มองตามภาพประกอบข้างล่างแล้ว
ลองนึกไปถึงชีวิตจริงคนเรา
บางครั้งเราก็ใช้ชีวิต
ร่วมทางกันอย่างสร้างสรรค์ (โพซิถีบ คอนเวอร์เจ๊ง)
เช่น พากันไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ
บางครั้งเราก็ร่วมทางกันอย่างทำลายล้าง (เนกาถีบ คอนเวอร์เจ๊ง)
เช่น พากันไปเดินเล่นฝั่งตรงข้ามกับตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ
บางครั้งเราก็แยกทางกันอย่างสร้างสรรค์ (โพซิถีบ ไดเวอร์เจ๊ง)
เช่น ทุกคนออกจากบ้านแต่เช้า
ภรรยาไปทำงาน ลูกไปเรียนหนังสือ ข้าพเจ้าไปเดินเล่นออกกำลังกาย
และ
บางครั้งเราก็แยกทางกันอย่างทำลาย (เนกาถีบ ไดเวอร์เจ๊ง)
เช่นภรรยาดันไปเดินเล่นแถวเตาปูน
ลูกหนีเรียนไปเข้าร้านเกม
ข้าพเจ้าไปนอนเล่นให้คนไม่คุ้นเคยนวดกาปู๋
ลองเอาชีวิตจริงมาเปรียบกับหุ้นดูซิ
อะไรคือความสำเร็จในการลงทุน
ที่แท้ก็คือเราได้เลือกเดินทางแสวงหาเงิน
"อย่างสร้างสรรค์หรือทำลายล้าง ???"
ถ้าเลือกทางเดินอย่างสร้างสรรค์
ไม่ว่าแยกทางหรือร่วมทาง
เราก็ยังสามารถแสวงหาเงินได้แบบพอเพียง
แต่ถ้าเลือกทางเดินอย่างทำลายล้าง
ไม่ว่าจะแยกทางหรือร่วมทางกัน
เราก็จะทำลายตัวเราเองในที่สุด
ด้วยแนวคิดนี้
ผมก็จะกำหนดไว้แบบผู้เดินทาแสวงหาเงินสไตล์มวยวัดว่า
หุ้นเป็น "แก่น" ของพอร์ต
ราคาหุ้นเป็น "กระพี้และเปลือก" ของพอร์ตซึ่งเปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลา
เมื่อไรที่หุ้นกับราคาหุ้น แยกทางหรือร่วมทางกันอย่างสร้างสรรค์
พอร์ตก็จะโตได้อย่างพอเพียง
เมื่อไรที่หุ้นกับราคาหุ้น แยกทางหรือร่วมทางกันอย่างทำลายล้าง
พอร์ตก็จะหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ลองสมมติเล่นๆเช่น
ผมกำหนดให้หุ้นตัวหนึ่งเป็น "หุ้นหนึ่งขีด"
ผมก็จะพยายามหาราคาหุ้นที่แยกทางหรือร่วมทาง
กับหุ้นหนึ่งขีดตัวนั้นอย่างสร้างสรรค์
เช่น
หุ้นที่มีอำนาจขายนำ ทุบราคาหุ้นลงมาแบบสวนกระแสยีลด์ พีอี พีบีวี ฯลฯ
(ต้องกำหนดกันเอาเอง แม้แต่จะใช้กราฟเช่น RSI หรือ MACD ก็ได้)
เราก็จะถือว่าหุ้นและราคาหุ้นตัวนั้น
กำลังแยกทางกันอย่างสร้างสรร
ต้องหาจังหวะเข้าซื้อหรือถ้าถืออยู่ก็ซื้อเฉลี่ยหรือชอร์ตอะเกนส์พอร์ต
แต่พอหุ้นตัวนั้นดาวน์เกรดลงมา
จากหุ้นหนึ่งขีด กลายเป็นหุ้นสองขีดบี
แล้วราคาหุ้นตัวนั้นโดนทุบลงไป
ก็ต้องถือว่าหุ้นและราคาหุ้นตัวนั้น
กำลังร่วมทางกันอย่างทำลายล้าง
ต้องหาจังหวะขายทำกำไรหรือคัทลอสทิ้ง
ส่วนหุ้นตัวไหนที่เป็นหุ้นสี่ขีด
ถ้าผมเป็นพ่อตาและน้องเมียของเจ้าของบริษัท
ก็ต้องถือว่า หุ้นและราคาหุ้น
ยังเป็นการร่วมทางกันอย่างสร้างสรรค์เป็นต้น
ถ้าเอาแบบเรียลไทม์ก็ต้อง จีสตีล
ผมกำหนดให้มันเป็นหุ้นสามขีด
แต่ว่าราคาซากโรงงานมันควรจะแพงกว่านี้
ก็ถือว่า หุ้นสามขีดกับราคาหุ้นของมัน กำลังร่วมทางกันอย่างสร้างสรรค์
ลองต่อยอด ดัดแปลง ประยุกต์ใช้
ให้เข้ากับปัจจัยพื้นฐานสะสมของนักลงทุนแต่ละท่าน
จำไว้ง่ายๆก็ได้
ร่วมทางก็กำไรได้ แยกทางก็กำไรได้
ร่วมทางก็ขาดทุนได้ แยกทางก็ขาดทุนได้
อยู่ที่ว่า เราต้องรู้ตัวว่า
เรากำลังร่วมทางหรือแยกทาง
"เพื่อสร้างสรรค์หรือทำลายล้่างพอร์ต"
อย่างที่ปรัชญาเมธีเจนเรชั่น X ท่านหนึ่งเคยบอกไว้
"แผนที่แผ่นไหนในโลกนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเรา
ถ้าเราไม่รู้ว่า เรากำลังอยู่ที่ไหน"
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 11:17:09
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 10:06:31
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 09:38:45
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 09:27:05
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 09:19:51