ทำความรู้จักกับ Derivative Warrants PTT13CA

เครดิตคุณ Kas
จาก http://www.chaloke.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=7022


DW ตัวแรก-PTT13CA/คอลัมน์นัดพบอนุพันธ์
รายงานโดย :บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย): วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552


DW ตัวแรกPTT13CAลุ้นกันมานานครับสำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) หรือที่เรียกชื่อย่อว่า DW ว่าจะเริ่มซื้อขายกันได้เมื่อไหร่ หลังจากได้ยินชื่อ DW มานานหลายปีแล้ว ในที่สุดวันที่ 9 ก.ค.นี้ จะเป็นครั้งแรกที่เราจะมี DW เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) “นัดพบอนุพันธ์” ครั้งนี้ จึงขอนำเสนอรายละเอียดของ DW รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้ลงทุนประกอบการตัดสินใจซื้อขายครับ

DW รุ่นแรกที่จะซื้อขายนี้ มีชื่อเรียกเฉพาะรุ่นว่า PTT13CA ซึ่งเป็นชื่อย่อที่บอกว่า DW นี้เป็นตราสารที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือ DW ในการซื้อหุ้น PTT ตามเงื่อนไขที่ผู้ออก DW รุ่นนี้ ซึ่งก็คือ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กำหนด โดยรายละเอียดของเงื่อนไขที่ KGI กำหนดนั้นจะเปิดเผยไว้ในเอกสารที่เรียกว่าข้อกำหนดสิทธิ ซึ่งผู้ลงทุนควรต้องศึกษาทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อขายนะครับ แต่เพื่อความสะดวกสำหรับทุกท่าน ผมขอสรุปข้อกำหนดสิทธิของ PTT13CA โดยย่อดังนี้ครับ KGI กำหนดให้ PTT13CA มีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 110% ของราคาปิด PTT วันที่ 2 ก.ค. 2552 หมายความว่า หากวันที่ 2 ก.ค.นี้ ราคา PTT ปิดที่ 220 บาท ราคาใช้สิทธิก็คือ 242 บาท ดังนั้นผู้ลงทุนจะมีกำไรก็ต่อเมื่อราคา PTT สูงกว่า 242 บาท แต่อย่าลืมว่ายังมีต้นทุนในการซื้อ PTT13CA ซึ่ง KGI กำหนดไว้ที่ 2.72%

จากตัวอย่างนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ KGI ยังกำหนดว่าต้องถือ DW 5 หน่วย จึงจะสามารถใช้สิทธิได้ PTT 1 หุ้น ดังนั้นหากคิดต้นทุนกันเต็มที่แล้ว ก็จะมีต้นทุนในการซื้อ PTT13CA จำนวน 5 หน่วย เป็นเงินประมาณ 30 บาท ดังนั้นการตัดสินใจว่าควรจะซื้อ PTT13CA หรือไม่นั้น จึงขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนที่มองว่าราคา PTT จะปรับตัวไปอยู่ที่ระดับใด ซึ่งจากตัวอย่างนี้จุดคุ้มทุนจะคำนวณจากราคาใช้สิทธิบวกกับต้นทุนในการซื้อ PTT13CA จำนวน 5 หน่วย = 242 + 30 = 272 บาท นั่นคือ ท่านจะคุ้มทุนก็ต่อเมื่อราคา PTT ขึ้นไปถึง 272 บาทครับ

PTT13CA มีอายุ 6 เดือน โดยให้ใช้สิทธิได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อครบกำหนดอายุ แต่ในการใช้สิทธินั้น ผู้ถือ PTT13CA จะไม่ได้รับหุ้น PTT จริง แต่ได้รับเงินจาก KGI เท่ากับส่วนต่างของราคาใช้สิทธิกับราคาหุ้น PTT ซึ่งเรียกว่าการชำระราคาเป็นเงินสด (Cash Settlement) นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น หากในวันใช้สิทธิ ราคา PTT อยู่ที่ 290 บาท ราคาใช้สิทธิตามตัวอย่างคือ 242 บาท หากผู้ลงทุนถือ PTT13CA อยู่ 1,000 หน่วย จะได้รับเงินจากการใช้สิทธิเท่ากับ (290 - 242) x (1,000/5) = 9,600 บาท แต่ในกรณีที่ท่านถือ DW เพื่อรอใช้สิทธิตามที่กำหนด มีข้อสังเกตอยู่ 2 ประการ คือ ประการแรก เรื่องภาษี การใช้สิทธิแบบนี้ไม่ถือเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนจึงต้องนำเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิ 9,600 บาท ไปคำนวณรวมเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี และประการที่สอง เนื่องจากผู้ออก PTT13CA ไม่ใช่บริษัทเจ้าของหุ้น แต่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ ดังนั้นผู้ลงทุนจึงมีความเสี่ยงว่าผู้ออกจะสามารถชำระเงินส่วนต่างได้ตามที่ตกลงไว้หรือไม่ หรือที่เรียกว่า Credit Risk นั่นเอง

ผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อ PTT13CA สามารถซื้อได้ในราคาจองจากผู้จัดจำหน่าย หรือรอซื้อในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ ในลักษณะเดียวกับการซื้อหุ้นจดทะเบียนตามปกติ และเมื่อใดที่ราคาของ PTT13CA ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สูงกว่าราคาที่ผู้ลงทุนซื้อมา ผู้ลงทุนก็สามารถขาย PTT13CA เพื่อรับรู้กำไรได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องรอไปจนถึงวันครบกำหนดอายุเพื่อใช้สิทธิ ซึ่งกรณีนี้จะถือว่าเป็นการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ลงทุนทั่วไปจะได้รับยกเว้นภาษีกำไรจากการขายด้วยครับ

คำถามที่ผู้ลงทุนมักจะถามก็คือ แล้วควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้างในการตัดสินใจซื้อ PTT13CA ผมขอให้คำแนะนำแบบกลางๆ ว่า การซื้อ DW นั้น ผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์ก็ต่อเมื่อราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และต้องสูงกว่าราคาใช้สิทธิ มิฉะนั้นผู้ถือก็จะไม่ได้อะไรเลย ซ้ำยังจะขาดทุนเพราะจ่ายเงินซื้อ PTT13CA ไปแล้ว ซึ่งคิดเป็นอัตราผลขาดทุน 100% แต่ถ้ามีความเห็นเกี่ยวกับราคาหุ้นอ้างอิงในใจว่ามีแนวโน้มขึ้น การซื้อ PTT13CA จะใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการซื้อหุ้น PTT ครับ เทียบง่ายๆ ครับ จากตัวอย่างเดิม หากซื้อ PTT 1 หุ้น ใช้เงิน 220 บาท แต่ซื้อ PTT13CA 5 หน่วย เพื่อใช้สิทธิ 1 หุ้น ใช้เงินแค่ 30 บาทเท่านั้น ต่างกันเกือบ 7 เท่าตัว ดังนั้นหากคาดการณ์ถูกทาง คือ ราคาหุ้น PTT ขึ้นจริง ผู้ลงทุนก็จะได้กำไรในอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับจำนวนเงินทุนในการซื้อ DW แต่หากถามว่า จะคาดการณ์ได้อย่างไรว่าราคาหุ้น PTT จะปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลง ในส่วนนี้ผู้ลงทุนคงต้องใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เช่น แนวโน้มราคาน้ำมัน เป็นต้น ประกอบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อดูแนวโน้มราคาหุ้น PTT ด้วย ซึ่งผมขอแนะนำให้ท่านผู้ลงทุนสอบถามหรือปรึกษากับโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการอยู่ครับ

สำหรับท่านที่เกรงว่าการซื้อขาย PTT13CA จะไม่มีสภาพคล่องนั้น ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดให้ KGI ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องของ PTT13CA ด้วย โดยสิ่งที่ KGI ต้องทำคือ การเสนอราคาทั้งด้านซื้อและด้านขายเข้าไปในกระดาน เพื่อให้มีราคาซื้อขายปรากฏตามเวลาที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ คือ ราคาเสนอซื้อและเสนอขายจะต้องห่างกันไม่เกิน 10 ช่วง และต้องมีปริมาณการเสนอซื้อเสนอขายแต่ละด้านไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นหน่วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ผู้ออก DW กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อหรือขาย นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ยังกำหนดให้ผู้ออก DW ต้องเปิดเผยข้อมูลผลการปฏิบัติงานเหล่านี้ทุกเดือน ซึ่งถือเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพส่วนหนึ่งให้ผู้ลงทุนได้ทราบว่า บริษัทผู้ออก DW มีคุณภาพและปฏิบัติตามสิ่งที่ตกลงไว้หรือไม่

ท้ายสุดนี้ ผมขอฝากไว้ว่า แม้ DW จะซื้อขายในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ แต่ลักษณะและธรรมชาติของ DW นั้นเป็นอนุพันธ์แบบหนึ่ง ดังนั้นในเชิงของความเสี่ยงและผลตอบแทนจึงคล้ายคลึงกับการซื้อ หรือ Long ออปชันใน TFEX ครับ นั่นคือใช้เงินน้อย มีโอกาสทำกำไรได้สูง แต่ก็อาจขาดทุนได้ทั้งจำนวนเช่นกัน สำหรับในช่วงเริ่มต้นนี้เรามี DW ซื้อขายแค่ตัวเดียว แต่ในอนาคตอาจมีผู้ออก DW บนหุ้นเดียวกัน หรือต่างหุ้นกันก็ได้ ผมจึงอยากขอย้ำว่า DW แต่ละตัวอาจต่างกัน และไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดนั้น ผู้ลงทุนที่สนใจจะซื้อขาย DW จึงควรศึกษาหนังสือชี้ชวน และข้อกำหนดสิทธิอย่างรอบคอบและมั่นใจว่าเข้าใจเรื่องผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อขาย ขอให้โชคดีกับการซื้อขาย PTT13CA ซึ่งเป็น DW ตัวแรกในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทยครับ

จากคุณ : Bullish Signal - [ 4 ก.ค. 52 22:31:39 ]