Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ๙ แล้ว ๐ ๐ แล้ว ๙ ศัพท์มวยวัดในการเล่นหุ้น ซึ่งลืมทิ้งไว้คอมนานมาแล้ว

    พอดีเข้าไปตอบกระทู้คุณแกนดี้แล้ว  ไม่รู้จะหยิบอะไรมาเป็นภาพประกอบ
    ก็เลยเอาที่เซฟไว้มาหลายปีแล้วมาลงเป็นภาพประกอบ


    อ่านเอาเองก็แล้วครับ  
    (อ่านเพิ่มเติมได้จากข้อความข้างล่าง)

    บางคนก็คงขำ  แต่บางก็คง madmadmadmadmad


    smilesmilesmilesmilesmile


    เมื่อกี้ไปค้นดู เจอต้นฉบับที่เขียนเป็นลายมือเอาไว้
    ตั้งแต่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เนต
    มีดังนี้ (ดัดแปลงบางข้อความให้เข้ากับเหตุการณ์)


    หุ้นก็คือหุ้น  เวลามันจะขึ้นมันก็ขึ้น  เวลามันจะลงมันก็ลง
    อย่าพยายามหาเหตุผลอธิบายว่า หุ้นขึ้นหรือลงเพราะอะไร
    เหตุผลที่ฟังดูฉลาดเต็มทีในวันนี้  
    อาจจะฟังคล้ายปัญญาอ่อนในวันรุ่งขึ้น


    นักลงทุนในตลาดหุ้นมีเพียงสองประเภทคือ
    พวกที่มีกำไร กับพวกที่ไม่มีกำไร

    ในวงการหุ้น  คำว่า"วิเคราะห์"
    เป็นศัพท์ภาษาสันสกฤตของคำในภาษาไทยว่า"เดา"


    ปลาใหญ่กินปลาเล็ก  เป็นกฏธรรมชาติที่มีข้อยกเว้น
    ถ้าท่านเป็นปลาเล็กแบบปิรันญ่าที่มีฟันคมกริบ  ถ้าอยู่กันเป็นฝูงๆ
    ปลาใหญ่แค่ไหน  ก็อาจจะโดนกินจนเหลือแต่ซาก
    จงเป็นปลาเล็กแบบปิรันญ่า อย่าเป็นปลาสร้อยปลาซิว


    ไม่ว่าภาวะตลาดหุ้นจะเป็นหมีหรือกระทิง  
    พวกหมูที่ไม่กลัวน้ำร้อนก็จะถูกเชือดเสมอ


    ไม่มีใครปั่นหุ้นได้  ถ้าไม่มีกองเชียร์คอยทำหน้าที่เจ้ากรมข่าวลือ
    และเป็นผู้ซื้อที่แสนดี  น่าเศร้าที่ฉากสุดท้ายมักจะจบลงด้วย
    ใบหน้ายิ้มแหยๆ เพราะเจ๊งหุ้น


    ตลาดหลักทรัพย์ไทยเต็มไปด้วยอินไซด์เทรดเดอร์  
    ข่าวที่ออกมาจากตลาดหลักทรัพย์ทุกข่าว  
    นักลงทุนรายย่อยก็คือพวกสุดท้ายในตลาดหุ้นที่รับรู้ข่าวนั้นเสมอ


    อาการของคนใกล้เป็นโรคประสาทจากหุ้นก็คือ
    ไม่อยากให้มีวันหยุดธนาคาร
    ไม่อยากให้มีเวลาปิดตลาด
    ฝืนหัวเราะๆพูดตลกฝืดๆ เวลาหุ้นที่ซื้อไว้ ตกไม่มีหูรูด
    และนึกด่าตลาดหลักทรัพย์
    ที่ให้หุ้นลงได้ตั้ง ๓๐ เปอร์เซนต์  
    ทำหน้ายิ้มหยิ่งๆ  นั่งกระดิกเท้าดูหุ้นที่ซื้อไว้พุ่งลิ่ว
    และนึกด่าตลาดหลักทรัพย์
    ทีทำไม่เข้าท่า  ให้หุ้นขึ้นได้แค่วันละ ๓๐ เปอร์เซนต์เท่านั้น !!!!

    พวกที่มองโลกในแง่ดีที่สุดในโลกคือ
    เจ้าของบริษัทที่กำลังจะเอาหุ้นเข้าตลาด
    ไม่เชือ่ก็ลองอ่านหรือฟังคำสัมภาษณ์ถึงอนาคตบริษัทของพวกเขา


    ในยามที่ตลาดหุ้นคึกคักสุดขีด  ถ้าท่านเป็นเจ้าของบริษัทที่กำลังจะเข้าตลาด
    ท่านจะกลายเป็นคนที่มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมากมายอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

    ตลาดหุ้นมีนักลงทุนที่แท้จริงไม่ถึง หนึ่งเปอร์เซนต์
    ไม่เชื่อก็ให้ลองนับจำนวนคนที่เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปีของบริษัทจดทะเบียน

    นักเล่นหุ้นแบบมาร์จิ้นคือนักเก็งกำไรร้อยเปอร์เซนต์
    ส่วนนักเล่นหุ้นแบบเงินสดก็คือ นักเก็งกำไรที่จำเป็นกลายเป็นนักลงทุนเมื่อหุ้นตก


    นักวิเคราะห์หุ้นก็เหมือนกับโค้ชนักกีฬา  สอนได้สารพัดและรู้จริงซะด้วย
    แต่ขืนลงไปเล่นเองเมื่อไร  อาจจะแพ้ไม่เป็นท่า  นักลงทุนที่ดี
    ควรทำตัวเหมือนกับนักกีฬาชั้นนำของโลกที่นำคำแนะนำของโค้ช
    มาประสานกับความสามารถเฉพาะตัว จนได้รับชัยชนะ



    แม้แต่นอสตราดามุสยังไม่กล้าทำนายเกี่ยวกับตลาดหุ้น
    แล้วท่านเป็นใคร จึงกล้าพยากรณ์ว่าหุ้นจะเป็นเช่นไรในอนาคตอันแสนไกล


    ข้อสุดท้าย  จำให้แม่นๆเลยถ้าใครมาขอหุ้นเด็ด

    ให้พูดแบบหลวงพ่อคุณ  
    ที่เขียนตอบคนมาขอหวยเลขเด็ด
    จนทำเอาคนขอหวยเด็ด  อ่านแล้วถึงกับหงายหลัง


    "กูไม่รู้  ถ้ากูรู้  กูก็รวยไปนานแล้ว"


    smilesmilesmilesmilesmile







    แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 11:07:04

    แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 10:30:55

    แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 09:45:26

    แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 09:39:49

     
     

    จากคุณ : endophine - [ 20 ก.พ. 52 08:39:09 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom