Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    (กระทู้ ... เปรียบเทียบ) การดำเนินงานกองทุนรวม LTF & RMF

    สำรวจผลดำเนินงานกองทุนรวม LTF & RMF 2551
    http://www.moneychannel.co.th/Menu6/TradingHour/tabid/86/newsid480/78773/Default.aspx

    Posted on Tuesday, February 10, 2009

    เมื่อ เริ่มเข้าสู่ปีใหม่ 2552 ผมขอถือโอกาสนี้กล่าวถึงเงื่อนไขปัจจัยต่างๆของตลาดหุ้นในรอบปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็จะได้พิจารณาปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อตลาดการลงทุนในปี 2552 นี้ด้วย ดังที่ท่านผู้อ่านได้ทราบว่าภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นและภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ในปีที่ผ่านมาตกต่ำลงอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ ในช่วง 12 เดือนก่อน ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงมากกว่า 50% ถือเป็นปีที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

    แม้ ว่าภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นจะเต็มไปด้วยอุปสรรคความท้าทายต่างๆนานา แต่กองทุนรวม LTF และ RMF ก็ยังขยายตัวเติบโตต่อไป เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2551 มีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF ทั้งหมด 52 กองทุนโดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวม 45.4 พันล้านบาท (ดูตารางที่ 1)

    ส่วนกองทุนรวม RMF ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆนั้น ในส่วนที่เป็นกองทุนรวมหุ้นมี 18 กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารคิดเป็นมูลค่า 6.3 พันล้านบาท (ดูตารางที่ 2)

    สำหรับกองทุนตราสารหนี้มี 20 กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารคิดเป็นมูลค่า 13.6 พันล้านบาท ส่วนกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น มีรวม 13 กองทุน มีสินทรัพย์ฯรวม 8.3 พันล้านบาท และกองทุนเงินสดมี 10 กองทุนมีสินทรัพย์ฯรวม 6.6 พันล้านบาท

    หากดู ในแง่ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารแล้ว กองทุน LTF มีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่ากองทุน RMF ซึ่งมีสินทรัพย์ฯรวม 36.8 พันล้านบาท ที่เป็นเช่นนี้เพราะผลประโยชน์ทางภาษีที่เงินลงทุนในกองทุนรวม RMF ได้รับการยกเว้นจำนวน 500,000 บาทนั้น ต้องนับรวมเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย ซึ่งผู้บริหารระดับสูงที่มีรายได้เยอะๆส่วนมากมักจะหักเงินเข้ากองทุนสำรอง เลี้ยงไปจนเต็มเพดานแล้ว

    เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมเชื่อว่าเงินก้อนใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF และ RMF จะมีขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆทางเศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้น และเม็ดเงินเริ่มกลับเข้ามาแสวงหาผลตอบแทนในตลาดหุ้นกันอีกครั้ง นักลงทุนถูกดึงดูดเข้าสู่ผลประโยชน์ในเชิงโครงสร้างของกองทุนรวม 2 ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประโยชน์ในเรื่องของภาษีและสภาพคล่องรายวัน

    ประโยชน์ด้านภาษี ในปี 2551 ที่ผ่านมาได้มีการปรับวงเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษี โดยเพิ่มให้เป็น 700,000 บาท สำหรับเงินลงทุนในกองทุนทั้งสองประเภท ซึ่งรวมกันเป็นจำนวน 1.4 ล้านบาท แต่วงเงินจำนวนนี้เป็นลาภลอยมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว และมีอายุเพียงปีภาษีเดียว ในปี 2552 นี้วงเงินเพื่อการลดหย่อนภาษีของสองกองทุนจะถูกปรับลงมาที่กองละ 500,000 บาทเว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนใจเป็นอย่างอื่น

    สภาพคล่องรายวัน หมายถึงการเปิดให้ซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนสองประเภทนี้ได้คล่องตัวมาก ขึ้น ภาวะตลาดที่ผันผวนอย่างมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2551 ชี้ให้เห็นความจำเป็นว่าการลงทุนต้องมีความยืดหยุ่นคล่องตัว บลจ.หลายแห่งอนุญาตให้นักลงทุนซื้อขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF และ RMF เป็นรายวันแทนที่จะเป็นปีละ 2 ครั้งเหมือนที่ผ่านมา แม้ว่าความยืดหยุ่นเช่นนี้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่ากองทุนสองประเภทนี้เป็นการลงทุนระยะยาว ตามชื่อเรียกของกองทุนนั่นแหละครับ ดังนั้นนักลงทุนอาจจะเสียประโยชน์หากพยายามที่จะจับจังหวะตลาดในการเข้าหรือ ออกกองทุนก็เป็นได้

    มองไปในอนาคตข้างหน้าผมเชื่อว่าตลาดกองทุนรวม LTF และ RMF จะโน้มเอียงไปในทิศทางที่มีการออกแบบโปรดักส์ในลักษณะที่มีมูลค่าเพิ่มมาก ขึ้น นักลงทุนในยามนี้มองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนแบบมาตรฐาน ทั่วๆไปและต้องการผลตอบแทนมากกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม โดยใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงต่างๆ เช่น เทคนิคการซื้อ/ขายหุ้นเพื่อเอาชนะดัชนี

    กรณีที่เกิดขึ้นแล้วคือกอง ทุนรวม LTF ในจำนวน 52 กองทุนในปีที่ผ่านมา ปรากฎว่ากองทุนรวม LTF ที่มีผลดำเนินงานดีที่สุดทำผลตอบแทนได้ถึง 6% ส่วนกองที่แย่ที่สุดมีผลดำเนินงานติดลบสูงถึง -51% ! ที่มากกว่านั้นคือกองทุนหลายแห่งมีผลดำเนินงานที่ดีกว่ากองทุนดัชนี SET50

    ใน ช่วงกว่า 3 ปีมานี้ มีกองทุนรวม LTF 29 กองทุนให้ผลตอบแทนติดลบ -19% ช่องว่างระหว่างกองที่มีผลดำเนินงานดีที่สุด (ให้ผลตอบแทนติดลบ -4%) กับกองที่มีผลตอบแทนแย่ที่สุด (ติดลบ -36%) ห่างกันมากทีเดียว ทำไมการทำผลตอบแทนของกอง LTF จึงต่างกันมากเช่นนี้?

    ประเด็นความ ผันผวนของตลาดเป็นสาเหตุประการหนึ่ง ในช่วงเวลากว่า 10 ปีจนถึงปี 2551 ตลาดหุ้นไทยสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนในประเทศในอัตราที่ต่ำกว่าผลตอบแทนจาก พันธบัตรรัฐบาลและมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่สูงมากถึง 47% (ดูตารางที่ 3) ดังนั้นเมื่อนักลงทุนมองดูผลตอบแทนหลังจากปรับค่าความเสี่ยงแล้ว ผลประโยชน์ทางภาษีจำนวน 500,000 บาทต่อปีถือว่าไม่เพียงพอหรือว่าไม่คุ้มค่าความเสี่ยงที่สูงๆเช่นนี้

    มุม มองนี้อาจช่วยอธิบายสาเหตุว่าทำไมกองทุนรวม RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจึงเป็นกองทุนที่มีสินทรัพย์ขนาดเล็กที่สุดเมื่อ เทียบกับกองทุนรวม RMF ที่ลงทุนในพันธบัตรและเงินสด พูดง่ายๆคือนักลงทุนจำนวนมากต้องการเพียงประโยชน์เรื่องค่าลดหย่อนภาษี จึงใส่เงินไว้ในกองทุนรวม RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้แม้กองฯประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนต่ำก็ตาม

    ถือ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ และยังทำให้เป้าหมายการจัดตั้งกองทุนรวม RMF เพื่อกระตุ้นการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทยไม่บรรลุวัตถุประสงค์อีกด้วยครับ

    อย่าง ไรก็ดี สิ่งต่างๆเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเช่น Index Futures และ Options ได้เข้ามาสู่ตลาดในปี 2550 รวมทั้ง Stock Futures หุ้นรายตัวเริ่มเปิดเทรดในปี 2551 ผู้จัดการกองทุนหลายแห่งตอนนี้ได้เสนอโปรดักส์ใหม่สู่ตลาด ได้แก่ "Equity long/short Funds" โดยส่วนหนึ่งของเงินลงทุนในพอร์ตนำไปลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่ไปลงทุนระยะสั้นในพอร์ตที่มีนโยบายลงทุนระยะยาว ตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของการลงทุนด้วยแนวทางนี้และผลที่ได้รับยังไม่ ชัดเจนทีเดียวนัก กองทุนรวมที่ทำและประสบความสำเร็จคือ กองทุนรวม 1AM Smart Fund ซึ่งมีผลตอบแทนเป็นบวก 6% ในปี 2551 ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงเกือบ 50%

    การเอาชนะดัชนี (Enhanced Indexing) ก็เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ โดยมีการนำเกณฑ์บางตัวมาใช้ เช่น ทำผลตอบแทนต่อหุ้นน้อยๆ, อัตราเงินปันผล, มูลค่าตามราคาตลาด เป็นต้น เพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนแบบ “alpha” เทียบกับผลตอบแทนจากกลุ่มของหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง เช่น หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET50

    กองทุนที่ใช้เทคนิคเหล่านี้ถูกให้ นิยามว่ามีนโยบายลงทุนแบบ “กึ่งๆตั้งรับ” หรือ semi-passive ในแง่ที่ว่ามันไม่ใช่กองทุนดัชนีโดยแท้จริง แต่เป็นกองทุนดัชนีในเวอร์ชั่นที่ให้ผลตอบแทนของพอร์ตลงทุนค่อนข้างต่ำ

    อีก ปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนควรระมัดระวังคือการให้โปรโมชั่นเป็นสิ่งของต่างๆ ซึ่งบลจ.นิยมทำกันมาก นอกจากการแจกหรือแถมเครื่องเล่น DVD และ iPods แล้ว ตอนนี้นักลงทุนสามารถซื้อกองทุนรวม RMF และ LTF โดยวิธีรูดบัตรเครดิตและยังได้คะแนนเพื่อสะสมไมล์บินฟรี บางกรณียังสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 6 เดือน

    แต่น่าเศร้านะครับว่า กองทุนที่มีของแจกของแถมมากมายนั้นมักจะมีผลดำเนินงานแย่สุดๆ ผมจึงขอแนะนำให้นักลงทุนปรึกษานักวางแผนการเงินที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับกอง ทุนที่ควรจะลงทุน และอย่าไปหลงอยู่กับสิ่งของล่อใจให้ซื้อกองทุน เพราะในระยะยาวแล้วคะแนนสะสมในบัตรเครดิตของท่าน หรือแม้แต่เครื่องเล่น DVD ก็ไม่อาจทดแทนผลดำเนินงานของกองทุนที่ย่ำแย่ได้หรอกครับ

    จากคุณ : kasimasi - [ 17 ก.พ. 52 09:03:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom