ความคิดเห็นที่ 1 กว่าจะเดินได้จนวิ่งได้ก็ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีครับ กว่าจะดูกราฟแท่งเทียนจนซื้อ-ขายได้เป็นปกติผมให้เวลา 4-5 ปีเลย แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 10:55:29 จากคุณ : Go2Better - [ 25 มิ.ย. 52 10:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองหาหนังสือการวิเคราะห์ ทางเทคนิค ของ อาจารย์ สุรชัย ไชยรังสินนันท์มาอ่านดูครับ อ่านให้หมดทั้งเล่ม แล้วหาโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นมาลองใช้ดูลองดูข้อมูลย้อนหลังของหุ้นในตลาดมานั่งดู แล้วสังเกตุว่าในตำราที่ว่าสัญญาณซื้อสัญญาณขายตามตำรานะเป็นจริงเป็นเท็จได้อย่างไรมีภาวะอย่างไรจึงเป็นไปตามนั้น ดูว่า อินดิเคเตอร์แต่ละตัวเป็นประเภทไหนใช้อย่างไร สัญญาณหลอกเป็นอย่างไร ตัวไหนมีน้ำหนักความน่าเชื่อถืออย่างไรชอบแล้วจับเคล็ดลับตัวไหนได้แล้วไปเจาะหาข้อมูลของเรื่องนั้นแล้วใช้มันให้ชำนาญทั้งการวิเคราะห์หุ้น และการใช้โปรแกรมที่ใช้ พยายามสร้างระบบหรือเงื่อนไขที่ใช้แล้วได้ผลตามที่ตัวเองพอใจ (ง่าย ให้ผลตอบแทนความเสี่ยงที่น่าพอใจ)ที่สำคัญเวลาซื้อขายจริงอย่ามั่วหรือใช้ความรู้สึก ทำตามระบบที่ตัวเองวางไว้อย่างเคร่งครัดถ้าได้ผลไม่ดีพอจะได้มาปรับปรุงที่ระบบ ไม่ใช่ว่าวางระบบไว้ดีแล้วแต่ไม่ทำตามก็เปล่าประโยชน์ เลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องพอสมควร ตลาดหุ้นส่วนนึงถูกขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค ( driven by thechnical analysis) อย่างไรก็ตามขอต้อนรับสู่โลกแห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิค โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 12:01:54 จากคุณ : Naiaod - [ 25 มิ.ย. 52 12:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อาจไม่จำเป็นที่จะต้องจำลักษณะของแท่งเทียนทั้งหมดก็ได้ครับ เพราะว่า...เวลาจะนำไปใช้งาน เราก็มองไปยังจุดหรือตำแหน่งการวกกลับของราคาเป็นสำคัญครับ และสิ่งที่จะต้องเข้าใจเพิ่มเติมก็คือ แนวโน้ม...แนวรับ แนวต้าน... เช่น จากกราฟด้านล่าง 1. แนวโน้มราคาหุ้นได้ลดต่ำลงมา และเกิดการวกกลับของราคา ที่บริเวณพื้นที่แนวรับ minor support 2. และแท่งเทียนได้ confirm สัญญาณการวกกลับของราคา ในวันที่ 2 ... โดยที่ราคาหุ้นไม่ได้ทำ new low 3. และเมื่อวาน วันที่ 3 นับจากการวกกลับของราคา ... ราคาหุ้นได้มีราคาปิด เหนือเส้น EMA 5 วัน ... ซึ่งอาจนำมาเป็นสัญญาณการเข้าซื้อที่ราคาปิดของเมื่อวานก็ได้ 4. จากกราฟไม่ได้กล่าวถึง RSI..MACD...Par SAR ครับ (และควรศึกษาเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้งานร่วมกัน) 5. ผมไม่ได้กล่าวถึงกราฟวีกครับ... ซึ่งกราฟวีกได้แสดงถึงแนวโน้มขาลง (ถ้าไม่สามารถยืนเหนือ 58 บาท/หุ้นได้) ดังนั้นภายในอาทิตย์นี้ควรซื้อขายด้วยความระมัดระวัง ...หรืออาจเหมาะกับการเก็งกำไรในช่วงรีบาวด์ได้อย่างเดียวครับ หมายเหตุ > พื้นที่แนวรับ หมายถึงอยู่ระหว่างเส้นสีขาวๆ แนวนอน 2 เส้นครับ http://www.tasimplified.com/index.htm แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 12:07:27 จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน - [ 25 มิ.ย. 52 12:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แรกๆ หนี เรื่องแบบนี้ไม่พ้นหรอกครับ ต้องอดทน เรียนรู้ไปเรือ่ย อันไหนใช้ไม่ได้ก็ต้องปรับปรุง ไปเรื่อยๆ สำคัญต้องอดทนได้ ใจสู้ ไม่ถ้อถอยก่อนตั้งแต่เริ่มแรก แบบนั้นสักวันจะเข้าใจวิธีใช้เอง สำคัญเลยต้องไม่ถ้อไม่ถอย ไม่หยุด แม้จะพลาดตลอดๆ หาไปเรื่อยๆ สักวันคุณพบเอง เอาใจช่วย จากคุณ : ต้นสนใบเดี่ยว - [ 25 มิ.ย. 52 12:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดูเหมือนคุณอยากเล่นทอง ดีครับ ถ้าคุณจะศึกษาเรื่องแท่งเทียน มันเหมาะสมกับเกมที่ต้องเล่นกันเร็วๆ พวก future ค่าเงิน ทอง พวกนี้ถ้ารออ่านข่าวอยู่ไม่ทันแน่ มีแต่ต้องดู เรียลไทม์ให้ออกแล้วตัดสินใจทันที ปล.ถ้าสนใจจริงๆ บ่ายๆผมว่างผมจะมาเริ่มต้นให้ จริงๆในนี้เขาก็เริ่มต้นให้ได้ทุกคน จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 25 มิ.ย. 52 12:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยเลย กับการต้องใช้เวลาพอสมควร เพียงแต่อย่าท้อ กับสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ พื้นฐานก็สำคัญ แต่การหาจังหวะเข้าที่เหมาะสม ทางเทคนิคสำคัญมาก สรุปแล้วก็คือ การวิเคราะห์พื้นฐาน + ทางเทคนิคกราฟ สำหรับการลงทุนนั้น สำคัญพอๆกัน ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ครับ จากคุณ : อิสรภาพคือความสุข - [ 25 มิ.ย. 52 12:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ wiyada_susi  มาถูกทางแล้ว  คุณต้องเข้าใจเรื่องแท่งเทียนเป็น อย่างดีก่อนที่จะไปใช้เครื่องมือตัวอื่น(แนะนำไม่ให้เปิดตำราเล่นหุ้น ควรศึกษาจากของจริง)     ใช้จนรู้ว่ามันมีข้อบกพร่องอะไร  จึงจะไปนำเครื่องมือตัวอื่นมาเสริม จุดอ่อนของแท่งเทียน   ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่คือ พยายามลงเงินให้น้อยๆ  หาความรู้ให้เยอะๆ แล้วเวลาจะหล่อหลอมทั้งจิตใจ แล้วความรู้เข้าด้วยกัน  ผลก็จะได้ตามเพลง นี้ครับ...อิอิ จากคุณ : หนุ่มชุมชน - [ 25 มิ.ย. 52 12:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่จำเป็นต้องจำ pattern ของแท่งเทียนทั้งหมดหรอกค่ะ จำแค่ แท่งเทียนต่อขาขึ้นเป็นอย่างไร  ต่อขาลงเป็นอย่างไร  แบบไหนเรียกจุดกลับตัวก็พอ  แล้วค่อยประยุกต์ใช้กับกราฟจริง สู้ๆๆนะค่ะ กว่าจะดูกราฟเป็นต้องใช้เวลา + การฝึกฝนค่ะ เปิดดูหลายๆตัวบ่อยๆๆ เข้าเดี๋ยวก็ชำนาญจ้า จากคุณ : snowwy - [ 25 มิ.ย. 52 12:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันต้องสั่งสมไปทีละเล็กละน้อย ใจเย็นๆอย่ารีบร้อนตั้งเป้าไว้สูงเกินไป จะได้ไม่ท้อ เหมือนฝึกพูดภาษาอังกฤษน่ะครับ ต้องใช้เวลาฝึกฝนไปเรื่อยๆ ไม่มีทางลัด ไม่มียาวิเศษ กินแล้วเป็นเลยใน 1 วันหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 14:05:01 แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 13:56:40 จากคุณ : คนรักน้ำมัน - [ 25 มิ.ย. 52 13:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พยายามศึกษาแต่ละเทคนิคก่อนเช่น อยากรู้เรื่องกราฟแท่งเทียนก็ศึกษาเทคนิคแท่งเทียนไป หาข้อมูลจากหนังสือ จากเวป แล้วหาเวลาดูมันจริงๆจังอาจใช้เวลา 1 สัปดาห์ แล้วมาดูว่ามันอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจริง หรือคำถามที่เราอยากรู้ได้หรือไม่  หากเราศึกษาเทคนิคนี้จบแล้วก็ประเมินดูว่าเราอยากรู้อะไรอีก  อยากรู้เรื่อง Indicators ก็หาข้อมูลมาศึกษาต่อไปทีละเรื่อง อย่าเพิ่งเอามาปนกันเพราะพื้นฐานเรายังไม่แน่น จะปนเปกันจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ศึกษาอย่างนี้ไปเป็นเรื่องๆ  ต่อไปก็จะเข้าใจเองว่าที่มามันมาจากจุดเดียวกัน แต่แตกแขนงออกมาเป็นเทคนิคต่างๆ และมันจะเสริมซึ่งกันและกัน  หากจะศึกษาจริงจังน่าจะไปหาที่เรียนตามที่เปิดสอนหลายแห่งทั้งฟรี และเสียตัง บางโบรกก็ให้ศึกษาฟรี  ลองดูนะครับ ที่สำคัญคือขยัน และตั้งใจ และอยากหาคำตอบครับ แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 14:09:47 จากคุณ : kitty63 - [ 25 มิ.ย. 52 14:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อิอิ กราฟเท่านั้น จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง - [ 25 มิ.ย. 52 14:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 smart search ช่วยได้ ผมทดลองฝึกใช้มา 4-5ปีแล้ว ยังรู้ไม่หมดเลยครับ สุดท้ายจริงๆ ใช้ที่ถนัดๆ แค่ 3-4 indy เท่านั้น อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 14:32:30 จากคุณ : Wai-ta-min - [ 25 มิ.ย. 52 14:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เจ้าของกระทู้ยังอยู่หรือเปล่าเนี่ย มาว่ากันต่อ คุณลงทุนซื้อหนังสือมาอ่าน ถือว่าคุณเอาจริง ถ้าคุณจะเรียนรู้ มันมี 4 ขั้นคอน ด้วยกัน 1. เริ่มต้น  (ที่คุณถามว่าจะเริ่มอย่างไร) 2. เรื่องรูปแบบทั้งหมด 3. หาความชำนาญส่วนตัว แยกแยะความสำคัญของเทียนแต่ละแท่ง 4. เป็นexpert ที่ผมจะว่าต่อไปนี้คือ ข้อ 1 เริ่มต้น ถ้าเป็นยูโด ก็ท่าหัดล้มตบเบาะ กังฟูก็ท่ายืนกางขาย่อตัวยังไงให้มั่นคง ok มาเริ่มที่ คุณปิดหนังสือที่มีไปก่อน แล้วทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผมว่าไปซัก อาทิตย์นึง 1.แท่งเทียนไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่า แรงซื้อที่สู้กับแรงขายในช่วงเวลาหนึ่ง(หนึ่งแท่ง) ฝ่ายซื้อก็อยากจะซื้อให้ถูกที่สุด ฝ่ายขายก็อยากจะขายให้ได้แพงที่สุด ในจำนวนที่ต้องการ นี่คือสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายสู้กัน 2.แท่งเทียนเป็นสัญลักษณ์ บอกค่าสี่ค่าคือ ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด ราคาเปิด คือการเริ่มสัปยุทธ์ ทั้งสองฝ่ายซื้อ/ขาย เริ่มยกทัพออกมาเตรียม ยังไม่ได้สู้กันจริงจัง คุณก็ย้อนกลับไปดูเทียบกับแท่งก่อนว่า มันต่อเนื่อง หรือมีการกระโดดขึ้นหรือลง ที่เรียกว่า ช่องว่าง (Gap) ถ้ามีแปลว่ามันไม่ปกติ ต้องเฝ้าดูแล้ว มันบอกกึงการต้องการพิชิตอย่างรุนแรงในไม้เดียวตอนเริ่มต้น ถ้าโดดขึ้น ก็แปลว่าฝ่ายซื้อต้องการของอย่างรุนแรงจนยอมซื้อแพง ไม่ต่อราคาแล้ว ถ้าโดดลงก็กลับกัน (อาจมีข่าวสำคัญ วงในก็ซื้อ/ขายก่อนที่คนอื่นจะรู้) จากนั้น ก็ดูต่อว่าอืกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือไม่ ถ้าไม่และสามารถดันกลับมาปิดแก๊ปได้ก็ถือว่าจบไม่มีอะไร ก็ไปดูสิ้นวัน ราคาสูงสุด บอกถึงความอยากและกำลังของฝ่ายซื้อ ว่ามีความต้องการของแค่ไหน ยิ่งสูงมากก็แปลว่ายิ่งต้องการมาก ราคาต่ำสุด บอกถึงกำลังของฝ่ายขาย ถ้าอยากขายมาก ฝ่ายซื้อมองออก ก็จะเล่นตัวต่อราคามากๆ ราคาก็ลงต่ำมากๆกว่าจะขายได้หมด (ถ้าขายหมดแล้ว ราคาจะตีกลับ ถ้ายังไม่หมดราคาก็จะต่ำอยู่อย่างนั้น) ราคาปิด คือราคาตัดสินจบวัน(ผมใช้วันแทน 1 ช่วงเวลาแล้วกัน มันพิมพ์ง่ายดี) บ่งบอกถึงผู้แพ้และผู้ชนะในวันนี้ พรุงนี้ค่อยว่ากันใหม่ ถ้าปิดได้สูงมาก แปลว่าฝ่ายซื้อชนะละ ฝ่ายขายไม่ขายแล้ว  ถ้าปิดต่ำก็กลับกัน แรงขายยังแรง (ฝ่ายซื้อที่ซื้อไว้ พอไม่มีคนมาขายแล้ว ก็จะถือไว้โก่งราคาขายคนที่จะอยากซื้อต่อไป ราคาก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้าฝ่ายขายยังขายไม่หมดพรุ่งนี้ก็มาสู้กันใหม่ เกิดกระบวนการต่อเนื่องของแท่งเทียน) 3.อ่านผลจากการสู้กัน สมมุติถ้าเป็น แท่งทึบยาว ก็แปลว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะเด็ดขาด แท่งเขียว(เปิดต่ำ ปิดสูง) แท่งแดง ก็กลับกัน ก็เดาต่อได้ว่า พรุ่งนี้จะเป็นเกมของผู้ชนะในวันนี้ ที่จะเล่นต่อในเกมแบบเดิม ถ้าเป็นกากะบาท ก็แปลว่าแรงที่สู้กันสูสี ไม่มีคนชนะขาด ยังต้องสู้กันต่อในวันรุ่งขึ้น จนกว่าจะแพ้ชนะ (ผมยกตัวอย่าง DJIAอาทิตย์โน้น ตามรูปข้างล่างมาให้ดู จะเห็นว่าเขาสู้กันเพื่อที่จะเอาชนะเส้นค่าเฉลี่ย 200วัน ปรากฏว่าสู้กันเป็นกากะบาทอยู่ 4-5 อัน ฝ่ายซื้อยอมแพ้ฝ่ายขายมีกำลังกว่า มันก็ตกรูดเลย) จบแค่นี้กระมังสำรับเริ่มต้น สัปดาห์แรก พิมพ์มาถึงนี่พบว่ามันยากกว่าที่คิด ใครนึกอะไรออกก็ช่วยเสริมผมก็แล้วกัน พอคุณพอจะเข้าใจนี้แล้ว ก็เริ่มอ่านหนังสือของคุณต่อได้ ผมคิดว่าประมาณ 6 เดือนคุณจะเข้าใจรูปแบบมันทั้งหมด ถ้าคุณพบว่าหนังสือบอกอะไรที่ต่างกับที่ผมว่าไว้ ก็ขอให้ถือว่าหนังสือถูก ถือว่าคุณแยกแยะถูกผิดได้แล้ว จากนั้นคงใช้เวลาประมาณ 1 ปีหาความชำนาญ ตอนนี้คุณจะเริ่มแยกแยะได้ ว่ารูปแบบไหนที่จะมีพลังที่สุด ที่ต้องเอาใจใส่มากๆ (มีแค่ สี่ห้ารูปแบบเอง) รูปแบบไหนสำคัญแบบกลางๆ ที่ต้องรอยืนยันวันรุ่งขึ้นอีกที และรูปแบบไหนที่ไม่ค่อยสำคัญไม่ค่อยได้เรื่อง ไม่ต้องเอาใจใส่มากก็ได้ สุดท้าย หลังจากนั้น คุณก็คือผู้เชี่ยวชาญ ก็กลับมาสอนผมกลับคืน ขอให้สนุกกับแท่งเทียนครับ จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 25 มิ.ย. 52 15:51:15 ]