Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
*****ไม่ได้เป็นเซียน option แต่อยากเขียนบ้าง ****  

comment ได้นะครับ หรือถ้าให้เป็น gift หรือ vote จะขอบคุณมาก เผื่อจะมีกำลังใจไปเขียน blog เรื่อง option  บ้าง

1.จริงอยู่ว่า การเล่น option ใช้เงินน้อย แต่หากกำเงินแค่ 4-5,000 บาทจะเข้ามาในตลาดทุน หวังว่าจะหาเงินเป็นแสน- ล้าน บอกได้คำเดียวว่าเป็นไปได้ยาก ที่เขียนข้อนี้เป็นอันดับแรก เพราะเป็นเหตุผลที่ไว้ support ข้อ 2 ครับ

2.ถ้ามองตลาดขาด (จะด้วยเรื่องของ technique หรือข่าวสารก็ตาม) มองว่าขึ้น ไป long future เลย หรือถ้ามองว่าดัชนีจะลงให้ไป short  future เลย
ทำไม ถึงไม่เชียร์ให้ไปซื้อ(open) option ถ้ามองตลาดขาดขนาดนั้น

คำตอบคือ เวลาคุณซื้อ option ไม่ว่าจะ call หรือ put  คุณก็จะต้องจ่าย premium ซึ่งมีอยู่ในราคา option นั้นเสมอ ตย.เช่น สมมุติว่า ดัชนีอยู่ที่ 500 เหลือเวลาอีก 2 เดือน option จะหมดอายุ ราคา call500 และ put500 จะอยู่ที่ประมาณ 20 (หรือเป็นเงิน 4,000  บาท) ถ้าคุณมองว่าเป็นขาขึ้นแน่นอน คุณซื้อ call500 คุณต้องรอให้ ดัชนีวิ่งไป 520 คุณถึงจะกำไร บาทแรก แต่ถ้า ซื้อ future แค่ดัชนีไป 501 คุณก็กำไรแล้ว
ทำไมจะต้องไปต่อให้ชาวบ้านตั้ง 20 จุดละครับ

อาจมีข้อแย้งว่า ฉันซื้อ option เพราะเผื่อผิดทาง ก็ขาดทุนแค่ 4,000 บาท แต่ผมถามกลับว่า ถ้าคุณมั่นใจ แล้วใยจะต้องซื้อประกัน และอีกข้อนึงคือ ถ้าคุณซื้อ future หากมันผิดทาง คุณก็ stop loss ได้เหมือนกัน มันก็ประกันความเสี่ยงได้อย่างนึง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเสียเงินของคุณครั้งนี้เกิดจาก ”การมองตลาดผิด”



3.คนเล่น option เขามีกลยุทธดังนี้ครับ

a.เมื่อไม่แน่ใจ แต่มีมุมมองด้านใดด้านหนึ่งพอควร (เช่นมั่นใจซัก 70%) จะใช้ open position ไปตัวใดตัวหนึ่งเลย

b.เมื่อคิดว่าตลาดไม่แกว่งรุนแรง (ซึมนิ่ง) ใช้ short straddle หรือ strangle

c.ถ้าคิดว่าตลาดแกว่งรุนแรง แต่ไม่รู้ทิศทางไหน ตำราบอกให้ long straddle หรือ strangle แต่ความเป็นจริงคือ ถ้าคุณไม่รู้ว่ามันจะระเบิดไปด้านไหน (บวกหรือลบ ) ผมว่าอยู่นิ่ง ๆ ดีกว่า  การทำ long stradle หรือ long strangle เป็นกลยุทธที่ ได้กินเงินยากครับ

d.การทำ short selling เช่น short call หรือ short put มักถูกเขียนว่าเป็นการลงทุนที่เสี่ยง เพราะ unlimit loss แต่ความเป็นจริง คือ ถ้าคุณมองตลาดเป็นพอควร มันเป็นการหาเงินตุนไว้แบบเนื้อ ๆ เลยครับ

กลับไปดูที่ตัวอย่างใน ข้อ 2 ถ้าคุณมองว่าตลาดเป็นขาขึ้น คุณก็ short put500 ได้ตังกินหนม 20 หน่วยสบาย ๆ  และหากมองผิด ก็ทนได้ถึง 480 แต่ถ้าต่ำกว่านั้นก็เริ่มขาดทุน แต่มันจะไปใกลขนาดไหนละครับ ถ้า 2 เดือน ดัชนีลบไป 40 จุด ก็ขาดทุน 20 x200=4,000 เท่านั้น

e.Bear call bear put bull call bull put ไม่ใช่การทำ strategy ที่ดี เพราะคุณลองไปทำดูในตลาด จะพบว่า ได้กำไรนิดเดียว ขาดทุนก็นิดเดียว เสียงเวลาทำมาหากินเปล่า ๆ  แต่ที่เขาใช้กันคือเป็น repair strategy คือคุณเริ่มที่ขาเดียวก่อน

สมมุติ ว่า คุณ long call500 ที่ 20 ต่อมาอีก 5 วัน ดัชนี ขึ้นไป 20จุด เป็น 520 จุด คุณอยากขาย แต่ดันไม่มีใครbid call 500 เพราะว่ามัน ITM หรือ ถึงมี premium ก็น้อย เช่น อาจ bid ที่ 30 เอง จะขายก็เสียดาย แต่ไม่ขายก็กลัวมันถอย กำไรหดหมด คุณเหลือบไปเห็น call520 (ATM) bid กันที่ 18  คุณก็ short call520 เสียเลย

สิ่งที่คุณทำก็คือ bull call หมายความว่าคุณ lock กำไรสูงสุดที่ 18 และกำไรต่ำสุดที่ 2  แล้วก็เลิกดูตัวนี้ไปเลย เอาเวลาไปทำอย่างอื่นต่อ

ประเด็นก็คือ เขาทำทีละขาครับ ไม่ใช่ทำพร้อมกัน

ในทางกลับกัน บางครั้งเราอาจใช้พวกนี้แก้ไขสถานการณได้ เช่น
จาก ตย.เดิม ซื้อ call500 ที่ 20 และ 5 วันต่อมา ดัชนีลงไป 20 จุด และแนวโน้มจะกู่ไม่กลับ ถ้าไม่ทำอะไร ก็อาจขาดทุน 20 x200 =4,000 ไปเลย แต่ถ้ารู้สึกว่า มอบตัวดีกว่า ก็อาจไป short call480 (ATM) ที่ราคา 15  ก็จะได้ว่า ขาดทุนต่ำสุดคือ 25 (เมื่อดัชนีสูงกว่า 500) แต่หากดัชนีต่ำกว่า 480 คุณจะขาดทุนแค่ 5  ) อย่างนี้สถานการณ์ดีขึ้นไหม

เราสามารถใช้กลับกันได้ เช่น เริ่มที่ short ก่อน แล้ว ทำ repair strategy ข้างต้น ทำได้ทั้งกรณี  lock กำไร หรือ ลดการขาดทุนครับ

ยังมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง แต่ขอไปดู AF ก่อนครับ

อีกเรื่องคือ  เรื่อง graph payout หรือตัวที่บอกว่า เราทำ strategy นี้แล้ว หากดัชนีไปที่ เท่าไร จะได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไร รูปร่างผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร  ในโปรแกรม one click มีครับ ไม่เสียตัง ใช้ได้ดีมากครับ และใน one click ยังมีข้อมูลดี ๆ หลายอย่าง เช่น greek letter parameter , ราคาตามทฤษฏีของ option ทุกตัว

สุดท้ายคือ ขอขายของเก่าหน่อยครับ ใครเคยอ่านแล้วขออภัยด้วย แต่หากยังไม่ได้อาจ ลองอ่านดู จะได้ concept บางเรื่อง เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ครับ

http://activities.tfex.co.th/index.php?option=com_mamboboard&Itemid=57&func=view&id=260&catid=3

จากคุณ : krit587
เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 22:21:55




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com