Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ในเส้นสาย มีลายแทง

    คอลัมน์นี้เขียนมานานมากกกกกแล้วครับ ตั้งแต่ปี07แน่ะ
    เขียนลงในนิตยสารFinancial Freedom ในนามของชมรมโฉลก
    ตอนนั้นมีทีมกันสองสามคน ผมเริ่มเขียนตอนนี้เป็นตอนแรกเลย
    หลังจากนั้นรู้สึกจะออกมาอีกเล่ม ซึ่งผมเขียนบทความประกอบไป(มีผู้ชายหน้าตาดีเขียนบทความหลัก)
    แล้วนิตยสารก็พับตัวลงไปเลย(หรือมันจะเป็นเพราะคอลัมน์ของเราเนี่ยไม่ใช่หรอกเนอะ ^-^)

    พอเอามาอ่านรู้สึกว่าตัวเองยังเขียนขาดๆเกินๆไปหน่อย ยังพร่องในเหตุผลในหลายๆจุดด้วย
    แต่มาอ่านๆแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับมือใหม่ มือกลางเก่ากลางใหม่หลายๆคน
    วันนี้พอมีเวลา เลยพิมพ์ๆซะหน่อย เผื่อว่าหลายคนจะได้เข้าใจการใช้เทคนิคมากขึ้น
    เพราะในปัจจุบันผมยังเห็นหลายคนเข้าใจผิด หรือใช้ไปโดยไม่รู้ที่มาที่ไปแต่อย่างไร
    ผมรู้ว่าบางครั้งเราก้ไม่ต้องรู้หลักการทำงานของมันก็ได้ เหมือนกับเราเปิดสวิทไฟ เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าวงจรไฟฟ้าทำงานอย่างไร ส่งกระแสไฟอย่างไร
    แต่ก็อาจจะดีกว่า ถ้าเราพอรู้หลักการคร่าวๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าได้
    เช่นกัน การใช้เทคนิค อาจไม่จำเป็นต้องรู้พืนฐาน และที่มาก็ได้ เราก็ใช้รูปแบบราคา ใช้อินดิเคเตอร์มาคาดการณ์ได้
    แต่ก็อาจจะดีกว่า ถ้าเรารู้ว่าหลักการพวกนี้มาจากไหน เผื่อเราจะพัฒนาต่อไปในขั้นสูงได้ในอนาคตครับ อิอิ

    (@_@)
    ---------------------------------------------------------------------------
    ถ้าชีวิตนี้มีทางเลือกสองทาง ทางแรก คือคุณสามารถเลือกทำอะไรก็ไก้กับชีวิตของคุณ เช่น วันจันทร์ไปไหว้พระที่ภูฏาน เดือนหน้าไปช็อปปิ้งที่ลอนดอน หน้าหนาวไปนอนอาบแดดที่ชายทะเลแคริบเบียน ฯลฯ โดยไม่ต้องพะวงกับงานที่ทำหรือกังวลกับค่าใช้จ่าย กับทางเลือกที่สอง คือ ทำงนแปดชั่วโมงต่อวัน ห้าวันต่อสัปดาห์ คุณอยากได้ชีวิตแบบไหน? และคุณคิดว่าคนอื่นๆอยากได้ชีวิตแบบไหนกัน?

    ผมเชื่อว่าทางเลือกแรก หรือที่เรียกกันว่า “ชีวิตที่มีอิสรถาพทางการเงิน”นั้น คงมีคนเลือกมากกว่า95%อย่างแน่นอน เพราะชีวิตเรานั้นมีเวลาจำกัด ใครมีอายุเกิน80ปี ก็ถือว่ามีอายุยืนยาวมากแล้ว ดังนั้นในเวลาที่มีอยู่นี้ คงอยากทำอะไรตามที่ใฝ่ฝัน มากกว่ามานั่งทำงานในออฟฟิศอย่างแน่นอน

    โรเบิร์ต คิโยซากิได้แบ่งมือที่จะนำไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าไว้สามกลุ่ม คือ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ และตราสารทางการเงิน ใรคอลัมน์นี้จะเป็นการพูดคุยถึงการลงทุนในตราสารทางการเงินที่เรียกว่า “หุ้น” การลงทุนในหุ้นนั้นมีมากมายหลายวิธี ในที่นี้ผมจะแบ่งคร่าวๆเป็นกลุ่มใหญ่ๆสามกลุ่มด้วยกัน

    กลุ่มนักลงทุนคุณค่า กลุ่มนี้เน้นไปที่ การซื้อบริษัทที่มีราคาถูกกว่าที่คำนวณได้ ชอบ”ของดีราคาถูก”

