ความคิดเห็นที่ 1 เปิดทำการตั้งแต่ปี 1975 จนถึงปัจจุบันมีอายุได้ 34 ปีแล้ว... จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:37:05

ความคิดเห็นที่ 2 สามสิบกว่าปีของตลาดหุ้นไทย ...ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างมากมาย ...ผ่านวิกฤตมาหลากหลายรูปแบบ หนักบ้างเบาบ้าง จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:38:04

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ละวิกฤตทำเอาหลายคนจนลงในชั่วพริบตา และแต่ละวิกฤตก็ทำเอาหลายคนร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐี การเอาตัวให้รอด...จากแต่ละวิกฤตเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ การหาโอกาส...จากการฟื้นตัวของแต่ละวิกฤตตลาดหุ้นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจศึกษา ........................................................................................................ ตลาดหุ้นไทยพบวิกฤตครั้งแรกในปี 1978...วิกฤต "ราชาเงินทุน" ...สามปีหลังเปิดตลาดหุ้น อันเป็นผลกระทบสืบเนื่องจากวิกฤตราคาน้ำมัน กล่มโอเปคได้ขึ้นราคาน้ำมันถึง 30% ก่อให้เกิดอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงมาก ภาวะเงินตึงตัวทวีความรุนแรง การลงทุนภาคเอกชนซบเซาอย่างหนัก ยังเป็นผลให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศร่อยหรอลงจนถึงระดับวิกฤติ วิกฤตครั้งนั้นทำให้ set index ปรับตัวลดลงจาก 266 จุด ในเดือน 11/1975 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:47:20

ความคิดเห็นที่ 4 ลดลงไปต่ำสุดเหลือ 102 จุด ในเดือน 4/1982 คิดเป็นการปรับตัวลดลงไป 62% ภายในระยะวลาสี่ปี ช่วงวิกฤตราชาเงินทุน มีการลดค่าเงินบาทถึงสองครั้ง ตลาดหุ้นซบเซาอยู่หลายปี เผอิญช่วงนั้นนักเล่นหุ้นยังไม่มากนัก ผลกระทบต่อนักเล่นหุ้นจึงไม่รุนแรง จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:50:03

ความคิดเห็นที่ 5 ตลาดหุ้นค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ เก้าปีให้หลัง... set index สามารถทำ new high เหนือ 266 จุดได้ ในเดือน 5/1987 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:51:46

ความคิดเห็นที่ 6 ตลาดหุ้นช่วงนี้คึกคักเป็นกระทิงทอง set index ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และแล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝันก็บังเกิดขี้น ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาดิ่งลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 508.32 จุด หรือคิดเป็น 22.60% ภายในวันเดียว ...วิกฤต Black Monday... ตลาดหุ้นไทยยากที่จะหลบพ้นจากผลกระทบครั้งนี้ได้ set index ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว หุ้นหลายตัวติด floor ( 10% ) อยู่หลายวัน set index ปรับตัวลดลงจาก 472 จุด ในเดือน 10/1987 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:54:20

ความคิดเห็นที่ 7 ลดลงเหลือ 243 จุด ในเดือน 12/1987 คิดเป็นการปรับตัวลดลงไป 49% ภายในระยะเวลาสองเดือน   จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:56:42

ความคิดเห็นที่ 8 ช่วงนั้นเศรษฐกิจของไทยยังดีอยู่ ตลาดหุ้นไทยสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และสิบแปดเดือนหลังจากนั้น set index สามารถทำ new high เหนือ 472 จุดได้ ในเดือน 4/1989 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:58:51

ความคิดเห็นที่ 9 ตลาดหุ้นไทยคึกคักอีกครา นักเล่นหุ้นชาวไทยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาเบิกบาน และแล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด...ซัดดัมบุกคูเวต ในเดือน 8/1990 วิกฤต....สงครามอ่าวเปอร์เซีย ! จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:01:35

ความคิดเห็นที่ 10 ตลาดหุ้นไม่ต้องถามว่าเป็นอย่างไร ? ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระนาวกราวรูด set index ปรับตัวลดลงไปจากจุดสูงสุดที่ 1,142 จุด ในเดือน 8/1990 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:02:08

