Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : หลายเรื่องที่ผมสงสัย แต่นักเก็งกำไรให้คำตอบผม

    ตอนอายุ8ขวบ

    “ทำไมยุงหรือแมลงมักชอบบินวนเวียนแถวหูให้ผมรำคาญ บินผ่านตาให้ผมต้องคอยปัด
    ชนจมูกทำให้ผมต้อง ฟึดฟัด”


    ปัจจุบันผมเป็นนักเก็งกำไร

    “จริงๆแล้ว ยุงหรือแมลงสร้างความรำคาญให้กับตัวเราในทุกส่วนของร่างกายครับ บินผ่านตาตุ่ม
    เพียงแต่ตาตุ่มไม่ยิน  บินผ่านศีรษะ แต่ศีรษะไม่รู้สึกเพราะว่ามองไม่เห็น  แต่สิ่งที่มากกว่า
    คำว่ารำคาญที่ยุงหรือแมลงสร้างไว้ให้กับส่วนอื่นของร่างกายนอกจาก ตาหูจมูก นั้นก็คือ
    ความเจ็บปวด
    น้อยครั้งที่จะเห็นยุงกัดตา กัดจมูก กัดหู มีแต่เพียงกัดแขน กัดขาเท่านั้น
    ดั่งเช่นกับการเก็งกำไรในหุ้น  เราจะรู้สึกอยาก กระตือรือร้น ลุกลี้ลุกรน กับสิ่งที่เร้าอยู่ข้างหน้า
    ได้ในทันทีหากสิ่งกระตุ้นนั้นมาถึง  เช่น ช่วงนี้หุ้นขนาดเล็กได้รับความนิยม คนนั้นได้เท่านี้
    พี่คนนี้ได้เท่านั้น  เราต้องเอาบ้าง ทำให้ได้บ้าง ยุงก็เปรียบเสมือนข้อมูลดิบ ข่าวลือ ข่าวสร้าง
    ข่าวลวง ข่าวปล่อย  ที่ผ่านเข้ามา  คอยสร้างความรำคาญและทำลายสมาธิ ให้เปลี่ยนทิศทาง
    การลงทุน ให้เราหลงทิศทาง เมื่อใดที่เราปัด หรือเขย่าหัว มันก็จะมาตอมอีก เพราะความไม่เด็ด
    ขาดของตัวเรา ยิ่งปัดมาก พลังงานที่ใช้ไปก็ยิ่งหมด ก็เหมือนกับการเล่นหุ้นไม่มีพื้นฐาน
    มีแต่ข่าวลวงข่าวปล่อย สักวันเงินลงทุนเราก็จะน้อยลง
     หากครั้งใดที่คิดจะตบ แล้วตบได้
    ถูกตัวยุง เราอาจจะสะใจ หารู้ไหมว่า วันหลังมันก็จะกลับมาตอมอีก ที่สำคัญ การตบยุงได้ไม่
    ใช่เรื่องดีใจ ถามว่าเจ็บมือหรือไม่ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเล่นหุ้นตามข่าวลวง ได้ผลตอบแทนมา
    มูลค่าเท่าตัวยุงแต่ความเสี่ยงที่ได้รับมันเท่ากับการเจ็บมือ หรือตีพลาดหลายๆครั้ง

    วิธีการง่ายๆก็คือลุกขึ้นหนีสถานที่ที่มียุงนั้น ไม่ต้องไปปัดเพราะปัดอย่างไรก็ไม่หมด เปรียบดั่งหุ้น
    ก็คือไม่ข้องเกี่ยวกับหุ้นประเภทดังกล่าว น่าจะปลอดภัย ”

    “ความผิดพลาดของมนุษย์หุ้นเก็งกำไรเก็งขาดทุน ก็คือ ระวังแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ประมาท
    กับเรื่องใหญ่โต
    ดั่งเช่นยุงที่คอยตอมหู ตอมหน้า ตอมตา ตอมจมูก เราจะคอยปัดคอยไล่ไม่ให้
    มาสร้างความรำคาญเล็กๆน้อยๆ หากแต่ขา แขน หลัง ต้นคอ เรากลับไม่ระวังว่าจะถูกกัดจนเจ็บและ
    เกิดแผล นักเก็งกำไรเก็งขาดทุนมักจะไม่ระวังและไม่เจ็บปวดกับการขาดทุนเล็กๆน้อยๆแต่ละครั้ง
    ของการเก็งกำไร ความถี่ของความผิดพลาด การขาดทุนสะสมที่เกิดจากการทุน บั่นทอนเงินลงทุน
    จนไม่รู้ตัว
     การเก็งกำไรในหุ้นแล้วขาดทุนเพียง1%ต่อสัปดาห์ หนึ่งปีเงินลงทุนของคุณจะหายไป
    ครึ่งหนึ่ง เห็นหรือไม่ว่า คำว่าไม่เป็นไรหรอก ขาดทุนนิดหน่อย  นั้นบั่นทอนมนุษย์หุ้นในระยะยาว
    เพียงใด  กว่าจะรู้ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ความรำคาญ  แผลจากการถูกยุงกัดก็คงเต็มตัวไปหมดแล้วครับ”


    ตอนอายุ28ขวบ

    “ทำไม ขนมเซี้ยงไฮ้ ปักกิ่ง ที่ผมชอบกินตอนเด็กๆ ขนาดมันเล็กลง เขาผลิตให้ชิ้นเล็กลงหรือครับ”

    ปัจจุบันผมเป็นนักเก็งกำไร

    “ไม่ใช่เพราะบริษัทผู้ผลิตเขาลดต้นทุนหรือปริมาณขนมลง เขาทำขนาดเท่าเดิม เพียงแต่เราติด
    ยึดกับภาพในอดีต  วัยเด็ก มือเรายังเล็ก เราจับขนมขึ้นมากินก็ย่อมเต็มมือเป็นธรรมดา พอเรา
    โตขึ้น ใช่ว่าเราจะกินขนมชนิดนี้มาตลอด กว่าจะได้จับต้องขนมแบบนี้อีกครั้ง ก็ให้หลัง20ปี
    มือเราใหญ่ขึ้น ร่างกายเราสูงใหญ่ขึ้น  สิ่งที่ผิดปกติ คือตัวเรา ไม่ใช่ขนม และ
    ไม่เพียงขนมเท่านั้น เสื้อผ้า เข็มขัด รองเท้า เราก็กลับไปใส่ไม่ได้เช่นกัน ”

    “หุ้นเก็งกำไรก็เช่นเดียวกัน   หากเราไม่รู้ลักษณะนิสัยของหุ้น ธรรมชาติของหุ้น พฤติกรรมของ
    หุ้นตัวนั้นจริง เราก็จะสรุปไปว่า หุ้นนั้นไม่ดี หุ้นผิดปกติ เปรียบดั่งขนมเซี่ยงไฮ้ ที่เรามัว
    แต่โทษว่า บริษัทผลิตให้เล็กลง ทั้งๆที่เรานั่นแหละ มือใหญ่ขึ้น แล้วทำไมเราไม่โทษ
    หล่ะว่า บริษัทที่ผลิตเสื้อผ้า เข็มขัด รองเท้าของเรานั้นผลิตสินค้าไม่ดี ยิ่งใส่เสื้อผ้าเล็กลง
    รองเท้าเล็กลง สาเหตุนั้นก็คือ ความเคยชิน
    เราคงไม่ได้จับขนมเซี่ยงไฮ้ทุกวัน
    ตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโต แต่เสื้อผ้ารองเท้า เราสวมใส่ทุกวัน เราจึงรู้สึกได้ว่า ตัวเราสูงใหญ่ขึ้น
    โตขึ้นทำให้เราใส่ไม่ได้ หุ้นเก็งกำไรก็เช่นเดียวกัน เราจะไม่ใช้คำว่าความเคยชิน
    แต่จะใช้คำว่า รู้ไส้รู้พุง รู้นิสัย
    ดังนั้น นักเก็งกำไรจะเข้าใจในพฤติกรรมของตัวหุ้นนั้น
    จากการศึกษา เฝ้าสังเกตุ เอาใจใส่ หาข้อมูล หากนักเก็งกำไรทำไม่ได้  หรือทำได้ แต่ไม่เต็มที่
    ไม่ศึกษา ไม่เฝ้าดู ไม่สนใจ ก็ไม่ต่างกับ การที่เราไม่ได้จับขนมชิ้นนั้นมาหลายปี พอมาจับอีกครั้ง
    กับโทษที่ขนม ไม่โทษตัวเอง”

    ตอนอายุ48ปี

    “ทำไมช่วงนี้มีปาฏิหารย์ตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ขับรถชนประสานงา คนขับรอดมาได้
    สงสัยมีพระดีและก็มีคนดวงเฮงถูกลอตเตอรี่หลายล้านลงข่าวบ่อยมาก”


    ปัจจุบันผมเป็นนักเก็งกำไร

    “จริงๆแล้ว ไม่มีคำว่าปาฏิหารย์ หรือ สิ่งเหลือเชื่อเหนือธรรมชาติมากมายเช่นนั้นหรอก เพียงแต่คน
    ที่อยู่ในสถานะตรงกันข้ามกับข่าวที่บอกมานั้น ไม่มีโอกาสออกมาชี้แจงก็เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นธรรมชาติ
    ของข้อมูลข่าวสาร ที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจ
    คนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
    แล้วมีพระดีเช่นนั้น มีแทบทุกวัน แต่ไม่เป็นข่าว!! คนที่นับถือบูชาของดีเฉกเช่นกับคนดวงเฮงนั้น หมด
    เนื้อหมดตัวไปกับลอตเตอรี่มีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่เป็นข่าว!!  พูดง่ายๆ สุนัขกัดคนไม่เป็นข่าว
    เพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หาก คนกัดสุนัข นั้นเป็นข่าวใหญ่โตแน่นอน
    เหตุใด ข่าวสารจึงไม่นำ
    เสนอให้ผู้ใช้รถระมัดระวังในการขับขี่   รณรงค์ให้คนรู้จักออม รู้จักใช้เงิน ไม่ให้ลุ่มหลงการพนันเสี่ยงโชค
    หรือแม้แต่ประกาศเตือนภัยสุนัขจรจัดไล่กัดคนแทนที่จะเสนอข่าวแปลกๆที่ว่าคนไล่กัดสุนัข ซึ่งไม่เกิด
    ประโยชน์ใดๆเลย”

    “ข่าวสารกับตัวหุ้นเก็งกำไรก็เช่นเดียวกัน การเสนอข่าวสารมักจะชี้นำให้เกิดความน่าสนใจ ข่าวสาร
    สามารถดึงมวลชนให้มุ่งความสนใจไปที่ตัวหุ้นที่ต้องการจะให้ขึ้นให้ลงได้ไม่ยาก  และหากมีการทำกราฟ
    ราคาให้สอดคล้องกับข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อุปสงค์เทียม อุปทานหมู่เกิดขึ้น
    ได้ง่ายขึ้น
     การเสพข่าวสารข้อมูลของนักเก็งกำไรนั้น ต้องพยายามเข้าใจวัตถุประสงค์ของข่าว
    ที่กำลังจะเสพอยู่
     หากเป็นข่าวจริง ข่าวบริษัท ข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ ข่าวที่มีแหล่งข่าวน่าเชื่อถือได้
    กรณีนี้ก็ต้องมาวิเคระห์กันที่ปัจจัยพื้นฐาน หากข่าวที่ได้รับมานั้นไม่ใช่กรณีดังกล่าว แต่เป็น
    ข่าว เขาเล่าว่า มีคนแอบได้ยินว่า เขากระซิบว่า แอบไปเห็นมาว่า  …  ก็ควรเสพด้วยความระมัดระวัง
    หากเสพโดยไม่ใช้สติกับสมองก็ไม่ต่างกับการเสพข่าว คนกัดสุนัข อย่างแน่นอน”

    ไม่ว่าจะอายุ8ขวบ 28ปี 48รอบ  มนุษย์หุ้นก็ยังคือมนุษย์หุ้น มิอาจจะเลี่ยงหรือหลบกับ
    เหตุการณ์ต่างๆที่เป็นความจริงของชีวิตหุ้นได้ หลายท่านอาจจะมีความรู้สึกที่ว่า ชีวิตทั้งชีวิต
    ไม่เคยประสบพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหุ้นเลย ลองหยุดสักนิด ค่อยๆเก็บเรื่อง
    ราวต่างๆมาพินิจพิจารณาดูอีกครั้ง หากยังไม่พบก็ลองพินิจคิดอีกหลายๆรอบ แล้วจะพบเจอ
    แก่นลึกของชีวิตจริงๆว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตการทำงานได้อย่างแน่นอนไม่เพียง
    แต่เฉพาะเรื่องหุ้นเท่านั้นครับ

    แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 52 21:25:19

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 14:47:42

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 08:51:43

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 06:53:05

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 06:52:00

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 00:02:31

    แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 23:54:15

     
     

    จากคุณ : เย่หยงเทียน - [ 25 พ.ค. 52 23:53:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom