Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : มองบนเราขาด มองล่างเราเกิน (2/2)

    ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการลงทุนให้ตลาดหุ้นอย่างไร

    เถ้าแก่คนนี้ได้วิธีคิดมาจากการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งการจะอธิบายให้นายช่างหนุ่มนั้นเข้าใจก็
    คงจะยากที่จะทำได้  แต่ผมเข้าใจว่าการตกผลึกทางความคิดของเถ้าแก่นั้นมีที่มาที่ไป


    ++ การที่มนุษย์ไม่เก่งไปทุกเรื่อง เพราะว่ามนุษย์ต้องพึ่งพาอาศัยกัน คนนี้เก่งอย่าง อีกเรื่องคนอื่นเก่ง++


            มนุษย์หุ้นก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่องที่ลงทุน มนุษย์หุ้นคนนึงเก่งลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ มนุษย์หุ้นอีก
    คนถนัดเก็งกำไรซื้อขายหลายรอบ มนุษย์หุ้นคนหนึ่งเก่งเรื่องกราฟ หักหัวพร้อมมั่ว ทิ้งตาม  แต่อีก
    มนุษย์หุ้นเก่งด้านปัจจัยพื้นฐาน สายการผลิตปิด orderถูกยกเลิก  รู้เรื่องและตีความออกเป็นกลุ่ม
    แรกๆ ความหลากหลายของมนุษย์หุ้นสร้าง3สิ่งให้กับตลาด นั่นก็คือ ปริมาณการซื้อขาย
    ความผันผวน และแนวโน้มให้เกิด


    -  เหล่ามนุษย์หุ้นพร้อมใจกันเข้าตลาด ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้น

    -  เหล่ามนุษย์หุ้นพร้อมใจกันซื้อๆขายๆ ความผันผวนเกิด

    -  เหล่ามนุษย์หุ้น พร้อมใจกันซื้อ หรือ พร้อมใจกันขาย  แนวโน้ม ขึ้นและลงเกิดขึ้น


    ++การยิงประตูไม่จำเป็นต้องยิงเข้าทุกครั้ง หากจำแต่เพียงว่ายิงแบบไหนไม่สำเร็จ คราวหน้าทำอีก
    แบบจนกว่าจะสำเร็จ++



            มนุษย์หุ้นซื้อขายหุ้นทุกครั้ง หากมีแต่กำไร หรือ เป็นไปดั่งใจคิดทุกครั้ง ไม่มีใครพลาดเลย
    นั่นคือ ตลาดในอุดมคติ  หากแต่ในโลกของความเป็นจริง หนึ่งมนุษย์หุ้นกำไร ต้องมี
    หนึ่งมนุษย์หุ้นขาดทุน  หนึ่งมนุษย์หุ้นที่ขาดทุน หากจดจำบทเรียนและแก้ไขข้อผิดพลาด ก็จะกลาย
    ร่างมาเป็น หนึ่งมนุษย์หุ้นกำไร
     หากไม่จดจำแล้วนำมาแก้ไข ก็จะกลายเป็น หนึ่งมนุษย์หุ้น
    ขาดทุนป่นปี้  และท้ายที่สุดหากเดินตามวิถีเดิม ก็จะกลายมาเป็น หนึ่งมนุษย์หุ้น
    ขาดทุนย่อยยับอับปาง

            การซื้อขายหุ้นทุกครั้งต้องเตรียมตัวรับสภาพผลที่จะออกมาทุกรูปแบบ  การเตรียมตัวรับ
    สภาพนั่นก็คือ

    - หากผิดพลาดขาดทุน กระทบความเป็นอยู่หรือไม่ กระทบเงินออมหรือไม่

    - หากผิดพลาดขาดทุนต่อเนื่อง กระทบสภาพจิตใจหรือไม่ กระทบหน้าที่การงานหรือไม่

    - หากผิดพลาดหมดตัว กระทบถึงครอบครัวผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ และกระทบกับภาระผูกพัน
    ที่มีอยู่หรือไม่

    - หากสำเร็จมีกำไร  กระทบพฤติกรรมการดำรงชีวิตหรือไม่ กระทบวิถีการใช้จ่ายที่ผิด
    รูปแบบหรือไม่

    - หากสำเร็จมีกำไรต่อเนื่อง  กระทบต่อมุมมองทางความคิดหรือไม่ กระทบต่อภาวะจิตใจ
    ที่ถูกห้อมล้อมด้วยความประมาทหรือไม่

    - หากสำเร็จมีกำไรมากมาย  รู้จักจัดสรรเงิน รู้จักแบ่งเงินกระจายความเสี่ยง และเห็น
    คุณค่าของเงินหรือไม่


    หากเราเตรียมตัวหาคำตอบเพื่อรอรับสภาพที่จะเกิดขึ้นทุกประตูไว้ได้แล้ว ก็เท่ากับว่าเราปิดประตู
    ข้อผิดพลาดเพื่อรอโอกาสทำลายประตูเป้าหมาย



    ++การเปรียบเทียบกับสิ่งที่ไม่ใช่ระดับเดียวกับตัวเรา ก็เท่ากับ มองบนเราขาด มองล่างเราเกิน++


            มนุษย์หุ้น มักจะชื่นชมและให้เกียรติกับคนที่มีเงินลงทุนหลายล้าน หลายสิบล้าน
    หลายร้อยล้าน แต่กลับไม่เห็นคุณค่า ของคนที่สามารถทำกำไรได้ทุกรูปแบบ สามารถที่จะ
    ควบคุมอารมณ์ได้ทุกสถานการณ์


            เงินลงทุน1หมื่น หากเข้าทำกำไรได้1000บาท(10%) นั้น มักจะไม่ได้รับการเชิดชู เท่ากับ
    เงินลงทุน1ล้าน แต่เก็งกำไรแบบหวาดเสียวแล้วได้มา10000บาท(1%)  
    มนุษย์หุ้นมักจะ
    มองไปที่ข้างบน ว่า คนเขามีเงินลงทุนระดับร้อยล้าน ซื้อขายตัวนั้น เข้าตัวนี้ กำไรตัวนั้น
    ขาดทุนตัวนี้ เก่งกาจ น่าสนใจ น่าศึกษาและค้นหา แล้วพยายามมีพฤติกรรมเลียนแบบ หากทำ
    สำเร็จก็ยึดเป็นแบบอย่าง แบบอย่างผิดๆที่รอวันทำซ้ำแล้วไม่สำเร็จ  แล้วมาโทษตัวเองว่า ดวงไม่ดี
    ชะตาฟ้าไม่เข้าข้าง  หากมนุษย์หุ้นคิดจะมองไปข้างบน จงตระหนักไว้ว่า ข้างบนนั้นเขามีทรัพยากร
    ต่างๆมากมายที่เราไม่มี
     เช่น เงินลงทุน(สายป่านยาว)  แหล่งข้อมูลที่ใกล้ชิด(inside)
    ดังนั้น

    หากจะมองข้างบน ก็จงมองแบบมีสติ ซื้อขายเลียนแบบได้ แต่เลียนแบบ แบบ เรียนรู้  
    ไม่ใช่ลอกเลียนแล้วนำมายึดเป็นวิถีทาง เมื่อความผิดพลาดมาถึง มันจะกลายเป็นปมด้อย ที่ฝังลึก
    ในใจตลอดเวลา

    ในทางตรงข้าม หากมองล่างเราเกิน มนุษย์หุ้นดูถูกเงินลงทุนที่เล็กน้อย โดยไม่เห็นคุณค่าของเงิน
    ระเบิดเวลาความย่อยยับก็จะบังเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป  การดูถูกคนที่มีเงินน้อยกว่า หรือ
    ดูถูกเศษเงินที่หาได้มาหรือสูญเสียไปจากตลาดหุ้นนั้น เท่ากับกำลังสร้างและเพิ่มความประมาทในจิตใจ
     

    มนุษย์หุ้นอย่าลืมว่า ไม่ว่าคุณจะมีเงินลงทุนแสน ล้าน หลายล้าน ล้วนแล้วแต่ผ่านวันแรกวันที่
    คุณเริ่มเปิดportมาแล้วทั้งสิ้น
    มนุษย์หุ้นทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือจน ซื้อขายครั้งแรกคงไม่ใช่เริ่ม
    จากหลายล้านแน่นอน ดังนั้น มองล่างเราเกิน ตัวมนุษย์หุ้นที่ประสบความสำเร็จต้องเคยอยู่
    ข้างล่างมาแล้วทั้งสิ้น หากไม่อยากกลับลงไปข้างล่างอีก ก็จงตั้งมั่นบนความไม่ประมาท



    ++คุณค่าของนาฬิกา คือ การได้ทำหน้าที่บอกเวลา และ บอกเวลาได้เที่ยงตรง ไม่ใช่ เก็บไว้ในลิ้นชัก
    หรือ แขวนไว้โดยที่ไม่เดินบอกเวลา++