ความคิดเห็นที่ 11 ลดลงเหลือ 544 จุด ในเดือน 11/1990 คิดเป็นการปรับตัวลดลงไป 52% ภายในระยะเวลาสามเดือน จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:04:22

ความคิดเห็นที่ 12 หลังสงครามอ่าวเปอร์เซียสงบลงในเดือน 1/1991 ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สามารถฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด  544 จุด ในเดือน  11/1990 ขึ้นไปสูงสุดในเดือน 4/1991  ที่  908 จุด คิดเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 364 จุด หรือ  67% ภายในระยะเวลาห้าเดือนจากจุดต่ำสุด แต่หลังจากนั้นการเมืองในประเทศไม่สงบ เกิดเหตุการณ์...พฤษภาทมิฬ ในเดือน 5/1992 ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบบ้าง ...แต่ไม่รุนแรงมากนัก แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 11:19:02 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:06:22

ความคิดเห็นที่ 13 สามปีหลัง...สงครามอ่าวเปอร์เซีย ตลาดหุ้นไทยสามารถทำ new high เหนือ 1,142 จุด ได้สำเร็จ ในเดือน 10/1993 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:07:50

ความคิดเห็นที่ 14 ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้คึกคักอย่างมาก มีนักเล่นหุ้นหน้าใหม่ๆเดินเข้ามาอย่างมากมาย ไปที่ไหนใครไม่พูดถึงการเล่นหุ้นเป็น...สิ่งที่เชยมาก ! แม้แต่อาแปะอาซิ้ม สะกดชื่อหุ้นยังไม่ถูก ไม่รู้ว่าทำธุรกิจอะไร ? งบการเงิน เงินปันผลเป็นอย่างไร ? มีการกู้เงินดอกเบี้ยต่ำจากต่างประเทศผ่านธุรกรรม BIBF เข้ามาอย่างมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรม การเงินการธนาคาร สิ่งที่น่ากลัว คือ การกู้เงินเหล่านั้ไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนแม้แต่น้อย ! การกู้เงินบางส่วนเอามาลงทุนในการขยายกิจการจริง แต่บางส่วนก็เอามาเก็งกำไรทั้งในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ และแล้ววันหนึ่งฟองสบู่ตลาดหุ้นก็พังทลาย... ...วิกฤตต้มยำกุ้ง... Foreign ขายหุ้นออกมาอย่างรุนแรงวันละเป็นหมื่นล้าน ตลาดหุ้นไทยตกลงอย่างรวดเร็ว จาก 1,789 จุด ในเดือน 1/1994 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 19:26:33 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:12:59

ความคิดเห็นที่ 15 ลดลงเหลือ 204 จุด ในเดือน 9/1998 คิดเป็นการปรับตัวลดลงไป 89% ภายในระยะเวลาสี่ปี วิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของไทย   เริ่มจากปัญหาหนี้เสียในระบบสถาบันการเงิน จนผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ขาดความเชื่อมั่น ค่าเงินบาทถูกโจมตีอย่างหนัก ธนาคารแห่งประเทศไทยต่อสู้จนเงินหมดหน้าตัก   และนำไปสู่วิกฤตเงินทุนสำรอง ในวันที่  2 กรกฎาคม 2540  จึงตัดสินใจปล่อยให้ค่าเงินบาทลอยตัวแบบ Managed Float รวมทั้งต้องประกาศปิดสถาบันการเงิน 56 แห่งอย่างถาวร และต้องขอกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ  เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของประเทศ และรัฐบาลไทยจำต้องยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำหนดขึ้น เช่น งบประมาณแผ่นดินจะต้องตั้งเกินดุล 1 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ นอกจากทำให้ธุรกิจเอกชน เช่น บริษัทบ้านจัดสรร อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุสาหกรรมผลิตวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน ธนาคาร ธุรกิจการพิมพ์การโฆษณา ถูกกระทบอย่างรุนแรง หลายแห่งต้องปิดกิจการ หลายแห่งมีหนี้ท่วมตัว พนักงานจำนวนมากถูกปลดออกจากงาน และรัฐบาลถูกกดดันให้ลาออกแล้ว วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ยังส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ... มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ รัสเซีย และประเทศอื่นๆ มากบ้างน้อยบ้าง ฝันหวานของประเทศไทย จาก ...เสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย ...ดีทรอยด์แห่งเอเชีย กลับกลายเป็นแมวขี้โรคแห่งเอเชีย แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 19:36:01 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:23:37

ความคิดเห็นที่ 16 วิกฤตต้มยำกุ้งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วเอเชีย แต่กลับส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาน้อยมาก ตลาดหุ้นทั่วเอเชียตกลงทุกวัน แต่ตลาดหุ้นทางยุโรปและสหรัฐอเมริกากลับเดินหน้าทำ new high ตลาดหุ้นทั่วเอเชียค่อยๆกระดืบๆฟื้นตัวขึ้นมาอย่างอ่อนระโหยโรยแรง เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เกิดวิกฤต...วินาศกรรมสหรัฐอเมริกา หรือ 911 ผู้ก่อการร้ายจี้ขับเครื่องบินชนตึก world trade centre ในวันที่ 11/9/2001 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:26:33

ความคิดเห็นที่ 17 ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ตกลงอีกครา ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นไทยที่อยู่คนละซีกโลก set index  ปรับตัวลดลงจาก 342 จุด ลงไปต่ำสุดที่ 265 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลง 77  จุด หรือ 23%  ภายในสองวันทำการ อย่างไรก็ตามสี่เดือนกว่าให้หลัง   เดือน 2/2002 ....set index  ก็สามารถกลับขึ้นมาสูงกว่า set index  เดิมก่อนเกิด  911  ได้สำเร็จ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 20:42:17 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:27:42

ความคิดเห็นที่ 18 เก้าปีหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง... ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวดีขึ้นมาก จากจุดต่ำสุดที่ 353 จุด ต้นปี 2003 ขึ้นไปสูงสุดที่ 802 จุด ต้นปี 2004 คิดเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 120+% ภายในระยะเวลาหนึ่งปี จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:29:28

ความคิดเห็นที่ 19 ปลายปี 2006 ( 19/12/2006 ) ตลาดหุ้นถูกผลกระทบจาก.... ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศใช้ มาตรการสำรอง 30% สำหรับการนำเข้าเงินทุนระยะสั้น ( capital control ) เพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจาก 730 จุด ในระหว่างวันมีการปรับตัวลดลงไปถึง 587 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลง 143 จุด หรือติดลบเกือบ  20% แต่สุดท้าย set index  ลงไปปิดที่ 622 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลง 108 จุด หรือ 15% ภายในวันเดียว แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 20:52:13 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:30:24

ความคิดเห็นที่ 20 ผลกระทบจากการประกาศ capital control ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นระยะสั้น ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ! ห้าเดือนกว่าให้หลัง   เดือน 5/2007 ...set index  สามารถกลับขึ้นมาสูงกว่า set index  เดิมก่อนประกาศ capital control  ได้สำเร็จ และแล้ววิกฤตลูกใหม่ก็มาเยือน ในปี 2007 คราวนี้เป็นผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และส่งผลกระทบรุนแรงลุกลามไปทั่วโลก ... Subprime Crisis ... Foreign ต้องขายหุ้นทั่วโลก เพื่อนำเงินกลับเข้าประเทศ Foreign ซึ่งเก็บสะสมหุ้นไทยมาอย่างยาวนาน...หลายแสนล้านบาท เริ่มระบายขายหุ้นออกมาอย่างรุนแรง โดยเริ่มขายมาตั้งแต่เดือน 8/2007 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2009 มูลค่าการขาย....มากกว่าสองแสนล้านบาท ! แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 21:02:00 จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:32:41

ความคิดเห็นที่ 21 ทำให้ set index ปรับตัวลดลงไปอย่างรุนแรง.... จากจุดสูงสุดที่ 924 จุด เดือน 11/07 ลดลงไปต่ำสุดที่ 380 จุด เดือน 11/08 คิดเป็นการปรับตัวลดลงไป 540+ จุด หรือ 59% ภายในระยะเวลาหนึ่งปี จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:34:33

ความคิดเห็นที่ 22 ตลาดหุ้นทั่วเอเชียร่วงระนาวกราวรูด... จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:35:35

ความคิดเห็นที่ 23 ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐอเมรกาก็ร่วงระนาวกราวรูดไม่แพ้กัน... จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:36:39

ความคิดเห็นที่ 24 หนึ่งปีกว่าให้หลัง Foreign  เริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้งหนึ่ง จนถึงปัจจุบัน นับได้เจ็ดเดือนแล้ว จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:38:30

ความคิดเห็นที่ 25 มูลค่าการซื้อหุ้นสะสมมากกว่าห้าหมื่นล้านบาท... จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:39:34

ความคิดเห็นที่ 26 ตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด  327 จุด หรือ  86% จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:41:36

ความคิดเห็นที่ 27 ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐอเมรกาก็ฟื้นตัวได้ไม่แพ้กัน... จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:42:29

ความคิดเห็นที่ 28 ตลาดหุ้นไทย... สามารถกลับไปที่เดิมก่อนเกิด...subprime crisis ได้หรือไม่และเมื่อใด ? วิกฤตตลาดหุ้นยังจะมีอีกหรือไม่ในอนาคตและเมื่อใด ? การเอาตัวให้รอด...จากแต่ละวิกฤตเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ การหาโอกาส...จากการฟื้นตัวของแต่ละวิกฤตตลาดหุ้นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจศึกษา จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:45:51

ความคิดเห็นที่ 29 ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุน   จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:47:37

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากครับ ท่านพี่ ** 4 a & 4 j ** จากคุณ : ยอดไม้บนปลายดอย เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 16:49:20

ความคิดเห็นที่ 31  ผมนึกมานานแล้วว่า ถ้าเป็นวิกฤติที่เกิดจาก ต่างประเทศ เป็นต้นเหตุ แต่ฐานบ้านเมืองเราดี ให้ลงไป 50 % ก่อน แล้วช้อนซื้อ แต่ถ้าบ้านเราเป็นตัวต้นเหตุ พังเพราะฐานะการเงินบ้านเราย่ำแย่ ให้ลงไป 80 % ก่อนแล้วค่อยซื้อ เหตุการณ์ทางบ้านเมือง มีเซอร์ไพร์ส ถ้าแบบรุนแรงเช่น 911 ก็ถือว่าดังไปทั่วโลก เอาให้มันลงไป 50 %  แล้วค่อยซื้อ แต่ถ้าแบบหม่อมอุ๋ย จราจลให้ดูแนวโน้มเศรษกิจโลก และเพื่อนบ้าน ถ้าเขากำลังอยู่ในขาขึ้นเราก็อยู่นิ่งๆ หรือลงมา 20% แล้วก็ช้อนซื้อ เพราะสุดท้ายจะไปต่อ จากคุณ : Tanaphon_P เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 17:59:17

ความคิดเห็นที่ 32 ลำดับเหตุการได้ดีมากครับ ได้แง่คิดที่ดี ในสภาวะที่หุ้นกำลังไหลขึ้นๆ   คนที่ถือเต็มปอดตอนนี้ เริ่มต้องคิดบ้างแล้ว เพราะเหตุการไม่คาดฝัน ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : atuka (atuka5) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:19:39

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณที่ให้แง่คิด จากคุณ : celestialcrown เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:31:12

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วนึกถึงสมัยหนุ่มๆ จากคุณ : ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:34:02

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยมยอดครับพี่ จากคุณ : P Phod เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:00:49

ความคิดเห็นที่ 36 ขอเซฟเก็บไว้นะคะ ....หรือมันจะมาอีกรอบ ?????? จากคุณ : ตากล้อง ท้องผูก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:34:50

ความคิดเห็นที่ 37 เยี่ยมครับ จากคุณ : Narinph เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:51:47

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับ  ได้ประโยชน์มากครับ จากคุณ : Acoustic Life เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:11:21

ความคิดเห็นที่ 39 zzzz จากคุณ : หนุมานมาเอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:13:28

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากค่ะ พี่   จากคุณ : spaceship เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:47:36

ความคิดเห็นที่ 41 thank krab จากคุณ : serum เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:53:25

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณครับ มีเรื่องเก่าๆ ที่คนรุ่นใหม่ๆ มักไม่ทันรับรู้มาให้ด้วย น้ำใจงามจริงๆ จากคุณ : ผมมองโลกในแง่ร้าย เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 23:08:41

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากคับ จากคุณ : chat156 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 00:34:18

ความคิดเห็นที่ 44 ยอดเยี่ยมเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ลุงขาว (renangkull) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 06:14:21

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณที่ชี้แนะครับ จากคุณ : jingjoeja เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 06:26:27

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : saimai77 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 07:56:42

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณคะ save ไว้เลยคะ จากคุณ : babeoil_ja เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 10:12:28

ความคิดเห็นที่ 48 ผมเคยอยู่ช่วง 900 ขึ้นไปจน 1800 .......หลังจากนั้น ก็ไม่ต้องพูดถึง 5 5 5 จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 13:37:06

ความคิดเห็นที่ 49 เพิ่งเริ่มสนใจเรื่องหุ้น  เพราะเริ่มลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : Kibby เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 14:20:44

ความคิดเห็นที่ 50  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ข้าวปุ้นกับแตงโมปั่น เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:36:00

ความคิดเห็นที่ 51 แวะมาขอบคุณด้วยคนค่า จากคุณ : น้องนู๋ GaZib เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 19:11:38

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านแล้ว นึกถึงตัวเอง แล้วตรูรอดมาได้ยังไงเนี่ย เก่งจิง จิง อิอิ จากคุณ : The Leon เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 19:21:46

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณครับ จากคุณ : dangerous เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 22:12:13

ความคิดเห็นที่ 54 สิ่งนึงที่เห็นชัดมากคือ ปัจจัยทางการเมืองที่หลายคนเป็นห่วง ไม่เคยส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างจริงๆ จังๆ แม้แต่ครั้งเดียว จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 22:13:55

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านแล้วเอาไว้เตือนใจได้ดีครับ ไม่มีอะไรแน่นอนในตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเป็นตัวสะท้อนพลวัตทางการเงินของโลกได้ดี ที่ไหนผลตอบแทนสูง เงินย่อมไหลไปหา จนกว่ามันจะเริ่มหมดความน่าสนใจ ขอบคุณจขกท.มากครับ ที่แบ่งปันและเล่าเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม จากคุณ : teeranet เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 09:25:06

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : oillyberry เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 16:33:43

ความคิดเห็นที่ 57 ต้องคอยเตือนสติตัวเองอยู่เสมอค่ะ จากคุณ : minimuay เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 16:43:29

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Kading เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 22:15:32

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ได้ความรู้และคติเตือนใจที่ดีทีเดียว สำหรับคนที่พึ่งเริ่มสนใจการเล่นหุ้นอย่างเรา ^^ จากคุณ : รัญจน์ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 12:41:45

ความคิดเห็นที่ 60 Thank you so much. จากคุณ : kor_kor เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 16:55:32

ความคิดเห็นที่ 61 911 คืออะไรเหรอครับ จากคุณ : jack walker เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 07:13:09

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : พลูดาว เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 14:52:03

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 15:29:09

ความคิดเห็นที่ 64 ผมจำได้ ตั้งแต่ปี2540 ครับ ค่าผ่อนบ้านมีแต่ดอกเบี้ย เงินต้นเพิ่มขึ้นทุกเดือน ... ขอบคุณอย่างสุดใจ ที่ได้นำมาไว้เตือนสติครับ จากคุณ : bthp เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 22:33:03