PANTIP.COM : I7885827 คิดว่า tmb จะกลับมามีกำไร เทียบกับธนาคารอื่นได้ไหมครับในอนาคต [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 1

หุ้นเล่นเก็ง(เกร็ง)กำไร เล่นตามข่าว สามารถเล่นได้ทุกๆตัว ทำกำไรได้ไม่มีอะไรเสีย ท้ายสุดก็หนีไม่พ้นปัจจัยพื้นฐานทำให้ราคาจะไปได้ไกลชนาดไหนโดยเฉพาะหุ้นธนาคาร

ระยะนี้มีข่าวดีๆออกมาแทบทุกวัน (๑) มีการซื้อหุ้นระหว่างธนาคารที่ราคาสูงๆกว่ากระดาน เช่น scib (๒) ธนาคารต่างชาติต้องการซื้อที่ราคาสูงกว่าในกระดานเช่นกัน เช่น acl (๓) ธนาคารต่างชาติได้ take-over เรียบร้อย เช่น bt ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็น cimbt (๔) ขายหนี้เน่า npl ได้ เช่น tmb ขายได้ 1.9x หมื่นล้านบาท (๕) ข่าวเหล่านี้ส่งอนิสงค์ต่อธนาคารที่อยู่ในข่าว ราคาขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา เข่น acl, cimbt & scib ร้อยเปอร์เซ็นต์จากจุดต่ำสุด หรือ tmb ขึ้น > 50% (๕) จะสังเกตุได้ว่าธนาคารใหญ่ไม่ได้ขึ้นหวือหวาตามข่าว จะขึ้นลงตามปัจจัยพื้นฐานของตัวมันเอง เช่น bay, bbl, kbank, และ scb เป็นต้น

ธนาคาร tmb เป็นที่รู้ว่ามีขาดทุนสะสมมากมาย เป็นนึ่งในสองธนาคารยังไม่สามารถจ่ายปันผลได้สิบปีกว่าๆ ข้อสงสัยของ จขกท "คิดว่าในอนาคตน่าจะมีกำไรหลังจากขาดทุนสะสมมานาน" ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เราสามารถคาดการณ์จากที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เรามาช่วยกันเข้าไปดูว่าอะไรเกิดขึ้นกับ tmb เราจะเข้าไปดูสถานะสัดส่วนผู้ถือหุ้น (Shareholders' Equity) ดังนี้

ณ สิ้นสุด 31 มีนาคม 2552

ผลประกอบการไตรมาส 1/2552 มีกำไร 436.18 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้นสามัญ

(๑) ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว:
......หุ้นสามัญ 41,536.741 ล้านหุ้นๆละ 10.00 บาท (พาร์)
......หุ้นบุริมสิทธิ 1,991.997 ล้านหุ้นๆละ 10.00 บาท (พรร์)

(๒) สัดส่วนผู้ถือหุ้น 45,482.56 ล้านบาท:
......หุ้นบุริมสิทธิ 19,919.97 ล้านบาท
......หุ้นสามัญ 25,562.59 ล้านบาท (45,482.56 - 19,919.97)
......มูลค่าหุ้นสามัญ (book value) หุ้นละ 0.615 บาท

(๓) ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นสามัญ -303,088.75 ล้านบาท

(๔) ขาดทุนสะสม -101,730.25 ล้านบาท

(๕) TMB เป็นหุ้นตัวหนึ่งใน 2 ตัวที่ไม่สามารถจ่ายปันผลได้นับตั้งแต่วิกฤติต้มย้ำกุ้ง สาเหตุมาจากไม่มีบุญเก่า "ส่วนเกินมูลค่าหุ้น" ที่สามารถนำมาล้างขาดทุนสะสมเฉกเช่น bay, bbl, kbank, scb เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นถูกซ้ำเติมมี "ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น" เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเป็น -303,088.75 ล้านบาท จากขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาพาร์ 10.00 บาท

(๖) ปัญหา npl ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพเเช่นธนาคารอื่นๆ ตรงกันข้ามปัญหา npl ทำให้ TMB ต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเช่นในปี 2550 ต้องตั้ง 4x,xxx ล้านบาท ทำให้ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันมีขาดทุนสะสม -103,166.43 ล้านบาท

(๗) ผู้บริหารออกมาพูดเสมอๆจะพยายามทำให้ TMB จ่ายปันผลเร็วขึ้น ด้วยที่รู้ว่า TMB ไม่มีศักยภาพในการทำกำไรมาล้างขาดทุนสะสมหมดได้ TMB ไม่มีทางเลือกนอกจากลดทุนจดทะเบียนซึ่งผู้บริหารได้ออกมาพูดทุกๆปี การที่ไม่มีอะไรคืบหน้าปัญหาอยู่ที่หุ้นบุริมสิทธิซึ่งกองทุนฟื้นฟูเป็นผู้ถือหุ้น ไม่ว่า tmb จะเป็นอย่างไรหุ้นบุริมสิทธิจะได้สิทธิได้เงิน 10.00 บาทต่อหุ้นก่อนหุ้นสามัญ ส่วนที่เหลือไปแบ่งให้ผู้ถือหุ้นสามัญ ด้วยเหตุนี้มูลค่าหุ้นสามัญจึงมีอยู่เพียง หุ้นละ 0.615 บาท (ข้อ ๒) การลดทุนหุ้นบุริมสิทธิซึ่งกองทุนฟื้นฟูเห็นผู้ถือหุ้นจะเป็นการปล้นเงินประชาชน ถึงแม้บริหารพยายามเคยขอลดทุนหุ้นบุริมสิทธิด้วย ก็ได้รับคำปฏิเสธจาก รมว กระทรงการคลัง

(๘) หุ้นสามัญ 41,536.741 ล้านหุ้น ถ้าลดพาร์จาก 10.00 บาทเหลือ 1.00 บาท จะได้เงินทั้งสิ้น 373,830.67 ล้านบาท (41,536.741 x 9) ต้องนำไปล้าง "ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นสามัญ -303,088.75 ล้านบาท" ก่อนเหลือเท่าไรค่อยไปล้างขาดทุนสะสม ในกรณีนี้จะเหลือ 70,741.92 ล้านบาท ไม่พอล้างขาดทุนสะสม -101,730.25 ล้านบาท ยังขาดอีก -30,988.33 ล้านบาท ทำให้เกิดปัญหาใหญ่มองไม่เห็นทางที่จะล้างขาดทุนสะสมนี้หมดได้อย่างไร

(๙) ผู้บริหารรู้ปัญหาปัญหาดีว่าถึงแม้ลดทุนเหลือ 1.00 ก็ไม่พอล้างขาดทุนสะสมหมด ปัญหานี้ไม่มีทางที่จะแก้ได้นอกจากลดจำนวนหุ้นสามัญลงอีก 31,000 ล้านหุ้น ทำให้เหลือทุนจดทะเบียนหุ้นสามัญ 10,000 ล้านหุ้น ซึ่งคิดว่าไม่เป็นที่ยินยอมของธนาคารประเทศไทย กระทรวงการคลัง รวมถึงผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ผู้บริหารจึงไม่ดำเนินเรื่องการลดตามที่คุยไว้มาเป็นปีๆ

(๑๐) ไม่เพียงเท่านั้น วิกฤตินี้ย่อมเป็นที่รู้ต่อนักลงทุนรายใหญ่ซึ่งมีเครื่องหมายเครื่องมือดูแล portfolio ของเขา จะมีรายย่อยน้อยคนเท่านั้นที่พอรู้เริ่องนี้ นี้คือสาเหตุทำให้ราคา tmb ไหลลงมาตลอดทางหลังเพิ่มทุนครั้งสุดท้า 1.40 และ 1.60 บาทต่อหุ้นขายให้นักลงทุนไทย และ ING ตามลำดับ เงินทองที่ลงไปเหลือมูลค่า 0.615 บาทต่อหุ้นเท่านั้น และ ราคาในกระดานเมื่อวาน 20/5/2552 ปิดที่ 0.72 บาท เห็นชัดๆขาดทุน -0.68 บาทต่อหุ้น(-48.6%) และ -0.88 บาทต่อหุ้น (-55%) นักลงทุนไทย และ ING ตามลำดับ ที่ลงเงินในการเพิ่มทุนครั้งล่าสุด

(๑๑) ส่วนข้อส่งสัยของ จขกท "คิดว่าในอนาคตน่าจะมีกำไรหลังจากขาดทุนสะสมมานาน" tmb เนื่องจากสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว จึงคิดว่า จขกท คงหมายถึงล้างขาดทุนสะสมได้หมดขึ้นอยู่ศักยภาพในการทำกำไร อัตราทำกำไรน้อยมากยังห่างไกลแตกต่างน้อยกว่าธนาคารอื่นๆมากๆเช้นกัน เช่น ไตรมาส 1/2552 ที่ 436.18 ล้านบาทนับว่าน้อยมากๆ เพื่อในการคำนวนเราจะใช้กำไรจะใช้ตัวเลขกำไร 1,500 ล้านบาทต่อไตรมาส (300% ของไตรมาส 1/2552) หรือ 6,000 ล้านบาทต่อปี ในการล้างขาดทุนสะสมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการผู้บริหาร

"........ลดทุนลดพาร์จาก 10.00 บาท เหลือ 1.00 บาท หลังจากนำเงินส่วนที่ได้มาล้างขาดทุนสะสม ยังขาดอีก -30,552.15 ล้านบาท ซึ่งจะต้องหามาจากการทำกำไร ถ้ากำไรปีละ 6,000 ล้านบาท ต้องใช้เวลา 5 ปีอย่างน้อย ยกเว้นไม่สามารถทำกำไรตามเป้าก็ต้องคำนวนใหม่หมด
หรือ
.......ไม่มีการลดทุน ขาดทุนสะสม -101,730.25 ล้านบาท ณ 31 มีนาคม 2552 ต้องใช้เวลา 17 ปีถึงล้างหมดในอัตรากำไร 6,000 ล้านบาทต่อปี
.......หลังจากล้างขาดทุนสะสมหมด ต้องทำกำไรสะสมเงินทองพอเพียงที่จะนำมาจ่ายปันผล คิดว่าอย่างน้อยไม่ต่กกว่า 3 ปี (ในอัตรากำไร 6,000 ล้านบาทต่อปี) นั้นหมายถึงว่าอย่าไปหวังปันผลในเวลา 10 ปีหน้าในกรณีลดทุน หรือ 20 ปีไม่ลดทุน"

(๑๒) ท้ายสุดหลังจากอ่านความเห็น กรุณาใช้วิจารณญาณอย่างชาญฉลาด มองทุกด้านๆ คิดลึกๆว่าสิ่งที่ผมพูดมีเหตุผลเป็นไปได้หรือไม่ได้ ทำสิ่งตามที่ทานเห็นดีเห็นชอบ เชื่อตัวเองแต่ผู้เดียวเท่านั้น

(๑๓) ด้วยความปรารถนาดี
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 07:57:18
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 07:52:00

จากคุณ : luck me - [ 21 พ.ค. 52 07:29:04 ]