 |
23 ก.ค.--รอยเตอร์ + (Bloomberg) // BDi+ ReF + OiL + Gold + Fr.index
July 23 (Bloomberg) -- Treasuries rose, rebounding from yesterdays decline, before the Federal Reserve buys bonds today as part of its plan to cap consumer borrowing costs.
SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานต่อเนื่อง หลังปรับขึ้นมากแล้ว-ตามหุ้นสหรัฐฯ กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--รอยเตอร์ *นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ยังมีการปรับฐานต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ เนื่องจาก ช่วงที่ผ่านมาหุ้นไทยปรับขึ้นมามากแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงและอยู่ใน ช่วงการปรับฐานด้วย อย่างไรก็ตามภาคเช้าเปิดมาอาจรีบาวด์ขึ้นก่อนที่จะลง *ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบในวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์ลบ 0.39% ตามผลประกอบการที่น่า ผิดหวังของกลุ่มธนาคาร และหุ้นพลังงานที่ลดลงถ่วงตลาด แต่ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นเป็น วันที่ 11 จากผลกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทแอปเปิล อิงค์ และ สตาร์บั๊คส์ คอร์ป *ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 65.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำ มันดิบร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน *วันพุธต่างชาติซื้อสุทธิ 674.10 ลบ.จากวันอังคารซื้อสุทธิ 1.08 พันลบ. *เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 33.92/97 จากวันพุธอยู่ที่ 33.98/34.02 *นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 594 และแนวต้านที่ 605 "มองโดยรวมแล้ว ตลาดน่าจะรีบาวด์ขึ้นก่อน หลังจากนั้นก็จะปรับฐานลง" นายจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าว เขา กล่าวว่า ช่วงเช้าเปิดตลาดมา หุ้นอาจมีการดีดขึ้นก่อน หลังจากที่วานนี้ ปรับลงค่อนข้างแรง แต่เชื่อว่าหลังดีดขึ้นแล้ว จะมีแรงขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะ นักลงทุนในกลุ่มที่เป็นพอร์ตของโบรกเกอร์ ที่มีบทบาทค่อนข้างมากในช่วงนี้ เขา มองว่า ในช่วงนี้ ตลาดหุ้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือตลาดในภูมิภาคนี้ อยู่ในช่วงของการปรับฐาน เพราะที่ผ่านมาปรับขึ้นมามากในทิศทางเดียวกันหมด ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแม้จะปรับขึ้น แต่ก็อยู่ในระดับที่ทรงตัว จึงไม่ได้มีนัยสำคัญ ต่อหุ้นพลังงานมากนัก ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ *ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพุธ ปิดลบ 11.61 จุด หรือ 1.9% มาที่ 598.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 22,032.08 ล้านบาท *ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันพุธ ปิดลบ 34.68 จุด หรือ 0.39% มาที่ 8881.26 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 10.18 จุด หรือ 0.53% มาที่ 1926.38 *ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับขึ้น โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ บวก 0.66%, เกาหลีใต้ ลบ 0.09%, ฮ่องกง บวก 1.03%, ไต้หวัน บวก 0.07% และญี่ปุ่น บวก 0.13% จับตาหุ้น *DTAC Q2/52 กำไรสุทธิลดลงเหลือ 1.37 พันลบ. *RS เผย Q2/52 พลิกมีกำไร หลังธุรกิจดิจิตอลมาร์จิ้นสูงช่วยหนุน *PTT หวั่นความล่าช้าของกฏหมาย กระทบการลงทุนของโรงกลั่น-ปิโตรเคมี *TSTH คาดเริ่มผลิตโรงถลุงเหล็กในส.ค.ปีนี้, ผลิตเหล็กใกล้ปีก่อน--จบ--
*กระทรวงการคลัง เผยช่วง 9 เดือนแรกของปีงบฯ 52(ต.ค.51-มิ.ย.52) รัฐบาลเบิกจ่าย งบไปแล้วรวม 1.41 ล้านลบ.เพิ่มขึ้น 15.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รัฐบาล มียอดขาดดุลงบประมาณ 3.87 แสนลบ. หลังใช้งบภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่หดตัว *กระทรวงสาธารณสุข เผยไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิต รวม 44 ราย และมีผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่ 28 เม.ย.-21 ก.ค.52 ทั้งหมด 6,776 ราย ในจำนวนนี้ หายเป็นปกติหรือดีขึ้น 6,697 ราย *รมว.คลัง เผยกรมสรรพากรได้ออกประกาศเพื่อยกเว้นภาษีให้แก่ ผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ย จากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ไม่เกิน 2 หมื่นบาท/ปี ไม่ต้องถูกธนาคารพาณิชย์หัก ภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งมีผลตั้งแต่วานนี้เป็นต้นไป เพื่อหวังเพิ่มกำลังซื้อ โดยผู้ออมเงินที่ได้ ประโยชน์ในครั้งนี้ คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1.5 ล้านลบ. *ธปท.เผยอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.25% ในขณะนี้ ถือว่าต่ำและไม่เป็นข้อจำกัด ทางเศรษฐกิจ แต่ธปท.ก็พรัอมใช้นโยบายการเงิน สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หากภาพรวมออกมาย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ *ธปท.ระบุจะดูแลค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยไม่ให้ ผันผวนและไม่เป็นข้อจำกัดต่อภาคการส่งออก และคาดว่าจีดีพีของไทยในปีหน้าจะ เป็นบวก ขณะที่คาดว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในปี 53 จะมีมากกว่าปีนี้ *บลจ.ยูไนเต็ด ลดสัดส่วนลงทุนในหุ้นเหลือ 20% จากที่เคยลงทุนสูงสุดถึง 80% ของ มูลค่าเม็ดเงินภายใต้การบริหารเมื่อปีก่อน ประเมินตลาดหุ้นยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว *หนังสือพิมพ์เผย วานนี้นายกฯ หารือทีมเศรษฐกิจ ออกมาตรการชุดใหม่เร่งสินเชื่อ แก้เงินบาทแข็ง รวมถึงชะลอกู้เงินจากต่างประเทศ และหารือแกนนำรัฐบาลเร่งออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อีกรอบ *หนังสือพิมพ์เผย รมช.คลัง จะเสนอแผนปล่อยกู้ของธนาคารภาครัฐ ในวงเงินเพิ่มอีก 3 แสนลบ.เข้าครม.เดือนหน้า เพื่อเร่งให้เกิดการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอุตสาหกรรม *หนังสือพิมพ์เผย นายกฯ วางกรอบการจัดสรรงบพัฒนาจังหวัดปี 54 กำชับแต่ละจังหวัด ต้องกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ตั้งแต่การผลิตจนถึงการทำตลาด และต้องสอดคล้องกับ งบประมาณที่ได้รับ *หนังสือพิมพ์เผย พาณิชย์กระตุ้นผู้ส่งออกให้ใช้สิทธิ์จีเอสพี เจาะตลาดยุโรปมากขึ้น หลังพบใช้สิทธิ์เพียง 54% ขณะที่ผู้ประกอบการระบุประเทศผู้ให้สิทธิกำหนดเงื่อนไข เข้มงวด รัฐควรเจรจาต่อรอง *หนังสือพิมพ์เผย ธปท.ระบุ การแข็งค่าของเงินบาทขณะนี้ เป็นผลมาจากแรงกดดัน ของการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทย ขณะที่ไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง *หนังสือพิมพ์เผย รัฐหนุนสิ่งทอเทคนิค หวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและความสามารถ แข่งขัน ลดการนำเข้า โดยพบว่าผู้ประกอบการไทยผลิตได้เพียง 5% ของยอดผลิตทั้งหมด ด้านสถาบันสิ่งทอเตรียมหารือบีโอไอเพิ่มสิทธิประโยชน์ มองแนวโน้มครึ่งปีหลังดีขึ้น *หนังสือพิมพ์เผย รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันยังคงกฎเกณฑ์การผลิตรถอีโคคาร์ตามเดิม แม้ล่าสุดผู้ประกอบการรถยนต์จะยื่นข้อเสนอให้ปรับลด จำนวนการผลิตรถยนต์และขอ ลดภาษีลงอีกมากกว่าที่บีโอไออนุมัติไปแล้ว *หนังสือพิมพ์เผย 3 สมาคมอสังหาฯ ค้านการเก็บภาษีที่ดิน ระบุจะทำให้ต้นทุนสร้าง บ้านเพิ่มขึ้น และต้องจ่ายภาษีซ้ำซ้อนหลายครั้ง หวั่นเป็นการผลักภาระให้ผู้ซื้อบ้าน --จบ--
จากคุณ |
:
muangsombut
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.ค. 52 10:07:31
|
|
|
|
 |