได้rating ต่ำกว่า rating องค์กร 1 notch เป็นเช่นนี้ครับ อ่านนี่เพิ่มเติมก็ได้ครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7496884/I7496884.html แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 20:05:51 จากคุณ : krit587 - [ 6 ก.พ. 52 20:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆคะ สิ่งที่ดิฉันเข้าใจคือ..ดูเหมือนไม่เสี่ยง แต่ความจริงก็เสี่ยงเหมือนกันในแง่ของกรณี Bankrupt เราอาจสูญเงินก้อนนี้ไป แต่สำหรับกรณีฝากเงินตามปกติดอกเบี้ยน้อยๆ หาก Bankrupt เราก็จะได้เงินคืนเพราะ Bank มีประกันเงินฝากสำหรับผู้ฝากเงิน ซึ่งแตกต่างจากหุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีประกันเงินฝากจาก Bank นั่นเป็นสาเหตุที่ Bank เสนอดอกเบี้ยสูงๆเพื่อเป็นแรงจูงใจให้มาซื้อหุ้น ในขณะที่เศรษฐกิจขาลง ดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 00:23:30 จากคุณ : moselle - [ 6 ก.พ. 52 23:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สรุปแล้วว่าน่าสนหรือเปล่าค่ะ....ไม่เข้าใจว่า...ถ้า5ปี...ธนาคารจะไถ่ถอนออกหรือเปล่าค่ะ..เพราะเงินที่ดำรงกองทุนขั้นที่2 ต้องลดลงปีละ20%...และยังต้องจ่ายเงินปันผลมากกว่าปีแรก..แรกด้วย ไม่ทราบ่าเป็นยังไงค่ะ  ช่วยอธิบายด้วยค่ะ............... จากคุณ : SUPERNANG (sudaporn-nang) - [ 7 ก.พ. 52 20:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมคิดว่าธนาคารจะไม่ไถ่ถอนเมื่อ 1. อัตราดอกเบี้ยในตลาดตอนหลัง 5 ปี จะต้องสูงมาก เช่น 8-10% และ 2. Tier 2 ค่อนข้างเพียงพอแล้ว คือถ้ากองทุนยังน้อย ต้องการเพิ่มกองทุน และดอกเบี้ยต่ำ (น้อยกว่า 6.5%) ผมเป็นแบงค์ ก็เรียกหุ้นกู้คืนเมื่อปีที่ 5 แล้วออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ลอตใหม่อีก จากคุณ : krit587 - [ 8 ก.พ. 52 10:16:00 ]