Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : 10บาทของฉัน ฉันรักเธอ

    ย้อนกลับไปเมื่อ30ปีที่แล้ว เช้าวันหนึ่งวันที่เด็กอนุบาลตัวน้อยต้องไปโรงเรียนแต่เช้าโดยนั่งซ้อน
    จักรยานยนต์รับจ้างไปซึ่งเป็นคนรู้จักแถวบ้าน แม่ได้กำชับกับเด็กน้อยว่า
    “วันนี้แม่ให้ไป10บาทนะ
    มีเหรียญ5 เอาไว้ซื้อข้าวเที่ยงกิน และเหรียญบาท5เหรียญไว้ซื้อน้ำและขนมกิน แล้วอย่าลืมมัดเหรียญ
    ในกระเป๋ากางเกงด้วยหนังยางนะ เดี๋ยววิ่งเล่นหล่นหายอีก รู้ไหม”

            “โค้ก1แก้ว ลูกชิ้น2ไม้”
    หลังจากที่สั่งก็ก้มลงแกะหนังยางออกแล้วหยิบออกมา
    สามบาท แล้วไม่ลืมที่จะมัดไว้อย่างเดิม

            “แม่ฮะวันนี้เหลือกลับมา1บาท เปี๊ยกฝากแม่ไว้นะครับ…”
    “จ๊ะ อ้าวแล้วนี่มือไปโดนอะไรมา”

            “..เออ แม่ฮะ คือว่าวันนี้เปี๊ยกทำเงินหล่นตอนวิ่งเล่นกับเพื่อน มันกลิ้งตกลงไปในท่อ
    เปี๊ยกพยายามหาอะไรเขี่ยก็เขี่ยไม่ถึง ก็เลยใช้มือล้วงหยิบดู เลยโดนเศษแก้วที่อยู่ในท่อบาดเอาครับ”

    “โธ่ลูก ทีหน้าทีหลัง ไม่ต้องเก็บก็ได้ เจ็บตัวเปล่าๆ ไม่คุ้มค่าเลย”

             “ก็เปี๊ยกเสียดาย ซื้อลูกชิ้นได้ตั้งหนึ่งไม้”

    “ไม่เอา ไม่คุยแล้ว ไปเอาทิงเจอร์มา เดี๋ยวแม่ทำแผลให้”


            ต่อมาเด็กชายเปี๊ยกก็กลายมาเป็นนายเปี๊ยก นายเปี๊ยกเป็นเด็กที่ชอบเล่นฟุตบอลมาก หลังเลิกเรียน
    ไม่เคยพลาดที่จะต้องรวมกลุ่มกับเพื่อนๆมาเตะบอลกัน  วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าว บรรยากาศระหว่าง
    ที่เรียนหนังสือนั้นชวนให้นายเปี๊ยกสัปหงกเป็นพักๆ แต่ยามใดที่เสียงกระดิ่งเลิกเรียนดังขึ้น นายเปี๊ยกจะเป็น
    คนแรกที่วิ่งไปจองสนามเพื่อใช้เล่นฟุตบอล

    “หกโมงครึ่งแล้ว เลิกเล่นเถอะ เปี๊ยก เอ็งไม่เหนื่อยหรือไง”

            “เลิกก็เลิก เริ่มเพลียแล้วเหมือนกัน ไป ไป กลับบ้านกัน”
    นายเปี๊ยกพูดพลางหันหลังไปเอา
    กระเป๋าที่วางไว้อยู่ข้างสนาม

            “เอ็งมีเงินให้ข้ายืมสัก10บาทหรือเปล่า ข้าเหลืออยู่3บาท พอแค่นั่งรถเมล์กลับบ้านเอง”

    “เอ็งจะเอาไปทำอะไรวะ”

            “ข้าจะเอาไปซื้อการ์ตูนเล่มใหม่หน่อย ปากซอยหน้าบ้าน ขี้เกียจเข้าบ้านไปเอาเงิน กลัวแม่ว่า
    เนี่ยไม่รู้ว่าจะหมดด้วยหรือเปล่า วางแผงไม่กี่เล่ม แล้วพรุ่งนี้ข้าจะเอามาคืนให้”


            วันนี้เปี๊ยกรอรถเมล์ไม่นาน  ขึ้นไปบนรถก็ได้ที่นั่งด้วย วันนี้เปี๊ยกเหนื่อยมาทั้งวัน ทั้งเรียนทั้งเล่น
    ลมที่พัดผ่านหน้าต่างรถโดยสาร ทำให้เปี๊ยกพล่อยหลับไป

            “น้าๆ ลงป้ายหน้าครับ”เปี๊ยกรีบลุกจากที่นั่งพร้อมตะโกนไปหน้ารถ

    กว่าเปี๊ยกจะได้ลงก็เลยป้ายรถโดยสารหน้าปากซอยเข้าบ้านไปเกือบกิโลเมตร เปี๊ยกตัดสินใจเดิน
    กลับทั้งๆที่เหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน

            “ถึงปากซอยแล้ว” เปี๊ยกพูดด้วยน้ำเสียงของคนเหนื่อยหอบจากการเดิน เปี๊ยกไม่รอช้า
    กำเงินในกระเป๋า10บาทตรงไปที่ร้านหนังสือ

            “พี่ๆขอซื้อการ์ตูนเล่มที่เมื่อวานออกมาใหม่หน่อยครับ”

    “ไอ้น้อง มาช้าไปแล้ว เล่มสุดท้าย เพิ่งขายไปเมื่อตอนเย็น รอรอบหน้าแล้วกัน มาอาทิตย์หน้า”


