ความคิดเห็นที่ 1 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : roadtrip - [ 17 มิ.ย. 52 00:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หุ้นอยู่ในมือรายย่อยถึง 60% จากคุณ : bigcoms - [ 17 มิ.ย. 52 00:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้อ แต่ยังไม่หักอื่นๆอีกมากมาย จากคุณ : bigcoms - [ 17 มิ.ย. 52 00:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นักลงทุนในประเทศ ไม่ใช่รายย่อย ทุกคน นะครับ "เจ้าของหุ้น"  ก็เป็น "นักลงทุนในประเทศ" ... "รายใหญ่ในประเทศ"  ก็เป็น "นักลงทุนในประเทศ" จากคุณ : Starfish - [ 17 มิ.ย. 52 01:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วมีกำลังใจค่ะ รู้สึกดี ส่วนจะย่อยจริง ไม่ย่อยจริง ก็เหมารวมกันไปค่ะ จากคุณ : jamegem - [ 17 มิ.ย. 52 02:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จะเล่นหุ้นมันก็ต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันอยู่เเล้วนี่คะ   ข้อมูลอะไรอย่างเดียวมันฟันธงอะไรไม่ได้ เเละที่นี่เป็นเเหล่งเสือสิงห์  ที่เข้ามาเเย่งของสิ่งเดียวกัน ลับ ลวง พราง เอาเปรียบ ก้อย่อมต้องเกิดตามวิสัย ถ้าเรารู้ไม่เท่าทันก็ต้องพ่ายเเพ้กลับไป ในความคิดเห็นของเรา  ผู้กอง ต่างชาติ  รายย่อย ก็มีข้อได้เปรียบ เสียเปรียบต่างๆกันไป 1) ผู้กอง คิดดูว่าเม็ดเงินขนาดนั้นเล่นหุ้นได้ไม่กี่กลุ่ม หุ้นดี ๆ เติบโตไว ปันผลเยอะ   เเต่ถ้าขนาดเล็กไปก้อไม่คุ้มที่จะเล่นเเละติดตามข่าว เเละถ้าเล่นเเล้วเกิดพลาดโดนว่าอีก ไปซื้ออะไรที่ไม่คุ้นหู ก็ต้องจำใจซื้อไอ้ตัวที่เค้าเล่นๆกัน  ผลตอบเเทนก็พอๆกับตลาด 2)  ผู้กอง ต้องทำอะไรเอาใจผู้ถือกองทุน  เเล้วถ้าเป็นกองทุนเปิดนะคะ ก็หมายความว่า ต้องทำตามความพอใจของเม่าที่ยิ่งกว่าเม่า   เพราะพวกนี้ขาดทั้งเวลา เเละความรู้ความเข้าใจ(ถ้ามีก็มาเล่นหุ้นเองเเล้ว) พวกนี้ก็จะดูเเต่ nav  สั้นๆ  ไม่คิดถึงอะไรยาวๆ ทำให้ผู้กอง รู้ทั้งรู้ว่าwindow dressing มันไม่ใช่เรื่องดี เป็นผักชีโรยหน้า เเต่ก็ต้องทำ ไม่งั้น อาจโดนเด้งจากเก้าอี้ 3)  เเต่ผู้กองก็มีข้อได้เปรียบตรงที่เม็ดเงินมหาศาล  เเละข้อมูลข่าวสาร ที่ทั้งเร็วเเละลึกกว่าเรา   รวมทั้งเครื่องมือที่มีมากกว่าเรา นักลงทุนในประเทศ 1 มันก็มีทั้งเซียน ทั้งเเมงเม่าทั้งเจ้าของบริษัท   และเม่าทั้งหลายเเต่ทั้งนี้   เราเหล่ารายย่อยก็มีข้อได้เปรียบตรงที่ ความอิสระ ในการซื้อสินทรัพย์ ไม่มีกฎกติกาอะไรมาบังคับมากมายนัก เเต่ที่พวกเราเม่ามีข้อเสียเปรียบคือ  เรื่องข้อมูลข่าวสาร  เเละความรู้ เเละส่วนใหญ่จะควบคุมอารมณ์  ความโลภ ความกลัวไม่ได้ มีหลายคนที่  โลภเกินความรู้ จึงเป็นหมูมาตลอด  ที่ตลาดเปิด   panic sell จึงเกิดขึ้นบ่อยๆ เเม้พวกเราจะมีเม็ดเงินรวมกันมาก  เเต่ก็เหมือนกิ่งไม้เล็กๆ ที่ไม่ได้มัดรวมกัน จึงเปราะหักได้ง่าย   เเต่ในหมู่รายย่อยนี้ก็มีพวกเซียน  พวกนี้โดยเฉลี่ยเเล้วจะทำผลตอบเเทน ได้มากกว่ากองทุน  เเละสำหรับเราคิดว่าเซียนพวกนี้ได้เปรียบกว่าทั้ง กองทุนเเละต่างชาติ  เพราะเขาเหล่านี้ฉลาด  มีความรู้  ควบคุมอารมณ์ได้ ที่สำคัญมีความอิสระในการเลือกการลงทุน เเละความคล่องตัว กระดิกตัวทำอะไรก็ไม่มีใครดมกลิ่นได้ ส่วนพวกเจ้าของน่ะเหรอ  ใครเล่นหุ้นบริษัทตัวเองเเล้วเจ๊งเนี่ย ไม่รู้จะว่ายังไงเเล้ว   มีทั้งเม็ดเงิน ทั้งข่าววงใน ทั้งปริมาณหุ้นในมือ hedge fund ยังสู้ไม่ได้นะเราว่า ต่างชาติ  ก็มีทั้งที่เป็นเหมือนกองทุนบ้านเรา พวกรายใหญ่ที่เล่นหลายประเทศ  และพวก hedge fund (จะให้นับพวกฝรั่งหัวดำด้วยไม๊คะ) พวกนี้เเหละคือนักล่าตัวจริง fund manager  ของต่างชาติไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เเละเป็นเเล้วถ้าผลงานไม่เข้าตาก็โดนเขี่ยออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเปรียบไปเเล้วพวก fund manager ไทยเป็นนักกีฬาเเห่งชาติ เเต่พวกนี้ก็คือนักกีฬาโอลิมปิก พวกนี้มีความพร้อมทั้งสมอง  ทั้งการควบคุมอารมณ์ที่ดีกว่าเรา มีข้อมูลข่าวสาร เครื่องมือมากว่าเรา   เม็ดเงินมากกว่าเรา เเต่พวกนี้ก็มีข้อบังคับกฏเกณ์มากกว่าเรา   เค้าวางเเผนการล่าทีนึงไม่ได้ล่าเเค่ประเทศเราที่เดียว ล่ามันทั่วโลก  เล่นได้ทั้งค่าเงิน  สินค้าโภคภัณฑ์  หุ้น อสังหา เเถมเล่นได้เกือบทุกภูมิภาค  ที่นี่สินทรัพย์เเพงเเล้วก็โยกไปที่อื่น ยังไงจะกี่ปีกี่ปี ถ้าพวกเรารายย่อย เเละกองทุนไม่ได้พัฒนา เราก็เป็นเหยื่อให้เค้าล่าอยู่ร่ำไป แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 02:28:37 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 02:14:59 จากคุณ : RoseTiara - [ 17 มิ.ย. 52 02:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณโรส เยี่ยมมากเลยค่ะ ชอบบทความคุณจัง เป็นนักแต่งหนังสือได้เลยนะเนี่ย จากคุณ : LoveIsColorBlind - [ 17 มิ.ย. 52 06:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระเบียบ วินัย กฏระเบียบ วิชาการ เป็นกรอบของคนกลุ่มที่ 1 อิสสระ กฏระเบียบบางส่วน วิชาการพอประมาณ อารมณ์ แรงกดดันทางเศรฐกิจของตนเอง เป็นกรอบของคนกลุ่มที่ 2 คงพอเดาออกว่าใครได้เปรียบ จากคุณ : ploytara - [ 17 มิ.ย. 52 06:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กองทุนก็ส่วนหนึ่ง เจ้าของนี่ก็ตัวแสบอีกส่วนหนึ่ง การซื้อขายของต่างชาตินี่มันจิตวิทยาดีแท้ ทำให้รายย่อยกล้าซื้อ แล้ววานนี้ต่างชาติขายถึงสองพันกว่าล้าน รายย่อยจะไม่ช่วยผสมโรงกันขายรึนี่... หรือพี่กองทุยจะกลับมาซื้อกลับ เหอ ๆ หลายท่านอาจกำลังเดาทิศทางตลาดอยู่ จากคุณ : พ่อน้องใบตอง - [ 17 มิ.ย. 52 06:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมตั้งเป้าไว้ว่าสิ้นปีนี้ ผมจะบริหารกองทุนให้ชนะผลตอบแทนของกองทุน จากคุณ : ohlalla - [ 17 มิ.ย. 52 06:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อะไรจะยุ่งยากขนาดนั้นเนี่ย ยากแบบนี้ผมไม่เล่นแล้วหล่ะ รู้แค่หุ้นขึ้นต้องมีเรา หุ้นลงต้องไม่มีเราพอ เครียดขนาดนี้แก่เร็วนะ  หัวหงอกด้วย อย่าเครียดมาก  ออกกำลังกายบ้าง  ทานอาหารที่มีสุขภาพ โชคดีจงเกิดแก่ทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 08:20:25 จากคุณ : Jillna - [ 17 มิ.ย. 52 08:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กระทู้ที่ดีและผู้ตอบ มีคุณภาพครับ จากคุณ : into - [ 17 มิ.ย. 52 08:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เยี่ยมไปเลยครับ ผมเห็นคนสมัยนี้มักง่ายเข้าว่า ขาดความรู้ความเข้าใจ การศึกษาที่ดีพอ นั่งเพ่งยอดฝรั่งซื้อขายแล้วทึกทักว่าหุ้นจะต้องเล่นตามนั้นในวันรุ่งขึ้น คุณเรียนในปริญญาตรีสี่ปีอย่างต่ำ บางคนเรียนต่อปริญญาโท เอก ลงเวลา ลงเงินไปมากมาย กว่าจะมีความรู้มาทำงานได้เงินเดือนสามสี่หมื่นบาท แต่กลับไม่ยอมลงทุน ลงเวลาศึกษาหุ้น แต่อยากจะได้กำไรจากมันเยอะๆ จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 17 มิ.ย. 52 08:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าใครสามารถ อยู่ในวงการได้หลายๆปี  ต่อไปแทบจะไม่สนใจ ใครซื้อ ใครขาย  เพราะเป็นเรื่องสำคัญน้อย จากคุณ : keeta2 - [ 17 มิ.ย. 52 09:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะ คุณ RoseTiara คห.ที่ 6 และ ความคิดเห็นที่ 14   ถ้าใครสามารถ อยู่ในวงการได้หลายๆปี  ต่อไปแทบจะไม่สนใจ ใครซื้อ ใครขาย  เพราะเป็นเรื่องสำคัญน้อย จากคุณ : keeta2   - [ 17 มิ.ย. 52 09:04:38 ]   ............ สนใจแค่ ยอดสุทธิ ของเราก็พอ ถ้าของเรา ซื้อสุทธิ แล้ว หุ้นปิดบวก แสดงว่า ถูก ถ้า ขายสุทธิ แล้ว หุ้นปิดลบ แสดงว่า ถูกอีก ..... คงไม่มีใคร หลงคิดว่า ซื้อขาย ทั้งพอร์ต ใช่มั๊ย เพราะการทำแบบนั้น แสดงว่า ไม่มีการวางแผนการลงทุน เอาซะเลย จากคุณ : อาหนิว - [ 17 มิ.ย. 52 10:18:23 ]