ความคิดเห็นที่ 1   ไม่ลับหรอกครับ ไปหาบทความหรือหนังสือที่ ดร.เขาเขียน คุณก็จะทราบเอง แต่ถ้าหวังความมันส์ด้านส่วนต่างราคาจากหุ้นที่ ดร.เขาชอบละก็ อย่าไปเอาอย่างเขาเลยครับ เพียงเพื่อเป็นผู้ตาม เมื่อไหร่จะได้เป็นผู้นำตามสไตล์ที่เป็นตัวตนของคุณ จากคุณ : เอกาก้า เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:13:41

ความคิดเห็นที่ 2   กว่าจะรู้ว่า ดร.นิเวศน์ เก็บตัวไหน ราคามันก็ไปไกลแล้ว จากคุณ : jinnyjune เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:16:29

ความคิดเห็นที่ 3   ส่ง e-mail ไปหาเขา จากคุณ : O.Tsubasa เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:18:54

ความคิดเห็นที่ 4   คุณคิดผิดแล้วคุณ  ถึงคุณจะหาหุ้นที่ดร.นิเวศน์ถืออยู่ได้แล้วจะตามไปลอก ก็ไม่ถูกอีก เพราะเขาซื้อที่ระดับ P/E ,P/BV ต่ำกว่าคุณ ราคาที่คุณได้ในตอนนี้ก็ไม่ใช่ ราคาที่เค้าสนใจอีก เช่น  ถ้าดร.นิเวศน์ เจอ BEC ราคา ที่ซื้อ มี P/E 3 P/BV 0.5 จ่ายปันผล 15 % ผมว่าเค้าต้องซื้อแน่เลย เพราะมี margin of safety 50 % แถมจ่ายปันผลอย่างงาม แต่พอเวลาเปลี่ยนไป ราคา BEC เพิ่มขึ้น   BEC มี P/E 20 และค่าอื่นๆก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น ยกเว้นปันผลที่สวนทางกับ ค่า P/E ที่สูงขึ้น ดร.นิเวศน์ ก็ไม่ลงทุนหรอก แต่คุณจะไปลอกตามเค้าไม่ได้  จังหว่ะมันผิดกัน นั่นเค้าซื้อที่ราคาต่ำ มีส่วนต่างรองรับความปลอดภัยที่สูง แต่คุณไม่มีเลย จากคุณ : Tanaphon_P เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:26:42

ความคิดเห็นที่ 5   เอางั้นเลยนะ :P จากคุณ : Inori เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:27:33

ความคิดเห็นที่ 6   มันไม่เป็นความลับหรอกครับ มีตั้งหลายวิธีที่จะรู้ แต่ผมแนนำอย่างนี้นะ ถ้ามันมึนส์มากๆ ไม่ค่อยเข้าใจ ก็อย่าไปซื้อหุ้นแบบนี้เลยครับ ต่อให้คุณรู้ว่าดร.ถือตัวไหนอยู่ เชื่อผมไหมว่าตุณไปซื้อก็ขาดทุน อย่างที่บนๆบอกมา ว่ากว่าคุณจะรู้มันก็สายเสียแล้ว อิอิ หรือให้ซื้อพร้อมกันเลยเอ้า พอซื้อมาแล้วราคาลงไป20-30%คุณถือไหวไหม ดร.ถือได้ครับ แล้วพอมันกลับมา กำไรไปเป็นร้อยๆ% แต่คุณขายขาดทุนไปแล้ว ตราบใดที่ยังหาหุ้นเองไม่ได้ ยังต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ คุณก็ยังทำกำไรอย่างยั่งยืนไม่ได้ ผมเห็นมาหลายคนแล้วVIพันทาง เรานะกำไรอย่างนั้นอย่างนี้ ถามหาหุ้นยังไง บอกไปเข้าthaivi ปรากฏตอนหุ้นลงหนัก เค้าขายกันไปแล้ว มัวแต่ถือเพลิน ไอ้ที่กำไรมาก็โบกมือลาไปเลย เพราะอะไร เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรขาย เคยแต่มีคนบอกให้ซื้อขาย แบบนี้กำไรมันไม่ยั่งยืนครับ ยืมจมูกคนอื่นหายใจ (@_@) จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:59:01

ความคิดเห็นที่ 7   margin of safety คิดยังไง จากคุณ : Orenz001 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 01:23:48

ความคิดเห็นที่ 8   มักง่าย เอ๊ย คิดง่าย ดีจัง "สิ่งที่ใช่ อาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น"... จากคุณ : No sense เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 01:55:39

ความคิดเห็นที่ 9   ก็คือที่ P/BV = 0.2 ก็แสดงว่ามีโอกาสที่หุ้นจะตกลงไปต่ำกว่า ได้อีก 20 % จาก ราคาหุ้นเมือเทียบเท่ากับสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ในโลกความจริงราคาหุ้นต่ำกว่าบุคจนเหลือ 0 ได้ก็ต่อเมื่อ บริษัทมันเจ๊งเท่านั้นหล่ะครับ  ถ้าบริษัททำกำไรได้ ยังไงก็ไม่ มีทางเท่ากับ 0 ครับ และห้ามมีหนี้จนเกินตัว จากคุณ : Tanaphon_P เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 02:10:52

ความคิดเห็นที่ 10   ^ ผมคิดว่าP/Bไม่ได้บอกโอกาสว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงได้อีกเท่าไหร่นะครับ คิดว่าP/Bน่าจะบอกความถูกแพงของหุ้น เมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชีมากกว่า ถ้าP/Bเท่ากับ1ก็คือเจ่ายเท่ากับราคาตามบัญชีเป๊ะๆเลย แต่ถ้ามากกว่าก็คือแพงกว่า แต่ก็นั่นแหละเราซื้ออนาคต เพราะว่าP/Bไม่ได้บอกถึงศักยภาพการทำกำไรของบริษัท ถ้ามีโอกาสมีกำไรเราก็อาจยอมซื้อแพง ซึ่งการทำกำไรต้องไปดูP/E ที่บอกว่าเราจ่ายไปเท่าไหร่ต่อกำไรที่ได้ ผมมองว่ายังงั้นนะครับ ถูกผิดต้องรอผู้รู้มายืนยัน แล้วส่วนทุนถ้ามันติดลบ ผมว่าP/Bก็น่าจะต่ำกว่า0ได้นะครับ เพราะว่าเมื่อตัวหาร(B)ติดลบ มันจะทำให้ค่าที่คำนวณออกมาเป็นลบด้วยหรือเปล่า ผมลองไปหาดูก็พอมีหุ้นที่ทำกำไรได้ แต่ส่วนทุนก็มีติดลบ อาจจะเป็นเพราะว่าถึงทำกำไรได้ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้ส่วนทุนเป็นบวกหรือเปล่าครับ (@_@) จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 02:57:36

ความคิดเห็นที่ 12   ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความคิดเห็นครับ เรื่องของ P/E, P/BV พอจะเข้าใจได้อยู่ ถึงเป็นหุ้นดี แต่จังหวะการซื้อผิด ก็ไม่ควรซื้อ ถูกไหมครับ แต่เรื่องอื่นเช่น ความสามารถในการแข่งขัน วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร หรือเรื่องภายในอื่นๆ ที่เราไม่รู้ คนที่วิเคราะห์เก่งๆอย่างดร.ท่านคงรู้ อ่านบทความที่ท่านเขียนก็ทราบว่า ท่านชอบไปประชุมผถห. หากเราทราบว่า หุ้นที่ดร.นิเวศน์ถือ มีหุ้นอะไรบ้าง อย่างน้อยก็เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญเอาตะแกรงร่อนหุ้นออกมาชั้นนึงก่อน ส่วนเราจะซื้อหรือไม่ซื้อค่อยว่ากันอีกที ผมอ่านในสินทรนี่ก็พอทราบว่า ดร.แกถือ cpall แต่ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะทราบตอนมันขึ้นไปเยอะแล้ว มีคนมาโพสต์ เลยอยากรู้ตัวอื่นๆใน port อ่ะ ผมเองก็มี list ของหุ้นที่กะจะเก็บยาว แต่คงไม่ได้ซื้อทุกตัว ต้องเลือก ถ้าเรารู้ว่า คนเก่งกว่าเราเยอะ เขาเล็งตัวนี้ ตัวเดียวกะเรา ก็จะได้สบายใจขึ้น แบบว่า เป็นกำลังใจอ่ะ ได้ลงเรือลำเดียวกะดร.นิเวศน์ คงอุ่นใจกว่าไปแบบเคว้งคว้าง ส่วนแกจะโดดหนีไปตอนไหน คงว่ากันอีกที เอิ๊ก ผมอาจจะมาตั้งกระทู้ถามอีกก็ได้ว่า ตอนนี้ดร.นิเวศน์แกไม่ได้ถือตัวไหนแล้วบ้าง55 จากคุณ : หมาร่า (C.BUN) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 05:26:25

ความคิดเห็นที่ 13   ถ้าอยากรู้ว่าแกถือตัวไหนบ้างต้องไปฟังที่ตลาดหลักทรัพย์ ทุกวันเสาร์แรกของเดือนสิครับ แกไม่ปิดอยู่แล้วนี่ครับ เมื่อตอนต้นปีแกบอกแกซื้อ aot หลักจากนั้นไม่นานราคาก็ขยับจากแถว 15 บาทมาเป็น 26 บาท แต่ความจริงในหลายหลายสภาวะอาจไม่เป็นแบบตลาดช่วงนี้นะครับ หากเราตั้งใจมุ่งมั่นศึกษาแนวทางของเราเอง เราอาจจะหาหุ้นที่ราคาถูกกว่านี้ได้ครับ แต่ดร.อาจไม่สนใจแล้วเพราะสภาพคล่องอาจน้อยเกินไปสำหรับพอร์ทการลงทุนของท่าน แต่ ถ้าสำหรับพอร์ทเล็กเล็กล่ะก็ โอกาสที่จะกำไรมากกว่าหุ้นสภาพคล่องสูงมีมากครับ (แต่ตรงนี้ต้องวิเคราะห์ดีดีนะครับ ต้องหากิจการที่มีคุณภาพจริงจริง) ดร.เองก็ร่ำรวยมาจากหุ้นเล็กเล็กนี่แหละครับ แต่เมื่อพอร์ทใหญ่ขึ้นก็ต้องหาหุ้นลักษณะdefensive ขึ้นเท่านั้นเอง  จริงจริงแล้วหุ้น VI ไม่มีอยู่จริงนะครับ มีแต่แนวทางการลงทุนแนว VI เท่านั้น หุ้นตัวหนึ่งณ.ราคาระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่สูงกว่าราคา ก็อาจถือเป็นหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าได้ แต่หากราคาหุ้นปรับสูงขึ้น หรือปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงซึ่งมีผลทำให้มูลค่าในอนาคตลดลง ก็อาจเต็มมูลค่าได้ครับผม ต้องวิเคราะห์กันเรื่อยเรือ่ยครับ ผมถือว่าหุ้นนั้นมีชีวิต เปลี่ยนแปลงได้ตลอดครับ ( แต่ถ้าหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ยากหน่อย แต่ทุกอย่างก็มี เกิด ตั้งอยู่ และ ดับไป ครับ ) แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 06:28:23 จากคุณ : luckydog2 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 06:25:32

ความคิดเห็นที่ 14   หุ้นที่ ดร. ถือเท่าที่ผมทราบ ประมาณพวกนี้ครับ Homepro ที่ราคาประมาณ 5 บาท Bigc  ที่ราคา 20 บาท Cpall ที่ราคา 5 บาท IT ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 2บาท Se-ed  ประมาณ 7 บาท Aprint ประมาณ 7 บาท ระยะเวลาการถือนานมาก ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ขึ้นไป บางตัวจะมีชื่อผู้ในผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย แต่จะเป็นชื่อภรรยา แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 06:42:08 จากคุณ : P Phod เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 06:41:33

ความคิดเห็นที่ 15   หุ้นตัวเดียวกัน แต่ต้นทุนต่างกันนะครับน้า แล้วถ้าแกขายจะขายด้วยไหมครับ เหอๆ ผมว่า หาเองสนุกกว่านะครับ ถ้าจะลอกก็ต้องให้ต้นทุนไม่ต่างกันมาก แล้วต้องเข้าใจธุรกิจจริงๆดีกว่า ไม่งั้นพอเค้าขายก็จะขายตาม แต่รู้อีกทีก็สายเสียแล้ว เพราะไม่มีเป้าหมายของตัวเองที่ชัดเจน คนที่เล่นแล้วรวยในไทยวีไอ ก็ไม่จำเป็นต้องลอกดร. หลายๆคนทำผลตอบแทนได้ดีกว่าดร.อีกนะครับ แต่ไม่ดังเท่านั้นเอง นอกจากเก่งแล้วมันต้องเฮงด้วยครับ หลายๆคนเก่งแต่ไม่เฮง ก็ไม่รวยสักที ถือหุ้นดีแต่ราคาไม่วิ่งสักที รอข่าว ข่าวก็ไม่มาสักที อันนี้โทษใครไม่ได้ อิอิ จากคุณ : บอย :) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 07:21:44

ความคิดเห็นที่ 16   ขอบคุณ คุณluckydog2 และคุณP Phod มากครับ จากคุณ : หมาร่า (C.BUN) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 07:24:19

ความคิดเห็นที่ 17   เคยดูรายการอาจารย์เขาพูดทางทีวีเมื่อ2-3ปีก่อน ท่นยกตัวอย่างว่าถือหุ้น homepro ต้นทุนอยู่ที่ 4 บาทกว่า แต่ราคาตอนนั้นมันขึ้นไปแล้วที่ 6-7 บาทกว่า ผมคิดว่าราคามันขึ้นมาเยอะแล้วจากที่ท่านซื้อเก็บไว้ ก็เฝ้าดูเพื่อต่อรองราคาว่าถ้าลงมาซัก5บาทกว่าหรือ6ต้นๆก็จะเข้าซื้อเก็บบ้าง แต่ที่ไหนได้เฝ้าดูไปดูมา ราคามันวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง10-11บาทกว่า จากนั้นมันก็แตกพาร์ ผมก็เลยแห้วไปตามระเบียบ แต่ท่านซิกำไรมโหฬารเลย จากคุณ : kaisin เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 07:45:58

ความคิดเห็นที่ 18   ถ้าจะหาชื่อ ดร.นิเวศน์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัทไหน หายังไงก็ไม่เจอหรอกครับ เพราะหุ้นเกือบทั้งหมดของ ดร.นิเวศน์ อยู่ในชื่อ........ของภาพประกอบ จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 08:04:07

ความคิดเห็นที่ 19   เสริม  CPF,TF จากคุณ : Mangowaan เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 09:07:57

ความคิดเห็นที่ 20   ให้ลอกแนวคิด และวิธีการหาครับ อย่าไปยึดติดกับตัวหุ้นของเค้าครับ จากคุณ : suchaot เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 09:12:13

ความคิดเห็นที่ 21   ต้องใช้ Connection กับมาร์ แต่ก็นั่นแหละมาร์ที่เอาข้อมูลมาบอกก็ผิดจรรยาบรรณ แต่ที่แน่ ๆ แกมีพอร์ตอยู่ที่ SCIS แน่นอน เพราะแกทำงานอยู่ SCIB สมัยซักสี่ห้าปีที่แล้ว มีน้องที่รู้จักเป็นมาร์ บอกว่าเคยเห็นทั้งพอร์ตของสุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรมว.คลัง และดร.นิเวศน์ด้วย ถามว่าเห็นได้ยังไง มันบอกว่าเขาไม่ได้เทรดกับผมหรอก เทรดกับหัวหน้า แต่มันถูกหัวหน้าสั่งให้ fax พวกใบคอนเฟิร์มกับพวก Transaction ไปให้ ก็เลยมีโอกาสได้เห็นบ้าง จากคุณ : French Vanilla เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 09:41:51

ความคิดเห็นที่ 22   ระวังลอกขอผิดละยุ่งเจย จากคุณ : สี่คูณสอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 09:59:10

ความคิดเห็นที่ 23   ผมว่าคุณ หมาร่า ลองไปเข้า web www.thaivi.com ดีกว่าครับ หุ้นที่ ดร. ถือ หาไม่ยากหรอก เช่น se-ed , tf จากคุณ : ไรเฟิล เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 10:17:31

ความคิดเห็นที่ 24   ซื้อตัวไหน บางทีก็ไม่สำคัญเท่ากับซื้อตอนไหนที่ราคาเท่าไหร่นะคะ จากคุณ : Breakfast In America เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 10:24:30

ความคิดเห็นที่ 25   APRINT 2/4/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 2,000,000 1.00% 11.8 23,600,000.00 0.80 1,600,000.00 CMO 12/3/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 3,000,000 2.00% 1 จากคุณ : เลี้ยงแมวให้เป็นหมู เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 10:38:48

ความคิดเห็นที่ 26   เอาใหม่ค่ะ SYMBOL วันปิดสมุด ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น % ราคา จำนวนเงิน ปันผล รวมปันผล APRINT 2/4/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 2,000,000 1.00% 11.8 23,600,000.00 0.80 1,600,000.00 CMO 12/3/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 3,000,000 2.00% 1 3,000,000.00 0.00 0.00 CPALL 17/3/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 22,500,000 0.50% 12.8 288,000,000.00 0.60 13,500,000.00 HMPRO 21/4/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 15,699,893 0.81% 4.6 72,219,507.80 0.35 5,494,962.55 IRC 12/12/2008 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 5,400,000 2.70% 7.2 38,880,000.00 0.45 2,430,000.00 IT 11/3/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 8,500,000 2.54% 4 34,000,000.00 0.50 4,250,000.00 SVOA 13/3/2009 นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร 8,000,000 1.29% 0.67 5,360,000.00 0.00 0.00 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 10:39:46 จากคุณ : เลี้ยงแมวให้เป็นหมู เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 10:39:11

ความคิดเห็นที่ 27   ตามคห.ที่ 26 ครับแต่ขาด aot กับ bigc เพราะไม่ได้แสดงในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากสองตัวนี้market cap ใหญ่มาก ดร.เลยไม่ติดโผครับผม จากคุณ : luckydog2 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 10:50:25

ความคิดเห็นที่ 28   BIGC ท่านไม่ได้ถือนะคะ ตามที่ทราบมา จากคุณ : เลี้ยงแมวให้เป็นหมู เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 10:59:13

ความคิดเห็นที่ 29   ถ้าคิดแต่จะลอกการบ้าน มันจะเข้าใจอะไรได้หรือครับ ถ้าคิดเองทำเองจะได้เข้าใจ  จะได้พึ่งพาตนเองได้ จากคุณ : ไทไท เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:16:43

ความคิดเห็นที่ 30   ลอกการบ้าน ดร ได้ถ้าราคามันยังไม่ไปเวอร์ แต่ให้เข้าใจว่า ทำไมแกถึงเลือกหุ้นตัวนี้ แล้วจำไว้ คราวต่อไปหาหุ้นเอง จากคุณ : Joga Bonito เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:23:56

ความคิดเห็นที่ 31   ดีครับ เราลอกเพื่อเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงเลือก ช่วยลดขั้นตอนการเรียนรู้ในระดับหนึ่ง สุดท้ายยังไงก็ต้องมีวิธีของตัวเองครับ จากคุณ : lunch เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:36:30

ความคิดเห็นที่ 32   หาหุ้นตัวที่ดร.เพิ่งขายออกไปจะได้ประโยชน์กว่าครับ ถ้าจะเอามากรองหุ้น เพราะแกบอกว่า ไม่ขาย "ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน" ส่วนตัวที่แกซื้อ ก็อย่างที่เพื่อนๆ ข้างบนว่ามา จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 13:05:21

ความคิดเห็นที่ 33   ผมดร.นิเวศน์ท่านก็อยากให้พวกเราลอกการบ้านท่านฮะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 14:59:50 จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 14:57:52

ความคิดเห็นที่ 34   รู้สึกจะขาด  stanley  อีกตัว จากคุณ : seerii เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 18:34:21

ความคิดเห็นที่ 35   ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 06:14:19