ความคิดเห็นที่ 1 จิตวิทยาการลงทุน โดยส่วนตัว การเริ่มจากเงินออม แล้วนำเงินบ้างส่วนจากเงินออมมาลงทุน ดีกว่าการนำเงินออมทั้งหมด มาลงทุน เพราะความไม่แน่นอน คือสิ่งที่แน่นอน แม้ยอมการลงทุนไม่เป็นดังหวัง ก็ยังมีเงินออม ที่ทำให้เราไม่เคลียดจนเกินไป ควรแบ่งสัดส่วนเงิน อาจจะคงฝากประจำ อาจจะคงไว้ SFF เป็นการเพิ่มสภาพคล่อง เผื่อมีความจำเป็นในการใช้เงิน ส่วน SCBRF อาจจะลดสัดส่วน (ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมาแรง) เพราะสภาพคล่องน้อยไป อาจจะนำเงินส่วนนี้มาลงทุนในหุ้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุน ช่วงนี้พยายามศึกษา หาข้อมูลเพิ่มเติมไปพลางๆ ได้จังหวะดีก็ซื้อหุ้นเก็บไว้ผล ตอบแทนตอนนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย จากคุณ : superman2007 - [ วันฉัตรมงคล 18:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ซื้อ PF ได้ 4,500 หุ้น วันที่ 15 ปันผล ได้เงิน 12,700 บาท   แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 19:33:30 จากคุณ : จุก (khunnawat) - [ วันฉัตรมงคล 19:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผลตอบแทน จริงที่ได้รับจากการลงทุน คือส่วนเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงเหลือ จากเงินลงทุน = (มูลค่าปัจจุบัน - เงินลงทุน) คิดเป็นอัตราผลตอบแทน ต่อระยะเวลาที่ลงทุน จากเงินลงทุน = (มูลค่าปัจจุบัน - เงินลงทุน) / เงินลงทุน = (มูลค่าปัจจุบัน / เงินลงทุน) - (เงินลงทุน / เงินลงทุน) = (มูลค่าปัจจุบัน / เงินลงทุน) - 1 เมื่อต้องการคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ = อัตราผลตอบแทน ต่อระยะเวลาที่ลงทุน x 100 = [ (มูลค่าปัจจุบัน / เงินลงทุน) - 1 ] x 100 โดยถ้าต้องการเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของเงินฝาก ที่เป็นอัตตราร้อยละต่อปี = (อัตราผลตอบแทน ต่อระยะเวลาที่ลงทุน x 100 / จำนวนวันลงทุน) x 365 ส่วนเงินฝากประจำ (3 เดือน) ที่มีภาระทางภาษี ที่ต้องถูกหักภาษี ณ.ที่จ่าย 15% ทำให้เหลืออัตราดอกเบี้ยสุทธิ = อัตราดอกเบี้ย x (1 - 15%) = อัตราดอกเบี้ย x (1 - 0.15) = อัตราดอกเบี้ย x (0.85) สำหรับเงินฝากระยะเวลา 3 เดือน ที่อัตราดอกเบี้ยต่อปี อัตราดอกเบี้ยต่อระยะเวลาการฝาก = อัตราดอกเบี้ยต่อปี / 12 x ระยะเวลาการฝาก เอาอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ต่อระยะเวลา x เงินฝาก ครับ จากคุณ : pjuk - [ วันฉัตรมงคล 19:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีได้ก็มีเสียนะครับสำหรับหุ้น  เงินเก็บไม่เยอะด้วย ติดดอยทีจะหนาว...มาก ถ้าจะเล่นหุ้นต้องศึกษาดีๆๆๆครับ เล่นกองทุนอย่างเดิมล่ะดีแล้ว เงินฝากก็น่าจะมีไว้บ้างครับ ช่วยให้อุ่นใจดี ไม่เครียด ปล. ผลตอบแทนกองทุนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยังไงคะ -- ถ้าคำนวนรายวันก็... "NAV วันนี้ - NAV เมื่อวาน" = ส่วนต่าง, "ส่วนต่าง/NAV เมื่อวาน x 100"  จะได้ % ต่อวัน ปล.๒ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๓ เดือน เค้าคิดยังไงคะ -- คิดงี้ก็ได้ สมมุติดอกร้อยละ 1 ต่อปี,  (1บาท/12เดือน) * 3 เดือน = 0.25% จากคุณ : sukineko - [ วันฉัตรมงคล 19:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คห. ๑>>> เงินส่วนนี้เป็นเงินเย็นที่คิดจะเก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือค่ะ ลูกขวบกว่า ยังไม่มีภาระรายจ่ายมากนัก พ่อ-แม่ ใช้จ่ายจากบำนาญ ... ให้ท่านตามเทศกาลไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี พ่อ-แม่สามี สามีเก็บเอง จ่ายเอง ไม่ให้กระทบรายรับครอบครัว ... ไม่เกิน 10,000 ต่อปี รถ ไม่ต้องผ่อน ... ใช้คันเดิม บ้าน ซื้อห้องชุดเอื้ออาทร จ่ายขั้นต่ำ 2,100 แต่กะจะจ่ายงวดละไม่เกิน 10,000 บาท ภายใน 3 ปีแรก (ดอกคงที่) ตอนนี้เลยต้องการเก็บให้มากเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นพนักงานบ.ทั้งคู่ เงินออมส่วนอื่นคือ - ฝากประจำ 9 เดือน SCB ... ซึ่งพอหมดระยะ 9 เดือนคงต้องดูอีกที - ชมรมออมทรัพย์ของบริษัท ... เดือนละ 2,800 บาท - บัญชีออมทรัพย์ (+เดือนละ 5,000 บาท) ... สำรองไว้ใช้กับเรื่องฉุกเฉินของลูก - บัญชีเงินเดือน ... อันนี้เอาไว้รับ-จ่าย ไม่เกินหลักหมื่น ประกัน... ทำประกันสุขภาพให้ลูก ตัวเองและสามีทำประกันชีวิตเงินออมไว้ อาศัยสวัสดิการ(อันน้อยนิด)จากบริษัทในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ส่วนตัวคิดว่าออมแค่นี้พอก่อน เอาไว้ดูแนวโน้มอีกที อยากลงทุนให้งอกเงย ไม่อยากเสียเวลา แต่สามีค่อนข้างยึดติดกับการฝากธนาคาร เลยพยายามหาข้อมูลให้มาก และแนะนำเค้าต่ออีกทีถึงข้อดีข้อเสีย แล้ว SCBRF มีข้อเสียยังไงบ้างคะ ถ้านอกจากเรื่องของสภาพคล่องแล้ว pjuk>>> นั่นคือ =[(40097/40000) -1] x100 =0.02425 ต่อวันลงทุน ลงทุนมา 43 วัน =(0.02425/43) x365 =2.05% ต่อปี โอ้ว... กระจ่างค่ะ จากคุณ : ยะตาซัง (ยะตาซัง) - [ วันฉัตรมงคล 19:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 SCBRF .... จะมีความผัน สูงกว่า SCBSFF มากครับ ซึ่งเมื่อราคาหน่วยลงทุน มีความผันผวนเกิดขึ้น นั่นแจหมายถึงโอกาส ที่ได้มรจากจังหวะเล็กๆ เพื่อ สามารถเพิ่มผลตอบแทนที่เหนือกว่าสภาพนิ่งของ SCBSFF ได้ครับ จากคุณ : pjuk - [ วันฉัตรมงคล 20:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กองทุนอสังหาฯ  เช่น CPNRF หรือ SPF เป็นต้น SPF มีประกันโดยเจ้าของ จ่ายให้ขั้นต่ำ 0.60 ต่อปี [อาจได้มากกว่าถ้าเศรษฐกิจดี] (หักภาษี 10% อย่าลืม แต่ดีกว่าเงินฝาก 15%) ราคาปัจจุบันประมาณ 6.15 - 6.20 สิบปีคืนทุน อีก 17+ ปีทีเหลือคือกำไรล้วนๆ ครับ ถ้าคิดเป็น IRR ก็ประมาณ 8% (after tax)  น่าจะเหมาะกับ การลงทุนระยะยาวๆ (ลูกยังเล็กไม่ใช่หรือครับ ถ้า ซื้อให้ลูกก็โอเค) 150,000 ซื้อได้ประมาณ 24000 หน่วย น่าจะได้ขั้นต่ำ 13000.- (หลังภาษี) ** การลงทุนมีความเสี่ยง (เกาะสมุย อาจโดนซินามิ แผ่นดินไหว จมหายไปเลยก็ได้ ใครจะรู้) ** จากคุณ : ขอคิดด้วยคน (SuperY) - [ วันฉัตรมงคล 20:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเศรษฐกิจฟื้น จีนน่าจะฟื้นเร็วกว่าไทย ^ ^ จากคุณ : nouikj - [ วันฉัตรมงคล 21:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณที่ให้สูตรคำนวนค่ะ จากคุณ : k.lover - [ 6 พ.ค. 52 00:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ามีกระทู้แบบนี้เข้ามาอีกเยอะๆ  ผมว่าน่ากลัวแล้วนะคับ  คนที่ไม่เคยเล่นหุ้นเริ่มสนใจตลาดหุ้น   แปลว่าใกล้ถึงเวลาลงรถแล้ว  เหอๆๆๆๆ ปล.แซวเล่นคับ จากคุณ : satan@เต้ย - [ 6 พ.ค. 52 08:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตลาดกำลังเป็นขาขึ้นค่ะ เพราะการที่รายย่อยนำเงินมาลงทุนกันเยอะๆ ทำให้หุ้นลงยาก ถ้าเเป็นกรณี SET 1700จุด รุ่นคุณทวดสมัยนั้น เรียกว่า ซื้อแบบลืมตัว ลืมคิด ความโลภพาไป แต่กรณีตอนนี้ คนที่กำลังเดินเข้าตลาดหลายคนมีเงินเย็น และลงทุนแบบคิดแล้วคิดอีก ไม่ได้หลับตาซื้อหุ้น เรียกว่า เข้ามาลงทุนระยะยาว ตลอดชีวิต ลงก็ซื้อ ขึ้นไม่ขาย เก็บไว้ให้ลูกให้หลาน พิจารณาไปงาน MONEY EXPO ดูก่อนนะคะ เผื่อจะได้เอกสารมากมาย เอาไปนั่งอ่าน แล้วเงินทองจะงอกเงยขึ้นแบบยั่งยินค่ะ เข้าฟังสัมนา หาหนังสือลุงวอเรนท์ กับดร.นิเวศน์อ่านดูบ้างนะคะ เรามั่นใจว่า VIไม่มีวันตาย ถึงจะโตช้าแต่ก็มั่นคงค่ะ จากคุณ : หนูปุ๊ก - [ 6 พ.ค. 52 09:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกคนค่ะ ว่าจะลองเล่น SCBSET ๑ ส่วน เพิ่ม SCBRF ๑ ส่วน ซื้อสลาก ๑ ส่วน ว่าแต่ SCBSET นี่ความเสี่ยงประมาณกี่%คะ เข้าสู่โหมด เอาวะ จากคุณ : ยะตาซัง (ยะตาซัง) - [ 6 พ.ค. 52 17:32:23 ]