            มนุษย์หุ้นจะมีคุณค่าก็คือ การได้เล่นอยู่บนเกมที่ตนเองถนัดและบนกติกาที่ถูกต้อง

    - มนุษย์หุ้นที่ถนัดซื้อขายหุ้นที่มีข่าว หุ้นผันผวน   ก็ไม่ต่างอะไรกับ นาฬิกาปลุก ที่มี
    เสียงดังให้ตื่นเต้นตื่นตัว

    - มนุษย์หุ้นที่ชอบซื้อขายหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ถือแล้วสบายใจ ก็ไม่ต่างกับ นาฬิกาข้อมือ
    ราคาแพง
    สวมใส่แล้ว บอกเวลาได้ทุกครั้งที่ต้องการทราบ

    - มนุษย์หุ้นที่ซื้อขายหุ้นตามใจชอบ ซื้อๆขายๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับ นาฬิกาแขวนผนัง อยากดู
    เวลาเมื่อใดก็หันไปมอง ไม่อยากดูก็ไม่มอง แต่เมื่อใดก็ตามที่อยากดูเวลาแล้วไม่เห็น ก็อาจจะหงุด
    หงิดได้ ดังเช่น เวลาอยากซื้ออยากขาย แล้วไม่ได้ทำรายการ อาจจะเพราะว่าติดธุระ ระบบล่ม
    โทรศัพท์ไม่ติด ความหงุดหงิดก็จะตามมา นี่แหละ มนุษย์หุ้นตามใจชอบ


            ทั้งสามกรณีล้วนแต่มีความต้องการอย่างเดียวกันคือ การทำกำไร และการบอกเวลา
    ได้เหมือนกัน หากเอานาฬิกาแขวนผนังมาสวมใส่ข้อมือ  หรือเอานาฬิกาปลุกมาแขวนผนัง
    คงจะดูไม่เหมาะสมและไม่เกิดประสิทธิภาพในการบอกเวลาโดยแน่แท้ เฉกเช่นกับมนุษย์หุ้น
    หากรู้ว่าตนเองถนัดวิถีทางไหน ก็ควรตั้งมั่นและทำวิถีทางนั้นด้วยความตั้งใจ
    แล้วผลลัพธ์ที่
    ได้ก็จะทำให้มนุษย์หุ้นมีคุณค่าในตัวของตัวเองอันเนื่องมาจากความสำเร็จที่ได้รับ


            การเล่นอยู่บนกติกาที่ถูกต้องเหมาะสม นั่นก็คือ การซื้อขายด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เสพ
    ข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าวลวง  และไม่เป็นผู้ปล่อยข่าวลือ ข่าวลวง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนด้วยเช่นกัน  
    ในสังคมที่เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารรวดเร็ว ไร้พรมแดนเช่นนี้ การหาผลประโยชน์จากเกมนอก
    กติกามีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง มนุษย์หุ้นหลายๆคนต่างก็เคยประสบมาแล้วทุกรูปแบบ เพียงแต่ว่าไม่จดจำ
    หากเราจดจำสิ่งที่ผิดกติกาสักนิดแล้วป้องกันไม่ให้ย้อนกลับมาเล่นงานมนุษย์หุ้นได้อีก ก็เท่ากับ
    เราทำหน้าที่นาฬิกาที่ดีเรือนหนึ่ง คอยบอกเวลาที่ผนัง ไม่ใช่บอกเวลาในลิ้นชักที่ไม่มีใครเห็น
    ไม่มีประโยชน์ และเป็นขยะเกะกะในสายตาของสมุด ปากกาและเอกสาร



    สิ่งที่ผมตกผลึกได้จากความคิดเถ้าแก่ในวันนี้ ทำให้ผมรู้ว่าการเป็นมนุษย์หุ้นนั้นไม่ยาก
    หากเพียงเข้าใจอยู่เพียง4อย่างนี้

    1.คนเรา ไม่ได้เก่งไปทุกเรื่อง

    2.ไม่จำเป็นต้องได้ประตู ในทุกครั้งที่ยิง

    3.มองบนเราขาด มองล่างเราเกิน มองไปข้างหน้าในระดับเดียวกัน

    4.คุณค่าของนาฬิกา คือ บอกเวลาที่เที่ยงตรง และใช้ถูกสถานที่

    แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:59:00

    แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:57:41

    แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 19:11:17

     
     

    จากคุณ : เย่หยงเทียน - [ 2 มิ.ย. 52 18:02:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom