Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : ต่างคน ต่างมุมมอง ถอดสลักทางความคิด

    หลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ผมได้ทำงานเกี่ยวกับงานบัญชี ได้ออกไปตรวจ
    สอบบัญชีบริษัทหลายแห่ง เดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ เหนือ ใต้ อีสาน ผ่านมาทุกที่  
    จนกระทั่งวันหนึ่งช่วงกลางปีพบได้มีโอกาสมาทำงานแถบอีสาน ผมได้มาเจอเพื่อนเก่า
    สมัยมัธยมที่กรุงเทพ แต่การเจอครั้งนี้ พบเจอกันที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อนคนเป็นหมอ
    อยู่ในตัวจังหวัด เราพบเจอกันโดยบังเอิญ จึงได้ถามสารทุกข์ตามประสาเพื่อนที่
    ไม่ได้พบเจอกันมานาน

         ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น ได้มีเพื่อนรุ่นน้องของเพื่อนผมสองคน เข้ามาทักทาย
    ผมก็รับไหว้และทักทายในฐานนะเพื่อนใหม่ รุ่นน้องทั้งสองคนนี้ทำงานเกี่ยวกับวิศวกร
    สิ่งแวดล้อม ส่วนอีกคนนึงเป็นวิศวกรโยธา  เราทั้งสี่คนคุยกันได้สักพัก ผมจึงถือโอกาส
    ชวนเพื่อนๆไปทานอาหารค่ำ  

         ระหว่างที่เดินทางนั้น เพื่อนผมในฐานะเจ้าถิ่นก็แนะนำร้านอาหารในตัวเมือง
    หลากหลายประเภท ให้เราได้เลือกกัน สรุปว่าพวกเราจะไปทานอาหารอีสานพื้นเมือง  
    เส้นทางที่จะไปร้านนั้นแม้ว่าจะไม่ไกลมากนัก แต่การเดินทางค่อนข้างจะใช้เวลา
    รถใช้ความเร็วไม่ได้มาก ขับจอด ขยับได้ทีละไม่มาก ผมเอ่ยปากบอกกับเพื่อนว่า

    “สงสัยวันนี้เป็นหยุดกลางปีของธนาคาร ตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี อีกทั้งเป็นวันที่
    เงินเดือนออกด้วย จึงทำให้คนออกมาใช้จ่ายนอกบ้านกันมาก รถเลยติด”


    เพื่อนรุ่นน้องที่เป็นวิศวกรสิ่งแวดล้อม ได้พูดต่อว่า

    “เมื่อวานนี้ฝนตกหนักในตัวเมือง ระบบระบายน้ำ ไม่สามารถต้านทานปริมาณน้ำฝนได้ทัน
    ทำให้อาจจะมีน้ำท่วมขังบางส่วนของถนนที่เราจะเดินทางก็เป็นไปได้ อีกทั้งพื้นถนนอาจ
    จะลื่น ทำให้การเคลื่อนตัวของรถต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังครับ”


    เพื่อนรุ่นน้องอีกคนหนึ่งที่เป็นวิศวกรโยธากล่าวเสริมว่า

    “ช่วงนี้มีงานก่อสร้างในตัวเมืองหลายจุด เช่น สะพานข้ามแยกข้างหน้า ก็มีงานก่อสร้าง
    อยู่นะ ช่วงเวลาค่ำแบบนี้ คงมีงานลำเลียงวัสดุเข้าsiteงานอยู่แน่นอน จึงทำให้รถค่อนข้างติด”


    สุดท้ายเพื่อนผมที่เป็นหมอก็หัวเราะดังแล้วพูดแกมตลกว่า

    “ช่วงนี้กลางวันแดดจัด กลางคืนฝนตกหนัก เช้าๆหมอกลงหนาตา ทำให้ทัศนวิสัยการมอง
    เห็นของมนุษย์ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน เกิดภาวะที่เรียกว่า หูตาฝ้าฟาง อะไรทำนองนี้
    จึงทำให้ผู้ขับรถทั่วไปใช้ความเร็วมากไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดอันตราย รถจึงเคลื่อน
    ตัวช้าเช่นนี้”


    ผมได้หัวเราะตามเป็นคนแรก และก็แซวเพื่อนว่า

    “นี่กลัวจะให้เหตุผลของรถติด  ได้ไม่เข้ากับวิชาชีพใช่ไหม จึงได้ออกทะเลแบบนี้”

    การสนทนาของเราก็เป็นไปอย่างสนุกสนานตั้งแต่การเดินทางจนไปจบที่โต๊ะอาหาร  
    การสนทนาในครั้งนี้ทำให้ผมได้คิดเมื่อกลับมาที่กรุงเทพว่า  


    **เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนึ่งเหตุการณ์ สามารถทำให้คนเราคิดได้ไปต่างๆนาๆถึงเพียงนี้หรือ
    ซึ่งเหตุผลต่างๆที่ยกมาก็เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบแทบทั้งสิ้น ไม่มีคำตอบของผู้ใดเป็น
    คำตอบที่ถูกต้องที่สุด
    คำตอบที่แตกต่างของแต่ละคนนั้นมีที่มาจากพื้นฐานทางความรู้  
    ลักษณะนิสัย ความเป็นอยู่ ฐานะทางการเงินที่แตกต่างกัน

         
    **เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหุ้น ยามใดที่หุ้นตกต่ำ ทุกคนย่อมหาเหตุผลได้ต่างๆ
    คนที่คลุกคลีอยู่ในวงการผลิตสินค้า ย่อมมีคำตอบว่า ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นทำให้กำไรลดลง  
    ผู้ที่คลุกคลีเกี่ยวกับนำเข้าและส่งออก ก็ย่อมมีคำตอบว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าแบบนี้ ส่งออกแย่
    รายได้ของประเทศก็แย่ตามไปด้วย  
    และหากไปคุยกับนายธนาคาร ก็ย่อมตอบว่า หนี้เสียมีมากกว่าเดิม ทำให้ฐานะทางการเงิน
    ของภาคธนาคารย่ำแย่ จึงไม่สามารถปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบได้
         
         จะเห็นได้ว่า แต่ละคำตอบนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้หุ้นตกแทบทั้งสิ้น
    และก็ยังมีอีกหลายร้อยเหตุผลตามมา หากเรายังคิดจะหาคำตอบจากคนอื่น
         

         การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นหากเรามองเพียงตัวเรา หุ้นของเรา เงินในกระเป๋าของ
    เรานั้น ก็ไม่ต่างกับม้าลากเกวียนโดยสารตัวหนึ่งเท่านั้น เคยสังเกตุกันหรือไม่ว่า  ม้าลาก
    เกวียนจะถูกวัสดุสีดำเป็นแผ่นขนาดเท่าฝ่ามือ ป้องไว้ที่ด้านข้างของตา ม้ามีหน้าที่ลาก
    เกวียนแล้วมองไปข้างหน้าเท่านั้น ไม่สามารถมองด้านข้างได้ ป้องกันไม่ให้ม้าตกใจ
    กับสิ่งรอบข้างและเพื่อต้องการให้ม้าลากจูงไปข้างหน้าเท่านั้น
     นักลงทุนในตลาดหุ้น
    ก็เช่นเดียว หากมองแต่ตัวเรา ของเราเท่านั้น การลงทุนก็จะเป็นไปในลักษณะเดิมๆ
    เคยลงทุนในตลาดขาขึ้น ก็จะชำนาญแต่ตลาดขาขึ้น ยามใดตลาดตกต่ำลงและซบเซา
    ก็จะไม่สามารถกำหนดกลยุทธ์หรือวางแผนการรับมือกับสิ่งต่างๆได้ ในท้ายที่สุดความ
    เสียหายก็ทำให้นักลงทุนต้องมาเสียใจในภายหลัง


        การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นนักลงทุนต้องเปิดใจรับความคิดเห็นรอบด้าน ถึงแม้ว่าความ
    คิดเห็นดังกล่าวจะไม่ตรงกับที่คิดไว้ก็ตาม  ซึ่งนักลงทุนต้องตระหนักไว้ว่า

    ***ความคิดที่หลากหลาย คือ กุญแจสำคัญในการถอดสลักทางความคิด***

    อะไรคือการถอดสลักทางความคิด
         
         หากเราไม่มีการถอดสลักทางความคิด  เราคงต้องใช้นิ้วนับเลขแทนการใช้เครื่องคิดเลข
    เพราะเราไม่รับรู้ความคิดที่ว่าหากใช้เครื่องคิดเลขช่วย จะทำให้คิดเลขได้เร็วขึ้น  หรือ
    เราอาจจะต้องทานอาหารเที่ยงร้านเดิมๆ หากเราไม่เชื่อคำแนะนำที่ว่า เดินลึกเข้าไปในซอย
    จะมีร้านอาหารอร่อยๆ

         หากเราได้ถอดสลักทางความคิด ยุติความคิดเดิมๆที่เกิดจากความเคยชิน หรือ
    อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์แบบเดิมๆซ้ำๆ หรือ เกิดจากการศึกษาที่ได้เล่าเรียนมา  
    จะทำให้เรามีมุมมองใหม่ที่คล่องตัว ไม่ติดยึดกับ ความเห็นเดิมๆ

         
    ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ

    หากตลาดหุ้นคึกคัก ปริมาณการซื้อขายมีมาก นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน หากเรา
    มัวแต่จดๆจ้องกับการหาหุ้นขนาดเล็ก หุ้นไม่มีพื้นฐาน  เราก็จะพลาดการลงทุนในหุ้น
    ขนาดใหญ่ ที่ราคาขึ้นตามภาวะตลาด  ไม่ต่างกับ การคุ้ยหาไส้เดือนริมชายหาด แทนที่
    จะหาหอยหาปูกินให้ท้องอิ่ม กลับพยายามไปหาไส้เดือน เพื่อไปเป็นเหยื่อในการออก
    ทะเลหาปลามากิน ซึ่งไส้เดือนริมชายหาดนั้นเป็นที่ทราบกันว่า ไม่มี  แม้ว่าจะมี กว่าจะ
    ได้เตรียมตัวออกไปหาปลา กว่าจะได้จับปลา  คนอื่นๆท้องอิ่มกันไปหมดแล้ว ส่วนตัว
    เรานั้นอาจจะต้องเจอมรสุมกลางทะเลซ้ำอีก เปรียบกลับไปก็คือ กว่าจะรู้ว่าต้องตกปลาใหญ่
    ปลานั้นก็หนีไปหมดเสียแล้ว  สุดท้าย อาจจะต้องถือไส้เดือนกลับพร้อมท้องหิว แย่หน่อย
    อาจจะต้องสูญเสียเรือ กลางทะเลก็เป็นไปได้



    โดยสรุปแล้ว มุมมองที่แตกต่าง คือสิ่งที่ดี เคยมีคำกล่าวที่ว่า

    เหรียญนั้นมี2ด้าน

    แต่สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นนั้น

    เหรียญนั้นมี4ด้าน คือด้านหัว ด้านก้อย ด้านข้าง(สันเหรียญ) และด้านใน(เนื้อเหรียญ)


    มองหุ้น ก็ต้องมองว่า หุ้นมีขึ้น หุ้นมีลง หุ้นมีพักตัวออกข้าง และเนื้อในหุ้นนั้นเป็นอย่างไร

    มองการดำเนินชีวิต ก็ต้องมองว่า มีโอกาส  มีอุปสรรค  มีการรอคอย และมีความคาดหวัง
    ที่เป็นไปได้

    เมื่อประกอบกับการถอดสลักทางความคิดด้วยแล้ว  จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อเห็น นักลง
    ทุนป.4 ลงทุนได้เก่งกว่า นักลงทุน ป.ตรี   คุณหมอเล่นหุ้นได้เก่งกว่านายธนาคาร  
    แม่บ้านลงทุนได้ดีกว่าแม่ค้า



    แล้วสักวันหนึ่งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

    แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 12:32:41

     
     

    จากคุณ : เย่หยงเทียน - [ 17 พ.ค. 52 23:15:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom