คำสารภาพ เอ๊ยคำบรรยายประกอบภาพ
เมื่อวานนี้ ตอนเย็น
ขณะที่ข้าพเจ้านอนเล่นอยู่บนเก้าอี้ไม้สักทองเพลินๆ
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ไร้สายก็ดังขึ้น
ข้าพเจ้าสั่ง เอ๊ยขอร้อง ให้ภรรยาซึ่งกำลังนั่งทำงานวิชาการอยู่หน้าโน๊ตบุค
ให้ช่วยรับสายให้ด้วย
ที่แท้ กากี่นั้งโทรมาคุยด้วย
ความเดิมที่ไม่มีใครรู้ก็คือ
เมื่อห้าหกปีก่อน
ข้าพเจ้าได้ช่วยสั่งซื้อหุ้นเกี่ยวกับโกดังเก็บของ เก็บเอกสาร
ให้กากี่นั้ง (เป็นอานึ๊ง แปลกันเอาเอง)
ไปประมาณ สามหมื่นกว่าหุ้นที่พาร์ ๑๐ บาท
ณ.ราคาซื้อเฉลี่ยในตอนนั้น ประมาณ ๓๕ บาท
เท่ากับราคาตอนนี้ที่ ๓.๕๐ บาทจากพาร์ ๑ บาท
ก็ถือเก็บกินเงินปันผลเป็นน้ำซึมบ่อทรายมาเรื่อยๆ
ในอัตราผลตอบแทน ที่ดีกว่าฝากกินดอกเบี้ยธนาคารหลายเท่าตัว
แล้ววันเวลาก็ผ่านไป
เมื่อผู้เดินทางแสวงหาเงินจากตลาดหุ้น ผู้ยิ่งใหญ่กลุ่มหนึ่ง
ได้ขอเข้าไปร่วมแจมถือหุ้นบริษัทนั้นด้วย
ท่ามกลางใบหน้าที่ยิ้มๆ แต่สายตาหวาดระแวงของผู้ถือหุ้นรายใหญ่
จากหุ้นหนึ่งขีด ราคาหุ้นก็ค่อยๆเลื่อนดิวิชั่นกลายเป็นหุ้น สองขีดเอ
และแล้วเมื่อวานนี้ ก็ขึ้นไปติดท็อบเทนเกนเนอร์
ทำท่าจะกลายเป็นหุ้นและวอร์แรนท์สามขีดไปแบบ
ไม่ต้องยื่นไฟลลิ่งกับ กลต. รายย่อยในห้องสินธรไม่ต้องร้องขอให้ช่วยปั่น
(สงสัยรายย่อยคิดว่า เจ้ามือเป็นพ่อพระมาจากสภากาชาดหรือไม่ก็ปอเต๊กตึ้ง
มีหน้าที่ซื้อขายหุ้นเป็นการกุศล บำบัดทุกข์ให้กับรายย่อย )
กากีนั้งได้โทรมาถามความเห็นว่า
ควรจะขายทิ้งดีหรือไม่ คุยไปคุยมาเลยได้รู้ความจริงว่า
เมื่อตอนวอร์แรนท์ หรือธนบัตรที่บริษัทพิมพ์ออกมาใช้เอง
เริ่มเข้าตลาดเป็นวันแรก เมื่อวันอังคารที่แล้ว ???
ข้าพเจ้าได้ออกบทวิเคราะห์แนะนำไปว่า
"ให้ขายหุ้นแม่ทิ้งให้หมด
แล้วถือแต่ธนบัตรที่เขาพิมพ์แจกให้ใช้ฟรีก็แล้วกัน"
ปรากฏว่ากากี่นั้งก็ทำตามที่แนะนำเหมือนกัน
แต่ทำตามไม่ถึงหนึ่งในสาม
คือขายหุ้นแม่ไปที่ราคาแถวๆ ๘ บาทต้นๆแค่จับบ่วงโก๊ว (แปลเอาเอง)
แต่กลับขายทิ้งวอร์แรนท์แปดหมื่นกว่าหน่วย จนเกลี้ยงพอร์ต
คือทำสวนกระแสกับบทวิเคราะห์ที่กู(ไม่)รู้แนะนำไปนั่นแหละ
แรกๆ หุ้นแม่ก็ลงต่อไปอีก ทำให้มูลค่าหายไปสองแสนกว่าบาท
ข้าพเจ้านั่งนึกยิ้มในใจว่า
เห็นแมะ ถ้าไม่ขายหุ้นแม่ทิ้งให้้หมด จะเกิดอะไรขึ้น ???
ผลปรากฏว่า มาถึงเมื่อวานนี้
ถ้าทำตามที่กู(ไม่)รู้อย่างข้าพเจ้าแนะนำไปในตอนแรก
ก็เท่ากับว่า ส่วนต่างจากหุ้นแม่จะหายไปประมาณ ๔ แสนบาท
แทนที่จะเป็นส่วนต่างจากวอร์แรนท์ที่หายไปแค่ ๘ หมื่นบาทแทน
เมื่อคืนนี้เลยกัดฟัน ออกบทวิเคราะห์ซ้ำอีกรอบว่า
วันนี้ให้
!@##$%^&*()_ )(*&^%$$#@@!
เฮ้อ ใครจะไปรู้อนาคตจริงหละ
วันนั้นคิดว่าบอกแม่นแล้ว
ที่ไหนได้ อีกอาทิตย์ต่อมาก็กลายเป็น "เดาส่งเดช"
ดันลืม คติคดประจำสำนักไปได้
ในวงการหุ้น คำว่า"วิเคราะห์"
เป็นศัพท์ภาษาสันสกฤตของคำในภาษาไทยว่า"เดา"
แม้แต่เจ้ามือคนปั่นก็ยังไม่รู้อนาคตตัวเองเลย
ถ้าปั่นแล้ว ไม่มีรายย่อยแห่ตาม
เจ้ามือก็............................(เติมคำในช่องว่างกันเอาเอง)
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 10:09:34
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 09:03:42
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 08:56:45
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 08:50:32