ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำเป็นแบบฝากประจำ 24 เดือน นะครับ ปลอดภาษี ตอนนี้มีหลายธนาคารที่ดอกเบี้ยสูงด้วย ลองเช็คดูนะ  มันช่วยฝึกวินัยการออมเงินด้วยครับ  มันไม่สายที่จะเริ่มออมเงินนะ  เริ่มจันทร์นี้เลยก็ได้ครับ ฝากเดือนละเท่า ๆ กันทุกเดือน 24 เดือน คุณทำได้แน่นอน ผมไม่แนะนำให้ฝากกับประกันนะ แต่ถ้าเป็นประกันแบบออมทรัพย์ของแบงค์แนะนำครับ จากคุณ : จอมโจร (โรงแรม) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:15:04

ความคิดเห็นที่ 2 ดีจังเลยคะ ที่จ่าย กยศ ด้วย   เราเห็นหลายคนใช้วิธีเบี้ยวหนี้เอา ซึ่งไม่ดีเลย ถ้าไม่ถนัดหุ้น ลองศึกษากองทุนก่อนดีไหมคะ ข้อดีของกองทุนคือ เริ่มด้วยเงินที่ไม่มาก  ความเสี่ยงน้อยและเหวี่ยงไม่แรงเหมือนหุ้น(ซึ่งแน่นอนว่า ผลตอบแทนในหลายๆช่วงก็สู้หุ้นไม่ได้)   กองทุนมีการลงทุนที่หลากหลายด้วยค่ะ คุณ จขกท สามารถค้นหาแนวการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองได้จากกองทุน กองทุนที่น่าสนใจก็มี ของ ทหารไทย SCB ซึ่งมีจุดเด่นที่ต่างกัน อย่างทหารไทย ไม่จำกัดเงินลงทุนในการเริ่มต้น แต่ของ SCB เริ่มต้นกับกองทุน scbsff มีขั้นต่ำ 5000 บาท แต่ถ้าพูดถึงความสะดวก ในการศึกษาหาความรู้ ความคล่องตัวในการทำธุรกรรมทาง internet แล้ว SCB จะสะดวกกว่ามากๆค่ะ ที่สินธรก็มีกลุ่มที่ลงทุนด้านกองทุนอยู่  .............. กระทู้นักรบกองทุน   ลงทุนที่ทหารไทย กระทู้AEM (คลิกเข้าไปทาง คลับอิสระภาพทางการเงิน)   ลงทุนที่ SCB ทดลองเข้าไปอ่าน และสามารถสอบถามในกระทู้   หรือ จะตั้งกระทู้สงสัยหรืออยากหารายละเอียดในหน้าหลักของสินธร ก็ได้ทั้งสองทางคะ มีเพื่อนๆมาคอยให้ความรู้และตอบข้อซักถามเสมอ อย่าหมิ่นว่าเงินเริ่มต้นของตัวเองน้อยนะคะ   เมื่อเราเก็บเป็นมันก็เพิ่มขึ้นมาเอง  เงินล้านก็นับเริ่มต้นที่เหรียญบาทกันทั้งนั้นค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:16:55

ความคิดเห็นที่ 3 ลืมตอบเรื่องฝากประกัน................   การฝากประกันก็เป็นทางเลือกที่ดี ที่เหมาะกับคนที่ไม่มีวินัยทางการเงินซักเท่าไหร่ คือ ไม่สามารถบังคับตนเองให้เก็บเงินได้ค่ะ  มีประกันคอยบังคับก็เป็นสิ่งที่ดี  แต่เราเคยคำนวณผลตอบแทนของการฝากเงินประกันแล้ว น้อยมากค่ะ เมื่อเทียบกับกองทุน  ยิ่งหุ้นยิ่งไม่ต้องไปเทียบ การฝากปลอดภาษีก็ดี แต่ "ไม่จำเป็น"  สำหรับกรณีที่มีเงินต้นไม่มากค่ะ  เพราะปกติการฝากออมทรัพย์ธรรมดาก็ได้รับการยกเว้นดอกเบี้ย ถ้าดอกเบี้ยไม่เกิน 20000 บาทอยู่แล้ว   กรณีคุณ จขกท ยังเริ่มต้นด้วยเงินที่ไม่มากจึงไม่จำเป็น เพราะยังไงก็ได้รับการยกเว้นอยู่แล้ว จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:23:11

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้วันนึงล่ะ ที่ความเห็นไม่ตรงกับ หุ่นยนต์กันดัมจัง    คือ ฝากประกันอ่ะนะมันบังคับตัวเราก็จริง แต่ถ้าฝากไปแล้วไปไม่ไหว ไม่มีเงินส่ง นี่ล่ะเสร็จโจร คุณจะขาดทุนไปถ้าหยุดส่ง ประกันสะสมทรัพย์บางตัว ฝากไม่ถึง 3 ปี  หยุดส่งจะเกือบ ๆ ไม่ได้อะไรเลย การฝากปลอดภาษี เป็น การฝากประจำรูปแบบหนึ่งนะ อันนี้ กันดัมจัง อาจจะลืมไป ดอกเบี้ยจะเยอะกว่า ฝากประจำธรรมดา แถมจะมีภาษีไม่ต้องเสียเหมือนฝากประจำ แต่ต้องฝากเท่ากันทุกเดือน บางธนาคารจะให้โบนัสด้วยอีก ถ้าฝากครบ เชื่อผมเต๊อะ เรื่องแบบนี้ผมถนัด จากคุณ : จอมโจร (โรงแรม) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:05:30

ความคิดเห็นที่ 5 อีกเรื่องนึง คนที่คิดว่า กองทุน หรือ หุ้น ให้ผลตอบแทนดีกว่าแน่นอนอ่ะ ไม่เสมอไปนะ ถ้าคุณซื้อกองทุนในช่วงหุ้นขึ้นจะดอยแล้ว มูลค่ากองทุนจะสูง หรือ เหมือนกับซื้อหุ้นตอนดอยไง   แต่หลังจากนั้น ถ้าหุ้นลง ส่วนใหญ่จะถือ เอา set 50 มาคำนวณ มูลค่ากองทุน หรือ หุ้นจะลดลง มันเป็นความเสี่ยงนะครับ ถ้ามีเงินเก็บแบบ 3000 - 4000 แบบ จขกท เนี่ย ผมแนะนำเงินฝากประจำปลอดภาษีเลยครับ  ผมก้อเริ่มแบบนี้ล่ะ ฝึกวินัยให้ตัวเอง แต่คุณต้องไม่มีภาระใช้เงินมาก ๆ ในระยะเวลา 2-3 ปีนะครับ มันสร้างฐานให้กับชีวิตคุณได้เลย จากคุณ : จอมโจร (โรงแรม) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:10:01

ความคิดเห็นที่ 6 อยากให้เริ่มศึกษาเรื่องหุ้น แล้วจะพบว่า ผลตอบแทน  10 percent ต่อปี เป็นเรื่องไม่ยากเลยครับ     จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:12:55

ความคิดเห็นที่ 7 เอิ๊กกกกก พี่โรงแรม  เรื่องประกันอ่ะ  เห็นด้วยคะ เรื่องฝากปลอดภาษี  ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ อันนี้จริงคะ  ...........แต่ถ้าเราขาดฝาก 2 ครั้ง หรือแอบมีถอนมาซักนิด เขาก็จะคิดดอกเบี้ยเราเท่าออมทรัพย์ทันทีนะคะ บางที่ไม่ให้ดอกเบี้ยเลยด้วยเพราะถือว่าเราผิดสัญญา   แต่กองทุนนะคะ ....... เก็บเพิ่มได้ และนำกลับมาใช้ (บางส่วน) ได้ถ้าจำเป็น โดยผลตอบแทนที่สะสมมา ก็ยังสะสมต่อไปได้สำหรับเงินลงทุนที่ยังเหลืออยู่  เช่น SCBSFF เป็นต้น จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:54:36

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องกองทุน...... กองทุนไม่ได้มีแต่กองทุนหุ้นนะคะ  กองทุนมีกองทุนที่หลากหลาย ทำให้ผู้เริ่มต้นลงทุนมองหาการลงทุนที่ถูกกับอุปนิสัยใจคอ  โดยไม่ต้องใช้เงินมากๆไปเสี่ยงลองผิดลองถูกกับการลงทุนแต่ละชนิด   อย่างเช่น   ณ ตอนนี้ คุณ จขกท อยากเก็บเงินเย็นๆ ยาวๆ ไม่เสี่ยงมาก  ถ้าเงินเยอะคงแนะนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพราะดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากเงินทุกประเภท  ..............  แต่ในภาวะปัจจุบันยังทำเช่นนั้นไม่ได้   ก็ซื้อกองทุน SCBTMF ไปแทนซิ  ลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียว ดอกเบี้ยก็เหมือนเราซื้อพันธบัตรแต่เราสามารถซื้อได้ด้วยกำลังเงินที่มีอยู่ แถมไม่ต้องไปต่อคิวจองด้วย แสนสะดวกมากมาย หรือ ในอนาคต คุณจขกท ได้ยินเพื่อนเอ่ยถึงการซื้อทองเพื่อการลงทุน(ไม่ใช่สวมใส่เป็นเครื่องประดับ) ..........ถ้าเงินไม่พอซื้อทอง(บาทหนึ่งของทอง ก็เป็นหมื่น) เราก็ซื้อ "กองทุนทองของทหารไทย" แทนก็ได้นี่  กำไรทองเหมือนกัน เลยคิดว่าเริ่มต้น กองทุนเป็นสิ่งที่น่าสนใจคะ  .......... เริ่มค้นหาการลงทุนที่เหมาะกับตนเอง   จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:58:09

ความคิดเห็นที่ 9 ผมซื้อหุ้นเก็บทุกเดือนอ่ะครับ เลือกซื้อตอนที่มันประกาศปันผลไปแล้ว ราคาจะตก จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 01:12:07

ความคิดเห็นที่ 10 ลองศึกษากองทุนดูครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:10:00

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้โห.. ขอบคุณทุกๆท่านที่กรุณาให้ความรู้นะคะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะตอบกันได้ยาวๆมากขนาดนี้ ขออนุญาตถามต่ออีกนิดนึงค่ะ สมมติถ้าเราลงทุนไปกับกองทุนแล้วเนี่ย จะมีโอกาสขาดทุนมากแค่ไหน แล้วต้องให้เงินกับกองทุนทุกเดือนเหมือนเราฝากธนาคารมั้ยคะ อีกอย่างนึงแล้วเราต้องแบ่งเงินเก็บเป็นสองก้อนรึป่าว ลงทุนก้อนนึง เก็บเงินไว้ใช้หนี้ก้อนนึง โดยเก็บในรูปแบบฝากประจำดีมั้ย... แต่ได้ยินฝากประจำมันห้ามถอนนี่นา จะเป็นประจำแบบไหนดีคะ หรือออมทรัพย์ธรรมดาๆไปเลยดี หรือว่าจะนำเงินไปลงทุนเป็นก้อนเดียวดีกว่า ขอบคุณมากค่ะ <จริงๆก็ไม่อยากถามสะเปะสะปะมากมายไรแบบนี้ แต่ไม่รู้จะใช้ keyword search อากู๋ว่าไรดี ลองมาสองวันแล้ว นึกไรไม่ออกก็เสริชแต่ ออมเงิน ออมทรัพย์ อยู่นั่นแหล่ะ อิอิ > จากคุณ : LessyLady เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:58:09

ความคิดเห็นที่ 12 กองทุนฝากเมื่อไหร่ก็ได้ครับ อาจให้ทางกองทุนตัดโดยอัตโนมัติทุกเดือนเลยก็ได้ อาจแบ่งเป็นกองทุนหุ้นซัก 1000 และ กองทุนตราสารหนี้ ซัก 2000 ลงทุกเดือนแบบ DCA อ่ะครับ ผมว่าน่ะจะไม่เสี่ยงมากน่ะ จากคุณ : hunter_07 เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 10:18:55

ความคิดเห็นที่ 13 กองทุนบางตัวจะซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ บางตัวกำหนดวันขายไว้เช่น ทุกวันที่ 16 ของเดือน เป็นต้น จะซื้อตัวไหนให้ศึกษาให้ดีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของเราค่ะ ถ้าจขกท มีประกันสังคมอยู่แล้ว และยังไม่มีครอบครัว ประกันคงยังไม่สำคัญมากค่ะ การซื้อประกันจะออมเงินได้ผลตอบแทนน้อยมากกว่าการออมเองค่ะ คุณควรซื้อประกันชีวิตเมื่อคุณมีคนข้างหลังที่ต้องห่วงหากคุณจากไปก่อนเวลาอันควร ถ้าจขกทมีเงินเก็บ 6,000 - 8,000 บาท ต่อเดือน ถือว่าไม่น้อยนะคะ (เท่าเงินเดือนบางคนเลย) เริ่มแรกน่าจะลองแบ่งเป็นส่วน ๆ 1.  แบ่งสัก 2-3,000 ฝากประจำพิเศษไม่เสียดอกเบี้ย ประมาณ 24-36 เดือน มีทุกแบงค์ค่ะ ดอกเบี้ยค่อนข้างใกล้เคียงกัน (อันนี้ต้องฝากทุกเดือน ห้ามถอนจนกว่าจะครบกำหนด) 2.  อีกส่วนลองซื้อกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ ที่ฮิตกันในห้องนี้ก็ SCBSFF ของไทยพาณิชย์ ความเสี่ยงน้อยมาก ผลตอบแทนบางช่วงจะดีกว่าออมทรัพย์ ซื้อขายได้ทุกวันทำการ อัตราผลตอบแทนลองดูใน http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8253633/I8253633.html พี่จุกแจกแจงไว้ค่อนข้างละเอียดค่ะ ดีใจจังค่ะที่จขกทอยากเก็บเงิน เริ่มเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 52 10:39:47 จากคุณ : หนูชื่อน้องเก่ง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 10:38:59

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท  ชักจะเริ่มชอบ กองทุนแล้วใช่มะ  งั้น แนะนำเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ก็ได้ครับ ได้ดอกดีกว่า ออมทรัพย์  พอ ๆ กับฝากประจำ  ซื้อขายได้ทุกวันทำการของธนาคาร มีให้เลือกหลายๆ ธนาคาร ที่สำคัญความเสี่ยงต่ำ ซื้อแล้วขึ้นทุกวัน  ผมเคยซื้อศุกร์เย็น ขาย จันทร์สาย ๆนะ ที่ uob ห้างเซ็นทรัล เอาเปรียบธนาคารนิดหน่อย ตอนนี้มีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษของบางธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงพอ ๆ กับฝากประจำ แต่แลกกับฝากถอนได้ไม่เกินเดือนล่ะ 2-3 ครั้ง ลองเข้าเวบไซด์ของธนาคารต่าง ๆ ดูครับ ผลิตภัณฑ์ มีให้เลือกมากมาย ดูแบงค์เล็ก ๆ อย่าง tisco KK ธนชาติ จากคุณ : จอมโจร (โรงแรม) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 11:29:25

ความคิดเห็นที่ 15 แนะนำให้ศึกษาเรื่องกองทุนรวมค่ะ มีให้เลือกหลายแบบ  ตาม lifestyle ของเรา อาจจะเริ่มจากพวกกองทุน mmf ก่อน  แล้วค่อยเป็นค่อยไปในพวกตราสารหนี้  และกองทุนหุ้นค่ะ ดีใจนะคะ  ที่คิดจะเก็บเงิน  ไม่สายเกินไปหรอกค่ะ  สู้ๆนะคะ จากคุณ : Kibby เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 13:23:48

ความคิดเห็นที่ 16 ทดลองดูทั้งสองแบบก็ได้คะ  ทั้งฝากประจำและกองทุน  ลองแบ่งเงินเท่าๆกันดู  พอผ่านไปซักพักคุณ จขกท ก็จะรู้ตัวว่าชอบแบบไหนมากกว่า สำหรับกองทุน ส่วนตัวแนะนำ SCBSFF แล้วย้ายเงินมาซื้อ SCBTMF เพราะทั้งสองกองทุนนี้เสี่ยงน้อยมากค่ะ  สำหรับ SCBTMF มีความเสี่ยงเท่ากับการที่เราซื้อพันธบัตรรัฐบาล  และผลตอบแทนที่ผ่านมาจากวันตั้งกองทุนก็พิสูจน์มาแล้วว่า TMF ให้ผลตอบแทนดีกว่า SFF ค่ะ ส่วนกองทุนของที่อื่น รอผู้รู้เข้ามาช่วยแนะนำคะ  >.< จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 13:28:01

ความคิดเห็นที่ 17 SCBSET คับ แต่เสียวหน่อย แต่ถ้าหลับตาเติมไปเรื่อยๆ ผมว่าไม่ขาดทุน จากคุณ : witchBB เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 19:35:32

ความคิดเห็นที่ 18 แนะนำให้อ่านหนังสือ อยากรวยต้องรู้ ของตลาดหลักทรัพย์ ลองไปถามหาที่ห้องสมุดมารวย ใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากคุณ : Don't think u are. Know u are. เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:09:48

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าฝากโดยที่ไม่ต้องมีใครมาบังคับ ก็ฝากประจำแบบปลอดภาษีธรรมดาก็ได้ค่ะ  แต่ถ้าต้องโดนบังคับฝากก็แนะนำ ฝากออมทรัพย์แบบโครงการพิเศษ ที่ต้องฝากทุก ๆ เดือน เท่ากัน  คุณสามารถกำหนดยอดเงินและระยะเวลาได้ค่ะ  จะปลอดภาษี ได้อัตราดอกเบี้ยเท่าเงินฝากประจำหนึ่งปี บวกโบนัสเมื่อครบกำหนดอีก กสิกร จะเป็น เงินฝากทวีทรัพย์   กรุงเทพ จะเป็น สินมัธยะ   ลองเข้าเวบศึกษาข้อมูลดูนะคะ  ระหว่างฝากก็ศึกษาเรื่องหุ้นไปด้วย ครบกำหนดสัญญาเมื่อไหร่ได้เงินก้อน  จะได้มีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นอีกทางเลือกนึง จากคุณ : JouRNeYGirL (chalan) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 22:48:51

ความคิดเห็นที่ 20 กองทุน spf ครับ คำตอบเดียวสำหรับผม ไม่เสี่ยง ไม่ต้องลุ้น ต่อปีไม่ต่ำกว่า 10% สภาพคล่องดี เพียงแต่รวยช้า แต่ผมว่ามั่นคงดี.... จากคุณ : พ่อน้องใบตอง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:10:14

ความคิดเห็นที่ 21 ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ดีใจมากที่เห็นกระทู้แบบนี้ และขอบอกว่า ถ้าน้องทำงานมาแค่ 2 ปี แล้วมีความคิดแบบนี้ อีกหน่อย น้องจะเป็นเศรษฐีคนนึงแน่นอนจ้ะ (รับประกันความรวย ขอบอก) ส่วนคำถามนี้นะ เงินที่มีอยู่น้อยไปมั้ยคะที่อยากจะทำให้เงินงอกเงย อย่ากังวลกับจำนวนเงิน ถ้ามีความคิดจะเก็บเงินและทำให้งอกเงยแล้ว เืดือนละ 500 บาท ก็ทำได้ จำนวนเงินไม่สำคัญ ขอให้มีความตั้งใจเป็นพอ ขอแชร์ไอเีดียหน่อย ส่วนตััวแล้ว เท่าที่เคยลอง พี่ไม่ค่อยชอบเงินฝากประจำปลอดภาษี เพราะผลตอบแทนต่ำมากกก.. เคยฝากเดือนละ 24000 x24 เดือน พอครบได้เงินต้นมา 6 แสน และดอกเบี้ยมาแค่ 2.6 หมื่นบาทเอง รู้สึกว่า น้อยมาก เอาไปทำอย่างอื่นได้มากกว่านี้ แต่ข้อดีของมันก็คือ 1. ปลอดภัยแน่นอน 2  ช่วยฝึกวินัยการออมเงิน เพราะมันบังคับให้เราต้องออมทุกเดือนตามจำนวนที่กำหนด ถ้าขาดส่ง จะไม่ได้ดอกเบี้ย อิอิ ดังนั้น ถ้าเพิ่งเริ่มฝึกการออม จะเริ่มจากตรงนี้ก็ได้จ้ะ แล้วต่อไปค่อยขยับไปทางอื่น จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:44:54

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าเริ่มจากการฝากเงินออมปลอดภาษีจนครบ 24 เดือนแล้ว เราจะมีวินัยในการออมเกิดขึ้นแล้ว ก็ขอแนะนำทางเลือกที่ผลตอบแทนจะมากขึ้น ดังนี้คือ 1. กองทุน LTF และ/หรือ RMF ข้อดีของการซื้อ LTF / RMF คือ จะได้ผลประโยชน์เพิ่มเติมจากการลดภาษีด้วย และจะมีผลตอบแทนตามลักษณะกองทุนที่เราเลือก เช่นถ้าเลือกกองที่ลงทุนในหุ้นเยอะ ถ้าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ก็รับเละ..อิอิ แนะนำว่าจำนวนที่ซื้อต่อเดือนต้องคำนวณจากเงินเดือน ให้พอดีๆที่จะลดหย่อนภาษี คือคิดง่ายๆประมาณ 15% ของเงินเดือน ที่ทำอยู่คือ พี่ใช้วิธีซื้อทุกเดือนเป็นจำนวนเท่าๆกันในวันเงินเดือนออก เพื่อเฉลี่ยต้นทุน (วิธีนี้เป็นวิธี่ที่สบายใจมาก ไม่ต้องมานั่งกังวลเหมือนเวลาซื้อเป็นเงินก้อนใหญ่แล้วดันเข้าผิดจังหวะ) ถ้าเริ่มแรกๆ เอาแค่ LTF ก่อนก็ได้ เพราะมันผูกพันแค่ 5 ปี (แต่ถ้ามันใจ เอา RMF ด้วยเลย หลังเกษียณสบายแน่นอน) จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:54:18

ความคิดเห็นที่ 23 2. ทางเลือกที่สอง การเล่นหุ้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ในปัจจุับันมี instruments ดีๆหลายตัวที่อำนวยความสะดวกให้การลงทุนของเราง่ายมากขึ้นมาก อย่างเช่น TDEX ซึ่งเป็น ETF อย่าเพิ่งงงว่ามันคืออะไร เอาเป็นว่าคิดง่ายๆว่า TDEX เปรียบเหมือนการลงทุนในหุ้น 50 ตัวที่ประกอบเป็น SET50 และ TDEX ซื้อขายในตลาดเหมือนเป็นหุ้นตัวหนึ่งแหละ แต่เป็นหน่วยลงทุนที่รวมหุ้น 50 ตัวไว้ในตัวมัน ..ไม่งงนะ ข้อดีของ TDEX คือ ขึ้นลงตาม SET50 และมีัปันผลให้ด้วย วิธีการซื้อแนะนำให้ซื้อเฉลี่ยเป็นจำนวนเงินเท่ากันทุกเดือนเช่นกัน วิธีนี้เรียกว่า dollar cost average หรือ DCA โดยแบ่งมาส่วนหนึ่ง เช่น น้องตั้งใจจะออมเงินเดือนละ 6000 บาท ก็อาจจะแบ่งมาซื้อ TDEX เดือนละ 3000 บาท เท่ากันทุกเดือน (ไม่ซื้อหมดทั้ง 6000 เพราะใช้หลักการของการกระจายความเสี่ยงด้วย ไม่ใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียวกัน) วิีธีการซื้อเฉลี่ยทุกเดือน จะช่วยปกป้องเราจากความผันผวนของตลาดหุ้น ถ้าอยู่ในช่วงหุ้นขึ้น น้องก็จะได้ผลตอบแทนจากมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น และก็จะมีเช็คปันผลส่งมาให้ด้วย ปีละ 2 ครั้ง(ชื่นใจ) พอร์ทของพี่ ที่ซื้อ TDEX แบบ dollar cost average ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้มีผลตอบแทนประมาณ 30% ไม่รวมปันผล การลงทุนแบบ dca ต้องใช้เวลานาน (ความเห็นส่วนตัวคิดว่าควรทำอย่างต่อเนื่องไม่้น้อยกว่า 3 ปีขึ้นไป ถ้าได้ 5 ปีขึ้นไปนี่จะแจ๋วมาก) ตอนนี้นอกจาก TDEX ก็มี TFTSE ออกมาอีกซึ่งคล้ายกันแต่ใช้หุ้นพื้นฐานดี 30 ตัว มันออกมาอีก พี่ก็ซื้ออีก 55555 (DCA เช่นกัน) จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 16:04:52

ความคิดเห็นที่ 24 3. ทางเลือกที่ 3 การลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร ตรงนี้ถ้าเราไม่อยากยุ่งยาก สามารถซื้อกองทุนที่เลือกลงทุนในตราสารหนี้หรือพันธบัตรได้เลย จะง่ายมาก อย่างเช่นของ scb ก็มี SCBSFF พวกนี้ก็ไปเลือกดูเอา การเริ่มต้นก็ง่ายมาก แค่เดินไปธนาคารแล้วแจ้งความจำนง เค้าก็จะเปิดบัญชีให้เรา ทีนี้เราก็มีหน้าที่ซื้อไปเรื่อยๆ เดือนละเท่าๆกันไป จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 16:07:56

ความคิดเห็นที่ 25 4 ทางเลือกที่ 4 การลงทุนในทองคำ อย่านึกว่ามีเงินน้อยๆจะลงทุนในทองไม่ได้ ชีวิตเดี๋ยวนี้ง่ายขึ้นเยอะ ก็คือการลงทุนในกองทุนทองคำ ถ้าเงินเก็บหลักพันต่อเดือน ก็คงต้องเลือกเป็นกองทุน TMB gold การเริ่มต้นก้อง่ายๆเช่นกัน คือเหมือนเปิดบัญชีธนาคาร ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการลงทุนในทองคำเป็นสิ่งทีี่ต้องทำต่อเนื่องเป้นระยะเวลานานนเช่นกัน เนื่องจากในระยะสั้น ทองคำมีความผันผวนมาก ถ้าเวลาช่วงเป็นเดือนอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นได้อะไรเลย แต่ถ้าเป็นปีขึ้นไปหรือ 3 ปีขึ้นไปนี่ รับรองว่าเห็นผลแน่นอน จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 16:11:52

ความคิดเห็นที่ 26 สรุปแล้ว คือ เริ่มจากฝากประจำรายเดือนก่อน พอคิดว่านิสัยการออมคงที่ มีวินัยแล้ว ก็มาทางเลือกที่ 2 3 4 โดยแบ่งเงินที่จะออมต่อเดือน ออกเป็นสัดส่วน (ตามแต่ต้องการนะจ๊ะ นี่ยกมาเป็นตัวอย่าง) เช่น 50% ลงทุนใน TDEX 30% ลงทุนในตราสารหนี้หรือพันธบัตร 20% ลงทุนในกองทุนทอง ตามนี้ โชคดีนะน้อง อีก 10 ปีน้องรวยแน่นอน จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 16:14:48

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณทุกๆท่านมากๆ ค่ะ ที่กรุณาสละเวลามาตอบคำถาม เมื่อก่อนนี้บ้าพวก คสอ. เสื้อผ้า กระเป๋า มากๆ จนมานั่งทบทวนว่าทำงานมาสองปี ไม่มีเงินเก็บเลย เสียดายโอกาสจริงๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มสนใจมาไม่ถึงอาทิตย์เลยเรื่องการลงทุนอะไรแบบนี้ อ่านศัพท์บางศัพท์ก็ไม่เข้าใจเท่าไร อิอิ แต่ก็จะพยายามค่ะ มันจะมีเวปไหนบ้างมั้ยคะ ที่สอนแบบจับมือเขียน กอ ไก่ ไรแบบนี้เลย เราความรู้เรื่องนี้เป็นศูนย์เลยจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ ที่จุดประกายให้เราสนใจด้านนี้มากขึ้นไปอีก จากคุณ : LessyLady เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 18:34:36

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุึญาตร่วมเสวนาด้วยนะครับ ทุกท่านมีข้อแนะนำที่ดีมากเลยครับแต่ ผมอยากให้ลองมองในมุมของการออมเงินผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิต ผมว่าปัจจุบันเค้ามีหลากหลายแบบให้เลือก เก็บเงินครบสัญญาเราไม่ได้เป็นอะไรก็ได้คืนหมด+ดอกเบี้ย สามารถเลือกได้ว่าจะชำระกี่ปี คุ้มครองกี่ปี ก่อนทำเราสามารถรู้ได้เลยว่าเราจะได้เท่าไหร่ แถมป่วยไข้,อุบัติเหตุก็ยังนอน รพ.ฟรีอีก ที่สำคัญรายได้ไม่หักภาษีสักบาทเดียวแถมลดหย่อนได้อีก สำหรับ LessyLady ถ้ามีเงินออมเดือนละ 3,000 จริงอย่างที่บอกไว้ผมว่าได้เยอะแน่นอน ผมเห็นว่าจะมีกำไร 2 ทางคือ ทางแรกเงินต้น+ดอกเบี้ย ทางที่สองการได้รับบริการด้านสุขภาพของตัวเองตลอดการฝากเงิน ลองช่วยกันพิจารณาดูนะครับ จากคุณ : TanTan (Tan-PLJ) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 13:22:39