Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : คนจนสุขง่าย คนรวยสุขยาก จริงหรือ??

    ย้อนเวลากลับไปเมื่อ10ปีก่อน ผมได้ออกจากงานประจำ และหันเหสู่ธุรกิจส่วนตัว
    ด้วยความเชื่อที่ว่าหากจะเหนื่อยก็ขอเหนื่อยเพื่อตัวเอง หากจะแพ้ก็ต้องแพราะตัวเอง
    และหากชนะก็ขอชนะเพื่อตัวเอง การก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ตนเองไม่มีความรู้มาก่อน จึง
    ต้องอาศัยความขยันและอดทน มีความมุมานะไม่ท้อถอย การพกพาเงินทุนแต่เพียง
    อย่างเดียวนั้น หากประสบความสำเร็จ ก็ถือว่ามีโชคเข้าข้าง แต่สำหรับผมเรื่องโชค
    เรื่องดวง มักจะเป็นเส้นขนานเสมอ

         ครั้งแรกของการลงทุนทำธุรกิจนั้น ก็ไม่ต่างกับการสวมหัวโขนตัวใหม่ จากที่เคย
    รับผิดชอบเฉพาะเวลา แปดโมงเช้าจนถึงห้าโมงเย็น ตลอดระยะเวลา5วัน  กลายมา
    เป็นรับผิดชอบตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงเข้านอน ตลอดระยะเวลา7วัน  วันที่จะได้พักผ่อน
    มีเพียงอยู่ไม่กี่วัน วันดังกล่าว คือ วันที่ไม่สบาย

        เสื้อเชิ้ตแขนยาว เนคไท รองเท้าหนัง กลับกลายเป็น เสื้อคอกลม ขาสั้น รองเท้า
    แตะ หยาดเหงื่อหยดแรกที่เคยหยดเฉพาะเวลาเดินไปทานอาหารกลางวันข้างนอก
    บริษัท กลับเริ่มหยดตั้งแต่แปดโมงเช้า และหยดตลอดทั้งวัน
         
         รางวัลแห่งความมุ่งมั่น ได้สะท้อนออกมาในรูปแบบของกำไร และ รางวัลที่
    ยิ่งใหญ่กว่าก็คือ ความภูมิใจที่ทำได้ และได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้
     
             ****************************  
       คนไม่เคยล้ม แสดงว่า ไม่เคยวิ่ง
                คนไม่เหนื่อยหอบ แสดงว่า ยืนอยู่เฉยๆ  

             ****************************

         หลังจากที่เปิดกิจการมาได้สักระยะเวลาหนึ่ง เมื่อความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเองมีสูง
    การลงทุนทำอะไรต่างๆ ย่อมเต็มที่ เต็มกำลัง รายได้ที่ได้รับ ผลกำไรที่งอกเงย ขยับเพิ่ม
    ขึ้นต่อเนื่อง  แต่เหตุใด จึงรู้สึกว่า ไม่ปลดปล่อย ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีอารมณ์ขัน

        เหตุการณ์เช่นนี้เป็นมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งได้ไปเยี่ยมอาการป่วยของ
    ลูกน้องที่ห้องพักคนงาน  ระหว่างขับรถเดินทางนั้น ในใจก็ครุ่นคิดว่า คนงานลาป่วย
    ฝ่ายผลิตคงผลิตสินค้าไม่ทันแน่นอน แล้วจะทำอย่างไรดี จะให้ทำวันอาทิตย์งั้นหรือ  
    สักพัก ลูกน้องก็หันมาบอกว่า “ถึงแล้วครับเฮีย ที่พักคนงาน”
    ผมจอดรถแล้วเดินเท้าเข้าไป

         เมื่อเดินผ่านตู้ยาม ผมชำเรืองเห็น รปภ. กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรอเปลี่ยนกะ
    ผมยิ้มทักทาย แล้วคิดในใจว่า วันนี้เขาแต่งตัวสีสันสดใสดี คงจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์ที่
    ไหนสักแห่ง   ผมเดินต่อไปจนถึงห้องพักคนงานทางด้านทิศเหนือ หลังจากเยี่ยมไข้เสร็จ
    เรียบร้อย ก็เดินลงบันได้อีกทางทางด้านทิศใต้ พอลงมาที่ห้องโถงชั้นล่าง ก็ได้เห็นลูก
    น้องที่บริษัท คนขับรถส่งของที่บริษัท ยาม แม้กระทั่งแม่บ้าน กำลังง่วนอยู่กับการจัด
    เตรียมอาหารแบบง่ายๆบนพื้นห้องโถง บางคนก็ทดสอบเสียงด้วยการร้องเพลงคารา
    โอเกะ เด็กๆก็วิ่งเล่นตามประสา  เมื่อทุกคนเห็นผม ก็วิ่งเข้ามาทักทาย แต่ก็ไม่ได้ชักชวน
    อะไร อาจจะคิดว่าไม่เหมาะสม ผมจึงได้ทักทายและถามกลับไปว่า

    “วันนี้วันเกิดของใครหรือจึงได้เลี้ยงสังสรรค์กัน”

    แม่บ้านจึงรีบตอบว่า

    “สามีดิฉัน เขาได้เลื่อนตำแหน่งและได้ขึ้นเงินเดือนค่ะ”

    เด็กๆที่วิ่งอยู่แถวนั้น พูดแทรกว่า

    “พ่อได้เงินเดือนเพิ่มอีกเดือนละ1500ครับ ผมจะได้ ค่าขนมเพิ่มด้วยครับ”

    แม่บ้านหันไปตวาดลูกเล็กน้อยว่า

    “อย่าพูดแซงแบบนี้ นิสัยเสียจริงๆ” แล้วหันมาขอโทษแทนลูกชาย

    ผมยินดีกับแม่บ้านแล้วเดินหันหลังกลับไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าตึก ระหว่างทางกลับบ้าน
    นั้น มีประกายความคิดบางอย่างวิ่งเข้ามาในสมอง


    **ทำไมเสียงหัวเราะจึงไม่เกิดขึ้นกับเรา  ในเมื่อเรามีพร้อมทุกสิ่ง มีเงินพอที่จะซื้ออะไรก็ได้
    ธุรกิจก็ไปได้ด้วยดีราบรื่น**


    **แล้วเหตุใด เพียงเงินเดือน1500บาทที่สามีของแม่บ้านได้รับเพิ่มขึ้นทุกเดือน จึงทำ
    ให้เกิดความสุข สนุนสนานต่อคนรอบข้าง ได้ถึงเพียงนี้**



    *****คนจนสุขง่าย คนรวยสุขยากงั้นหรือ*****


         ความพอดี คำเดียวเท่านั้น ที่จะเข้าถึงสภาวะนี้  เหตุที่ยอดขายและผลกำไรของ
    ธุรกิจดีวันดีคืน กลับไม่สามารถสร้างความพอใจได้ เพราะเราไม่รู้จักคำว่าพอดี ต้องการ
    ผลกำไรที่มากกว่านี้  สุดท้าย ไม่มีความสุข เพราะ ได้น้อยกว่าที่หวัง และหวังจะได้มากๆ

         แม้คนงานป่วย จิตใจก็มัวแต่ครุ่นคิดว่า งานจะผลิตไม่ทัน ส่งของไม่ทัน ก็เพราะ
    ทัศนคติที่คิดห่วงแต่ยอดขาย กลัวสินค้าไม่มีขาย ขาดความพอดี ไม่รู้จักคำว่าพอดี

         **เมื่อเราตัดคำว่า อยากได้มากๆ มาเป็นคำว่า พอประมาณแบบพอดี

    ทุกครั้งที่ล้มเพราะวิ่ง เกิดบาดแผลก็เพียงแค่ถลอก แต่ไม่ถึงขาหัก เพราะรู้จักคำว่า พอดี

         **เมื่อเราตัดคำว่า ลุกลี้ลุกรน มาเป็นคำว่า กระตือรือร้น

    ทุกครั้งที่เหนื่อยหอบ เพราะไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ จะเป็นเพียงแค่หอบเหนื่อย   ไม่ถึงกับหอบ
    จนหมดสติ เพราะ รู้จักคำว่า พอดี



    รอยยิ้มผมเริ่มกลับมาเพราะผมค้องการให้คนรวยสุขง่ายเช่นกัน


         จากวันนั้นสู่วันนี้ วันที่เดินก้าวเข้ามาสู่ตลาดหลักทรัพย์ วันที่ได้ค้นพบและรู้จักคำว่า
    กำไรและขาดทุน  รู้จักคำว่า กำไรมาก กำไรน้อย ขาดทุนมาก ขาดทุนน้อย
    ได้นำชีวิตจริง
    ที่คิดได้มาตอบคำถามให้กับตนเอง


    กำไรมาก     ขาย แล้วหุ้นขึ้นต่อ   ไม่มีความสุข    เล่นหุ้นทำไม
    กำไรน้อย     ขาย แล้วหุ้นขึ้นต่อ   ไม่มีความสุข   เล่นหุ้นทำไม
    ขาดทุนมาก  ขาย แล้วหุ้นเด้งขึ้น   ไม่มีความสุข   เล่นหุ้นทำไม
    ขาดทุนน้อย  ขาย แล้วหุ้นเด้งขึ้น   ไม่มีความสุข   เล่นหุ้นทำไม

    กำไร ขายแล้วหุ้นลง ไม่ได้ซื้อกลับ  เสียดาย ไม่มีความสุข   เล่นหุ้นทำไม
    ขาดทุน ขายแล้วหุ้นลงต่อ ไม่ได้ซื้อกลับ เสียดาย ไม่มีความสุข เล่นหุ้นทำไม

    กำไร ขาย แล้วหุ้นลง ซื้อกลับ หุ้นลงต่อ  ซื้อเร็วไป เจ็บใจ  ไม่มีความสุข เล่นหุ้นทำไม
    ขาดทุน ขาย แล้วหุ้นลงต่อ ซื้อกลับ หุ้นลงต่อ ซื้อเร็วไป เจ็บใจซ้ำ  ไม่มีความสุข เล่นหุ้นทำไม


    **กำไร ก็ไม่มีความสุข  ขาดทุน ก็ไร้ซึ่งความสุข แล้วจะทรมานร่างกายและจิตใจไป
    เพื่ออะไร  !!!



         คำว่าพอดี สามารถนำมาใช้กับการลงทุนได้ หากนักลงทุนรู้จักใช้   เมื่อวางแผน
    การลงทุนไว้เช่นไร ผลลัพธ์ที่ออกมาจะมารูปแบบไหน ต้องรู้จักพอ


    กำไร ตัดสินใจขายด้วยความเชื่อมั่น  แม้หุ้นจะขึ้นต่อ มีความสุข  เพราะ พอเพียง
    ขาดทุน ตัดสินใจหยุดขาดทุน รักษาเงินต้น แม้จะเด้งขึ้น แต่มีความสบายใจ มีความสุข
    เพราะ เจ็บพอแล้วเท่านี้


         ยามใดที่นึกถึงแม่บ้านท่านนั้น ทำให้ผมต้องรู้จักคำว่าพอดี พอเพียง พอใจ เพื่อจะ
    ได้ไม่ต้องมาพบเจอคำว่า “มาเล่นหุ้นทำไม กำไรก็ไม่สุข ขาดทุนก็เกิดทุกข์”
    และต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า "คนรวยก็สุขง่ายเช่นกัน"

    แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 13:05:52

     
     

    จากคุณ : เย่หยงเทียน - [ 14 พ.ค. 52 23:40:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom