ความคิดเห็นที่ 1 รูปค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 52 00:35:22 จากคุณ : ช่อชะมวง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 00:34:45

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่มีหลักประกันอื่นใด กู้ได้ไม่เกิน 2 - 2.5 ล้านบาท จากคุณ : มนนจ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 00:54:04

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากจะหาเงินมาซื้อทีให้ได้ก่อน แล้วเอาที่ค้ำกู้ส่วนที่เหลือครับ จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 01:17:55

ความคิดเห็นที่ 4 ทำห้องเช่า 5 - 10 ห้องจะคุ้มเหรอครับ น่าจะลองเขียนแผน และความเป็นไปได้ดูก่อน จากคุณ : arseno196 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 17:10:58

ความคิดเห็นที่ 5 อันดับแรก ขอให้ทำความเข้าใจก่อนเลยครับ ว่าผู้ตอบกระทู้ไม่ใช่พนักงานธนาคาร ดังนั้นการให้กู้จะขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินของคุณและการตัดสินใจของธนาคารครับ ดังนั้นถ้าถามว่าทำอย่างไรธนาคารถึงจะให้กู้ ตรงนี้ผมคงตอบให้ตรงประเด็นไม่ได้ครับ แต่ผมจะช่วยตอบเป็นข้อมูลและประสบการณ์ที่เคยทำครับ ตามประสบการณ์ที่เคยทำ เราเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารก่อนเลยครับ บอกข้อมูลต่างๆ ทั้งรายได้ และค่าใช้จ่าย แล้วเจ้าหน้าที่ธนาคารจะช่วยแนะนำเองครับ ถ้ารายได้ไม่น่าพอเขาจะบอกเองว่าควรจะมีผู้ยื่นกู้ร่วม แผนธุรกิจถ้าไม่มี ไม่เป็นไรครับถ้าจะกู้ธนาคารนั้นจริงๆเขาจะถามข้อมูลเราและจะประเมิณให้เองครับ การกู้สร้างอพาร์ทเม้นแบบ SME มีกำหนดชำระให้ครบภายใน 7ปี ปัจจุบันน่าจะกำหนดชำระให้ครบภายใน 5ปีนะครับ ซึ่งถ้ากู้แบบที่อยู่อาศัยได้จะยืดไปเป็น 25-30ปีจะผ่อนได้สบายเลยเพราะค่างวดจะต่างกันมาก การทำห้องให้เช่า หรืออพาร์ทเม้นนั้นควรคิดให้ดีครับ เพราะถ้าคิดตาม economy of scale การทำ 10ห้องนั้นไม่คุ้มแน่ๆครับ เพราะคุณจะต้องเอาที่ดินที่สร้างไปคิดเป็นต้นทุนด้วยเพราะไม่ได้เป็นที่ดินดั้งเดิม ดังนั้นการทำจริงๆควรเนรมิตรให้เต็มที่เท่าที่จะเป็นไปได้ครับ เพราะเมื่อสร้างไปแล้วคุณไม่สารมรถต่อชั้นเพิ่มได้ง่ายๆครับยากในการจัดการ จากคุณ : ClasS_X เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 18:37:43

ความคิดเห็นที่ 6 -*-  อืม...ยากนะเนี่ย  เงินกู้2ก้อนเลยนะคะ 1. กู้ซื้อที่ดิน   2. กู้ทำบ้านเช่า  กว่าจะสร้างเสร็จได้เงิน  ดอกเบี้ยบาน ๆ ๆ ๆ ๆ เอางี้คิดง่ายๆนะคะ  ถ้าคุณทำแค่อู่ซ่อมรถกับร้านเล็กๆขายของ  จะได้ค่าผ่อนเงินกู้รึเปล่า  ถ้าไม่ได้ก็เลิกคิดเลยค่ะ  ถ้าคิดว่าได้ค่อยกู้ดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องบ้านเช่า  ใช้หนี้เงินกู้ก้อนแรกไปสักระยะค่อยคิดดีกว่าค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 18:41:34

ความคิดเห็นที่ 7 1 ไร่ ราคา 3 ล้านบาท ไม่ทราบว่าทำเลนี้อยู่ที่ไหนเหรอครับแพงใช่เล่นนะครับเนี่ย เพราะถ้าติดถนน ก็โอเค ครับแต่ถ้าไม่ละก็ ต้องคิดให้หนักแล้วครับ ผมขอเตือนก่อน ส่วนการยื่นขอกู้นั้นแบงค์เขาจะดูที่ราคาประเมินเป็นหลักครับ เพราะบางคนมีที่ดิน นึกว่า มีทองคำที่จะสามารถขายได้ตามดั่งใจฝัน ที่จริงแล้วนั้นไม่ใช่นะครับ เพราะผมเห็นหลาย ที่แล้ว เจ้าของที่ดินตั้งราคาไว้สูงมาก(ตามใจฉันนั่นเหละ) แต่ก็ขายไม่ได้สักทีนั่นเป็นเพราะ ขายเกินราคาประเมิน เพราะแบงค์เขาจะปล่อยกู้ประมาณ 80% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขายครับ (อันไหนถูกสุดจะเลือกอันนั้น)  สำหรับที่ดินเปล่า นะครับซึ่งด้วยเหตุนี้ เจ้าของที่ก็มักจะขายที่ไม่ได้ครับ เพราะผู้ที่จะซื้อเขากู้ได้ประมาณ 80% ของราคาประเมิน นอกจากจะมี เศรษฐี มาซื้อถึงจะขายราคาแพงเวอร์ได้ ส่วนบ้านนั้นจะได้ประมาณ 90 - 95% ครับตามราคาที่ใช้ปลูกสร้างจริง ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณจะสามารถกู้สร้างอู่ + หอพักได้ครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ซึ่ง แบงค์จะเอาเงินตรงนี่มาคำนวณ ด้วยครับว่า สามารถที่จะชำระหนี้ให้ทางแบงค์ได้หรือไม่ครับ ผมขอแนะนำว่า แบงค์เล็กๆ มักจะอนุมัติให้ครับ เพราะ เขามักจะต้องการปล่อยเงินกู้ให้รายย่อย และ สร้างฐานลูกค้า ลองไปคุยดูนะครับ อันนี้น่าจะพอช่วยได้ อย่าลืมไปต่อรองกับเจ้าของที่ดินด้วยนะครับ ลองอธิบายให้เขาเข้าใจ ส่วนราคาประเมินที่ดิน ต้องลองติดต่อกรมที่ดินดูครับหรือหา ให้อินเตอร์เน็ตก็ได้ รู้สึกว่าเว็บไซต์ของ กรมธนารักษ์ หรือ ไม่ก็ กรมที่ดิน เนี่ยจะมีราคา ประเมินที่ดินอยู่ลองหาดูนะครับ จากคุณ : เจไดไซเบอร์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 00:08:30

ความคิดเห็นที่ 8 แผนคุณนี่ขึ้นอยู่กับเงินสดที่คุณมีครับ แต่เท่าที่ผมเองก็เคยคิดไว้นะ ขนาดผมมีที่อยู่แล้วนะ ยังไม่ได้กำไรเลยครับ จากคุณ : niab เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 21:33:03