    กลุ่มนักลงทุนทางเทคนิค กลุ่มนี้ดูที่ราคาอย่างเดียว ”ซื้อแพงได้ แต่ต้องขายแพงกว่า”

    กลุ่มอารมณ์มวลชน พวกนี้เชื่อว่าคนกลุ่มใหญ่ผิดเสมอ จึงซื้อเมื่อคนส่วนใหญ่ขาย ขายเมื่อคนส่วนใหญ่ซื้อ

    อันที่จริงแล้ว การลงทุนในหุ้นนั้นไม่มีวิธีไหนที่ถือว่าถูกต้องที่สุด รือดีที่สุดสำหรับทุกๆคนนะครับ การลงทุนที่ดีอย่างแท้จริงนั้น คือการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนเราได้ตามที่เราต้องการ ”ซึ่งความต้องการนั้นต้องสมเหตุสมผลด้วย” ดังนั้นการลงทุนจะต้องเริ่มต้นจากการค้นหาตัวเองก่อนว่าเราต้องการผลตอบแทนเท่าไร ภายในระยะเวลาเท่าไร มีเงินทุนเริ่มต้นเท่าไร และจะพร้อมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ฯลฯ จากนั้นจึงมาวางแผนการว่า ”จะทำได้อย่างไร?” หุ้นนั้นก็เป็นเพียงแค่”ยานพาหนะ” การลงทุนประเภทหนึ่งเท่านั้น และการลงทุนในหุ้นเอง ก็ยังแบ่งได้อีกหลายวิธีดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งวิธีที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้นั้น เป็นการรวมเอาความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค(Technical Analysis) และการบริหารเงินเพื่อการลงทุน(Money Management) มาประกอบกันเป็นระบบพื่อใช้ในการตัดสินใจลงทุน หรือที่เรียกว่า“Mechanical Trading System”ครับ ซึ่งวิธีการลงทุนอย่างเป็นระบบนี้ นอกจากจะสามารถใช้ได้กับหุ้นแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ได้กับตราสารอนุพันธ์ต่างๆ เช่นSET50 Index Futuresในตลาดตราสารอนุพันธ์(TFEX) และสัญญาซื้อขายลวงหน้าต่างๆนตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(AFET)ได้อีกด้วย

    การลงทุนอย่างเป็นระบบนั้น หมายถึงการที่เราตัดสินใจซื้อ-ขาย ตามสัญญาณจากระบบที่เราออกแบบ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่เราต้องการ โดยใช้ความรู้ทางเทคนิคมาช่วยบอกจุด(ราคา) ที่จะซื้อแบะขาย ส่วนจำนวนหุ้นที่จะซื้อ-ขายนั้น จะใช้ความรู้จากส่วนของ Money Managementมาช่วยครับ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะขอพูดถึงรายละเอียดในตอนต่อๆไปนะครับ

    สำหรับในตอนแรกนี้ ผมจะขอแนะนำการลงทุนด้วยวิธีทางเทคนิคสักเล็กน้อยก่อนนะครับ เพราะยังมีอีกหลายคนที่สงสัยแบะอาจจะเข้าใจผิดไปต่างๆนาๆ เช่น คิดว่าเป็นการลงทุนของพวกเก็งกำไรเท่านั้น การเอาราคาในอดีตมาทำนายอนาคตนั้นไม่มีเหตุผล ไม่มีทางทำได้ และที่ถูกเข้าใจผิดมากที่สุด ”การลงทุนทางเทคนิค ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จ” ...ผมขอลองมาเป็นทนายแก้ตางกันเป็นข้อๆไปนะครับ

    อันดับแรกที่หลายคนพูดถึงเสมอ คือ ”การลงทุนทางเทคนิคนั้น ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จ” เป็นคำถามที่น่าคิดครับว่า ”ไม่มีคนสำเร็จจริงๆ หรือคุณไม่รู้เองว่ามีคนที่ประสบความสำเร็จ” จากประสบการณ์ของผม พบว่ามีหลายคนที่ลงทุนด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วประสบความสำเร็จ จนมีอิสระภาพทางการเงิน ไม่เพียงแค่นั้นนะครับ บริษัทรับลงทุนบางแห่งก็ยังใช้แต่วิธีการลงทุนทางเทคนิคอย่างเดียว ซึ่งถ้าหากท่านต้องการรวยระดับโลกผมไม่แน่ใจว่าการลงทุนทางเทคนิคคือคำตอบหรือไม่ แต่หากต้องการอิสรภาพทางการเงิน วิธีการลงทุนทางเทคนิคนั้นพอเพียงอย่างล้นเหลือเลยครับ

    จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา - [ 13 มี.ค. 52 01:51:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom