|
ความคิดเห็นที่ 3 |
เรื่องของการซื้อกองทุน ยังมีเงื่อนไขรวมของบัตรเครดิตทุกใบของ SCB คือต่อปี ยอดรวมที่สามารถนำมาคำนวณคะแนน หรือเงินคืน จะได้เฉพาะ จำนวนที่ลงทุนไม่เกิน ประเภท (RMF/LTF) 500,000 บาท (ตามขั้นสูงสุด ที่นำไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ - อาจมีเปลี่ยนแปลง)
และธรรมเนียมของจำนวนตัวเลขเงินลงทุนในกองทุน จะคำนวนให้น้อย กว่าปกติถึง 90% เช่น Platinum ทุก 20 บาทได้ 2 คะแนนสำหรับรูดใช้ปกติ แต่ถ้าใช้ซื้อกองทุน 200 บาท จะได้ 2 คะแนน ซึ่งบัตร Beyorn Platinum ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน
ดังนั้นด้วยหลักการข้างต้น การนำจำนวนเงินลงทุนในกองทุนมารวมคำนวน จึงหมายถึงจำนวนเงินลงทุนสูงสุด 100,000 บาท ในรอบบิลคิดแล้วเหลือ (100,000 x 10%) = 10,000 บาท เพื่อไปรวมกับยอดใช้จ่ายตามปกติ
การคำนวณ (จำนวนที่ซื้อกองทุนจริง x 10%) + ยอดใช้จ่ายอื่น แล้วค่อยไปคิดคะแนนตามปกติของบัตร Beyorn Platinum
ซึ่งสิทธิ์ประโยชน์ทุกกรณี สำหรับเงินลงทุนในกองทุน อยู่ภายใต้เงื่อนไข การคำนวณเช่นเดียวกันหมดครับ เพียงแต่ เงื่อนไขอื่นๆ ยกเว้นคะแนนสะสม อาจไม่ได้จำกัดจำนวนสูงสุดเพียง 100,000 บาท ต่อรอบบิล
แต่ก็ยังถูกจำกัดว่าจะเอามาคำนวณให้หรือไม่ ถ้ามีการซื้อกองทุนถึง 5 แสนบาทแล้วครับ
----------------------- บัตรนี้ยังใหม่อยู่มาก คงมีการปรับเงื่อนไขอีกมาก โดยเฉพาะเงินลงทุนในกองทุน ที่อาจจะไม่ให้เลยสำหรับบัตรนี้ก็ได้ครับ หรืออาจจะคำนวณแบบแยกให้เฉพาะ ทุกๆ 200 บาทได้ 2 คะแนน เช่นเดียวกับ Platinum โดยไม่มีการนำไปรวม คำนวณกับยอดใช้จ่ายปกติครับ
---------------------- อาจจะหาคำตอบที่ใช้ยืนยันในอนาคตสำหรับเงินลงทุนในกองทุน ตอนนี้ค'ไม่ได้ครับ.......
แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 52 22:39:46
จากคุณ |
:
pjuk
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ส.ค. 52 22:28:55
|
|
|
|
|