    เปี๊ยกเดินเข้าบ้านด้วยอาการหมดแรง ในใจก็คิดว่า รู้แบบนี้ ไม่เดินให้เมื่อย เอาเงินไปขึ้นรถเมล์กลับดีกว่า

    “ทำไมวันนี้ลูกดูเหนื่อยจัง”

            “นั่งรถเลยป้าย เลยต้องเดินย้อนกลับมาครับ”

    “ทำไมไม่เรียกรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือไม่ก็นั่งรถเมล์ย้อนมาหล่ะ”

             “เสียดายเงินครับแม่ เหลืออยู่10บาท นั่งมอเตอร์ไซด์ก็หมดพอดี”
    เปี๊ยกเล่าไม่ตรงกับ
    ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

    “แล้วมันคุ้มไหมหล่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว  ไป ไปอาบน้ำ เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมของกินให้”

            หลังจากเรียนจบชั้นมัธยม ก็เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เปี๊ยกเลือกเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการ
    ช่วงหยุดพักฤดูร้อนก็ต้องไปฝึกงานตามที่ต่างๆ เปี๊ยกเลือกฝึกงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านอาหาร การฝึก
    งานในครั้งนี้ได้ทั้งประสบการณ์ ได้ทั้งเบี้ยเลี้ยงและทิปจากการบริการเป็นรายได้เสริม

            “แม่ครับ วันนี้เปี๊ยกจะไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนๆที่ฝึกงานด้วยกันครับ ฉลองเบี้ยเลี้ยงออกครับ
    แม่ไม่ต้องรอกินข้าวนะครับ กลับไม่ดึกครับ …. เท่านี้ก่อนนะครับ ต้องวางสายแล้ว ผู้จัดการร้านเดินมา”


    เปี๊ยกวางสายทันทีและหันไปพยักหน้ากับเพื่อนร่วมงานเพื่อแสดงความหมายว่า เย็นนี้เจอกัน

    “กินไรดีวะวันนี้หิวชะมัดเลย เอาร้านนู้นดีกว่า ไม่แพง วันก่อนข้ามากินกับที่บ้าน ตกคนละ190บาทเอง”

    “ข้าว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ10บาทกันดีกว่า กินกันคนละ20ชามเลย แต่ชามมันเล็กนะ แข่งกันหรือเปล่า ไอ้เปี๊ยกว่าไง”


    เปี๊ยกหันไปเจอป้ายร้านหนึ่งเขียนว่า  บุฟเฟ่ต์ หัวละ200บาท กินไม่อั้น คาว หวาน แล้วพูดออกมาทันทีว่า

            “ข้าเอาร้านนั้นดีกว่า กินกันอิ่มๆไปเลย ไม่ต้องเกรงใจกัน โอเคไหม พวกเราก็ไม่เคยเข้า
    ไปกินด้วย ลองดูนะ นะ”

    “ว่าไงว่าตามกันสิเพื่อน ก็เอ็งเจ้าถิ่นนิ”


            อาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะเน้นไปทางแป้ง เช่น ข้าวผัด ขนมจีน หมี่ผัด จะมีเนื้อสัตว์ปิ้ง
    ย่างบ้างแต่ก็แจกจ่ายได้ไม่ทั่วถึงเพราะคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก

    “คนเยอะจังเลยไอ้เปี๊ยก ตักไม่ทันเลยวะ”

            “เอ็งก็รีบๆกิน จะได้รีบไปตักไง เดี๋ยวข้าลุกไปตักก่อน พลัดกัน เดี๋ยวตักเผื่อให้ไม่ต้องห่วง”


    เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินเบี้ยเลี้ยงที่เสียไปจากการกินครั้งนี้ ทำให้เปี๊ยกและเพื่อนๆตั้งหน้าตั้งตากิน
    โดยไม่ได้สนทนากันเท่าใดนะ   กินจนแทบเดินกลับบ้านกันไม่ไหว

            “แม่ครับ กลับมาถึงบ้านแล้วครับ”

    “อ้าวแล้วจะรีบวิ่งไปไหนเนี่ย”

            “ห้องน้ำครับ ปวดท้อง”


    หลังจากออกมาจากห้องน้ำ ก็บอกกับแม่ว่า “สงสัยอาหารเป็นพิษแน่ๆ ท้องเสียไม่หยุดเลยครับ….”
    แล้วเปี๊ยกก็เล่าว่าวันนี้ไปกินอะไรกับเพื่อนๆมาบ้าง

    “แล้วมันคุ้มค่ากันไหม แย่งกันกิน แข่งกันกินให้มากที่สุด เป็นแม่ แม่จะเลือกเข้าร้านที่เพื่อนคนแรก
    แนะนำดีกว่า อร่อยกว่า อาหารดีกว่า ไม่ต้องแย่งกันด้วย หรือไม่ก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ 15ชามก็อิ่มแล้ว
    ไม่ต้องมาทรมานแบบนี้”

            “ก็มันเสียดายนิครับ เพิ่มอีกแค่ไม่กี่สิบบาท ก็ได้กินอะไรตามใจชอบแล้ว….”

    “ไม่ต้องพูดมาก เดี๋ยวแม่ไปเตรียมยาแก้ท้องเสียให้ จะได้ไม่ต้องวิ่งทั้งคืน”



    ###############################
    ตามอ่านต่อข้างล่างครับ ผมไม่แตกเป็น2ตอนแล้วครับ

    ฟังเพลงไปด้วยก็จะดีครับ ^_^
    ###############################

    จากคุณ : เย่หยงเทียน - [ 7 มิ.ย. 52 00:13:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom