ความคิดเห็นที่ 1 จุดแรกที่สงสัยคือ สถานะของ KTB เป็นธนาคารเอกชนหรือ ธนาคารของรัฐ (ธนาคารของรัฐในที่นี้คือ KTB เป็นรัฐวิสาหกิจ) จุดนี้ต้อง ดูว่า"กองทุน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน" ที่ถือหุ้นของ KTB จำนวน6,156,635,967หุ้นคิดเป็นร้อยละ 55.07 เป็นหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ถ้าใช่ สถานะของ KTB คือเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งของประเทศไทย ถ้าไม่ใช่ KTB เป็นธนาคารเอกชน หมายเหตุ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4 รัฐวิสาหกิจ หมายความว่า ก. องค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ข. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล  ที่ส่วนราชการมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ ค. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ก) และ/หรือ (ข) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ ง. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ค) และ/หรือ (ก) และ/หรือ(ข) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ จ. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ง) และ/หรือ (ก) และ/หรือ (ข) และ/หรือ (ค) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่า ร้อยละห้าสิบ ยกมาจาก http://www.sepo.go.th/b02.html จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 09:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประการที่สอง เมื่อ KTB เพิ่มทุน ราคา 10 บาท ผลกระทบที่ตามมาทันทีคือ หากราคาหุ้นของ KTC ต่ำกว่าราคาเพิ่มทุน ทำให้ เกิดการด้อยค่าของการลงทุนทันที จุดนี้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ KTB หรือเปล่า ผู้ที่รับผิดชอบในการที่ทำให้ KTB เกิดความเสียหายดังกล่าวคือใคร กระทบต่อเงินกองทุนของ KTB หรือไม่ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 09:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประการที่สาม ผลของการเพิ่มทุนครั้งนี้ หาก KTB ถือ KTC เกิน 50% KTC จากเดิมที่เป็นบริษัทเอกชน เปลี่ยนสภาพเป็น รัฐวิสาหกิจหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4 รัฐวิสาหกิจ หมายความว่า ก. องค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ข. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล  ที่ส่วนราชการมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ ค. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ก) และ/หรือ (ข) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ ง. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ค) และ/หรือ (ก) และ/หรือ(ข) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ จ. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ง) และ/หรือ (ก) และ/หรือ (ข) และ/หรือ (ค) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่า ร้อยละห้าสิบ ยกมาจาก http://www.sepo.go.th/b02.html จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 09:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประการที่สี่ การทำงบการเงินรวม ปัจจุบันในงบการเงินรวมของ KTB มอง KTC เป็นบริษัทย่อยเท่านั้น เพราะ KTB ยังไม่มีอำนาจในการควบคุม KTC ได้อย่างเต็มที่ (อันนี้ตามกฏหมาย และมาตราฐานบัญชี) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง หลังจากการเพิ่มทุนแล้ว KTB ถือหุ้น KTC เกิน 50% แล้ว งบการเงินรวมของ KTB มอง KTC เป็นบริษัทลูก เพราะ KTB มีอำนาจควบคุมตัวบริษัท KTC จุดนี้คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลังจากการเพิ่มทุน KTC แล้วเสร็จ  KTB ถือหุ้น KTC เกิน 50% จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 10:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 KTB เป็นธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ครับ... จากคุณ : BIG M Z20 - [ 5 เม.ย. 52 10:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประการที่ห้า การครอบงำกิจการของ KTB ครั้งนี้ เข้าข่ายที่ต้องทำ tender offer หรือไม่ ต้องดูจาก สำนักงานกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ http://www.sec.or.th/takeover/Category_Template_3_Base_2F_000005.jsp?categoryID=CAT0000007&lang=th ซึ่งหน้าแสดงผลดังกล่าวมีเอกสารอยู่ 2 ตัวที่น่าสนใจคือ 1. ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 6/2552  เรื่อง "การกระทำการหรืองดเว้นกระทำการในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ" http://capital.sec.or.th/webapp/nrs/data/4586s.pdf 2. ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 3/2552  เรื่อง "ข้อกำหนดพิเศษเกี่ยวกับการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติการเงินในต่างประเทศ" http://capital.sec.or.th/webapp/nrs/data/4580s.pdf อันนี้ดูข้อ 6 ดีๆๆ เลยไม่รู้ว่า กรณีนี้เข้าข่ายตัวไหน กันแน่ :) แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 52 10:26:22 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 52 10:17:01 จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 10:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สถานะนี้ KTC ก็เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่จะแยกตัวมาเป็นบริษัทเอกชน ที่ KTB ถือหุ้นไม่เกินกึ่งหนึ่ง แนวโน้ม KTB คงอยากจะดึง KTC กลับมาเพราะมองเห็นประโยชน์ และที่สำคัญน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บัตรเครดิต ของ KTC เพราะ จะได้รับสิทธิพิเศษ และบริการที่ดีผสานกับบริการของธนาคารเอง อันดับแรกเลย เราคงได้เห็นใน KTB Online กับ Click KTC มาอยู่ ที่เดียวกันเสียที่ / และเราอาจได้เห็นการใช้บัตร KTC ซื้อ RMF/LTF ของ KTBAM ได้ด้วย เป็นต้น ดังนั้นน่าจะเป็นของดีครับ ส่วนผลกำไรแม้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่เพิ่มทุน ก็คงจะได้ความมั่นคงของบริษัท ปริมาณผู้ใช้บัตรมาชดเชยได้บ้าง ซึ่งหมายถึงรายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น ดังเห็นได้จากบัตรเริ่มออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆออกมา เช่น Co-กับธนาคารออมสิน ออกบัตร/บัตรหน่วยงานราชการของ KTC น่าสนใจนะครับ เพราะต่อไป KTC คงจะเป็นบริษัทที่มีแหล่งเงินทนุ ที่แข็งแกร่งไว้หมุนเวียนต่อไปครับ หลายๆธนาคารมีหน่วยงานเกี่ยวกับสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่แล้ว SCB,KBank,etc. ล้วนมีอยู่แล้วทั้งสิ้น ผิดกับ KTB ซึ่งแยก KTC ออกมาเป็นบริษัท ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาแล้วครับ อิอิ จากคุณ : superman2007 - [ 5 เม.ย. 52 10:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ supperman 2007 หลงประเด็นของผมแล้วครับ ผมชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ มีอะไรอยู่ใต้พรมอยู่ ผมมองออกว่า KTC ในอนาคตหลังจากการเพิ่มทุนครั้งนี้แล้วแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน แต่เหล่าผู้ถือหุ้นได้อะไรจากการเพิ่มทุนครั้งนี้หรือไม่ ประเด็นของสิ่งที่อยู่ใต้พรมมีอะไรบ้างครับ เพราะไม่มีฝ่ายไหนออกมาให้ข้อมูลเลยว่า เสร็จจากการเพิ่มทุนแล้ว สถานะของ KTC อยู่ที่ไหน เนี่ยผมยังไม่รวมประเด็นเรื่องคณะกรรมการ ของรัฐวิสาหกิจด้วย :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 10:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 http://www.moac.go.th/knowledgebase/uploadfile/0401_7.pdf อ่านข้อ 5 -7 มาตรา ๕ กรรมการของรัฐวิสาหกิจนอกจากต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามตามที่กำหนดไว้สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ แล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามดังต่อไปนี้ด้วย (๑) มีสัญชาติไทย (๒) มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ (๓) มีคุณวุฒิและประสบการณ์เหมาะสมกับกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ (๔) ไม่เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย (๕) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษ สำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๖)๔ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งกรรมการตาม บทบัญญัติแห่งกฎหมาย (๗) ไม่เป็นกรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ความใน (๑) มิให้ใช้บังคับแก่กรรมการชาวต่างประเทศที่รัฐวิสาหกิจจำเป็นต้อง แต่งตั้งตามข้อผูกพัน หรือตามลักษณะของกิจการ มาตรา ๖ ให้รัฐวิสาหกิจมีกรรมการได้รวมทั้งสิ้นไม่เกินสิบเอ็ดคน แต่ถ้า รัฐวิสาหกิจใดมีข้อกำหนดให้มีกรรมการน้อยกว่าสิบเอ็ดคนก็ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้นั้น รัฐวิสาหกิจใดมีความจำเป็นต้องมีกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคน ให้รัฐมนตรีเจ้า สังกัดเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีได้เป็นการเฉพาะราย แต่ทั้งนี้จำนวนกรรมการรวมทั้งสิ้น ต้องไม่เกินสิบห้าคน๕ มาตรา ๗ ผู้ใดจะดำรงตำแหน่งกรรมการในรัฐวิสาหกิจเกินสามแห่งมิได้ ---------------------------------- อันนี้ต้องดูกันหลังจากเพิ่มทุนว่า สถานะของ KTC เป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 10:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทุกอย่างนี้คือ ผมให้ความรู้แก่คนที่อ่าน งานนี้ คนที่เข้าร่วมประชุม KTB ควรถาม 1. ความคิดของกรรมการอิสระของ KTB ว่าเรื่องการเพิ่มทุนของ KTC นี้สมเหตุสมผลหรือไม่ มีการพิจารณาที่รอบคอบหรือไม่ 2. หลังจากดำเนินการเพิ่มทุนแล้ว KTB ถือหุ้นเกิน 50% ต้องทำ tender หรือไม่ 3. คณะกรรมการบริหารของ KTB มองเห็นอะไรในการเพิ่มทุนของ KTC ครั้งนี้ นี้คือสิ่งที่ผู้ที่เข้าร่วมประชุมของ KTB ควรนำไปถามครับ เพื่อให้ได้ความโปร่งใสในเรื่องดังกล่าว เพราะ มันมีวาระที่ 10 ที่ว่า "10) พิจารณาอนุมัติการซื้อหุ้นของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติ        ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551          ความเห็นคณะกรรมการ เห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นควรอนุมัติให้ธนาคารซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามสิทธิ        หรือซื้อหุ้นของบริษัทฯ ด้วยวิธีการอื่นใดในอนาคต อันอาจจะทำให้ธนาคารได้มาซึ่งหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว        ทั้งหมดของบริษัทฯ และอนุมัติการมอบอำนาจตามที่เสนอ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของธนาคารในการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร " จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 10:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แค่เพิ่มในอัตรา หุ้นใหม่ 3 ต่อหุ้นเก่า 1 ผมว่าน่าจะทราบได้แล้วล่ะครับว่า KTB คงจะควบ KTC กลับไปแน่นอน เพราะตอนนี้ถืออยู่ไม่มาก ต้องเพิ่มให้ชัวร์ว่าคนอื่นไม่สู้แน่ๆ ซึ่งจังหวะนี้เป็นจังหวะดีเพราะราคาหุ้นตกลงมามาก ส่วนกองทุนฟื้นฟูเป็นของรัฐแน่นอนเพราะมีคนติดคุกโชว์ไปแล้ว ดังนั้น KTB เป็นรสก. บ.ลูก KTC ก็คงจะต้องเป็นรสก.ด้วยครับ ผมยังคิดอยู่ว่าน่าจะมีการ Tender Offer หุ้น KTC จาก KTB เพื่อรวมกิจการแบบเบ็ดเสร็จนะครับ เพราะราคาหุ้นตอนนี้มันน่าสนใจมาก จากคุณ : Bomb308 - [ 5 เม.ย. 52 10:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 tender offer หรือไม่นั้นเป็นเรื่องหลังครับ ต้อง clear ให้ได้ก่อนว่า KTB ซื้อแน่นอน และมีผลกระทบกับ KTB ครับ อันนี้ต้องสรุปให้ได้ก่อนครับ ถ้าสรุปไม่ได้ deal นี้ก็เกิดไม่ได้ ต้องผ่านการประชุมสามัญประจำปีของ KTB ไปก่อน ตอนนี้แต่ละคนยังหงายไพ่ยังไม่หมดครับ ต้องรอดูไพ่บนมือกันก่อนว่าเป็นอย่างไง ผมยังไม่อยากไปคิดว่า มันต้อง tender offer ซักที่เดียว :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 10:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ได้หลงประเด็นนะ ผู้ถือหุ้นเดิมได้อะไรบ้าง .... ผมตอบไปหมดแล้ว ด้านบน ส่วนใต้พรม ผมไม่ทราบครับ แต่ที่แน่ๆ ธุรกิจดี ดอกเบื้ยเงินกู้ 28% มีใครไม่อยากได้ครับ ฮ่าฮ่า จากคุณ : superman2007 - [ 5 เม.ย. 52 11:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 KTB ซื้อแน่นอนครับ ราคาระด้บนี้คิดว่า่ไม่มีคนอื่นซื้อ ส่วนเรื่องเพิ่มทุนก่อนนั้นเพื่ีอให้ง่า่ยต่อการทำ tender offer เพราะหลังจากนั้น KTB คงถือหุ้นใหญ่ไปแล้วหละครับ คาดว่าราคาที่ต้องทำ tender น่า่จะสูงกว่า 10 บาทแน่นอนถ้าทำตอนนี้ ในระยะสั้นและกลาง อาจกระทบหุ้น ktb และ ktc บ้าง แต่คาดว่า ktc คง delist ออกไปจากตลาด และผนวกเป็นส่วนหนึ่งของ ktb คนเล่น story คงซื้อในกระดานรับข่าว tender offer จากคุณ : ผมปล่าวนา - [ 5 เม.ย. 52 11:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนนี้ผมล่ะกลัวว่า เพิ่มทุนเสร็จแล้ว ktb ทำเรื่องถึง กลต ว่า ไม่ต้องทำ tender offer เนื่องจากกรณีเป็นการเพิ่มทุน แล้วคนอื่นไม่เพิ่มทุน เนี่ยคือปัญหาต่อไป ต้องถามในที่ประชุม ของ KTB ว่าทำแบบนี้หรือไม่ และที่ประชุมของ KTC ด้วย เนี่ยคือสิ่งที่ไม่กระจ่างในเรื่องดังกล่าว :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 21:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สิ่งต่อไปที่กลัวคือ คนไทยชอบเลี่ยงบาลี ต้องให้ศาลเป็นตีความประจำ อันนี้เป็นสิ่งที่กลัวมาก มันใช้เวลานานมากกว่าเรื่องถึงที่สุด คนไทยชอบเป็นศรีธนชัยกันจัง :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 5 เม.ย. 52 21:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตกลงถ้าถือหุ้น KTC อยุ่ (ต้นทุนก่อนหักปันผล 7.50) ควรขายทิ้ง และออกมาดูสถานะการณ์ก่อนจะดีกว่าไหม จากคุณ : kasimasi - [ วันจักรี 08:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบได้ว่า KTB ไม่จำเป็นต้อง tender offer แม้จะถือข้าม 75% (มีกฏที่ทำให้ได้รับการยกเว้นได้) และหาก KTB เพิ่มทุนแล้วถือเกิน 51% KTC จะกลายเป็นรัฐวิสาหกิจ สตง.ต้องเข้าตรวจสอบบัญชีเหมือนรัฐวิสาหกิจอื่น KTB ต้องจัดทำงบการเงินรวม แต่ในงบรวม KTB ไม่ต้องบันทึกด้อยค่าเงินลงทุน KTC แม้เงินเพิ่มทุนจะสูงกว่าราคากระดาน เพราะถือเป็นเงินลงทุนในบริษัทลูก ไม่ใช่เงินลงทุนในหลักทรัพย์ค่ะ จากคุณ : ชูวับชูวับ - [ 7 เม.ย. 52 07:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 http://www.sec.or.th/takeover/Content_0000000030.jsp?categoryID=CAT0000069 จุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อ (trigger point) 1. กรณีทั่วไป (1) 25 % ของสิทธิออกเสียง (2) 50 % ของสิทธิออกเสียง (3) 75 % ของสิทธิออกเสียง หมายเหตุ : จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการที่ใช้ในการคำนวณอัตราส่วนการถือหุ้นจะต้องหักจำนวนหุ้นที่กิจการซื้อคืน (treasury stock) ด้วย อันนี้คือข้อกำหนด "ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 53/2545 เรื่อง   หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์ เพื่อครอบงำกิจการ " ------------------------------- เดี๋ยวผมไปหามาตราฐานทางบัญชีให้ครับ http://capital.sec.or.th/webapp/nrs/data/775p.doc จากคุณ : Myth&Miracle - [ 7 เม.ย. 52 10:02:54 ]