ความคิดเห็นที่ 1 1. ที่ต่ำกว่า 5 อันดับแรก ยังมีสัดส่วนมากกว่า 50% มีจะเป็นจุดแตกต่างการลงทุน ระหว่างกองทุนต่างๆ ....... ที่ไม่ได้แสดงให้เห็นครับ 2. ใช้ IE อย่าใช้ FireFox ก็จะสามารถเข้าได้ครับ 3. LTF ยังคงมีข้อกำหนด 65% ของขนาดทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ที่ต้องลงทุนในตลาดหุ้นของไทยครับ เพื่อเป็นการสนองตอบจุดประสงค์หลักในการที่มีการส่งเสริมการลงทุนใน LTF ของรัฐบาลที่จะช่วยให้มีการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นครับ ดังนั้น SCBLT4 คงจะทำให้เป็น Feeder Fund ของ Templeton แบบ SCBAEM คงไม่ได้ครับ จากคุณ : pjuk - [ 11 ก.พ. 52 14:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 SCBLT1 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว 70/30 หุ้น SET50 : 70% ตราสารหนี้ระยะสั้น + เงินสด : 30% มีนโยบายการจ่ายปันผล SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส หุ้น SET50 : 90% ตราสารหนี้ระยะสั้น + เงินสด : 10% ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ หุ้น SET50 : 40% หุ้น ต่ำกว่า SET100 + MAI : 40% หุ้น Trade + เงินสด : 20% ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล SCBLT4 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ หุ้น SET50 : 65-70% การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และหลักทรัพย์อื่นๆ : ที่เหลือ มีนโยบายการจ่ายปันผล SCBLTT - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต หุ้น SET50 : 65-70% SET50 Futre , Structurd Note + เงินสด: ส่วนที่เหลือ มีนโยบายการจ่ายปันผล SCBLTS - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท หุ้น SET50 : 65-70% SET50 Index Futures : 3.5% ตราสารหนี้ระยะสั้น + เงินสด : ส่วนที่เหลือ ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล จากคุณ : pjuk - [ 11 ก.พ. 52 14:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1) ผมออกจะไม่เห็นด้วยที่ หุ้นหลักแทบจะไม่ต่างกันครับ สมมุตว่าเราจะฝากเงินไว้ให้ใครบริหาร วิธีง่ายๆคือลองเข้าไปดูว่า หุ้นที่กองทุนถืออยู่ตรงกับที่เราสนใจหรือไม่ ซึ่งวิธีนี้ใช้ไม่ได้กับ SCB เลยนะครับ ถ้าบอกว่า ลงทุนในตลาด MAI ก็ควรวางในตลาด MAI เป็นหลัก ส่วนนักลงทุนถ้าเค้าอยากจะกระจายความเสี่ยง เค้าก็ซื้อ LTF ตัวอื่นผสมๆกันได้อยู่แล้ว 2) สำหรับ IE ขอบคุณมากครับ แต่ถ้ามีช่องทางชี้แจง ช่วยส่งต่อไปด้วยนะครับ เพราะนักลงทุนบางท่านไม่ได้ใช้ windows ครับ 3) ถามเป็นความรู้ว่า 35% Feed จาก Templeton ส่วน 65% ก็ Feed จาก SCBSET ก็คงได้ใช่มั้ยครับ ขอบคุณ PJUK นะครับ ตอบไวมากๆ จากคุณ : หะหลุก - [ 11 ก.พ. 52 14:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 MAI .... ลงทุนเป็นหลักไม่ได้ครับ ...... เพราะขนาดทรัพย์สินที่มากของ กองทุน ถ้าลงทุนในกลุ่ม MAI ติดอันดับบน จะกลายเป็นการ Take Over บริษัทไปเลยก็ได้ครับ SCBLT4 อาจจะต้องมีทั้ง เงินสดสำรองที่ใช้เพื่อสร้างสภาพคล่อง ส่วนที่เหลือมีการกระจายการลงทุนใน Master Fund ของทั้ง SCBAEM และ SCBPGF ครับ จากคุณ : pjuk - [ 11 ก.พ. 52 15:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอถามต่อคับ อย่างนี้ซื้อกองที่มีปันผลก็ดีกว่าไม่มีปันผล หรือเปล่าคับ?? คิดง่ายไปป่าวคับ จากคุณ : MY2K - [ 11 ก.พ. 52 18:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เงินปันผลที่ได้จากกองทุนแม้จะถือเสมือนสามารถดึงต้นทุนออกบางส่วน โดยไม่ต้องขายคืนให้ผิดข้อกำหนด แต่ก็จะหมายถึงอาจจะเป็นการเพิ่มภาระทางภาษีไปแทนครับ แต่เงินปันผลที่ได้ออกมา อาจจะสามารถนำกับมาเป็นเงินลงทุนใหม่เพื่อ ใช้นำไปลดหย่อนภาษีได้ ความต้องการของแต่ละคน แต่ละมุมมองอาจแตกต่างกัน ไม่น่าจะมีอะไรที่ดีที่กว่ากันครับ จากคุณ : pjuk - [ 11 ก.พ. 52 18:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหตุผลที่ SCBLT3 และ SCBPMO ต้องถือหุ้นใน Set50 เนื่องจาก สภาพคล่อง และ Weighing ใน SET Index ที่ใช้เป็น Benchmark ครับ ถ้าลองไปดูใน Factsheet เก่าๆ ก็มีหลายช่วงที่ถือ MAI ขึ้นมาติด Top five ครับ เช่น TRC, UMS แต่ถ้าดูเป็นรายหุ้น จะเห็นว่า SCBPMO และ SCBLT3 จะ Overweight ใน MAI อยู่เยอะเหมือนกันถ้าเทียบกับ Market wieght ในตลาด หลายตัว กองทุนเป็น Major Shareholders เลยด้วยครับ ถือ น้อยกว่าเจ้าของนิดเดียวเอง ลองศึกษา ดูนะครับ จากคุณ : เด็กฟาร์ - [ 11 ก.พ. 52 19:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ีีupdate นะครับ ลองไปดู annual report แล้ว สำหรับ LT3 นี่มี mai ประมาณ 20% ครับ ส่วน LT4 นี่มีต่างประเทศคือ ลงใน Templeton อยู่ 2% เหอๆ ยังไงก็ขอบคุณมากครับ จากคุณ : หะหลุก - [ 11 ก.พ. 52 23:02:32 ]